ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๐๘๙-หุบเขาวงกต(แยกที่ ๒)



ทันใดนั้นสายฝนก็พลันหยุดตก ข้าพเจ้าและชายชราเดินออกจากศาลาหลังนั้น วกกลับมายังเส้นทางเส้นเดิม ที่ข้าพเจ้าคิดว่ามันเป็นเส้นทางสู่ ‘อนาคตที่สวยงาม’

ชายชราชี้ให้ข้าพเจ้ามองไปยังเส้นทางข้างหน้า ทันใดนั้นก็เกิดกำแพงเหล็กขนาดใหญ่ ยกตัวขึ้น ตามขอบทางเดิน

“นี่มันอะไรกัน…” ข้าพเจ้าร้องถามขึ้นอย่างสงสัย

“มันคือ เขาวงกต…ทุก ๆ เส้นทางที่เราเดินไปข้างหน้า มันถูกปรุงแต่งด้วยสภาพแวดล้อมที่ดูงดงามน่าพอใจ มีป้ายบอกทางชัดเจน มีศาลาที่พัก มีอาหาร ทำให้ดูเหมือนว่าเรามีอิสระที่จะเลือกที่จะเดินไปทางไหนก็ได้ แต่จริง ๆแล้ว ภายใต้การปรุงแต่งนั้นคือกำแพงเหล็กขนาดใหญ่ ที่บีบบังคับ ไม่ให้เราเดินออกนอกเส้นทาง...นั่นเอง” ชายชราตอบ

ภาพธรรมชาติข้างทางที่น่าชมและเจริญตาเจริญใจ มันกลายเป็นกำแพงเหล็กที่สูงจนเกินกว่าที่จะปีนข้ามไปได้ ข้าพเจ้ามองดูกำแพงเหล็ก เอามือไปสัมผัสและพยายาม ผลักดันกำแพงนั้นให้ขยับ แต่ก็ไร้ผล

“ไม่มีใครสามารถทำลายกำแพงเหล็กนี้ได้หรอก คนทั่วไปเขาก็ไม่อยากทำลายมันเพราะเหตุที่พวกเขาไม่ได้มองเหตุความเป็นจริง นี่แหละมันจึงเป็นการสร้างความแข็งแรงให้กำแพงเหล็ก ให้ตั้งมั่นอยู่อย่างถาวร” ชายชราอธิบายเพิ่ม

ข้าพเจ้านิ่งครุ่นคิดอยู่นาน…

นี่มันอะไรกันเส้นทางเราเดิน เราฝ่าฟันมาทั้งชีวิต ปลายทางที่ว่าสวยงาม ที่แท้มันเป็นเพียงแท่งเหล็กที่ บีบบังคับให้เราเดินให้เราคิดหรอกหรือนี่…

สักพักหนึ่ง ข้าพเจ้าก็รู้สึกว่าตัวเองเบาขึ้น และค่อย ๆ ลอยไปข้างบนเรื่อย ๆ พร้อม กับชายชราคนนั้น ไม่ช้าภาพแห่งเขาวงกตก็ชัดเจน มีทางเดินมากมาย เชื่อมต่อกันจนนับไม่ถ้วน ทุกเส้นทางมีทางแยกที่จะวนกลับมาหากัน อย่างที่ข้าพเจ้าได้คิดไว้ในตอนแรก มีผู้คนมากมาย บ้างก็กำลังเดิน กำลังวิ่ง กำลังคลานอยู่ตามเส้นทางที่ตัวเองเลือก

ข้าพเจ้าพยายามมองหาเพื่อน เพื่อนที่เคยเดินทางมาด้วยกัน ก็พบว่าบางคนกำลังมีความสุข บางคนมีครอบครัว บางคนกำลังสนุกกับการเดินทาง บางคนก็หยุดนิ่งร้องไห้ที่ต้องแยกทางกับคนที่รัก

ข้าพเจ้ามองหาปลายทางที่บอกว่า ‘อนาคตที่สวยงาม’ ได้ลองตรวจสอบเส้นทางดูแล้ว กลับพบว่าไม่มีปลายทาง อย่างที่ป้ายบอกไว้เลย ทุกเส้นทางมีทางแยกที่สามารถเดินย้อนกลับมาที่เก่าเสมอ

“อนาคตที่สวยงามนั้น…ไม่มีจริงเหรอครับ” ข้าพเจ้าถามชายชราอย่างสงสัย

“อย่างที่พ่อหนุ่มได้เห็นนั่นแหละ อนาคตที่สวยงามที่รออยู่ข้างหน้า นั้นไม่มีปลายทางที่แท้จริง หากเราต้องการความสุข ความสงบก็ควรที่จะหาไขว่ขว้า เอาตอนที่เราอยู่ในปัจจุบันนี่แหละ หากเรารอหวังจะหาความสวยงาม ที่อยู่ปลายทางแล้วล่ะก็ พ่อหนุ่มจะไม่ได้อะไรเลย ชีวิตที่เดินทางนั้น มีทางแยกให้เราเลือกเดินเสมอ ขึ้นอยู่กับเราจะเลือกไปทางไหน” ชายชราตอบ

“แล้วมีเส้นทางไหน ที่จะออกจากเขาวงกตนี้ได้บ้างครับ” ข้าพเจ้าถาม

“มันเป็นทางเส้นเล็ก ๆ ที่มีน้อยคนคิดจะเดินเข้า เพราะตามทางมีกรวดหนามคอยทิ่มตำอยู่มากมาย บางช่วงก็เ็ป็นหุบเหวที่น่ากลัว แต่ปลายทางนั้นมีแต่ความสงบ ไม่ต้องเหนื่อยล้า วนเวียนกับการเดินทางอีกต่อไป หากพ่อหนุ่มอยากจะเดิน ให้สังเกตุป้ายเล็ก ๆ ระหว่างทาง ที่เขียนว่า ‘ทางแห่งอริยะ’ เดินไปตามป้ายนั้น สุดท้ายก็สามารถจะออกจากเขาวงกตได้เอง แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า เส้นทางนี้ลำบากมาก มีน้อยคนที่ผ่านไปได้ บางคนไม่มีความอดทน กลับใจที่เลือกที่เข้ามายังเขาวงกตอีก พ่อหนุ่มก็ลองคิดดูดี ๆ แล้วกัน”

ข้าพเจ้ารู้สึกว่าตัวเองหนักขึ้นเรื่อย ๆ และกำลังลดระดับลงมาช้า ๆ ภาพแห่งเขาวงกต กำแพงเหล็ก ค่อย ๆ เลือนลางหายไปต่อหน้า ไม่นานข้าพเจ้ากลับมายืนอยู่บนทางเส้นเดิม สภาพแวดล้อม ป่าไม้ อันสวยงามร่มรื่น ปรากฏกลับมาอีกครั้ง

ภาพชายชราผู้นั้น ค่อย ๆ เดินจากไป และเลือนหายไปจากสายตาของข้าพเจ้าในเวลาไม่นาน ข้าพเจ้าคิดว่ายังไงก็คงต้องเดินทางต่อไป ตามเส้นทางเดิมที่เลือกมาตั่งแต่ต้น แต่ก็พยายาม เสาะหาป้ายบอกทางที่เขียนว่า ‘ทางแห่งอริยะ’ อยู่เสมอ

จนวันหนึ่งข้าพเจ้าก็มาถึงทางแยกอีกครั้ง ข้าพเจ้าหยุดนิ่ง และรู้สึกดีใจมาก ที่ได้พบป้ายเล็ก ๆ เขียนว่า ‘ทางแห่งอริยะ’ มีลูกศรชี้ไปยังเส้นทางแคบ ๆ เส้นหนึ่ง ข้าพเจ้าไม่รอช้า รีบเดินไปตามเส้นทางนั้น มีเงื่อนไขข้อแรกถูกกำหนดขึ้น ก่อนจะถึงทางเข้า

‘กรุณาถอดรองเท้า…ค่ะ’

เมื่อข้าพเจ้าถอดรองเท้าก็พบว่าเส้นทางที่เดินนั้น ขรุขระ เต็มไปด้วยกรวด ทราย และหินอันแหลมคม ตรงตามที่ชายชราผู้นั้นบอกไว้จริง ๆ
- จบ -




Create Date : 01 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2551 17:08:45 น. 3 comments
Counter : 809 Pageviews.

 


โดย: Nissan_n วันที่: 1 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:22:21 น.  

 
สาธุจ้ะ


โดย: แม่อ้วนคนสวย วันที่: 2 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:26:47 น.  

 
เขียนได้ดีครับ

ปล.

ทางอาจจะลำบากและขรุขระ
แต่เราก็มีสิทธิมองสองข้างทางอันสวยงามมิใช่หรือ




โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:59:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.