No. 833 เที่ยว เขาผับผ้า ตรัง ไปพัทลุง No. 833 เที่ยวเขาผับผ้า ตรัง ไปพัทลุง ![]() หมาป่าเดียวดาย ลาพักร้อนครึ่งเดือนจากกรุงเทพไปภาคใต้ด้วยจักรยานคนเดียว เพื่อตามหา ตัวละคร มหาลัย เหมืองแร่ของ คุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ได้พบแล้ว แต่ตอนนี้ เข้าสู่ ตรัง กำลังจะไปพัทลุง (ตอนที่ 21) /////// ศุกร์ที่ 14 มีนาคม วันที่สิบห้า วันนี้ตื่นแต่เช้าออกจากที่พักตั้งแต่หกโมงครึ่งครับ ดูระยะทางจากกระบี่ถึงตรังก็ไกลพอควรเลยรีบออกมา ขี่ไปแวะกินกาแฟสดตามปั๊ม และพอสายก็กินขนมที่ซื้อมาจากในเมืองกระบี่เตรียมมากินเป็นอาหารเช้า ![]() เลยคลองท่อมออกมาถนนบีบเป็นเลนสวน และไปขยายเป็นสี่เลนก่อนถึงคลองพวน ลมแรงแดดจัดอีกวันครับ หมาป่ากินข้าวเที่ยงที่คลองพวนแล้วต่อไปทรายขาว ช่วงนี้มีทำถนนรถเยอะ ขี่ไปเสียวไปเพราะข้างทางเขาถมเป็นลูกรังสูงระดับ หูหมาป่าขี่บนถนนลาดยางเก่าที่อีกไม่นานก็คงถูกถมเช่นกัน รถบรรทุกวิ่งผ่านหูขวาไปตลอด เบี่ยงซ้ายก็ไม่ได้เพราะลูกรังข้างทางมันสูงมาก เนื้อยเหนื่อยจริงๆครับ ![]() จนมาเจอแยกควนกุนตรงนี้แหละครับที่เลี้ยวขวามาแล้วค่อยขี่สบาย ทางเรียบมีต้นไม้สองข้างทางไม่โหดเหมือนช่วงเที่ยงต่อบ่ายที่ผ่านมา เลยแยกควนกุนมาหมาป่าขี่ผ่านนักจักรยานสองท่านที่พักเหนื่อยอยู่ตรงศาลาริมทางเป็นชายและหญิงแต่ไม่ได้หยุดทักเพราะเพิ่งพักที่ปั๊มบางจากตรงเลยแยกมานิดเดียว ขี่ไปอีกร่วมยี่สิบกม. ช่วงนี้อากาศแปลกๆเพราะว่าบางช่วงที่ทางทิ้งตัวลงในหุบด้านข้างๆมีเนินลูกรังเตี้ยๆเป็นระยะ หมาป่ารู้สึกได้ถึงไอร้อนวูบขึ้นมาจากถนนและอวลอยู่รอบตัว คือขี่แล้วมันร้อนอุ้มแบบเห็นได้ชัด ขี่ผ่านมาพักตรงร้านชำและซื้อน้ำจูงจักรยานไปกินตรงศาลาพักริมทางเจอนักจักรยานอีกท่านนั่งพักอยู่ก่อน ได้ความว่าเป็นกลุ่มเดียวกับสองท่านที่พักตรงเลยแยกควนกุน กลุ่มนี้เป็นนักจักรยานทีมเกษียณปั่นทั่วไทย ปั่นกันมาตั้งแต่ทางเหนือ ปั่นอึดยาวอย่างน่านับถือจากเหนือสุดลงมาถึงตรัง ท่านเล่าว่าก่อนหน้านี้ท่านก็เจออากาศร้อนแบบหมาป่าจนต้องมาพักเหนื่อยตรงนี้นี่แหละครับ กลุ่มนี้จะไม่ขี่เกาะกลุ่มกันเป็นขบวนใหญ่แต่จะมีจุดนัดหมายกันว่าต่างคนต่างขี่ ใครใคร่แวะที่ไหนก็แวะก่อนแล้วค่อยไปเจอกันยังที่นัดหมาย อย่างเช่นคืนก่อนบางคนก็นั่งเรือไปพักที่เกาะลันตาน้อย บางท่านก็เข้าไปแวะน้ำตกร้อนที่คลองท่อม วันนี้ที่หมายที่จะไปรวมกลุ่มกันอีกก็ที่อุทยานแห่งชาติตรงสิเกา นั่งพักสักครู่ท่านก็ขอตัวออกไปขี่ต่อ หมาป่ารอสักพักแล้วก็ขี่ตามมุ่งหน้าเข้าเมืองตรังต่อไป ก่อนเข้าเมืองมีขึ้นดอยอีกหน่อยพอให้เหนื่อยครับ ช่วงนี้ต้องพักทุกทุกสิบห้ากม. พอเข้าเมืองหมาป่าขี่วนไปรอบๆเมืองมองหาที่พักแบบบังกะโลติดพื้น มั่วๆไปเรื่อยจนมาถึงเย็นมากแล้วที่นอกเมืองที่เลยทางแยกไปพัทลุง ไปพักที่บังกะโลแนวรีสอร์ทชื่อ Light House ![]() ห้องพักเพิ่งสร้างใหม่ เจ้าของชายหญิงทำแบบตั้งใจมากครับ หมาป่าเอาของเข้าห้องแล้วนั่งพักเล่นหน้าบ้านท่านเดินเอาเบียร์สิงห์มาให้หมาป่าหนึ่งกระป๋อง บอกว่าเห็นแฟนบอกว่าขี่มาจากบางกอกเลยขอฉลองขอบคุณที่มาเลือกพักที่นี่ อัธยาศัยท่านดีครับ ท่านบอกท่านขี่บิกไบค์ไม่ได้ขี่จักรยาน พอค่ำหมาป่าขี่มากินข้าวต้มชื่อร้าน ส.ข้าวต้มแล้วก็ขี่กลับเข้านอน วันนี้ขี่ไปร้อยกว่ากิโลครับ เสาร์ที่ 15 มีนาคม วันที่สิบหก วันนี้หมาป่ามีเรื่องท้าทายพอควรจากการขี่จากตรังไปพัทลุง หมาป่าต้องขี่ข้ามเขาพับผ้าครับ เขาที่กั้นกลางระหว่างรอยต่อตรังและพัทลุง เขาที่สมัยก่อนคนขับรถยนต์บอกว่าขับยากเพราะทางแคบและชัน แต่สมัยนี้มีการตัดขยายทาง ดูในเวปเรานักจักรยานบอกว่าไม่โหดเท่าสมัยก่อนแล้ว แต่ก็นั่นแหละครับเจอภูเขานักจักรยานเมืองกรุงอย่างหมาป่าก็นึกครั่นคร้ามไว้ก่อนเสมอ เรามันคนพื้นราบครับ จูงรถออกมาหน้าห้องพัก อ้าวยางหน้าแบนเสียนี่ คงจะโดนตะปูตอนกลับจากกินข้าวเมื่อคืน ยางหมาป่านั้นเป็น Continental รุ่น Top Contact II หมาป่ากัดฟันซื้อรุ่นนี้ด้วยเป็นยางที่ดีที่สุดเท่าที่หมาป่าจะมีปัญญาซื้อ ![]() (ราคาพอ ๆ กับยางรถเก๋ง ทั้งที่เส้นเล็กกว่า) เส้นก่อนเป็นท้อปคอนแทกต์รุ่นแรก ใช้ได้ดีประทับใจมาก ใช้ไปหมื่นกว่ากิโลนั่นแหละครับถึงจะเสื่อมสภาพและเริ่มแตก ตัวรุ่น II นี้ก็ขี่ดีนะครับและทนเช่นกัน เพียงแต่ว่าเมื่อถอดยางหน้าแกะออกมาดูแผลเจอเศษเหล็กแข็งยาวแบบที่หน้ายางวัสดุพิเศษก็รับแรงทะลวงไม่ไหวเลยแตกครั้งแรกที่ระยะไม่กี่พันกม. ตลอดทางจากกรุงเทพหมาป่าขี่มาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม จุดที่แวะพักถ่ายรูปเขาหินปูนก่อนเข้ากระบี่ก็สังเกตเห็นหน้ายางเป็นรอยบั้งทางขวางแต่แผลตื้น แสดงว่าโดนของใหญ่เข้าไปเต็มๆแต่ไม่แตก อุปกรณ์ปะยางและยางในที่เตรียมติดกระเป๋ามาก็ได้ใช้เพื่อการนี้ แล้วหมาป่าก็ขี่ต่อไปยังสถานีรถไฟจังหวัดตรังก่อนเพื่อไปจองตั๋วรถไฟกลับจากพัทลุงล่วงหน้าไว้ก่อน ![]() จองกันข้ามจังหวัดด้วยระบบออกตั๋วคอมพิวเตอร์ ได้ขบวนรถ 38 มาจากสุไหงโกลก เข้าเทียบชานพัทลุงกำหนดทุ่มสี่สิบเจ็ดนาที จองตั๋วนอนปรับอากาศชั้นสองไว้ครับ จองตั๋วเสร็จแวะจิบกาแฟสดร้านหน้าสถานี ร้านนี้ฝรั่งเยอะ มีฝรั่งคนนึงเดินมาถามหมาป่าว่าขี่มาแต่ใด พอบอกว่าจากกรุงเทพแกก็ขอถ่ายรูปหมาป่ากับรถหน่อยเพราะแกก็ขี่ตระเวนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นกัน เป็นฝรั่งชาวอังกฤษชื่อ Bill แกเล่าคร่าวๆว่าขี่มาเจอหมากัดต้องหยุดฉีดยากันโรคกลัวน้ำหลายเข็ม ท่าทางแกยังแหยงๆหมาและการฉีดยาอยู่เลยนะครับ แกบอกว่าไม่เห็นคนไทยทางไกลขี่แบบมีสัมภาระติดตัวเลย เห็นหมาป่าเป็นคนแรกเลยเข้ามาทัก หมาป่าบอกว่ามีเยอะแยะแต่แกคงไม่เจอนั่นแหละ แกให้ URL ของบล็อกแกไว้ด้วยนะครับบอกว่าให้ติดตามเรื่องราวของแกได้แกเขียนบันทึกไว้ ชื่อ findingbill@blogspot.com หมาป่ากลับมากรุงเทพก็เข้าไปอ่านดูกะว่าเผื่อจะเห็นภาพตัวเองอยู่ในบล๊อกด้วย แต่ก็เห็นค้างอยู่หลายเดือนตรงประจวบคีรีขันธ์ครับ มิได้มีการเขียนต่อ ไม่แน่ใจว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร เพราะเห็นแกบอกว่าแกจะขี่ต่อเข้ามาเลเซีย วันนี้ฟ้าครึ้มฝนพรำบางๆ หมาป่าขี่จากสถานีรถไฟมากินติ่มซำตรงย่านดาวทาวน์แล้วก็ขี่ย้อนออกไปทางแยกที่บอกว่าไปพัทลุง คืนก่อนหน้านั้นเขียนเมสเซจและโทรไปหาครูหมูนัดหมายกันว่าเย็นนี้เจอกันที่บ้าน ครูหมูบอกทางให้คร่าวๆที่จะให้ไปอำเภอตะโหมด ลงเขาพับผ้าแล้วค่อยหาทางตัดเข้าไปครับ ![]() ทางมุ่งเขาพับผ้านั้นเริ่มมีฝนปรอย หมาป่าหยุดรถเก็บเสื้อกางเกงที่ตากไว้ตามคานตามแร็คหลังเก็บเข้ากระเป๋าก่อน เออหนอขี่มาเกินสองสัปดาห์ตั้งแต่กรุงเทพไม่เจอฝนเลย ข้ามคลองมาเป็นจะเกือบร้อยคลองก็เห็นแต่น้ำแห้งไม่ค่อยมีน้ำ คนทางใต้ที่ผ่านมาแม้แต่จังหวัดระนองเมืองฝนแปดแดดสี่ก็ล้วนแต่บอกว่าฝนไม่ตกมาหลายเดือนแล้ว นี่พอจะขึ้นเขาพับผ้าก็มีฝนมาเซ็ตฉากให้การขี่ขึ้นเขามันเร้าใจขึ้นอีกขะหนาดน้อเรา ขี่มาตีนเขาพับผ้า ถ่ายหน้าป้ายบอกโครงการขยายถนนกันหน่อย ก่อนลุยขึ้นไปเจอของจริงครับ ![]() ตรงทางขึ้นนี้ดูถนนแห้งนะครับ แต่ก่อนหน้านั้นฝนพรำมาตลอด และพอขึ้นบนเขาก็จัดเต็มครับ ทางขึ้นเขาพับผ้ากำลังก่อสร้าง บางช่วงเห็นรอยยางมะตอยของถนนเส้นเดิม บางช่วงมีถมลูกรังทับและขยายเป็นสี่เลนวิ่งแยกกัน ต้นไม้สองข้างทางสวยมากครับ ป่าอุดมสมบูรณ์ ขึ้นไปสูงบางช่วงเมฆฝนเคลียยอดต้นไม้อยู่ ทางลาดยางส่วนใหญ่เสร็จไปฝั่งหนึ่งแล้วแต่ปิดยังไม่ให้ใช้ ทางที่หมาป่าขี่ขึ้นเป็นเลนสวนขี่ไปบนลูกรังแฉะน้ำฝนมีรถวิ่งตามและรถสวน ฝนตกหนักมากขึ้นมากขึ้นทุกที ลูกรังที่มีหินก้อนใหญ่ๆฝังปนอยู่ถูกฝนชะให้เห็นหน้าหินพอล้อขึ้นไปก็ลื่นปื้ดปื้ดปื้ดปื้ด ![]() ฝนสาดด้านหน้า ฝนสาดด้านหลัง สาดซ้าย แล้วย้ายมาสาดขวา ทางไม่ชันมากถึงขนาดขุนตาลหรือดอยสุเทพนะครับ แต่ไอ้ฝนกับทางลูกรังนี่แหละที่ทำให้ขี่ขึ้นยากกว่าขี่ขึ้นขุนตาล ฝนสาดมากจนกระบังหมวกกันน๊อคเอาไม่อยู่ พอน้ำฝนเจือกับซันบล็อกที่หมาป่าทาฉาบหน้ามามันเข้าตาแสบจังเลยครับ แถมมีเรื่องของการเมาน้ำเสริมขึ้นมาด้วย เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ เวลาเราขี่ลงทางชันลูกรังที่ฝนตกลงมาชะ น้ำฝนมันจะไหลผ่านผิวหน้าลูกรังลงมาไปทิศเดียวกับล้อรถเรา เมื่อเราขี่ยามฝนตกหนักเรามองข้างหน้าได้ไม่ไกลเพราะต้องคอยมองแนวล้อที่จะไปตะกุยหิน น้ำที่ไหลผ่านทางยางมะตอยนั้นมันจะเป็นน้ำใสๆ แต่น้ำที่ผ่านทางลูกรังมันจะทำให้น้ำเป็นสีเหมือนชาเย็นใส่นมไหลผ่านล้อลงไป นอกจากน้ำสีชานมนั้นมันก็จะมีฟองลอยเป็นแพ เจ้าฟองนี่แหละครับที่ทำให้หมาป่าเมาน้ำ เพราะหมาป่าขี่ลงหมาป่าบีบเบรกล้อรถก็จะช้า ความเร็วของรถและของล้อมันเลยช้ากว่าความเร็วของฟองน้ำที่ไหลลงไป เพื่อนสมาชิกเคยนั่งรถทัวร์ที่กำลังเคลื่อนที่ออกตัวในท่ารถไหมครับ บางครั้งเราจะผ่านรถทัวร์อีกคันที่วิ่งไปในทิศเดียวกัน ถ้ารถคันนั้นจอดอยู่กับที่เราก็ไม่รู้สึกอะไรเพราะรถเราเพิ่งเคลื่อนตัวไปข้างหน้า แต่ถ้ารถคันนั้นดันวิ่งขึ้นไปด้วยความเร็วมากกว่าที่รถเรากำลังออกตัว เราจะเหวอเพราะมองรถด้านข้าง แล้วจะเหมือนกับรถตัวเองกำลังวิ่งถอยหลัง แต่ประสาทการเคลื่อนไหวเราเพิ่งบอกตัวเราเองว่ารถเรากำลังเดินหน้า ฉันใดก็ฉันนั้นครับฟองน้ำที่ไหลลงไปเร็วกว่าความเร็วที่อีเขียวกำลังลงเนิน ประสาทและขาหมาป่าบอกว่ารถเราเดินหน้า แต่ภาพฟองน้ำมันหลอกสมองว่ารถกำลังถอยหลัง มองจ้องแนวล้อและน้ำอยู่สักวินาทีครึ่งในยามฝนตกหนักประสาทเครียดเกร็งกับการระวังไม่ให้รถล้ม บวกกับการหลอกของสมอง นี่มันร่ำๆจะทำให้อาเจียนได้เลยล่ะครับ ก็วิ่งมาได้เรื่อยๆจนฝนซาครับ หมาป่าขี่มารู้สึกว่ามือกรอบแกรบเพราะเม็ดกรวด ขาแขน ในกางเกงก็มีเม็ดกรวดเพราะรถที่วิ่งแซงสาดน้ำขึ้นมาเต็มตัวหมาป่าและมีกรวดปนอยู่ในน้ำ แล้วก็เริ่มไปแห้งตรงจุดที่เขาเปิดให้วิ่งบนทางลาดยางแล้ว แต่ยังให้วิ่งข้างเดียวสวนกัน อีกฝั่งยังปิดอยู่ รถเก๋ง รถตู้ รถบรรทุกก็แซงหมาป่าไปเรื่อยๆ ![]() หมาป่าขี่ที่ระดับจาน 2 เฟือง 4 เฟือง 5 ขึ้นมาได้เรื่อยๆ (เฟืองเล็กล่างสุดจะต้องใช้กำลังปั่นมาก แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นจานโตกว่า จะใช้กำลังปั่นเบาลง ทำให้ปั่นขึ้นเขาได้ดีขึ้นไม่เหนื่อยมาก ที่เปลี่ยนเกียร์อยู่ที่แฮนด์จักรยาน) ![]() จนในที่สุดก็ไปหยุดตรงยอดเขาที่เป็นจุดแบ่งพรมแดนระหว่างตรังด้านหลัง และพัทลุงด้านหน้าลงเขาไป ตรงนี้มีหลักเขตปักอยู่ข้างบนครับ ตรงฝั่งตรงข้ามหลักเขตมีศาลพ่อปู่ หมาป่าปีนขึ้นไปถ่ายมุมมองจากศาลลงมาที่ถนนด้วย ![]() ขี่ลงมาถึงตีนเขาฝั่งพัทลุง ฝนเริ่มตกใหม่ ตกหนักอีกแล้ว หมาป่าหยุดแวะกินข้าวที่ร้านข้างทาง ถ่ายภาพขาและรองเท้าของตัวเองมา เยินเชียวล่ะครับด้วยน้ำฝนน้ำโคลน ![]() ขี่ตรงต่อมาอีกเรื่อยๆ ฝนก็ยังฉ่ำฟ้ามาด้วยกัน ครูหมูบอกว่าถึงอำเภอศรีนครินทร์แล้วให้หาทางข้ามถนนใหญ่มาเข้าถนนด้านขวาสาย 4122 ที่ตรงไปกงหรา และโหล๊ะจังกระ เส้นนี้จะพาไปถึงอำเภอตะโหมดบ้านครูหมูได้ครับ เป็นเส้นทางที่น่าขี่จักรยานด้วย ![]() ตรงนี้ตรงใกล้ถัดจากปากทาง 4122 ก่อนขี่ลึกเข้าไปครับ ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ ไวน์กับสายน้ำ Travel Blog ดู Blog
นี่ไม่ใช่หมวดประจำของพี่ไวน์นะ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() โดย: หอมกร
![]() ![]() สมัยเด็กๆ เคยไปอยู่ตรัง ต้องเดินทางผ่านเขาพับผ้า เป็นทางสายใหม่แต่ยังไม่ขยายทางค่ะ เวลามองลงไปข้างล่างไกลๆ จะเห็นถนนสายเก่าอยู่ลิบๆ ในใจตอนนั้นก็คิดว่าคนสมัยก่อนคงลำบากกว่าเราเยอะ
ไปต่อให้ถึงปลายทางนะคะ ![]() โดย: เพรางาย
![]() บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog สายหมอกและก้อนเมฆ Travel Blog ดู Blog ฟ้าใสวันใหม่ Home & Garden Blog ดู Blog หอมกร Movie Blog ดู Blog ภาวิดา คนบ้านป่า Diarist ดู Blog ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog ตามมาอ่านมหากาพย์การเดินทางต่อค่ะ เป็นบันทึกการเดินทางที่น่าสนใจ โดย: อุ้มสี
![]() ![]() สวัสดีมีสุขค่ะ
โหวตตามที่จขกท.เขียนนะคะ ปกติจะโหวตDiaristค่ะ เขาพับผ้า ใครเมารถ มีสิทธิ์ทำโจ๊กกระจายค่ะ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีรถวิ่งเท่าไหร่ค่ะ เปลี่ยวๆดี โดย: ตะลีกีปัส
![]() ![]() สวัสดีครับพี่ไวน์
อ่านมาเจอยี่ห้อยาง Continental คำนี้ผมรู้จักเป็นสิ่งของหลายอย่างเลยครับ ยางรถยนต์, ศูนย์บริการรถ, รุ่นรองเท้าผ้าใบ, โรงแรม (ศูนย์บัญชาการใน John Wick ด้วยครับ) โดย: จันทราน็อคเทิร์น
![]() อ้าว ยังมีถนนลูกรังอีกเหรอครับ นึกว่าหมดไปจากประเทศเราแล้วซะอีก
ยางราคาแพงจริงๆ แต่มันต้องใช้ล่ะนะ และควรใช้ของดีหน่อยด้วย ก็ต้องยอม ฝรั่งที่พี่ไวน์พูดถึงในบล็อกเขามีไปเขมรด้วย ฝนตกแบบนี้นี่ลำบากแย่เลย เละแน่นอน โดย: คุณต่อ (toor36
![]() ![]() *มาตามสัญญา**
ข้ามวันมาเชียว ++++++++++++++++++++++ รีสอร์ท light House เจ้าของช่างมีน้ำใจ จัดเบียรืกระป่องเจี๊ยบมาเป็น Welcome drink ด้วย ยางยี่ห้อ Continental +แกร่งสมราคาเลยนะคะ ความรู้ใหม่ เจอคอ cycking เหมือนกัน ได้ลงรูปในblog คุณ Bill ด้วย ป่านนี้เธอจะเป็นเช่นไร ติดน้ำท่วม หรือติดสาวไทยที่ประจวบ ก็ไม่รู้ ?? รูปจักรยานของหมาป่าฯ แบกสัมภาระได้ด้วย ดูกระทัดรัดดีจังค่ะ เสื้อผ้าไม่มาก (เทียวไปซักไป เวลาพักแน่เลย) การปั่นฝ่าสายฝนบนถนน เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ แถมวิบากจริงๆ สุดยอดค่ะ trip วันนี้/งวดนี้ สวัสดีสายๆวันเสาร์ค่ะพี่ไวน์ ![]() ![]() ![]() ![]() โดย: คนผ่านทางมาเจอ
![]() ![]() พูดถึง รพ.จุฬาฯ...
******************************** บริการดี ถึงมีผู้มารับบริการเยอะ... ******************************** ขอให้..ทราบถึงสาเหตุ ได้รับการรักษา.. และหายไวไวนะคะ....คุณพี่ไวน์.. ![]() ![]() ![]() โดย: คนผ่านทางมาเจอ
![]() ![]() ขอบคุณคุณไวน์นะคะ
หนังที่แนะนำน่าสนใจค่ะ อิอิ ส่วนเรื่องคุณหมาป่าเดียวดาย สนุกมากค่ะ ติดตามอ่านมาเรื่อย ภาพประกอบสวยงามค่า ^^ โดย: Rananrin
![]() |
บทความทั้งหมด
|
ตามปั่นมาติดๆครับ พี่ไวน์
หมาป่าออกจากที่พักตั้งแต่หกโมงครึ่ง เป็นเวลาที่ปลอดภัยใช่ไหมครับ ดูข่าวนักปั่นจักรยานเช้ามืดเกิดอุบัติเหตุบ่อย
ผมเองไม่กล้าปั่นจักรยานบนถนนหลักเลยครับ ปั่นแต่ในซอย รอบสนามกีฬา
ได้เข้าไปดู findingbill@blogspot.com แล้วปั่นมาถึงกำแพงเพชร นครสวรรค์