ในหนังสือเกล็ดธรรม ของ ศ.แสง จันทร์งาม เรื่องที่4 รักษาใจอย่างเดียวก็พอ เขียนไว้ว่า ข้าพเจ้ารู้จักสุภาพสตรีคนหนึ่ง อายุประมาณ 60ปี เป็นคุณยายแล้ว อาศัยอยู่กับลูกหลาน ในสายตาคนทั่วไป นางเป็นเคร่งศาสนา ใส่ชุดสีขาวไปวัดทุกวันพระ ถ้าเป็นวันเพ็ญของเดือน นางจะบวชชีพรามณ์รักษาศีล8 และนอนค้างที่วัด ในวันธรรมดานางจะใส่ถุงผ้าสีดำ ใส่เสื้อคอกลมแขนยาว ใส่รองเท้าแตะ ทุกวันพระจะกินอาหารมังสวิรัติเพราะนางเคารพนับถือเจ้าแม่กวนอิมด้วย ในฤดูแล้ง นางจะร่วมคณะธรรมทัศนาจร เดินทางไปจาริกแสวงบุญ ไหว้พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงตามวัดต่างๆในภาคต่างๆของประเทศไทย แม้อินเดียและเนปาลนางก็ไปจาริกแสวงบุญมาแล้วถึง3ครั้ง ก่อนนอนทุกคืน นางจะไหว้พระสวดมนต์นานๆรวมทั้งสวดคาถาชินบัญชร ยอดกัณฑ์พระไตรปิฎกและคำไหว้เจ้าแม่กวนอิมเป็นภาษาจีนด้วย
เช้าวันหนึ่ง เมื่อสุภาพสตรีผู้เคร่งศาสนาของเรากลับมาจากวัด ความเดือดร้อนวุ่นวายก็เกิดขึ้นภายในบ้าน เพราะคุณยายจะดุด่า บ่นว่า ลูกๆหลานๆ สนั่นบ้าน อะไรก็ดูเหมือนจะขัดหูขัดตา นางไปหมดสิ้น พื้นเกรอะด้วยฝุ่น สิ่งของวางเกะกะไม่เป็นที่เป็นทาง เสื่อผ้ากองเกลื่อน ถ้วยชามไม่ใด้ล้าง สุนัขและแมวยังไม่ใด้เลี้ยง หลานน้อยหน้าตามอมแมม
เมื่อเดิน ดุ ด่า ลูกหลานไปรอบๆบ้านจนเหนื่อยหอบแล้ว ก็ขึ้นไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม ถวายผลไม้และน้ำชาแก่เจ้าแม่ ถวายสำรับกับข้าวแก่พระพุทธแล้วก็ลงมาหาข้าวปลาอาหารรับประทาน ขณะรับประทานก็บ่นไปด่าไป ลูกหลานต้องหลบหนีเอาตัวรอด ไม่มีใครอยู่เผชิญหน้า ไม่มีใครกล้าตอบโต้
สายๆหน่อย เพื่อนบ้านอายุรุ่นราวคราวเดียวกันก็แวะมาถามข่าวคราว ต่อจากนั้นนินทาสโมสรก็เริ่มเปิดทำการ คุณยายของเราจะนำเอาเรื่องราวต่างๆ จากวัดมาเล่าสู่เพื่อนบ้านฟังเป็นฉากๆ คนนั้นเป็นอย่างนั้น คนนี้เป็นอย่างนี้ แม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้าในวัดก็โดนเข้าไปด้วย พระองค์นั้นไม่สำรวม องค์นี้พูดมากเกินไป องค์โน้นโลภมาก เณรองค์นั้นเตะหมา องค์โน้นชอบมองสิกาสาวๆ วันนี้พระครูเทศน์ไม่ใด้เรื่องเป็นต้น
ตอนบ่ายๆรับประทานอาหารกลางวันแล้วก็นอน ตื่นขึ้นมาก็เริ่มตรวจดูเลขเด็ด ในวารสารประเภทใบ้หวยต่างๆ เมื่อคำนวณได้เลขเด็ดก็เอาเงินฝากลูกไปซื้อหวยใต้ดิน ผลออกมาปรากฎว่าไม่ถูก แต่ก็เฉี่ยดๆไปทุกที
ตอนกลางคืน นั่งเฝ้าหน้าจอทีวีและดูเป็นเฉพาะละครอย่างเดียว บางทีก็ส่งเสียงด่าลั่นถ้าไม่ชอบใจบทบาทผู้แสดงบางคน
เมื่อได้เห็นสภาพจิตและพฤติกรรมของสุภาพสตรีผู้นี้แล้วก็อดคิดไม่ใด้ว่าทำไมหนอชาวพุทธที่ถือศีลกินเพลอย่างเคร่งครัดเช่นนั้นจึงยังเต็มไปด้วยความเดือดร้อนวุ่นวายให้คนรอบข้างอีกด้วย ดูเหมือนจะแย่ยิ่งกว่าคนธรรมดาเสียอีก การไปวัดรักษาศีล 8 การนุ่งขาวห่มขาว การกินอาหารมังสวิรัติ การสวดคาถาชินบัญชรนานๆไม่ใด้ช่วยให้นางดีขึ้นเลยเหรอ
ข้าพเจ้าได้พบคำตอบเมื่อได้อ่านเรื่องของพระใหม่รูปหนึ่งในสมัยพุทธกาล พระใหม่รูปนี้ เมื่อไปหาพระอาจารย์ผู้สอนพระวินัยก็ได้รับการเตือนว่าพระวินัยมีจำนวนนับร้อยๆข้อที่จะต้องปฏิบัติ...พระใหม่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความรู้สึกท้อแท้ใจ รู้สึกว่าพระศาสนานี้ ฟังดูแล้วไม่มีอะไรเลยนอกจากข้อห้าม...ในที่สุดพระใหม่ก็ตัดสินใจไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อกราบทูลลาสิกขาไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด เมื่อใด้สดับเรื่องราวของพระใหม่แล้ว พระพุทธองค์ตรัสว่า-ถ้าให้เธอรักษาเพียงอย่างเดียว ลืมวินัยเป็นร้อยๆข้อ ธรรมะเป็นพันๆข้อ นั้นเสีย เธอจะรักษาได้ไหม ?
พระใหม่ทูลว่า-รักษาได้พระเจ้าข้า
พระพุทธองค์ตรัสว่า-ถ้าอย่างนั้น ขอให้เธอรักษาใจของเธออย่างเดียวก็พอ...จริงของพระพุทธองค์ ในตัวเราจิตใจสำคัญที่สุด ถ้าใจดีแล้วทุกอย่างดีหมด แต่ถ้าใจเสียก็เสียหมด............รักษาใจอย่างเดียวก็พอ.