ภาวะเลือดออกผิดปกติในสตรี ทันโลก ทันเหตุการณ์ กับแพทยสภา ประจำวันที่ 31 พฤษภาคม 2551 //www.naewna.com/news.asp?ID=109658 ภาวะเลือดออกผิดปกติในสตรี โดยปกติแล้วผู้หญิงทุกคน จะมีเลือดออกมาจากมดลูกประมาณเดือนละ 1 ครั้ง เป็นประจำ หรือที่เรียกว่า ประจำเดือน หรือรอบระดู จะเริ่มมีเมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่นประมารณ 9 13 ปี และหมดไปเมื่ออายุประมาณ 48 52 ปี ประจำเดือนจะมาประมาณ 3 5 วัน ไม่เดิน 7 วัน ใช้ผ้าอนามัยประมาณ 3 4 แผ่น มักจะมากมากในวันที่ 2 ของรอบเดือน บางคนอาจจะมีอาการปวดท้อง เรียกว่าปวดระดู บางคนอาจจะไม่มีอาการปวดเลย บางคนอาจจะปวดมาก ถ้าผิดจากนี้อาจจะเกิดภาวะเลือดออกผิดปกติได้ ผู้หญิงทุกคนควรจะหมั่นสังเกตุรอบเดือนของตนเองอยู่เสมอและจะต้องมีการบันทึกในปฏิทินทุกวันว่าวันไหนมีรอบเดือนมาวันไหนมีรอบเดือนน้อย วันไหนกินยาคุมกำเนิด วันไหนกินยาฮอร์โมน หมั่นคอยจดบันทึกไว้เผื่อเวลาเกิดผิดปกติจะได้นำปฏิทินไปยื่นต่อแพทย์ให้ดูไ ด้ ทำไมต้องมีประจำเดือน และประจำเดือนคืออะไร เพราะว่าผู้หญิงเป็นเพศที่รับหน้าที่ในการตั้งครรภ์ ผนังมดลูกด้านในเป็นที่ฝังตัวของตัวอ่อน ในแต่ละเดือนจะมีการสร้างฮอร์โมนจากรังไข่ชื่อเอสโตรเจน ฮอร์โมนจะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวขึ้น ในช่วงครึ่งแรกของรอบเดือน รอบเดือนหนึ่งเฉลี่ยประมาณ 28 วัน แยกเป็น 2 ช่วงๆแรกเรียกว่าระยะโปรริเฟอเรทีปเฟส ครึ่งหลังเรียกว่าซิเครทอรีเฟส นอกจากรังไข่จะสร้างฮอร์โมนที่ทำหน้าที่กระตุ้นให้โพรงมดลูกหนาขึ้นแล้ว ยังทำหน้าที่สร้างไข่เพื่อผสมกับอสุจิ โดยจะมีไข่ตกประมาณกลางรอบเดือนซึ่งอยู่ระหว่างระยะแรกกับระยะที่สอง ระหว่างนั้นไข่จะรออสุจิได้หนึ่งวัน หากมีการผสมกับอสุจิ กลายเป็นตัวอ่อนที่บริเวณท่อนำไข่ และตัวอ่อนจะเดินทางมาฝังตัวในโพรงมดลูกประมาณวันที่ 21 ของรอบเดือน หลังจากไข่ตก รังไข่จะสร้างฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่งชื่อ โปรเจสเทอโรน เพื่อเปลี่ยนแปลงลักษณะของเยื่อบุโพรงมดลูก แตกต่างจากช่วงแรกของรอบเดือน เพื่อให้มีสภาพเหมาะสมที่จะรองรับการฝังตัวของตัวอ่อน แต่ถ้าไม่มีการปฏิสนธิ หรือไม่มีตัวอ่อนมาฝังตัวในระยะเวลาดังกล่าว ฮอร์โมนทั้งสองชนิดที่สร้างจากรังไข่จะลดน้อยลง และมีการลอกตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก หลังจาก 28 วันกลายเป็นประจำเดือน วันแรกที่ประจำเดือนมานับเป็นวันที่หนึ่งของรอบเดือน การที่กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวเพื่อไล่เลือดประจำเดือนจะทำให้มีอาการปวดบ้าง วันที่ 14 ของรอบเดือนซี่งเป็นวันไข่ตก จะมีสารน้ำเล็กน้อย ระคายเคืองในช่องท้องจนทำให้มีอาการปวดท้องได้ ประมาณ 1- 2 วัน อาจมีมูกเหนียวๆชุ่มในช่องคลอดได้ในบางคนซึ่งไม่ถือว่าเป็นตกขาวผิดปกติ บางคนอาจมีเลือดออกเล็กน้อยในระยะไข่ตก ทำให้รู้สึกว่ามีประจำเดือนมาเดือนละ 2 ครั้ง กรณีดังกล่าวยังถือว่าเป็นภาวะปกติ แต่ถ้าไม่เคยเป็นประจำ อยู่ๆมีระดูมาเดือนละ 2 ครั้งอาจจะเป็นภาวะเลือดออกผิดปกติได้ ภาวะเลือดออกผิดปกติ คือ ภาวะที่มิใช่เป็นภาวะที่เกิดจากการมีประจำเดือนปกติ อาจเกิดจากภาวะของฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติหรือเกิดจากภาวะจิตใจผิดปกติเช่นความเครียด บางรายอาจจะมีพยาธิสภาพเช่นมีการติดเชื้อโรค เป็นเนื้องอก หรือมะเร็งในอวัยวะสืบพันธ์สตรี มีการบาดเจ็บในบริเวณดังกล่าวหรือมีโรคทางอายุรกรรม เช่น โรคเลือดบางชนิด หรือเป็นภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ ประจำเดือนที่ผิดปกติอาจจะอยู่ในภาวะที่ประจำเดือนไม่มา มาน้อย มามาก มาบ่อย ไม่ค่อยมา หรือมาไม่หยุด หรือมีอาการปวดประจำเดือนรุนแรง อารมณ์ ความเครียด สุขภาพจิตที่ผิดปกติ สภาพร่างกายที่อ่อนแอ หรือเจ็บป่วย หรือมีโรคทางกายอื่นๆที่มีผลกระทบต่อการสร้างฮอร์โมนผิดปกติ ทำให้ประจำเดือนผิดปกติได้ ประจำเดือนจะมาปกติเมื่อสาเหตุและปัญหาต่างๆเหล่านี้หายไป บางรายอาจต้องใช้วิธีการรับประทานฮอร์โมน เพื่อปรับประจำเดือน แต่จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อกำหนดวันที่เริ่มกินยาได้ถูกต้อง ไม่ควรไปซื้อยามารับประทานเอง เช่นยาแผนโบราณ หรือยาสตรีทั้งหลาย หรือแม้แต่ยาคุมกำเนิดที่ซื้อมารับประทานเองเพราะอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้มีประจำเดือนผิดปกติได้ด้วย อย่างไรก็ตาม การที่มีประจำเดือนผิดปกติ ไม่ควรนึกถึงเฉพาะที่เป็นความผิดปกติของฮอร์โมนเท่านั้น ควรไปพบกับสูตินรีแพทย์เพื่อค้นหาสาเหตุอื่นที่สำคัญกว่า ถ้าเป็นการติดเชื้อที่บริเวณปากช่องคลอด บริเวณช่องคลอด หรืออวัยวะในบริเวณอุ้งเชิงกราน แม้จะได้ทำการตรวจรักษาให้ยาฆ่าเชื้อ อาจจะเป็นเชื้อโรคที่มิใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือเป็นโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็ได้ รายที่ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งระยะเริ่มแรก เช่นมะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ มะเร็งในโพรงมดลูก จะทำให้สามารถรักษาได้ทันท่วงที ก่อนจะสายเกินไปกลายเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย การตั้งครรภ์ผิดปกติบางครั้งมีการตั้งครรภ์โดยทราบว่าตั้งครรภ์หรือไม่ทราบว่าตั้งครรภ์ อาจจะมีเลือดออกเนื่องจากการแท้งคุกคามหรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆจากการตั้งครรภ ์ กรณีดังกล่าวอาจทำให้เลือดออกปริมาณมาก จนอาจเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นการตั้งนอกมดลูก เลือดจะออกบริเวณช่องท้องจนเสียชีวิต ยาเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เลือดออกผิดปกติได้โดยเฉพาะ ยาที่เป็นฮอร์โมน หรือ ยาที่มีผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย แม้กระทั่งยาคุมกำเนิดถ้ากินไม่ถูกวิธีจะทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้ ยาฉีดและยาฝังคุมกำเนิดก็เป็นฮอร์โมนที่มีผลกระทบต่อประจำเดือนผิดปกติได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นการที่มีประจำเดือนผิดปกติหรือภาวะเลือดออกผิดปกติ ผู้หญิงทุกคนควรใส่ใจและปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงและเ พื่อการรักษาที่ถูกต้อง แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ตรวจภายในรวมถึงการตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ เช่นอัลตร้าซาวด์ การตรวจเลือดและการตรวจอื่นๆที่จำเป็น ดังนั้นจะเห็นได้ว่าภาวะเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะอาจจะมีโรคร้ายบางอย่างที่แอบแฝงซ่อนเร้นอยู่ในร่างกายท่าน ด้วยความปรารถนาดี นายแพทย์ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา -------------------------------------------------------------------------------- --:: แพทย์ .. ::-- ..เพื่อนคนแรก ... และอาจเป็นเพื่อนคนสุดท้ายของมนุษย์ ... ช่วยกันดูแลพวกเขาหน่อยเถอะครับ .... ส่งโดย: 716:16 ใช่ค่ะ ช่วยกันดูแลหน่อยด้วยนะคะ
โดย: สุพัตรา IP: 202.149.24.129 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:3:14:08 น.
ประจำเดือนมาเดือน นึง2ครั้งคะ
พอหายไป 10 วัน ประจำเดือนก้อมาใหม่อีกคะ ไม่รูว่ามีอันตรายรึเปล่า โดย: หรรษา IP: 124.121.68.134 วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:10:38:21 น.
ประจำเดือนมาเดือนหนึ่ง 2ครั้ง
หลังจากหายไป 5 วัน เลือดก็มาอีก เป็นเพราะสาเหตุไหนคะ โดย: m IP: 49.49.19.151 วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:15:47:11 น.
หมดประจำเดือนวันที่ 7 ค่ะ แล้ววันที่ 21 ก็มาอีกแต่มีสีประจำเดือนแปลกๆค่ะ แล้วตกลงใช่ประจำเดือนรึเปล่าค่ะ แล้วลงเล่นน้ำได้มั๊ย
โดย: c IP: 110.49.240.77 วันที่: 21 เมษายน 2555 เวลา:17:00:13 น.
|
บทความทั้งหมด
|
แต่ไม่เคยมีอาการรอดตัวไป