BE YOUR CHILD S ROLE MODEL สร้างกลยุทธ์ความปลอดภัย มั่นคงและมั่งคั่งให้ลูกหลาน
การลงทุนเพื่ออนาคตอันยั่งยืนของรุ่นลูกหลาน...บัฟเฟตต์มีปรัชญาในการดำเนินชีวิตที่น่าสนใจเป็นคนที่เรียบง่าย ปรัชญาชีวิตของเขาเรียบง่ายแต่มีความลุ่มลึกประการหนึ่งว่า อย่าตั้งเป้าหมายที่เกินกว่าจะเอื้อมถึง “ผมจะไม่พยายามกระโดดข้ามที่สูง 7 ฟุต แต่ผมจะมองหาคานไม้ที่สูง 1 ฟุต ที่ผมจะสามารถที่จะเดินข้ามได้อย่างสบายๆ“

 ... “บัฟเฟตต์”ตัดสินใจแบ่งความรวยให้องค์กรการกุศล แทนที่จะเหลือไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน ก็เพราะไม่เห็นด้วยกับการสืบทอดความรวยเป็นมรดกจากรุ่นสู่รุ่น… “ผมอยากให้ลูกๆมีทรัพย์สินเงินทองเพียงพอที่จะทำอะไรให้งอกเงย แต่ไม่ใช่มี มรดก กองโต จนไม่คิดทำอะไร นอกจากนอนเสวยสุขบนกองเงิน กองทองที่ผมสร้างมาเองกับมือ”

หลักการลงทุนของบัฟเฟตต์ ได้แก่

1. เป็นธุรกิจที่ไม่ซับซ้อน
2. เป็นธุรกิจที่ได้รับความ นิยม และมีฐานลูกค้าแข็งแกร่ง หรือเป็นธุรกิจที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ยกตัวอย่างหุ้นเขาถืออยู่ อาทิโค้กและอเมซอน
3. สามารถคาดเดารายได้ และรายจ่ายได้ไม่ยาก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ไม่ซับซ้อน ดังนั้นเขาจะสามารถคาดเดาได้อย่างไม่ยากว่าจะมีกำไร หรือขาดทุนในแต่ละปี
4. ผลตอบแทนต่อทุน (ROE) สูง บัฟเฟตต์ ให้ความสำคัญกับตัวเลขนี้ค่อนข้างมาก คือน่าจะต้องมากกว่า 12% สำหรับ ธุรกิจประเภทผลิตสินค้า แต่หากเป็นธุรกิจสถาบันการเงินแล้ว ค่าตัวเลขนี้ปกติจะสูงมาก บัฟเฟตต์ จึงแนะนำให้ดูที่ตัวเลขของผลตอบแทนรวมของสินทรัพย์ (ROA) ประกอบด้วยหากสูงกว่า 10% ก็ถือว่าดี
5. มีกระแสเงินสดที่ดี เพราะธุรกิจที่ดี ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เงินทุนสูงมากในการดำเนินงานและรักษาสถานภาพในตลาด เพื่อการแข่งขัน เพราะควรจะมีรายได้หล่อเลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ
6. มีผู้บริหารที่ดี เห็นแก่ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ
7. ลงทุนในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะไม่เพียงเลือกธุรกิจที่ดี แต่ควรเลือกช่วงเวลาที่ดีและราคาเหมาะสมด้วย

วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นตัวอย่างของนักลงทุน ที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าของหุ้นที่เขาลงทุน (Value Investor) โดยเฉพาะซื้อหุ้น ด้วยการมองมูลค่าในระยะยาว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเขาจะเป็นผู้หนึ่ง ที่มีความสนใจทุนในหุ้นของบริษัทโคคา-โคลา เพราะเขาเห็นว่ามีคนบริโภคทั่วโลก โดยเขาได้เปรียบการลงทุนของตนเองไว้ว่า เหมือนสิงโตที่รอตะครุบเหยื่อในพงหญ้าสูงและจะเข้าจู่โจมเมื่อถึงเวลาที่เหยื่อเข้ามาใกล้ (A lion in the tall grass) ซึ่ง เขาจะรอจนกว่าราคาหุ้นที่ต้องการเดินทางมาอยู่ในจุดที่น่าสนใจที่สุดเพื่อ เข้าครอบครอง และสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จจากการลงทุนนั้นคือ ไม่ใช้อารมณ์ในการลงทุน แต่ใช้ความรู้และประสบการณ์ในการตัดสินใจแต่ละครั้ง...· บัฟเฟตต์เป็นคนที่ขยันหาเงิน เก็บออม และลงทุน มาตั้งแต่เด็ก เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ แต่ก็ยังบอกว่าเขาเริ่มลงทุนช้าเกินไป พอถึงอายุ 14 ขวบ เขาก็สามารถเก็บเงินจากการส่งหนังสือพิมพ์ เพียงพอที่จะซื้อไร่ขนาดย่อมๆ ได้  ทุกวันนี้ในฐานะของเศรษฐีที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 2 ของโลกด้วยความมั่งคั่งประมาณ 4- 5 หมื่นล้านดอลลาร์ เขาก็ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านขนาด 3 ห้องนอนหลังเดิมที่ซื้อไว้หลังจากแต่งงานเมื่อ 50 ปี ก่อน บ้านหลังนี้ไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม แต่เขาบอกว่ามันมีทุกอย่างที่เขาต้องการ เขาเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัท เบิร์กไชร์ ฮาธาเวย์ ที่มีมูลค่าตลาดของหุ้นที่ติดอันดับต้นๆ ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา แต่เขาก็ยังขับรถไปไหนมาไหนด้วยตนเองโดยไม่มีคนขับรถ หรือผู้คุ้มกันอย่างผู้บริหารสูงสุดของบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ

CREDIT: วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Edward Buffett) โดย ภัทรษมน รัตนางกูร

ไม้สักไทยอายุ 15 ปี จังหวัดนครสวรรค์
ไม้สักปลูกอายุ15ปี จังหวัดตาก
ไม้สักปลูก อายุ 28 ปี จังหวัดกาญจนบุรี
ไม้สักปลูก อายุ 28 ปี จังหวัดกาญจนบุรี
ไม้สักปลูก อายุ30ปี สวนป่าองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้






Create Date : 25 กันยายน 2557
Last Update : 26 กันยายน 2557 10:28:57 น.
Counter : 1763 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

surya21
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 50 คน [?]



New Comments
กันยายน 2557

 
2
3
5
6
7
9
10
12
13
17
19
20
23
24
28
30
 
 
All Blog