....OUR FAMILY'S JOURNEY....

++ ฟลอเรนซ์...เมืองแห่งศิลปะและสถาปัตยกรรม ++


ฟลอเรนซ์ (Firenze)
เมืองแห่งศิลปะและสถาปัตยกรรม




อ่านตอนที่ 1 : โคลอสเซี่ยม..มหึมาบนซากชีวิต
อ่านตอนที่ 2 : จัตุรัสเวเนเซีย น้ำพุจตุมหานที และวิหารแพนธีออน
อ่านตอนที่ 3 : วาติกันมิวเซียมและมหาวิหารเซ็นปีเตอร์...ประติมากรรม & จิตรกรรมขั้นเทพ
อ่านตอนที่ 4 : น้ำพุเทรวี และบันไดสเปน...ท่ามกลางสายฝน
อ่านตอนที่ 6 : หอเอนปิซา....มารำลึกถึงกาลิเลโอ



เช้าวันที่ 13 ตุลาคม 2555 หลังจากที่ได้ชาร์ทแบตทั้งคืน ก็ตื่นมาอย่างสบายๆและดูเหมือนว่าจะเริ่มชินกับเวลาที่เปลี่ยนไปของที่นี่แล้ว... ตามสูตรของการเที่ยวกับทัวร์คือ 6-7-8 หรือ morning call เวลา 06:00 น. ทานอาหารเช้าที่โรงแรม 07:00 น และออกเดินทาง (ล้อหมุน) 08:00 น. ครับ





Rome Marriott Hotel ที่เราพักเมื่อคืน




อาหารเช้าที่อิตาลีไม่มีอะไรมากมาย ถ้าเทียบกับตามโรงแรมที่บ้านเราแล้ว ต่างกันลิบลับ ส่วนรสชาดอาหารก็ออกเค็มๆ ซึ่ง จขบ.มีปัญหาพอควร เพราะไม่ชอบรสแบบนั้น อีกอย่างคนที่นี่เขาชอบทานโซดาแทนน้ำด้วย .... เรื่องอาหารมารู้ทีหลังว่าคนอิตาลีเขาเน้นมื้อเที่ยงเป็นพิเศษมากกว่ามื้อใดๆ สำหรับเรื่องอาหาร จขบ. ให้ความสำคัญน้อยกว่าการได้เที่ยวเยอะๆครับ






เส้นทางจาก โรม - ฟลอเรนซ์ ที่เราจะไปในเช้านี้




อากาศที่โรมวันนี้เย็นพอประมาณ คือ 6-8 องศา ทำให้รู้สึกสบาย ถ้าดูระยะทางจากแผนที่ ระยะทางจากโรม ถึง ฟลอเรนซ์ หรือ ฟิเรนเซ่ (Firenze) จะประมาณ 281 กม. น่าจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงเศษๆ ...

รถวิ่งออกจากโรมมุ่งสู่ตอนกลางของประเทศ เพราะวันนี้เรามีโปรแกรมที่จะไปเดินชมบริเวณมรดกโลกย่านใจกลางของฟลอเรนซ์ ช่วงเช้านี้เราจะอยู่บนรถโดยตลอด จะมีเวลาเป็นบางช่วงที่เราจะแวะเข้าห้องน้ำครับ






พอออกนอกเมือง ท้องทุ่งก็เขียวขจีแบบนี้




ท้องไร่ทางไปฟลอเรนซ์เขียวขจีตามฤดูกาล ใบไม้ในช่วงนี้ยังเขียวอยู่ แต่เริ่มจะมีบางแห่งที่ออกสีเหลืองบ้าง ถ้าเรามาช้ากว่านี้ซัก 1-2อาทิตย์ ใบไม้แถวนี้คงเปลี่ยนสีสวยงาม ตลอดข้างทางเราเห็นชาวไร่เขาปลูกข้าวโพดเสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนไร่องุ่นยังไม่ค่อยเห็นในช่วงนี้ ตามเส้นทางมอเตอร์เวย์ ไม่มีจุดตัดแบบติดไฟแดงให้เสียเวลา ตามทางแยกส่วนมากจะทำเป็นทางลอดซะมากกว่า ทำให้ถนนดูสวยงามมากขึ้น ไม่เกะกะสะพานแบบในบ้านเรา






มาแวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊ม Q-8 หลังคาที่จอดรถเป็นแผงโซล่าเซลล์ (Solar Cell)




เดินทางมาประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็มาแวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมัน Q-8 ซึ่งมีร้านสะดวกซื้ออยู่ในบริเวณนั้นด้วย ซึ่งเป็นที่แห่งเดียวที่เราจะอาศัยเข้าห้องน้ำได้ เพราะปั๊มน้ำมันส่วนมากที่นี่ไม่เห็นจะมีห้องน้ำกัน ..... มีสิ่งหนึ่งที่แปลกและน่ารับมาทำที่บ้านเราคือหลังคาที่จอดรถ เขาใช้แผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) ทำแทน นี่ได้ทั้งพลังงานที่บริสุทธิมาไว้ใช้ในร้าน และประหยัดการใช้พลังงานจากทางอื่นด้วย บ้านเราน่าจะเอามาทำนะครับ






ผ่านบางช่วงเห็นทะเลหมอกสวยงาม



เวลาไปเที่ยวต่างแดน จขบ.จะชอบนั่งชมธรรมชาติสองข้างทางตลอดจนดูวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในถิ่นนั้นๆเสมอ น้อยครั้งที่จะหลับ (เพราะเสียดายตังค์ที่ซื้อทัวร์ไปด้วยล่ะ) คราวนี้ก็เช่นกัน เราพยามมองหาชาวอีทรัสกัน (Etruscan) ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นของดินแดนแถบนี้ โดยพวกเขาอาศัยอยู่บนคาบสมุทรอิตาลีมาตั้งแต่ก่อนคริสตศักราช 900 ปีแล้ว โดยอาศัยอยู่ทางตอนกลางค่อนไปทางตอนเหนือของประเทศ และเป็นบรรพบุรุษที่แท้จริงของชาวอิตาเลี่ยน ก่อนที่ชาวกรีซจะอพยพเข้ามาพร้อมวิทยาการการเพราะปลูกและอื่นๆ และทำให้อารยะธรรมต่างๆไหลเข้ามาสู่อิตาลีหลังจากนั้น...อยากรู้ว่าวิถีชีวิตเขาเป็นเช่นไร








เขตเมืองฟลอเรนซ์




ฟลอเรนซ์

ฟลอเรนซ์ (อังกฤษ: Florence) หรือ ฟีเรนเซ (อิตาลี: Firenze) เป็นเมืองหลวงของแคว้นทัสกานีและมณฑลฟลอเรนซ์ในประเทศอิตาลี

ระหว่าง ค.ศ. 1865 ถึง ค.ศ. 1870 ฟลอเรนซ์ก็เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรอิตาลี ฟลอเรนซ์ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน มีประชากรประมาณ 370,000 คน และอีก 1.5 ล้าน คน อยู่บริเวณปริมณฑล ฟลอเรนซ์ในยุคกลางเป็นศูนย์กลางทางการค้าและทางการเงิน และถือกันว่าเป็นที่เกิดของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา ตระกูลที่มีอำนาจการปกครองฟลอเรนซ์เป็นเวลานานคือตระกูลเมดีชี (Medici) นอกจากนั้นฟลอเรนซ์ก็ยังมีชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางศิลปะและสถาปัตยกรรม ในยุคกลางฟลอเรนซ์เป็นที่รู้จักกันในนามว่าเอเธนส์

ใจกลางเมืองเก่าของฟลอเรนซ์ได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525)






ภาพมุมสูงเมืองฟลอเรนซ์ (ภาพจากเวบ)...บริเวณหอสูงๆซ้ายและขวาคือที่ๆเราจะไปเดินวันนี้



ฟลอเรนซ์ ซึ่งเป็นเมืองโบราณจากยุคกลางที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปี เมืองแห่งนี้มีกิตติศัพท์เรื่องความงดงามของบ้านเมือง ทั้งโบสถ์วิหารวังโบราณ และอาคาร ต่างเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเรอเนสซองซ์ (Renaissance) จนถึงขั้นได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งกำเนิดศิลปะรูปแบบนี้ และยังเคยถูกขนานนามว่าเป็นเอเธนส์แห่งยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ








เดินผ่านสถานีรถไฟ ก่อนที่จะลอดอุโมงไปสู่ถนนในเมือง (ล่าง)




ในอดีตฟลอเรนซ์ มีชื่อว่า ฟลอเรนเทีย (Florentia) แปลว่าความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากตั้งอยู่ริมแม่น้ำอาร์โน ประกอบกับจูเลียส ซีซาร์ได้ส่งกองทัพทหารโรมันมาตั้งค่ายอยู่ที่นี่เมื่อ 59 ปีก่อนคริสต์ศักราช จึงเกิดความเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อชาวฟลอเรนซ์ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเมดิชี (Medici) ที่เข้ามาปกครองเมืองในช่วงศตวรรษที่ 15-18 ฟรอเรนซ์ก็เลยเต็มไปด้วยความเจริญต่างๆทั้งสถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม ที่งดงามอยู่ทั่วทุกมุมเมือง







หากโรมเป็นเสมือนชายหนุ่มมาดแมนผู้กล้าหาญ ฟลอเรนซ์ก็คงเป็นหญิงสาวโฉมงามผู้เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ซึ่งเสน่ห์อันชวนหลงใหลนี้เองที่ทำให้ฟลอเรนซ์ติดอันดับเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของคนทั่วโลกแทบทุกปี และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่มีทุกสิ่งอันเป็นของดีที่สุดของอิตาลีอีกด้วย เพราะทั้งภูมิประเทศที่สวยงาม อาหารการกินที่ขึ้นชื่อ หรือภาษาที่พูดอันเป็นภาษาถิ่นที่ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นภาษาอิตาลีแบบของแท้ที่สุด ทั้งหมดทำให้คนมาเยือนอิตาลีไม่พลาดที่จะมาฟลอเรนซ์ด้วย






ถนนและอาคารบ้านเรือนบริเวณย่านใจกลางเมือง (ห้ามรถใหญ่เข้า)




ฟลอเรนซ์ยังเป็นเมืองกำเนิดของบุคคลสำคัญ และศิลปินชื่อดังของโลกอีกหลายคน เช่น อเมริโก เวสปุชชี่ (Amerigo Vespucci) นักเดินเรือผู้ค้นพบทวีปอเมริกา, กาลิโอ (Galileo) นักวิทยาศาสตร์, ดังเต้ (Dante) นักเขียนและกวีเรืองนาม รวมถึงยังเป็นบ้านเกิดของสิ้นค้าแบรนด์เนมอย่าง Gucci และ Salvatore Ferragamo อีกด้วย






รถม้าเมืองฟลอเรนซ์



เมืองฟลอเรนซ์ของประเทศอิตาลี ในปัจจุบันได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองสำคัญในด้านแฟชั่นของอิตาลีและของยุโรป แต่ถ้าสำรวจศิลปะของเมืองนี้อย่างละเอียดจะพบว่า เมืองฟลอเรนซ์ถือว่าเป็นแหล่งกำเนิดศิลปินชื่อก้องโลกเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี ผู้ให้กำเนิดมหาวิทยาลัยศิลปากรด้วย

ศิลป์ พีระศรี ไม่ใช่ศิลปินเพียงคนเดียวที่มีบ้านเกิดอยู่ในฟลอเรนซ์ แต่ในฐานะที่นครแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งศิลปวัฒนธรรมของยุโรป ฟลอเรนซ์จึงเป็นแหล่งกำเนิดและบ่มเพาะศิลปินชื่อดังระดับโลกมากมาย...ไม่ว่าจะเป็น

มีเกลันเจโล ศิลปินเอกของโลกที่สามารถเข้าถึงศาสตร์ศิลปะได้ถึง 3 ศาสตร์อย่างไร้ที่ติ ตั้งแต่วิจิตรศิลป์ สถาปัตยกรรม ไปจนถึงประติมากรรม

เลโอนาร์โด ดาร์วินชี ซึ่งเกิดในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการเช่นเดียวกับมีเกลันเจโล ดาร์วินชี คือ อัจฉริยบุคคลที่มีความสามารถรอบด้าน ทั้งการเป็นนักดนตรี นักกายวิภาค นักเรขาคณิต นักดาราศาสตร์ และนักวาดรูป ซึ่งความสามารถหลายด้านของเขา ทำให้เขากลายเป็นจิตวิญญาณของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการของยุโรป ด้วยการนำศาสตร์หลายด้าน มาบูรณาการเข้าด้วยกันจนทำให้เขากลายเป็นบุคคลสำคัญแห่งยุค (อ่านเพิ่มเติม)


ในวันนี้เราจะเข้าไปชมเฉพาะส่วนใจกลางเมืองที่รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกครับ ซึ่งจะพาคุณๆไปชมมหาวิหาร (ดูโอโม) จตุรัสซิญญอเรีย สะพานเวคคีโอ และเดินชมรอบๆบริเวณนั้นกันครับ






หน้า Duomo (มหารวิหารเมืองฟลอเรนซ์)






ดูโอโม (Duomo)

ดูโอโม หรือ มหาวิหารแห่งเมืองฟลอเรนซ์ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ "โบถส์ซานตามาเรีย เดล ฟิโอเร" (Santa Maria del Fiore) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1296 แต่มุขหน้าของมหาวิหารเป็นของที่ต่อเติมขึ้นมาใหม่ในศตวรรษที่ 19 ในสไตล์นีโอคลาสสิก สวยงามด้วยการสลับหินอ่อน 3 สี ที่นำมาจากที่ต่างๆ คือ สีชมพู มาจากเรมมา สีเขียว จากปราโต และสีขาว มาจากคาร์รารา




Duomo




ฝั่งขวาเป็นหอระฆัง "กัมปานิเล" (campanile) สูง 85 เมตร ออกแบบโดยจ๊อตโต (Giotto) ในปี 1331 มีบันได 414 ขั้นให้ปีนขึ้นไปชมหลังคายอดโดมและวิวเหนือเมืองฟลอเร็นซ์ได้ทุกด้าน ซึ่งจะเห็นยอดโดมและหอระฆังของโบถส์อีกหลายหลังอยู่สูงเด่นเหนือหลังคาสีแดงของอาคารบ้านเรือน ซึ่งโอบล้อมด้วยเนินเขาเล็กๆอยู่รอบด้านอันเป็นทิวทัศน์ที่คุ้นตาของภูมิภาคทัสกานี






ด้านหลังนั่นคือโดม (คนกางร่มนั่นฝนกำลังมา)




ยอดโดมขนาดใหญ่ผู้ออกแบบคือ บรูเนลเลสกี และก่อสร้างระหว่างปี 1420 - 1436 เขาได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการทำให้ยอดโดมอยู่ได้โดยไม่ใช้โครงสร้างค้ำ ซึ่งเป็นวิศวกรรมการก่อสร้างแนวใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครเคยทำ เมื่อสำเร็จจึงได้รับการยกย่องด้วยการออกกฏหมายไม่ให้มีสิ่งก่อสร้างใดๆสูงไปกว่ายอดดดมของดูโอโมเมืองฟลอเร็นซ์ มีบันได 436 ขั้นขึ้นไปยอดโดมได้เช่นเดียวกับหอระฆัง และศพของเขาก็ถูกฝังอยู่ใต้มหาวิหารแห่งนี้ด้วย..






ประตูแห่งสรวงสวรรค์ของหอพิธีเจิมน้ำมนต์




ในปี 1401 มีการประกวดหาศิลปินมาออกแบบประตูทางเข้าหอพิธีเจิมน้ำมนต์ ลอเร็นโซกีแบร์ตี และ บรูเนลเลสกี ได้รับชัยชนะร่วมกัน แต่บรูเนลเลสกีก้ไม่ยอมรับงานนี้ กีแบร์ตีจึงได้ทำงานนี้เพียงคนเดียว เขาใช้เวลานานถึง 21 ปี ทำงานที่ถือได้ว่าเป็นผลงานชิ้นแรกของศิลปะยุคเรอเนสซองซ์สำเร็จในปี 1424 บนบานประตูด้านทิศเหนือ และใช้เวลาจนถึงปี 1452 สร้างผลงานบนบานประตูทางด้านทิศตะวันออก เขาได้นำเรื่องบนพระคัมภีร์เก่ามาสลักเป็นภาพประกอบเอาไว้บนแผ่นทองสำริด ซึ่งแสดงถึงความเชี่ยวชาญในการทำให้ภาพแกะสลักตื้นๆ ให้ความรู้สึกเห็นส่วนลึกได้ มิเคลันเจโลถึงกับเอ่ยปากยกย่องว่าเป็น "ประตูแห่งสรวงสวรรค์" (Gate of Paradise)


จขบ.เกือบเดินผ่านไปเฉยๆ พอเห็นฝรั่งมุงเลยเข้าไปดู และแหวกฝรั่งกดมาได้ 4-5 ภาพ ส่วนรายละเอียดกลับมาค้นเอาตอนมาถึงบ้านแล้ว....เกือบไปไหมล่ะ








หอรับศีลจุ่มบัตติสเตโร (Battistero)



หอพิธีรับศีลจุ่มบัตตีสเตโร (Battistero) หรือหอพิธีเจิมน้ำมนต์ทางตะวันตกของมหวิหาร (ตรงข้ามประตูทางเข้า) เป็นอาคารหลังแปดเหลี่ยม สร้างในศตวรรษที่ 6 มีการประดับตกแต่งใหม่เริ่มในปี 1300 มีการประดับด้วยภาพโมเสกหลายภาพ เช่น Baptistry เล่าเรื่องคัมภีร์ไบเบิ้ลและชีวิตของพระเยซู และเซ็นต์จอหืนเดอะเบปติสต์ และภาพ Creation and Last Judgement.






เดินผ่านถนนแคบๆไปหน่อยเดียวก็ถึงจตุรัสซิญญอเรีย



หลังจากชมมหาวิหารแห่งฟลอเรนซ์แล้ว เราก็เดินผ่านถนนแคบๆ ผ่านร้านขายสินค้าแบรนด์ดังหลายๆร้านไปยังจตุรัสซิญญอเรีย (Piazza della Signoria) ซึ่งเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและการบริหารของเมืองนี้ มีจุดเด่นคือ Palazzo Vacchio ซึ่งเป็นทั้งศาลาว่าการของเมืองฟลอเรนซ์และที่แสดงศิลปะของเมืองนี้ด้วย






Palazzo Vecchio




Palazzo Vecchio เป็นมรดกตกทอดมาจากตระกูลเมดีซี ปัจจุบันอาคารหลังนี้เป็นศาลาว่าการเมืองและพิพิธภัณฑ์ศิลปะแสดงผลงานที่ได้รับเป็นมรดกตกทอดมาจากตระกูลเมดิซี ภายในมีภาพเฟรสโกแสดงชัยชนะของโคซีโม่ ที่ 1 ที่มีในสงครามต่างๆ รวมทั้งภาพที่แสดงความระลึกถึงบุคคลสำคัญท่านอื่นของฟรอเร็นซ์ เช่น พระสันตะปาปาลีโอที่ 10 บุตรชายของลอเร็นโซผู้สง่างาม ซึ่งได้ขึ้นเป็นพระสันตะปาปาคุมอำนาจในโรม เป็นต้น






Palazzo delle Assicurazioni Generali ที่อยู่ตรงข้าม Palazzo Vecchio




Palazzo delle Assicurazioni Generali เป็นอาคารที่ออกแบบในยุค Neo Renaissance (นีโอ เรสเนสซองซ์) ในปี 1871 เป็นหนึ่งในอาคารพาณิชที่ออกแบบให้กลมกลืนกับ Palazzo Vacchio ใจกลางเมือง Firenze และใช้เป็น Head Quarter of General Insurance Company






สามล้อที่ Firenze




จตุรัสซิญญอเรีย (Piazza della Signoria)

เป็นจตุรัสใหญ่ใจกลางเมืองรายรอบไปด้วยปาลัซโซสีสรรฉูดฉาดและคาเฟ่ที่กางโต๊ะเก้าอี้ออกมาในลานจตุรัส โดยมีปาลัซโซเวคคีโออยู่ทางด้านตะวันออก โดดเด่นด้วยหอระฆัง Torre d'Arnolfo ตั้งสูงกว่าทุกอาคาร มีนาฬิกาเรือนใหญ่ติดอยู่ด้านหน้า






นักท่องเที่ยวกำลังฟังประวัติของโคซีโม ที่ 1 (Cosimo-1)




ในอดีตเป็นศูนย์กลางการปกครองของเมืองฟลอเรนซ์ โดยโคซีโม ที่ 1 (1519 - 1574) ได้ปรัปปรุงปารัซโซเวคคีโอให้เป็นศูนย์กลางบริหารงานแผ่นดิน เขาเป็นผู้ปกครองในตระกูลเมดิซีคนแรกที่ได้รับตำแหน่งแกรนด์ดยุคขณะอายุเพียง 17 ปี เป็นนักการทหารที่กุมอำนาจการปกครองไว้แต่เพียงผู้เดียว โดยสามารถยึดเอาซีเอนาและดินแดนอื่นๆในทัสกานีมาไว้ใต้อำนาจได้







น้ำพุ Neptune









ด้านหลังโต๊ะเก้าอี้นี้เป็นร้านอาหารชื่อ Ristorante il Bargello Restaurant ที่เราจะเข้าไปทานกัน ซึ่งมื้อเที่ยงนี้เป็นอาหารพื้นเมืองของฟลอเร็นซ์ มีเสริฟหลายอย่างตั้งแต่สลัดผัก พิซซ่า สเต็กหมู จบที่ไอศครีม สำคัญคือมีไวน์แดงพื้นเมืองที่นี่เสริฟด้วย เสียดายที่ไม่มีใครช่วย ไวน์เลยเหลือตั้งเยอะ






ทานมื้อเที่ยงเป็นอาหารพื้นเมืองที่ฟลอเรนซ์ อยู่บริเวณจตุรัสซิญญอเรีย







The Rape of Sabine Women โดย Giambolona ที่ Loggia della Signoria








ถ่ายภาพกับศิลปินเปิดหมวก







รูปปั้น Michelangelo Bounarroti (ไมเคิลแองเจโล)




มีเกลันเจโล หรือ ไมเคิลแอนเจโล

มีเกลันเจโลไมเคิลแองเจโล หรือชื่อเต็มว่า มีเกลันเจโล ดี โลโดวีโก บูโอนาร์โรตี ซีโมนี (อิตาลี: Michelangelo di Lodovico Buonarroti Simoni, 6 มีนาคม ค.ศ. 1475 - 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1564) เป็นจิตรกร สถาปนิก และประติมากรชื่อดังชาวอิตาลี

เป็นศิลปินที่เข้าถึง 3 ศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของโลก เขาไม่เป็นเพียงผู้ที่เข้าถึงแต่เพียงศาสตร์ด้านวิจิตรศิลป์ แต่เขายังเข้าถึงความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรม และประติมากรรมอีกด้วย เกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 1475 และเติบโตที่เมืองฟลอเรนซ์ ภายหลังเป็นผู้สร้างประติมากรรมหินอ่อนชื่อกระฉ่อนโลกนามว่า เดวิด (David)






รูปปั้น David หน้า Palazzo Vecchio




หลังจากที่ไปอยู่ที่กรุงโรมเมื่ออายุ 21 ปี และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นถึง 5 ปี มีเกลันเจโลสร้างประติมากรรมรูปเดวิด ตอนอายุ 26 ปี จากหินอ่อนก้อนมหึมาที่ถูกทิ้งไว้กลางเมืองฟลอเรนซ์เป็นเวลาหลายปี จึงกลายเป็นที่ฮือฮาของชาวเมือง ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่มีใครกล้าพอที่จะแตะต้องมัน ความสำเร็จหลังจากงานชิ้นนี้ ทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วอิตาลี มีเกลันเจโลเดิมทีเป็นคนที่เกลียดเลโอนาร์โด ดา วินชี ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีอายุห่างกันถึง 23 ปี และไม่ค่อยได้พบกันบ่อยนัก (คล้ายกับ "การที่เสือสองตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้") ในช่วงนี้ (ค.ศ. 1497 - ค.ศ. 1500) เขาก็ได้สร้างประติมากรรมหินอ่อนอีกชิ้นหนึ่งที่มีชื่อว่า ปีเอตะ (Pietà) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในมหาวิหารนักบุญเปโตรที่กรุงโรม






ภาพวาดที่วางขายในทางเดินสู่แม่น้ำอาร์โน




นอกจากศิลปินเปิดหมวกแล้ว ตรงถนนที่เราเดินไปสู่แม่น้ำอาร์โน เรายังเห็นศิลปินที่นำเอาภาพเขียนมาตั้งขาย และเขียนกันสดๆตรงนั้นเลยก็มี








ทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำอาร์โน (Arno)







สะพานเวคคีโอ (Ponte Vecchio) อันเก่าแก่ของฟลอเรนซ์




สะพานเวคคีโอ (Ponte Vecchio)

สะพานเวคคีโอ (Ponte Vecchio) ที่ทอดข้ามแม่น้ำอาร์โน (Arno) สร้างขึ้นตั้งแต่ ปี 1345 เป็นสะพานโบราณเพียงแห่งเดียวที่เหลือในฟลเรนซ์ เดิมสะพานแห่งนี้เป็นสะพานไม้ 2 ชั้น มีหลังคาคลุม ชั้นบนทำเป็นทางเดินเชื่อมระหว่างวังปิตตีซึ่งอยู่ฝั่งใต้ของแม่น้ำกับตึกของสำนักงานอุฟฟีซี ให้เจ้าผู้ครองนครในวังเดินไปทำงานโดยไม่ต้องตากแดดหรือเปียกฝน และไม่ต้องเดินปะปนกับชาวบ้านอยู่เป็นเวลานานกว่า 500 ปี ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกฝ่ายนาซีวางระเบิดหัวท้ายสะพาน เพื่อสกัดให้ฝ่ายพันธมิตรเดินทัพได้ช้าลง






รูปปั้นของ Benvenuto Cellini ที่อยู่บนสะพาน Ponte Vecchio




ริมทางเดินชั้นล่างบนสะพานเดิมเป็นร้านอาหารและร้านค้าของพวกขายเนื้อและช่างฟอกหนังมาตั้งแต่ต้น จนกระทั่งสมัยแฟร์ดินันโดที่ 1 (1549 - 1609) ผู้ครองนครตระกูลเมดิซี ที่ประชาชนชื่นชอบ ทนกลิ่นเหม็นของร้านขายเนื้อขณะเดินข้ามชั้นบนของสะพานไม่ไหวจึงสั่งให้ร้านอาหารและร้านขายเนื้อออกไป






ร้านขายพวกเครื่องประดับที่อยู่ตามขอบหรือราวสะพาน




แล้วให้พวกช่างเงินช่างทองไปเปิดร้านทำกิจการแทน ปัจจุบันเราจึงเห็นร้านพวกเครื่องประดับจำพวกเพชรทองตั้งอยู่บนสะพานหลายร้าน กลายเป็นย่านหรูหราไปในทันที นอกจากนั้นยังมีร้านไอศครีม ร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว เป็นสถานที่ Must See และจุดชมวิวของแม่น้ำอาร์โนที่สวยงามของเมืองฟลอเรนซ์เลยทีเดียว






เดินดูสินค้าในตลาดแมร์กาโตนูโอโว (Mercato Nuovo)




เราเดินวนเข้าไปในตลาดแมร์กาโตนูโว (Mercato Nuovo) ซึ่งมีของที่ระลึกขายมากมาย ตลาดนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกของจตุรัสซิญญอเรีย แม้ตลาดนี้จะแปลว่าตลาดใหม่ แต่ก็ตั้งมาตั้งแต่ปี 1551 เพื่อเป็นแหล่งซื้อขายสินค้าจำพวกเส้นใยของใบปาล์มเพื่อนำไปทำเชือกบางทีเรียกว่า ตลาดฟาง แต่ปัจจุบันเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่จะซื้อหาของที่ระลึก






หมูป่าอิลปอร์เชลลีโน




ในตลาดนั้นมีรูปปั้นเจ้าหมู่ป่า "อิลปอร์เชลลีโน" ตั้งอยู่ มีนักท่องเที่ยวไปลูบจมูกของมันจนมันวาว ซึ่งเชื่อกันว่าจะทำให้เราโชคดี บางคคนเอาเหรียญไปใส่ในปากแล้วปล่อยให้ไหลลง ถ้าตกลงตรงร่องด้านล่างจะถือว่าโชคดีเช่นกัน จขบ.ไปยืนดูเด็กๆและผู้ใหญ่เล่นกันอยู่ตั้งนาน






ย่านร้านค้าใกล้ๆจตุรัสซิญญอเรีย




วันนั้นอยากได้แบตเตอรีของกล้อง D 7000 เลยแวะเข้าไปหาซื้อ ถามว่าก้อนละเท่าไหร่ เขาบอกว่า 55 ยูโร (ประมาณ 2200 บาท) เลยยื่นตังค์ให้ 60 ยูโร ลุงแกถามว่าไม่มี 5 ยูโรเหรอ เราค้นหาแล้วไม่เจอ จึงบอกไปว่าไม่มี ลุงแกยื่นแบงค์สิบยูโรกลับมาแล้วบอกว่าไม่เอาอีก 5 ยูโรเฉยเลย โหนี่เราได้ลด 200 บาทเลยหรือเนี่ย...คนฟลอเรนซ์น่ารักจัง






ออกจากฟลอเรนซ์




เราเดินกลับมาทางเดิมผ่าน Duomo แล้วเดินตามทางไปลอดถนนเข้าสถานีรถไฟ ก่อนไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ตรงทางขึ้นสถานี ก่อนออกเดินทางไป Pisa เพื่อให้ทันเวลาห้าโมงเย็นก่อนมืด บล๊อกนี้เลยขอจบเอาแบบนี้ เจอกันบล๊อกหน้าที่เมืองปิซ่านะครับ






ลาด้วยภาพรถม้าที่หน้า Duomo ครับ





How Can I Tell Her About You - LOBO


_________________






 

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2555
36 comments
Last Update : 28 กรกฎาคม 2556 14:11:45 น.
Counter : 7920 Pageviews.

 

สวัสดียามเช้าค่ะ

ขอตามมาเที่นวต่างประเทศด้วยคนค่ะ

ขอให้มีความสุขนะคะ

 

โดย: iamorange 19 พฤศจิกายน 2555 7:55:43 น.  

 

มาเที่ยวด้วยค่ะ ละลานตาไปหมดเลย
ชมเพลินจริงๆ สถปัตยกรรมตึกสวยๆ
ชอบมากค่ะ

วันนี้มีดอกไม้สวยสามเวลามาฝาก



เค้าจะเปปลี่ยนสีสามเวลาต่อหนึ่งวัน
ภายในดอกเดียว ว่างแล้วเชิญนะคะ

 

โดย: mambymam 19 พฤศจิกายน 2555 11:34:59 น.  

 

สวัสดีครับ ทักทาย




 

โดย: ต้นกล้า อาราดิน 19 พฤศจิกายน 2555 12:10:05 น.  

 

สวยมาก ๆ ๆ ครับ...ดูเพลิน จุใจ....เดี๋ยวจะกลับมาดูอีก ติดใจครับ

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 19 พฤศจิกายน 2555 15:07:42 น.  

 

ชอบภาพสพาน เวคคีโอ สวย ยิ่งเห็นสนามหญ้าเขียว มีที่นั่งด้วย..สุดยอดครับ

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 19 พฤศจิกายน 2555 15:10:13 น.  

 

ภาพสวยเช่นเคยค่ะ
มุมมองภาพถ่ายสวยมาก คมชัดมีเรื่องราว
ขอบคุณค่ะที่นำภาพสวยๆมาแบ่งปันให้ได้ชมกัน
ขอให้คุณWICและครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง
และมีความสุขมากๆตลอดไปนะคะ ^_^

 

โดย: andrex09 19 พฤศจิกายน 2555 17:10:23 น.  

 

คนฟลอเรนซ์น่ารักจริงๆ ลดราคาให้คุณวิคตั้ง 5 ยูโร ประทับใจไปอีกนานเลยนะคะ
คุณวิคทำบล๊อกออกมาอย่างตั้งใจ ให้ความรู้ ความสบายตา สบายใจกับผู้อ่าน
บ้านเมืองสวยกับตากล้องเก่งๆ เข้ากันได้ดีจริงๆ ต๋ายืนยันคำพูดเดิมค่ะ
ต๋าจะตามมาส่งกำลังใจให้นะคะ ช้านิด แต่มาแน่ค่า



สุข สดชื่นยามเย็นค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 19 พฤศจิกายน 2555 17:26:04 น.  

 

รูปสวยมากค่ะ ตามมาชมด้วยคนค่ะ

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 19 พฤศจิกายน 2555 19:31:04 น.  

 

ตามมาเที่ยวเมืองฟิเรนเซ่อีกรอบค่ะ
ชอบเมืองนี้มากกก duomo สวยตะลึงเลยค่ะ
ชอบพระอาทิตย์ตกที่สะพาน ponte vecchio ด้วย

เวลาไปเที่ยวหนึ่งก็ไม่ค่อยเน้นกินค่ะ แต่จะกินเจลาโต้ของทุกเมือง
เว้นเมืองนี้เพราะแพงมากกกก

 

โดย: AdrenalineRush 19 พฤศจิกายน 2555 22:15:08 น.  

 

มาเจอพานำเที่ยวเมืองฟลอเรนซ์ มรดกโลกซึ่งได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางศิลปะและสถาปัตยกรรม ในอดีตเป็นที่รู้จักกันใ
ตามประวัติศาสตร์ที่เรียนคือเมืองเอเธนส์นี่เองยังไม่เคยไปเองเลย ชมภาพสวยๆเที่ยว
ผ่านบล๊อกคุณ wicsir ก็เหมือนได้เห็นจริงนะค่ะ ขอบคุณที่แชร์ค่ะ มีรถสามล้อด้วย
รถม้าก็น่านั่งชมรอบเมืองนะค่ะ ขอมากดโหวตให้ในวันถัดไปคร้า...

 

โดย: tui/Laksi 19 พฤศจิกายน 2555 23:58:14 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


...ไม่ว่าจะติดอะไรก็ต้องเป็นทาสสิ่งนั้น
ติดยา ก็เป็นทาสยา
ติดรัก ก็เป็นทาสรัก...

สวัสดีเช้าวันอังคารค่ะคุณ wicsir

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 20 พฤศจิกายน 2555 7:09:04 น.  

 

หวัดดีค่าคุณวิค

เห็นภาพที่เอาไปเรียกน้ำย่อยแล้วรีบวิ่งเข้ามาเลยชอบมากกกกกก

Palazzo Vecchio เป็นสถาปัตย์ที่สวยงามมากเลยค่ะ ชอบๆ

แหวกฝูงชนเข้าไปถ่ายมาได้ อิอิ น่าชื่นชม มุมมองเก๋ด้วย

 

โดย: Rinsa Yoyolive 20 พฤศจิกายน 2555 9:25:21 น.  

 

มาแปะคอมเม้นท์ฝากไว้ก่อนค่ะ พี่วิค
บล็อคนี้ต้องใช้เวลาอ่านและชมภาพแบบตั้งใจมากเลย
ภาพสวย มาก ๆ

 

โดย: มิลเม 20 พฤศจิกายน 2555 22:07:49 น.  

 

อรุณสวัสดิ์คร้า มาชมบรรยากาศที่เมืองฟลอเรนซ์ อีกครั้งค่ะ
พร้อมกดโหวตและถูกใจ ใช่เลยให้ด้วยค่ะ
มีความสุขกับการทำงานวันนี้นะค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
wicsir Travel Blog

 

โดย: tui/Laksi 21 พฤศจิกายน 2555 5:55:49 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะ









ขอให้มีความสุขนะคะ

 

โดย: iamorange 21 พฤศจิกายน 2555 6:17:41 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


...เมื่อบอกคนอื่นว่าอย่างไร
ตัวเราเองก็ต้องทำอย่างนั้นให้ได้เช่นเดียวกัน...

ทักทายกันเช้าวันพุธค่ะคุณ wicsir

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 21 พฤศจิกายน 2555 6:48:37 น.  

 

สวัสดีตอนค่ำๆ ครับคุณ wicsir ขอบคุณที่แวะไปสะกิดชวนมาเที่ยวอิตาลีต่อนะครับ .....

เมืองฟลอเรนซ์ ได้ยินชื่อนี้เมื่อไหร่ผมจะนึกถึงบรรดาศิลปินดังๆ ขึ้นมาทันที รวมถึงอาจารย์ศิลป์ พีระศรีด้วย .....

ได้ชมภาพเมืองฟลอเรนซ์จากบล็อกนี้แล้วเพลินมากครับ ถ่ายภาพได้สวยเช่นเคย ......

 

โดย: NET-MANIA 21 พฤศจิกายน 2555 21:40:11 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวจ้าคุณวิก ภาพเยอะดีจัง
เหมือนได้เดินทางไปเที่ยวด้วยตนเองเลย

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

wicsir Travel Blog ดู Blog

 

โดย: หอมกร 22 พฤศจิกายน 2555 0:39:54 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


...การได้รับความไว้ใจ
ทำให้มนุษย์รู้สึกอิ่มเอิมใจ
ยิ่งกว่าการเป็นที่รักมากมาย...

สวัสดีเช้าวันพฤหัสบดีค่ะคุณ wicsir

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 22 พฤศจิกายน 2555 6:50:49 น.  

 

"ช้านิด แต่มาแน่" อย่างที่บอกคุณวิคจริงๆด้วย
ส่งกำลังใจให้ค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
LoveParadise Food Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog
.....................
มีความสุขตลอดวันนะคะ

 

โดย: Sweet_pills 22 พฤศจิกายน 2555 9:06:04 น.  

 

สวัสดีค่ะ เอาพุทธรักษาหลังบ้านมาฝากค่ะ



ชวนไปเดินเล่นด้วยนะคะ

 

โดย: mambymam 22 พฤศจิกายน 2555 11:03:30 น.  

 

สวยงามทุกที่ที่พาไปเลยค่ะ
ไม่รู้เหมือนกันค่ะ อ่านเรื่องและชมภาพบล็อกนี้แล้วรู้สึกว่าเมืองฟลอเร็นซ์จะน่าอยู่
ได้ความรู้สึกสบายๆกว่าตอนที่อยู่ในกรุงโรม ชอบที่นี่ตรงนี้ล่ะค่ะ
ตอนอยู่กรุงโรมมีความรู้สึกตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจ อลังการณ์ไปกับทุกอย่างเลย
มาถึงฟลอเร็นซ์แล้วใจมันค่อยเต้นเป็นจังหวะปกติหน่อย 555

ขออภัยที่เข้ามาช้าค่ะ หายไปซะหลายวันเลยมีภาระกิจต้องไปดูหลาน
กลับมาก็เน็ตเจ๊งอีก 2 วัน เพิ่งเข้ามาได้นี่ล่ะค่ะ
วันนี้โหวตบล็อกท่องเที่ยวให้บล็อกอื่นไปแล้ว
ไม่แน่ใจว่าโหวตอีกได้หรือเปล่า เพื่อความชัวร์
กลับมาโหวตให้ใหม่พรุ่งนี้ละกันค่ะ
มีความสุขกับการทำงานนะคะ

 

โดย: ฝากเธอ 22 พฤศจิกายน 2555 12:05:27 น.  

 

ผมล่ะชอบตึกแนวนี้จริงๆ ครับ ถ่ายภาพมา มันสวยได้ใจมากๆ

 

โดย: นายหัวเด่น 22 พฤศจิกายน 2555 13:31:44 น.  

 

ข้อดีของการไปกับทัวร์คือ เราสามารถได้ไปเที่ยวในสถานที่ๆ ที่ควรจะไปนะคะ เดี๋ยวนี้ทัวร์ทั้งหลาย คงไม่ใช่ทัวร์ชะโงกแล้วมังคะ เพราะเห็นคุณ wic ถ่ายภาพมาได้พอสมควร

ชอบนั่งมองสองข้างทางเหมือนกันค่ะ เพราะความที่กลัวไม่เห็นสองข้างทาง เวลาเดินทางไกลๆ เลยไม่กินยาแก้เมาทุกชนิด เพราะกลัวหลับ...

มหาวิหารดูโอโม เคยเห็นจากเพื่อนบล็อกเราหลายบล็อก แต่ก็ยังตื่นตาตื่นใจอยู่ดีค่ะ

ชอบอาคารบ้านเรือน สิ่งก่อสร้างบ้านเมืองเค้าเนาะ ถ่ายกันเพลินเลยค่ะ


ปล. เดี๋ยวจะไปส่องๆ ดู D7000 ในงาน Photo Fair ปีนี้ค่ะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 22 พฤศจิกายน 2555 14:30:40 น.  

 

ว๊าวสวยจังค่ะ ชอบงานแกะสลักนัำพุ Neptune คนทำเก่งจังเลยนะคะ...สมัยก่อนเนี่ยเขาเอาอะไรแกะสลักหินอ่อนน้าถึงได้เหมือนจริงขนาดนี้

 

โดย: Little My @ Moominland 22 พฤศจิกายน 2555 15:25:51 น.  

 

เมื่อวานเข้ามาแปะโป้งไว้
วันนี้มาโหวตให้แล้วนะคะ เป็นกำลังใจค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
wicsir Travel Blog ดู Blog

 

โดย: ฝากเธอ 23 พฤศจิกายน 2555 11:29:29 น.  

 

แวะมาเที่ยวด้วยต่อค่ะ

ปกติเวลาขึ้นรถได้หนึ่งก็จะหลับแล้วค่ะ
เหมือนเป็นเปลกล่อมชั้นดี

แต่ตอนที่ไปทิเบตนี่สิ พยายามถ่างตาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ได้เห็นอะไรแปลกตาแตกต่างไปจากบ้านเรา
หลับไม่ลงเลยค่ะ

เคยอ่านนิยายหลายๆ เรื่อง
ที่เดินเรื่องแถวฟลอเรนซ์นี่ล่ะ
วันนี้พอได้มาเห็นรูปแบบเต็มๆ ตา
ทำให้มองเห็นภาพ และเข้าใจเนื้อเรื่องเยอะขึ้นเลย

 

โดย: chenyuye 23 พฤศจิกายน 2555 11:46:31 น.  

 

ลืมบอกว่า
ทิเบตตอน 2 มาแล้วค่ะ
ว่างๆ แวะมาเที่ยวด้วยกันนะคะ

 

โดย: chenyuye 23 พฤศจิกายน 2555 11:47:16 น.  

 

แวะมาโหวตให้ค่า

wicsir Travel Blog ดู Blog

 

โดย: AdrenalineRush 23 พฤศจิกายน 2555 15:47:55 น.  

 

แวะมาทักทายคุณWICยามค่ำ และมาชมภาพสวยๆ
อีกค่ะ ดูไม่เบื่อเลยกับภาพสวยๆ ไปครั้งนี้คุ้มจริงๆค่ะ
ได้เที่ยวสถานที่สวยงามและเก็บภาพมามากมาย
ขอให้คุณWICและครอบครัวมีความสุขแบบนี้ตลอดไปนะคะ ^_^

 

โดย: andrex09 23 พฤศจิกายน 2555 23:03:58 น.  

 

สวัสดีค่ะ มาชมเมืองสวยๆค่ะ แม้ไม่มีโอกาสไป ก็ขอมาชมที่นี่นะคะ

 

โดย: ดาวริมทะเล 24 พฤศจิกายน 2555 7:05:08 น.  

 



แวะมาราตรีสวัสดิ์คุณวิคค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 24 พฤศจิกายน 2555 23:26:28 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่อ๊อดอ้อยังสบายดีและทำงานอยู่ที่เดิมค่ะ หายไปนานไม่ได้เข้าบล็อกเท่าไหร่ค่ะ ผลุบบ้างโผล่บ้างเป็นบางเวลา ไม่ได้แวะมาเยี่ยมเลยต้องขอโทษด้วยนะคะ

ฟลอเรนซ์สวยและน่าเดินจังค่ะ อ้อไปทางเหนือของอิตาลีมาก็สวยไม่แพ้ทางใต้เหมือนกันนะคะ ถ้ามีโอกาสอย่าลืมไปทางเหนือบ้างนะคะ แนะนำ Dolomites ช่วงหน้าร้อนค่ะ สวยมว๊ากกก

รักษาสุขภาพเช่นกันนะคะ

 

โดย: thainurse@norway 25 พฤศจิกายน 2555 2:54:43 น.  

 

เพลินมากค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 25 พฤศจิกายน 2555 13:01:16 น.  

 

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ



...อย่าพยายามเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ
แต่ควรพยายามเป็นคนที่มีคุณค่า...

สวัสดีเช้าวันจันทร์ค่ะคุณ wicsir

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 26 พฤศจิกายน 2555 7:01:26 น.  

 

ฟอเรนซ์อารมณ์ต่างกับโรมมากเลย สะพานเวคคีโนไรนั่นก็อเมซซิ่งจริงเลยครับ น่าอิจฉาขึ้นทุกทีแล้ว อ่านมาห้าหกตอนก็ชักอยากไปสัมผัสอิตาลีให้ได้สักครั้งในชีวิตแล้ว

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 12 ธันวาคม 2555 12:23:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
19 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.