จาริกแสวงบุญสร้างความสงบให้จิตใจและสร้างปัญญาความรู้แจ้ง ณ.บุโรพุทโธ อินโดเนเซีย

บรมพุทโธน่าจะเริ่มสร้างปี พ.ศ 1350ในยุครุ่งเรืองของอาณาจักรศรีวิชัยทีมั่งคั่งจากการค้าทางทะเลระหว่างจีน-อินเดีย มีพุทธสถาน บุโรพุทโธ และ เทวสถาน ฮินดู ปราบานัน หรือ พราหมณ์บานันตั้งอยู่เคียงคู่กัน อันแสดงถึงเสรีภาพในการนับถือศาสนาของพลเมืองในยุคนั้น...บรมพุทโธมีรูปทรงคล้ายปิรามิด โดยมีฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างด้านละ 121 เมตรสูง 50 เมตร แบ่งเป็นสามชั้นหรือไตรภูมิ-สามโลก คือ

1)ภูมิที่1-กามธาตุมี3ชั้นเปรียบเสมือนโลกมนุษย์ที่ยังมีกิเลสยึดติดใน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสวนเวียนอยู่ในความโลภ โกรธ หลง

2)ภูมิที่2 –รูปธาตุมี4ชั้น เมื่อมนุษย์หลุดพ้นจากความโลภโกรธ หลง แต่ยังข้องแวะในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส

3)ภูมิที่3 – อรูปธาตุมี3ชั้น น่าจะหมายถึงชั้นภูมิของ เมื่อมนุษย์หลุดพ้นจากกิเลสเมามัวทั้งมวลเข้าถึงความรู้แจ้งหรือแสงสว่างแห่งปัญญาอันบริสุทธิ์ เปรียบได้ดังดินแดนสุขาวดี ของพระอริยบุคคล ดังนี้

1.โสดาบัน แปลว่า ผู้เข้าถึงกระแสธรรมผู้แรกถึงกระแสธรรม (คืออริยมรรค) เป็นชื่อเรียกพระอริยบุคคลประเภทแรกใน๔ ประเภท

2. สกทาคามี หรือ สกิทาคามี แปลว่าผู้กลับมาเพียงครั้งเดียว เป็นชื่อเรียกพระอริยบุคคลลำดับที่๒

3. อนาคามี แปลว่า ผู้ไม่มาเกิดอีก หมายความว่าจะไม่กลับมาเกิดในกามาวจรภพอีก แต่จะเกิดใน พรหมโลก อีกเพียงครั้งเดียวแล้วจะนิพพานจากพรหมโลกนั้นเลย เป็นชื่อเรียกพระอริยบุคคลประเภทที่ ๓

พระอรหันต์ คือผู้สำเร็จธรรมวิเศษสูงสุดในพระพุทธศาสนา พระอริยบุคคลชั้นสูงสุดสามารถละสังโยชน์ได้ครบ 10 ประการหรือผู้ที่พ้นจากสามโลกหรือไตรภูมิ น่าจะคือส่วนยอดสุดเป็นมหาสถูปใหญ่เปรียบเสมือนจิตเดียวทีหลุดพ้นจากสามโลกแล้วเปล่งประกายแสงสว่างแห่งปัญญาดุจดังพระอาทิตย์ผู้ให้แสงสว่างแก่โลกและไล่ความมืดออกไปจากจิตใจของมวลมนุษย์

การจาริกแสวงบุญที่บรมพุทโธ เพื่อให้เกิดความสงบในจิตใจนั้นผู้แสวงบุญจะต้องค่อยๆเดินประทักษิณาเวียนขวาขึ้นไปที่ละขั้น ในช่องทางเดินแคบๆ เปรียบได้กับชีวิตที่ตกอยู่ในโลกมืดหรือตกอยู่ในโลกแห่งความมืดในจิตใจที่ต้องเดินวนเวียนอยู่ในเส้นทางแคบๆสีเหลี่ยมในโลกของภูมิที่ 1-กามภูมิ และในภูมิ 2-รูปภูมิ ทีเป็นเรื่องเล่าถึงการบำเพ็ญเพียรบารมีและแสวงหาปัญญาของพระสุธนหรือพระโพธิสัตว์มุ่งเข้าสู่โลกแห่งปัญญาและแสงสว่างในภูมิที่3 -อรูปภูมิ หรือเปรียบเสมือนการมุ่งมั่นกระทำความดีตามแนวทาง อริยมรรรค-อริยสัจ 4 ที่พระพุทธเจ้าค้นพบลดละกิเลสจนบรรลุธรรมเป็นอริยบุคคลหลุดพ้นจากสงสารวัฏหรือการเวียนว่ายตายเกิดในสามโลกนี้และเข้าสู่ดินแดนพระนิพพานทีมีสัญญลักษณ์มหาสถูปองค์ใหญ่ที่ไม่มีสิ่งปรุงแต่งใดๆและมีความว่างอยู่ภายในในที่สุด...มีผู้เปรียบเปรยว่าสถาปัตยกรรมบรมพุทโธมีลักษณะคล้ายดอกบัวบาน (ดอกบัวอันสวยงามบริสุทธิผุดผ่องนั้นกำเนิดจากสิ่งสกปรกหรือโคลนตมเปรียบได้ดังพระนิพพานนั้นมีวัฏฏเป็นโคลนตมเป็นปุ๋ยอันอุดม)อันเป็นสัญลักษณ์ของจิตใจอันอันบริสุทธิ์ที่เปิดรับคำสอนของพระพุทธเจ้ามาน้อมนำใจและยังเปรียบดั่งการจำลองเขาพระสุเมรุ ภูเขาศักดิ์สิทธิ์อันป็นศูนย์กลางของโลกและจักรวาล...บรมพุทโธมีบันไดทางขึ้น 171ขั้น รวมได้เลข 9 มีพระพุทธรูปในซุ้มเหนือฐานชั้นที่ 1รวม 432องค์ รวมได้เลข 9 มีพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาประดิษฐานในเจดีย์รายเจาะเป็นรูโปร่ง จำนวน 72 องค์รวมได้เลข 9 ดังนั้นจึงรวมจำนวนพระพุทธรูปทั้งสิ้น 432+72=504 รวมเป็นเลข 9มหัศจรรย์เลขมงคล...บรมพุทโธนั้นเป็นสถาปัตยกรรมที่แสดงถึงศรัทธาและภูมิปัญญาสูงสุดที่แสดงพระอภิธรรมอันสูงสุดของพระพุทธศาสนาและยุคทองของพระพุทธศาสนาของอาณาจักรศรีวิชัยที่มั่งคั่งรุ่งเรืองสูงสุดสมัยราชวงศ์ไศเลนทร์ เมื่ราว 1300 ปีก่อน คณะกรรมการมรดกโลกแห่งยูเนสโกจึงขึ้นทะเบียนบรมพุทโธเป็นมรดกโลกของมวลมนุษย์ชาติ( ขอขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสาร DAZZLE ฉบับ 11/2009)



“ภูมิสัมภารพุทธร” ซึ่งแปลว่า ภูเขาพุทธจักรวรรดิที่สั่งสมบารมีธรรม10 ของพระโพธิสัตว์ ด้วยความเสียสละความปรารถนาอันแรงกล้า

จาริกแสวงบุญมหาพุทธสถาน...จาก//2g.pantip.com/cafe/gallery/topic/G7137631/G7137631.html ตามลำดับดังนี้



บุโรพุทโธสร้างอยู่บนฐาน  4  เหลี่ยมจำนวน 6 ชั้น ล้อมรอบฐานวงกลมด้านบนจำนวน 3 ชั้น รวมเป็น 9 ชั้น ซึ่งเมื่อรวมกับสถูปที่เป็นองค์ประธานที่อยู่บนชั้นบนสุดแล้ว จะมีจำนวนทั้งหมด 10 ชั้น มีภาพสลักเล่าเรื่องราวและตกแต่งจำนวน 2,672 ภาพ มีพระพุทธรูปในซุ้มเหนือฐานห้าชั้นมีทั้งหมด 432 องค์ ถ้านับรวมพระพุทธรูปในเจดีย์รายอีก 72 องค์ก็มีจำนวนทั้งสิ้น 504 องค์


ส่วนแรก กามธาตุ "โลกแห่งกิเลส" หรือ ส่วนฐานของบุโรพุทโธ

ฐานชั้นล่างสุดซึ่งเป็นฐานชั้นที่ 1 ของ บุโรพุทโธมีภาพสลักทั้งหมด160 ภาพ โดยทุกภาพจะเป็นการเล่าเรื่องราวตาม คัมภีร์ธรรมวิวังค์ ว่าด้วยเรื่องกฎแห่งกรรม ซึ่งก็คือเรื่องของ บาป บุญ คุณ โทษนั่นเอง


ระเบียงชั้นที่ 1

ผนังด้านในของของระเบียงชั้นที่1 มีความสูง 3.66 เมตร ประดับตกแต่งด้วยภาพสลักแนวละ 120ภาพ และระหว่างภาพจะมีลายก้านขดคั่นส่วนภาพแนวบนแสดงเรื่องราวของพระพุทธประวัติ ฝ่ายมหายานตาม คัมภีร์ลลิตวิสูตร หรือ คัมภีร์ปฐมสมโพธิฝ่ายมหายาน นับตั้งแต่การ เสด็จประสูติ บำเพ็ญบารมี ไปจนถึงการแสดง ปฐมเทศนาธัมมจักกัปปวัตนสูตร

ระเบียงชั้นที่2 คัมภีร์คัณฑพยุหะ เป็นชาดกที่เล่าเรื่องราว พระสุธนกับนางมโนราห์ ตอนที่ พระสุธน ไปท่องเที่ยวศึกษาหาความรู้ที่ในตอนแรกได้พบกับ พระโพธิสัตว์มัญชูศรี ก่อนแล้วจึงท่องเที่ยวหาความรู้ต่อไปแต่ในที่สุดก็ย้อนกลับมาหา พระโพธิสัตว์มัญชูศรี อีกครั้ง


ระเบียงชั้นที่3 เล่าเรื่องในอนาคตหลังจากที่พุทธันดรในปัจจุบันสิ้นสุดลง พระโพธิสัตว์ศรีอาริยเมตไตรยก็จะเสด็จมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระเมตไตรยพุทธเจ้า


ระเบียงภาพชั้นที่ 4 เป็นภาพสลักของพระพุทธเจ้าในอนาคตองค์สุดท้าย



ระเบียงชั้นที่ 5 เป็นระเบียงที่เป็นจุดเปลี่ยนจากรูปธาตุเป็นอรูปธาตุ ชั้นนี้ไม่มีภาพแกะสลักเล่าเรื่องทางพุทธศาสนา

ขอขอบคุณ //2g.pantip.com/cafe/gallery/topic/G7137631/G7137631.html




Create Date : 24 มีนาคม 2556
Last Update : 13 เมษายน 2556 9:27:18 น.
Counter : 4871 Pageviews.

3 comments
  
เป็นสถานที่ๆอยากจะไป
แต่ยังหาโอกาสไม่ได้ซักที
ภาพสวยมากครับ
โดย: wicsir วันที่: 24 มีนาคม 2556 เวลา:13:24:11 น.
  
ภาพสวยมากค่ะ ไปเที่ยวที่อินโดฯมา สองปีมาแล้ว แต่ไม่ได้ไปที่นี่ เสียดายจัง
โดย: Maeboon วันที่: 24 มีนาคม 2556 เวลา:14:10:52 น.
  
ในอดีต มนุษย์สร้างสิ่งมหัศจรรย์ได้อย่างยิ่งใหญ่ สุดจะบรรยาย

แต่ตั้งแต่ปัจจุบันนี้ถึงอนาคตเบื้องหน้า มีแต่เค้าลางว่า มนุษย์จะมีแต่การทำลายล้างอยู่ทุกเวลา
โดย: เทียนหวาง (สมาชิกหมายเลข 726927 ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2556 เวลา:20:49:12 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

surya21
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 50 คน [?]



New Comments
มีนาคม 2556

 
 
 
 
 
2
5
6
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog