....OUR FAMILY'S JOURNEY....
++ จัตุรัสเวเนเซีย น้ำพุจตุมหานที และวิหารแพนธีออน ++









อ่านตอนที่ 1 : โคลอสเซียม...มหึมาบนซากชีวิต
อ่านตอนที่ 3 : วาติกันมิวเซี่ยมและมหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์...ประติมากรรมและจิตรกรรมขั้นเทพ





อนที่แล้วผมพาไปเที่ยวชม Colosseum ตลอดจนการเดินทางเข้าประเทศอิตาลีมา... ตอนนี้จะพาเที่ยวในโรมต่อเลยนะครับ สถานที่จะพาไปชมในตอนนี้ก็คือ ปิอัซซาเวเนเซีย ( Piazza Venezia) ปิอัซซานาโวนา (Piazza Navona) และแพนธีออน (Pantheon) ครับ

คำว่า "ปิอัซซา" (Piazza) ในภาษาอิตาลี ก็หมายถึงจตุรัสในบ้านเราแต่ไม่ได้หมายถึงพื้นที่สี่เหลี่ยมจตุรัสแต่ประการใดนะครับ เขาคงหมายถึงพื้นที่โล่งๆอะไรประมาณนั้น (จขบ.เข้าใจแบบนั้น) ... ถ้าคุณๆเคยอ่านหนังสือที่เขาแนะนำเที่ยวอิตาลี จะเห็นว่าในโรมนั้นมีปิอัซซามากมายเต็มไปหมด







พระบรมรูปพระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2




เราออกจากจากการชมโคลอสเซียมแล้วรถก็พาเราผ่านมาที่ปิอัซซาเวเนเซีย (Piazza Venezia) โดยเขาขับวนให้เราถ่ายภาพบริเวณนี้กันบนรถนั่นแหละ บริเวณนี้กว้างพอควร มีอนุสรณ์สถานของพระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2ตั้งเป็นสง่าอยู่ โดยที่ด้านหน้าเป็นสนามหญ้าเขียวปลูกดอกไม้แซมเป็นบางส่วนเหมาะสำหรับชมอนุสรณ์สถานแห่งนี้เป็นอย่างมาก ส่วนรอบๆจตุรัสมีอาคารมากมาย แต่ละอาคารล้วนแล้วแต่มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น..








พระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 .. ผู้รวมชาติอิตาลี

พระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมานูเอลที่ 2 แห่งอิตาลี ปฐมกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรอิตาลี ประสูติเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 1820 เป็นพระราชโอรสในพระเจ้าชาร์ลส์ อัลเบิร์ต กษัตริย์แห่งซาร์ดิเนียและพระนางมาเรีย เทเรซาแห่งออสเตรียและทัสคานี ในที่สุดวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1861 ราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย สามารถรวบรวมรัฐต่าง ๆ ให้เป็นหนึ่งเดียวและสถาปนาราชอาณาจักรอิตาลีได้สำเร็จ สมเด็จพระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมานูเอลที่ 2 จึงขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์อิตาลีพระองค์แรก และสวรรคตเมื่อวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 1878 ขณะพระชนมายุได้ 58 พรรษา







อิตาลีเมื่อก่อนได้แบ่งแยกกันเป็นรัฐต่างๆ และเคยถูกฝรั่งเศสปกครองอยู่เกือบ 100 ปี (1789 – 1867) พอฝรั่งเศสหมดอำนาจ จักรวรรดิออสเตรียก็ได้เข้ามาครอบครองดินแดนในอิตาลีต่อ...

การรวมชาติของอิตาลีเริ่มขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 เมื่อประชาชนพลเมืองในอิตาลีได้รับแรงบันดาลใจจากการปฏิวัติในฝรั่งเศส จึงเกิดขบวนการรวมชาติริซิจิเมนโต (Risogimento) ขึ้นตั้งแต่ปี 1830 โดยมีจูเซปเป มาซซินีเป็นผู้นำ ด้วยการปุกระดมประชาชนให้ต่อต้านออสเตรียเพื่อสร้างสาธารณรัฐให้เป็นปึกแผ่น โดยมีโรมเป็นเมืองหลวง แต่ไม่สำเร็จเพราะมีประชาชนส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของเขาที่ต้องการให้พระสันตะปาปาเป็นประมุข และพระสันตะปาปาก็ต่อต้านการรวมชาติด้วย








จนกระทั้งพระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมมานูเอลที่ 2 แห่งซาร์ดิเนีย ได้ร่วมมือกับคาร์วัวร์ (Cavour) เป็นผู้ดำเนินการทางการทูต และการิบันดี (Garibaldi) เป็นผู้นำทางการทหาร เข้าเจรจาต่อรองกับดินแดนต่างๆ หรือไม่ก็ใช้กำลังเข้าโจมตีหากไม่ยอมสวามิภักดิ์ เพื่อให้ดินแดนทั้งหมดอยู่ภายใต้การปกครองของซาร์ดิเนีย เหลือเพียงแต่โรมที่ยังเป็นอิสระปกครองโดยสันตะปาปาอยู่









ฝรั่งเศสเข้าช่วยเหลือขับไล่ออสเตรียออกจากลอมบาร์ดี ในปี 1860 การิบันดีพร้อมทหารอาสากลุ่ม “เสื้อแดง” จำนวน 1,000 นายได้ล่องเรือจากเจนัวเข้ายึดซิซิลีและเนเปิลส์ รวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่นได้สำเร็จ และพระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมานูเอลที่ 2 ก็ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์อิตาลี มีพิธีเฉลิมฉลองการรวมชาติที่เมืองตูริน โดยยังไม่ได้รวมกรุงโรมเข้าไว้ด้วย

มีความพยายามเจรจากับพระสันตะปาปาในการรวมแผ่นดินแต่ก็ไม่เป็นผล เวนีซเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอิตาลีเมื่ออีก 6 ปีต่อมา จนกระทั่งปี 1870 กองทัพอิตาลีจึงเข้าตีกรุงโรมของพระสันตะปาปาผนวกเป็นดินแดนเดียวได้สำเร็จ และสถาปนาโรมเป็นเมืองหลวงของประเทศ แต่อีก 50 ปีต่อมาไม่มีพระสันตะปาปาพระองค์ใดเสด็จออกงานการก่อตั้งประเทศใหม่นี้เลย..







ตึกสีดินนี้คือ ปาลัซโซเวเนเซีย (Palazzo Venezia)




ปาลัซโซเวเนเซีย (Palazzo Venezia)

เคยเป็นพระราชวังใหญ่แห่งแรกของโรมในยุคเรอเนสซองซ์ สร้างขึ้นในปี 1455 - 1464 เพื่อถวายให้แด่พระคาร์ดินัลปิเอร์โตร บาร์โบ ชาวเมืองเวนีซเพื่อให้เป็นที่พำนัก ออกแบบโดยสถาปนิกอัลแบร์ตีหรือไม่ก็ไมอาโน ชาวเมืองฟลอเร็นซ์ ลักษณะอาคารและลวดลายคล้ายโบสถ์เซ็นต์มาร์กในเวนีซ...

เคยเป็นทั้งที่พักและศูนย์บัญชาการใหญ่ของมุสโสลินี ผู้นำในยุคเผด็จการ และเคยกล่าวปราศัยจากระเบียงมุขหน้า ให้ประชาชนผู้ฝักใฝ่หลงใหลลัทธิฟาสซิสต์

ปัจจุบัน ปาลัซโซเวเนเซียเป็นพิพิธภัณฑ์เวเนเซีย (Museo di Venezia) จัดแสดงปฏิมากรรม ภาพจิตกรรม วัตถุโบราณจำพวกเครื่องเคลือบ เครื่องปั้นดินเผา เครื่องเงิน งานแกะสลักไม้ เครื่องแก้ว พรมแขวนประดับผนัง และสิ่งของเครื่องใช้ที่เคยมีในวัง..





หลังจากจตุรัสเวเนเซียรถบัสก็พามาจอดส่งใกล้ๆแม่น้ำเป็นถนนสายแคบๆ เพื่อให้เราเดินเท้าต่อเข้าไยัง ปิอัซซานาโวนา (Piazza Navona) ซึ่งถ้าเรามองไปทางฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ ก็จะเห็นอาคารศาลสูงของอิตาลี..ถนนตรงสะพานนี้ (หลังกล้อง) เดินเข้าไปจะเป็นจตุรัสนาโวนา






Castel Sant'Angelo



Castel Sant'Angelo : ถึงจะไม่ได้อยู่ในกำแพงวาติกัน แต่ก็ถือว่าอยู่ในอาณาจักรของวาติกันตามสนธิสัญญาที่มุสโสลินีได้ให้ไว้ จะมีทางเดินลับเชื่อมระหว่างปราสาทแห่งนี้กับพระราชวังของพระสันตะปาปาเพื่อเอาไว้หลบภัยหากศัตรูคิดจะมาจับตัวพระองค์ ปัจจุบันใช้เป็นพิพิธภัณฑ์

ด้านหน้าเป็นสะพาน แต่ไม่ให้รถผ่าน คนสามารถเดินข้ามไป-มา เพื่อไปเที่ยวต่อทาง จตุรัสนาโวนาได้







อาคารศาลสูงของอิตาลี




จตุรัสนาโวนา (Paizza Navona)

จตุรัสนาโวนา เป็นศูนย์รวมของสารพัดสิ่ง ทั้งร้านอาหาร นักดนตรี นักมายากลข้างถนน ศิลปินวาดรูปเหมือน และที่สำคัญคือนักท่องเที่ยว เดิมทีที่ตรงนี้เป็นสนามกีฬาของพวกโรมันเอาไว้แข่งม้า ถนนที่อยู่รอบๆ คือ ลู่วิ่งของม้า บริเวณนี้มีน้ำพุที่สำคัญ 3 อัน ผลงานของศิลปินนักแกะสลักชื่อดัง Gian Lorenzo Bernini ตรงกลางลานจะเห็นเสาโอบิลิสก์ (Obelisk) รอบๆ เสาจะเป็น น้ำพุแห่งสี่มหานที (Fountain of the Four Rivers) ซึ่งแต่ละมุมจะมีรูปปั้น ซึ่งแทนแม่น้ำใหญ่จาก 4 ทวีป ได้แก่ คงคา ดานูป ไนล์ และพลาต้า (ในอเมริกาใต้)






เสาโอเบริสก์และน้พุแห่งจตุมหานที







จตุรัสนาโวนา (Piazza Navona)










อาคารรอบๆจตุรัสนาโวนาและน้ำพุแห่งจตุมหานที








เสาหินโอเบลิสก์ และ Fountain of four rivers



เสาโอเบลิสก์ (Obelisk)

คำว่า “โอเบลิสก์” (Obelisk) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกคือ Obeliskos หมายถึง เหล็กแหลม เข็ม หรือ เสาปลายแหลม ลักษณะของเสาโอเบลิสก์จะเป็นเสาสูง สร้างจากหินแกรนิตขนาดใหญ่เพียงก้อนเดียว ฐานของเสาจะกว้างและค่อยๆ เรียวแหลมขึ้นสู่ยอดด้านบนเป็นแท่งสี่เหลี่ยมสี่ด้าน ยอดบนสุดจะเป็นลักษณะเหมือนปิรามิด และมักนิยมหุ้มหรือเคลือบด้วยโลหะ เช่น ทองคำ เหล็ก หรือ ทองแดง เป็นต้น (ดูเพิ่มเติม)

เสาโอเบลิสก์เป็นเอกลักษณ์ทางศิลปะที่มีต้นกำเนิดจากอียิปต์โบราณ เป็นสัญลักษณ์แห่งเส้นทางสู่วิหารเทพเจ้า ปกติจะนิยมสร้างขึ้นเป็นคู่ ตั้งอยู่ ณ บริเวณทางเข้าวิหาร ตัวอย่างเช่นที่ วิหารลักซอร์ หรือ วิหารคาร์นัค เป็นต้น บริเวณรอบๆ เสาโอเบลิสก์จะแกะสลักเป็นร่องลึกด้วยอักษรเฮียโรกลิฟฟิค บอกเล่าถึงฟาโรห์ผู้สร้าง และเรื่องราวของการสร้างเพื่อบูชาเทพเจ้า ดังนั้น เสาโอเบลิสก์จึงเป็นเสมือนหนึ่งเสาอนุสรณ์ บ่งบอกถึงนัยยะแห่งที่ตั้งของสถานที่สำคัญ หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอียิปต์โบราณ

ว่ากันว่าที่โรมมีเสาโอเบลิสก์มากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นของเก่าแก่ที่เอามาจากอียิปส์ 8 ต้น (โรมันเคยปกครองอียิปต์อยู่ช่วงหนึ่ง เลยขนเอาเสาโอเบลิสก์มาไว้ที่โรมบางส่วน) และอีก 5 ต้น (รวมทั้งที่อยู่ในภาพด้านบนนี้) เป็นของโรมันโบราณ (ดูเพิ่มเติม)







น้ำพุอีกแห่งที่จตุรัสนาโวนา







ตำรวจยืนคอยดูแลความสงบ




บริเวณรอบๆจตุรัสแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านอาหารและเครื่องดื่ม บนลานมีเก้าอีกให้นั่งชมทัศนีย์ภาพของน้ำพุและสิ่งก่อสร้างรอบๆจตุรัสรูปวงรีนี้... เราอยากทานเกาลัดอิตาลีบ้าง เลยเดินเข้าไปซื้อ เขาใส่กรวยเล็กๆที่เห็นนั่นให้นับเม็ดได้ซัก 8 เม็ดมั๊ง และคิดเรา 5 ยูโร... แต่เกาลัดที่นี่เม็ดค่อนข้างโตเมื่อเทียบกับที่บ้านเรา

เพราะสถานที่ท่องเที่ยวในอิตาลีมีชื่อเสียงเรื่องมิจฉาชีพ เราจึงเห็นตำรวจพร้อมรถขังคนร้ายจอดอยู่ในซอย บริเวณนั้น






เกาลัดอิตาลี...อย่างแพง 8 เม็ด 5 ยูโร







ร้านอาหารและเครื่องดื่มรอบๆจตุรัสนาโวนา







วิหารแพนธีออน ( The Pantheon )

เดินต่อไปอีกนิดผ่านซอยเล็กๆ ประมาณซัก 100 กว่าเมตรก็จะพบกับ Piazza della Rotonda อยู่ด้านหน้าวิหารแพนธีออน ( The Pantheon )

มหาวิหารแพนธีออนสร้างมาตั้งแต่ 27 ปีก่อนคริสตศักราช โดยจักรพรรดิมารคุส อากริปปา แต่โดนไฟไหม้ไปในปีค.ศ. 80 ต่อมากษัตริย์ฮาดริอานได้ปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในปีค.ศ. 118 แต่ยังคงให้เกียรติผู้สร้างเดิมด้วยการจารึกไว้ที่หน้าจั่ววิหารว่าอากริปปาคือผู้สร้างแพนธีออน นับเป็นวิหารจากยุคโรมันที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลือมาถึงปัจจุบัน







Piazza della Rotonda




The Pantheon ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในปัจจุบันนั้น ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่เมื่อช่วงต้นศตวรรษที่ 2 นอกจากสภาพที่ยังคงไม่ผุพังไปตามกาลเวลาแล้ว สิ่งที่น่าทึ่งอีกอย่างก็คือ การออกแบบอาคารให้มีความกว้าง 142 ฟุต และสูง 142 ฟุตเช่นกัน มีประตูทางเข้าโลหะสีทองบรอนซ์ที่มีน้ำหนักถึง 20 ตัน

จุดเด่นที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ การออกแบบโดมด้านบนของอาคารทำได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งไมเคิล แองเจลโลเอง ก็ยังทำการศึกษาสถาปัตยกรรมของโดมแห่งนี้ ก่อนที่เขาจะออกแบบหลังคาโดมของโบสถ์ St. Peter's แห่งนครวาติกัน เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 8.30 - 19.30 น. ยกเว้นวันเสาร์ ที่จะเปิดเวลา 9.00- 18.00 น. โดยไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด







วิหารแพนธีออน (Pantheon)







ด้านหน้าวิหารค้ำยันหน้าจั่วทรงสามเหลี่ยมด้วยเสาหินแกรนิตขนาดยักษ์จำนวน 16 ต้น











รูกลมๆข้างบนโดม..บางทีเรียกว่าดวงตาปีศาจ







แสงจะทะลุลงมาตรงกลางพอดี




จากช่องด้านบนนั้น ถ้าวันไหนมีฝนหรือหิมะตกผ่านช่องนั้นลงมาเขาว่าเป็นภาพที่สวยงามมากๆ ช่องกลมๆนั้นหลายๆตำราว่ามีขนาด 3 เมตร ถึง 8.9 เมตร ที่พื้นวิหารก็จะมีรูเล็กๆ ใช้เป็นที่ระบายน้ำฝนที่ตกเข้ามาในวิหาร น้ำฝนจะไหลลงรูผ่านท่อไปออกแม่น้ำไทเบอร์ ท่อระบายน้ำแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งสร้าง แต่สร้างมาตั้งแต่ตอนสร้างวิหาร เป็นอีกเรื่องที่น่าทึ่งของโรมัน






ภาพที่อยู่ผนังของวิหาร




โรมันสร้างแพนธีออนไว้เพื่อบูชาและเป็นที่ชุมนุมเทวดา จนปีค.ศ. 606 เข้าสู่ยุคคริสตจักรเรืองอำนาจ ก็เปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานมาเป็นโบสถ์คริสต์จนทุกวันนี้

ที่นี่ยังเป็นที่ฝังศพบุคคลสำคัญหลายคน เช่น กษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้รวมชาติอิตาลี, ราฟาเอล ศิลปินระดับเทวดาร่วมยุคกับดาวินชีและมิเคลันเจโล ก็ฝังอยู่ที่นี่ มีคนมาเคารพศพมากมายทุกวัน







ภายในวิหาร




ด้านหน้าแพนธีออนที่ตรงกลางปิอัซซา เดลลา โรตอนดา มีน้ำพุและเสาโอเบลิสก์สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1711 เพื่อเป็นเกียรติให้แก่จักรพรรดิรามาเซสที่ 2 แห่งอียิปต์ รายรอบด้วยแผงขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ ร้านขายไอศครีม และบริการรถม้าโบราณนั่งชมเมืองไปตามตรอกซอยบริเวณนี้






น้ำพุและเสาโอเบลิสก์ด้านหน้าวิหารแพนธีออน ที่จตุรัสเดลลา โรตอนดา (Piazza della Rotonda)






หลังจากออกเที่ยวในกรุงโรมตั้งแต่เช้า โดยเริ่มที่โคลอสเซียมเรื่อยมาจนถึงวิหาร Pantheon นี้ก็ได้เวลาอาหารมื้อเที่ยงพอดี ทางทัวร์ก็พาเราไปทานอาหารท้องถิ่นของโรมที่ร้าน Papa rex restaurant ซึ่งที่นี่จะมีคนแต่งตัวเป็นทหารสวิสส์ที่เฝ้านครวาติกันมาถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว ก่อนเข้าไปทานอาหาร แล้วเอาภาพมาเสนอขายให้เราภาพละ 5 ยูโรครับ

ส่วนมื้อเที่ยงเราเริ่มต้นด้วย Pizza, Spaghetti, ตามด้วยเมนูในภาพด้านล่าง (จำชื่อไม่ได้..มีปลาด้านล่างแล้วราดทับด้วยมันฝรั่ง ประมาณนั้น) และปิดท้ายด้วยของหวานขึ้นชื่อที่นี่ คือ Tiramisu (ทิรามิสุ)









ทิรามิสุ (Tiramisu)




ตอนนี้ลงภาพไปเยอะพอสมควร ขอจบตอนเอาดื้อๆแบบนี้เลยนะครับ...ตอหน้าเราจะอยู่ที่โรมเป็นตอนสุดท้าย ซึ่งจะพาคุณๆไปชมนครรัฐวาติกัน วิหารเซ็นปีเตอร์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามด้วยน้ำตกเทรวี่ และจบบันไดสเปนครับ.






ลาด้วยภาพจาก Piazza Navona ภาพนี้ครับ





Leo Sayer - More Than I Can Say


_______________





Create Date : 01 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 4 สิงหาคม 2560 16:13:58 น. 31 comments
Counter : 11425 Pageviews.

 
ภาพสวยจริง ๆ ค่ะ
อยากไปมาก ๆ เลย

โดย: aor_wal วันที่: 1 พฤศจิกายน 2555 เวลา:8:03:27 น.  

 

สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


โดย: อุ้มสี วันที่: 1 พฤศจิกายน 2555 เวลา:9:12:31 น.  

 
สวัสดีครับ ทักทาย ยามสายๆ







โดย: ต้นกล้า อาราดิน วันที่: 1 พฤศจิกายน 2555 เวลา:10:14:35 น.  

 
มาชื่นชมด้วยคนค่ะสวยงามมาก


โดย: noname IP: 118.173.61.188 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2555 เวลา:10:33:02 น.  

 
สวยน่าไปมากครับคุณ wicsir เห็นภาพแล้วต้องรำพึงรำพันกับตัวเอง ว่าเมื่อไหร่จะได้มีโอกาสไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาในต่างประเทศแบบนี้บ้าง .....



โดย: NET-MANIA วันที่: 1 พฤศจิกายน 2555 เวลา:12:04:59 น.  

 
มาแล้วค่าาาาา

โรมเห็นรูปกี่ครั้งก็สวยงามอะลังการณ์ไม่เปลี่ยน
คุณ wicsir เป๊ะมาก ทั้งภาพสวยงามทั้งประวัติ อ่านแล้วเพลินมากๆค่ะ


โดย: AdrenalineRush วันที่: 1 พฤศจิกายน 2555 เวลา:14:08:01 น.  

 
มาเที่ยวต่อค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 1 พฤศจิกายน 2555 เวลา:16:10:38 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


...เป้าหมายที่แตกต่างกัน
ย่อมนำไปสู่วิถีชีวิตที่แตกต่างกัน
เราเป็นคนเลือกเดินตามเส้นทางของเราเอง...

สวัสดีเช้าวันศุกร์ค่ะคุณ wicsir


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 2 พฤศจิกายน 2555 เวลา:7:41:49 น.  

 
สวัสดียามสายๆค่ะ ขอตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ
บรรยากาศสวยงามถ่ายภาพได้สวยงามมากค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันค่ะ
เอาอาหาร อร่อยมาฝากค่ะ













ขอให้มีความสุขนะคะ


โดย: iamorange วันที่: 2 พฤศจิกายน 2555 เวลา:9:50:24 น.  

 
สวัสดีค่ะ มาเที่ยวด้วย เห็นแล้วตื่นตาตื่นใจมากค่ะ
แต่ละที่ เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์
เห็นแล้วนึกถึงหนังฝรั่งยุคเก่าๆ ชอบดูมาก
ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันนะคะ

ชวนไปดูดอกไม้ที่บ้านด้วยค่ะ
เมื่อกี๊บล็อกเพลงไม่ใช่หน้าหลัก
ออนสองบล็อกค่ะวันนี้ ว่างแล้วเชิญนะคะ

ปล. ไม่ได้มาที่นี่นานมากเช่นกัน
คุณวิคคงสบายดีนะคะ
เราสบายดี ขอบคุณด้วยค่ะ




โดย: mambymam วันที่: 2 พฤศจิกายน 2555 เวลา:10:29:39 น.  

 
คุณวิคเก็บภาพและเรื่องราวไว้ในบล๊อกแบบนี้
ได้แบ่งปันให้ผู้ที่สนใจมาอ่าน และได้ความรู้เพิ่มด้วยนะคะ



สุขสันต์วันศุกร์ค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 2 พฤศจิกายน 2555 เวลา:10:38:12 น.  

 
ขอบคุณที่พาเที่ยวชมครับ

ถ้ามีอีกขอจัดเต็มเลยครับ


โดย: chaangfun2020 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2555 เวลา:13:48:51 น.  

 
น่าตื่นตา น่าทึ่งก็การสร้างโดม ข้างในมีเหลี่ยมมุม โค้งสวยมาก ๆ
อาคารต่าง ๆ น่าจะเป็นของผู้ครอบครองนคร จัดสร้างขึ้นมา..

ไปคราวนี้ มีโอกาสไป ดูภูมิประเทศ ไร่องุ่น มะกอก ไร่ผัก บ้างหรือเปล่าครับ
ผมเคยอ่าน การท่องเที่ยวของคุณสุวรรณี กับน้าแพท ยังติดใจไม่หาย


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 2 พฤศจิกายน 2555 เวลา:14:12:43 น.  

 
ประทับใจมากค่ะ นี่ขนาดเที่ยวในบล็อกนะคะยังประทับใจขนาดนี้
คิดไม่ออกว่าถ้าได้ไปเห็นสถานที่เหล่านี้กับตาจริงๆ จะช็อคสักแค่ไหน
สถาปัตย์กรรมของกรุงโรมสวยงามเกินคำบรรยายจริงๆค่ะ
ต้องขอชมว่าถ่ายภาพได้งดงามมาก ไปที่สวยๆแบบนี้ถ้าถ่ายภาพมาไม่สวยก็จบค่ะ
จัตุรัสเวเนเซีย น้ำพุจตุมหานที และวิหารแพนธีออน ใฝ่ฝันอยากจะไปค่ะ
เพราะได้รู้จักสามสถานที่นี้จากนวนิยายของแดน บราวน์
เลยอยากจะไปเห็นกับตาสักครั้ง แต่วันนี้ได้ดูผ่านทางบล็อกคุณวิค
ก็เป็นความอิ่มอกอิ่มใจที่สุดเหมือนกัน ขอบคุณทั้งภาพและข้อมูลค่ะ
อยากกดไลท์สักล้านครั้ง พรุ่งนี้มาโหวตให้นะคะ วันนี้หมดแม็กซ์แล้ว


โดย: ฝากเธอ วันที่: 2 พฤศจิกายน 2555 เวลา:14:14:25 น.  

 


ตามไปชมภาพสวยกับคุณWICด้วยค่ะ
บรรยากาศดีและสถานที่สวยงามมาก อยากไปเที่ยวบ้าง
แต่ยังไม่พร้อมเลยค่ะ 555 ขอชมไว้เป็นแนวทางก่อนค่ะ
มีส้มตำปูดำมาฝากด้วย มีความสุขพักผ่อนมากๆนะคะ ^_^


โดย: andrex09 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2555 เวลา:16:42:58 น.  

 
ตามคุณ wicsir ไปเที่ยว ตปท.ที่อิตาลี
เมืองแห่งประวัติศาสตร์จริงๆสวยงามมากค่ะ
เก็บภาพมาฝากเห็นถึงความอลังการยิ่งใหญ่ในอดีต ที่ยังคงความสง่างามจนปัจจุบัน
ขอบคุณมากคร้า ภาพสวยมากๆ


โดย: tui/Laksi วันที่: 2 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:26:22 น.  

 
ขอบคุณสำหรับภาพวิหาร Pantheon สวยๆที่นำไปฝากค่ะคุณวิค
ขอบคุณไปถึง bloggang.com ด้วยนะคะ
ที่ให้พื้นที่สำหรับบันทึกเรื่องราวดีๆในหลายแขนงมาแบ่งปัน เล่าสู่กันฟัง



สุขสันต์วันหยุดค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา:10:17:19 น.  

 
แวะมาโหวตให้ตามที่บอกไว้ค่ะ
หนักใจเหมือนกันไม่รู้จะโหวตสาขาไหนดี
ท่องเที่ยวหรือภาพถ่าย วันนี้โหวตท่องเที่ยวก่อนก็แล้วกันนะคะ
ส่วนภาพถ่ายแปะไว้โหวตพรุ่งนี้ค่ะ ^_^ (เพลงเพราะค่ะ เป็นหนึ่งในเพลงโปรด)

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
wicsir Travel Blog ดู Blog


โดย: ฝากเธอ วันที่: 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา:15:03:55 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ลงสะพาน...เลี้ยวขวา Food Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog
...................
โหวตให้คุณวิคค่ะ คิวยาวเลยช้าไปนิดนะคะ



สุขสันต์วันอาทิตย์ค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 4 พฤศจิกายน 2555 เวลา:10:20:39 น.  

 
เอาเป็นว่าบล๊อกผม..โวตท่องเที่ยวน่ะถูแล้วครับ
ส่วนภาพถ่าย..ยังห่างไกลมาก
............................................................................
ไม่เห็นด้วยค่ะ
ก็ขนาดถ่ายภาพขณะที่รถขับวนให้ถ่ายยังแจ่มซะขนาดนี้

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต


โดย: ฝากเธอ วันที่: 4 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:26:19 น.  

 
สวยงามมากค่ะเป็นประเทศที่ตั้งใจไว้ว่าถ้ามีโอกาสจะขอไปสัมผัสร่องรอยของอารยธรรมที่มีความงดงามมาก..ต้องขอบคุณป๋าชิตมากที่เก็บเรื่องราวต่างๆมาฝากเล่าสู่กันฟังมีอะไรดีๆก็แบ่งปันอีกนะคะ


โดย: woman IP: 1.1.160.18 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2555 เวลา:21:18:00 น.  

 
หวัดดีค่าคุณวิค

อิตาลีเป็นต้นแบบเลยนะคะที่ทำให้พี่ไทยเราเลียนแบบ ด้านสถาปัตย์มาทำการท่องเที่ยว
เหมือนปาลิโอ หรือ ไร่องุ่นซิลเวอร์เลคไปเลย อิอิ


แต่สถาปัตย์อิตาลีเค้าสวยกว่ามาก มุมมองและวิวทิวทัศน์สวยจริงๆค่า





โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 4 พฤศจิกายน 2555 เวลา:22:17:10 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

+++++++++++

ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ ชมรูปเพลินไปเลยค่ะ เหมือนได้ไปอยู่ตรงนั้นเลยค่ะ

ป.ล.ตอนนี้วัดพระนอน ฯ มีการสร้างเพิ่มใหญ่โต สวยงามมากๆเลยค่ะ

ตั้งแต่ด้านหน้าทางเข้า กำลังก่อสร้างยังไม่เสร็จอีกหลายจุด แต่งดงามมากๆเลยค่ะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 4 พฤศจิกายน 2555 เวลา:22:50:02 น.  

 
มารอชมโรมตอนสุดท้ายค่า :)


โดย: AdrenalineRush วันที่: 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา:12:37:44 น.  

 
วันนี้ผมอัพบล๊อกใหม่ เที่ยวภาคเหนือต่อ ดูร่มรื่น
เย็นสบายตา.

เข้าผ่าน IE หรือ ไฟว์ฟอกซ์ สบาย แต่ถ้าผ่านอากู๋
โครม ไม่ได้ครับ มีป้ายห้ามไว้...เพื่อนหลายคนว่า
มันไม่ติดใคร เพียงแต่มีป้ายหลอกไว้ครับ

ถ้าว่างเชิญนะครับ

เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ แกงค์พวกเราอยู่ นครนายก ไปกิน นอน แหะ ๆ ส่วนใหญ่กิน
กันมากกว่า หนุก นั่งนอนเม้าส์กันอร่อยพอ ๆ กับอาหารที่ บ่งบ๊ง กะ คุณโอ เนินน้ำ

เห็นภาพโดมข้างบน แล้วเล่าว่า ให้หยดน้ำตกลงสู่พื้น มีทางน้ำไหลออกไป เป็นความ
คิดแปลกดี แหม..ถ้าผมรู้ตอนเด็ก ฝนตกรั่วใส่มุ้งนอน หาทางทำให้น้ำไหลไม่ถูกมุ้ง
ก็ดี 555 จะได้นอนสบาย


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา:13:55:28 น.  

 
ชอบวิหารแพนธีออน (Pantheon)ที่ยืนหยัดมาถึงปัจจุบันโดยไม่มีใครกล้าลบสถิติความเก่าและความอัศจรรย์แห่งโดม ดนตรีเพราะ-มุมกล้องสวย ขอบคุณครับ



โดย: surya21 (surya21 ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา:15:52:30 น.  

 


แวะมาทักทายคุณWICยามค่ำค่ะ
ขอให้คุณWICและครอบครัวมีความสุขมากๆนะคะ ^_^


โดย: andrex09 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา:21:18:25 น.  

 
ภาพสวยมากครับ สักวันต้องไปให้ได้


โดย: เด็กชายพุงห่วงยาง วันที่: 6 พฤศจิกายน 2555 เวลา:16:29:55 น.  

 
ฟ้าสวยมากค่ะ ถ่ายจากในรถ ภาพยังสวยเลย

สถาปัตยกรรมเค้าเยอะนะคะ เห็นอะไรก็อยากถ่ายไปหมด




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:17:05:42 น.  

 


สิ่งก่อสร้างเขาดูอลังการจริงๆ ตั้งแต่โคลอสเซียมจากบล็อกก่อน
สมแล้วที่เขาได้มรดกโลก งานก่อสร้างและประติมากรรมประณีตมากๆ


โดย: หอมกร วันที่: 16 พฤศจิกายน 2555 เวลา:22:20:49 น.  

 
ภาพสวยมากเลย รายละเอียดประวัติศาสตร์ก็อัดแน่นเปี๊ยะ

เห็นจตุรัสแต่ละที่คนแน่นๆเลยนะครับ หมดสิทธิถ่ายติดพื้นแบบไม่ติดคนแน่ๆ แต่ยังไงถ้าโชคดีได้มีโอกาสไปคงกระหน่ำชัตเตอร์จนลืมฟังไกด์บรรยายแน่ครับ


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 12 ธันวาคม 2555 เวลา:11:14:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
1 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.