แดน พิทแนด ชาวอเมริกัน ใช้เวลา ๗ ปี ท่องไปยังประเทศต่างๆ สัมภาษณ์บุคคลหลากหลายอาชีพหลายร้อยคนที่มีชีวิตอยู่อย่างยั่งยืนสุขสันต์ จากนั้นเขียนบทความตีพิมพ์
ในนิตยสาร สมาคมผู้เกษียณอเมริกัน ฉบับ กุมภาพันธ์-มีนาคม ๒๐๑๓ สรุปเคล็ดลับ ๑๐ ประการสำหรับอายุวัฒนะดังต่อไปนี้
1.แสงส่องสว่างในบ้าน
ไม่ว่าสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัยหรือจิตใจก็ตาม จะต้องเปี่ยมด้วยแสงสว่าง โดยเฉพาะผู้เกษียณจะต้องรักษาบ้านเรือนให้สว่างสุกใส
การคมนาคมรอบด้านสะดวกสบาย มีสถานที่สำหรับพบปะสมาคมและพื้นที่สีเขียว
2.มีบริเวณส่วนตัว... จัดหาพื้นที่ในบ้านสำรองเป็นบริเวณส่วนตัว เช่น ห้องสมุดหรือสวนหย่อมหน้ามุข เพื่อเพิ่มสีสันแก่ชีวิตและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ
3.หาลำไพ่พอควร
กระเป๋าตุงทำให้คนสุขใจมากกว่ากระเป๋าแฟบ ผู้สูงวัยอาจหาลำไพ่เล็กๆน้อยๆ เพื่อเพิ่มความรู้สึกมั่นคง
4.เจียดเงินให้ผู้อื่น
เจียดเงินช่วยเหลือผู้อื่นให้ความสุขยิ่งกว่าซื้อของให้ตัวเอง ผู้สูงวัยอาจเจียดเงินที่หาได้สนับสนุนการเรียนแก่ลูกหลาน หรือบริจาคแก่มูลนิธิ
ล้วนเป็นทางเลือกที่ดี
5.หาศรัทธายึดเหนี่ยว
งานวิจัยค้นพบว่า ผู้มีจิตศรัทธา ร่วมงานสงเคราะห์ทางสังคมเป็นประจำ มีอายุยืดกว่าผู้ไร้จิตศรัทธา ๗ ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้สูงวัย ยิ่งต้องแสวงหา
เป้าหมายใหม่ จะไปเรียนในมหาวิทยาลัยผู้สูงวัย หรือร่วมงานสังสรรค์ทัศนาจรก็ดี ล้วนเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
6.หาสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน
สัตว์เลี้ยงสามารถช่วยให้เราหายเหงา งานวิจัยยังพบว่า การเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงสามารถลดความดันและช่วยการไหลเวียนของโลหิต
7.นอนหัวค่ำตื่นเช้า
คนนอนไม่หลับมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าคนปรกติ ๑๐ เท่าขึ้นไป การนอนหลับสนิทจึงมีความสำคัญต่ออายุวัฒนะ โดยเฉพาะต้องนอนแต่หัวค่ำ
และตื่นแต่เช้า
8.คบหาคนร่าเริงเป็นเพื่อน
ภาวะสำราญใจติดต่อกันได้ มหาวิทยาลัย ฮาวาร์ดมีรายงานการวิจัยว่า ในวงสังคมเมื่อมีคนร่าเริงเพิ่ม ๑ คน ความครื้นเครงของบรรยากาศ
จะเพิ่มขึ้นอีก ๙% ฉะนั้น ควรคบหาคนร่าเริงไว้เป็นเพื่อน ขณะเดียวกัน ก็ควรพยายามปลุกเร้าให้เพื่อนสนุกสนาน
9.มีคู่รู้ใจ
ดรรชนีความสุขของคนมีคู่สูงกว่าคนโสด ๒ เท่าขึ้นไป ชีวิตสมรสที่คงอยู่นานจะช่วยให้อายุวัฒนะ ลดแรงกดดัน ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ
10.ดูทีวีไม่เกิน ๑ ชม.
National Geographic รายงานว่า คนมีความสุขดูโทรทัศน์วันละไม่เกิน ๑ ชั่วโมง เหลือเวลาว่างพบปะกับญาติมิตร หรือทำงานอดิเรกที่ตนชอบ
การดูโทรทัศน์เป็นเวลานาน นอกจากเสียสายตาแล้ว ยังบั่นทอนระบบต่อมไร้ท่อในร่างกาย
ขอขอบคุณ //www.52e-mail.com