ปัจจุบันเศรษฐกิจป่าไม้เมืองไทยมีมูลค่าตลาดตกต่ำทีสุดในรอบ40ปี ทรัพยากรป่าไม้ถูกทำลายลดลงไปครึ่งหนึ่ง เรามีพื้นที่ป่าไม้ตามกฏหมายมากถึงร้อยละ40ของพื้นที่ประเทศ แต่สาขาป่าไม้มีสัดส่วนในภาคเศรษฐกิจของประเทศไม่ถึง 1%ของGDPประเทศ ถือได้ว่าเป็นทรัพย์จมที่เป็นภาระอันหนักอึ้งของคนในชาติ หากได้มีการแก้ไขกฎหมายให้ทุนและเทคโนโลยีเข้าร่วมประสานในการลงทุนด้านต่างๆนั้นการรักษาทรัพยากรป่าไม้ก็จะไม่ล้าหลังดังเช่นปฏิบัติกันมาร่วม40ปีและป่าไม้ก็ลดลงทุกวัน
ทรัพยากรป่าไม้บ้านเรา มองจากภาพถ่ายดาวเทียมปี2007แล้วหดหูใจมาก...เศรษฐกิจป่าไม้นั้นสามารถเพิ่มการจ้างงานและรายได้ประชาชนในชนบทปีละ500,000ล้านบาท แต่ต้องบริหารจัดการรูปแบบใหม่ ไม่ใช่การเล่นโปลิศจับขโมยและปล่อยให้ป่าไม้บนภูเขาเปนทุ่งทะเลข้าวโพดและกะหล่ำปลีแบบนี้
การระดมทุนสร้างป่าปลูก20ล้านไร่และเศรษฐกิจป่าไม้เชิงมหภาค
ข้อดีของการใช้ไม้ก่อสร้างในยุคโลกร้อน...ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ต่างๆ กักก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยการดูดซึมไว้ขณะที่ต้นไม้เจริญเติบโต คาร์บอนที่อยู่ในเนื้อไม้จะถูกตัดฟัน และหรือผ่านกระบวนการแปรรูป สำหรับวัสดุก่อสร้างจำพวกพลาสติก (ผลผลิตจากน้ำมัน) และโลหะเช่น เหล็ก หรืออะลูมิเนียม โดยปกติจะเกิดก๊าซเรือนกระจกขณะอยู่ในขั้นตอนการผลิตแม้แต่การสกัดวัตถุดิบบางอย่างจากพื้นโลก เช่น แร่อะลูมิเนียม สำหรับทำอะลูมิเนียมนั้นมีการใช้พลังงานฟอสซิลในการการผลิตจำนวนมหาศาล ก็มีผลต่อการแพร่กระจายก๊าซเรือนกระจกเช่นกัน
พลิกโฉมวงการบ้านไม้จากป่าปลูก....บ้านพรีแฟบคือผลผลิตจากแนวคิดที่ต้องการปลดล็อกปัญหาการสร้างบ้านไม้ของบริษัท ไพร์ซ ออฟ วู้ด อินดรัสทรีส์ จำกัด ซึ่งทำธุรกิจค้าไม้มากว่า 30 ปีและเป็นเบอร์หนึ่งในการปลุกปั้นนวัตกรรมบ้านไม้ยุคใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ราคาที่ถูกลง ความทนทาน ไม้ไม่บิดงอ ติดตั้งง่ายด้วยระบบน็อคดาวน์ วัสดุไม้จากป่าปลูกจึงไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม...
ป่าไม้เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์อื่น ๆ เพราะป่าไม้มีประโยชน์ทั้งการเป็นแหล่งวัตถุดิบของปัจจัยสี่ คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัยและยารักษาโรคสำหรับมนุษย์ และยังมีประโยชน์ในการรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อม ถ้าป่าไม้ถูกทำลายลงไปมาก ๆ ย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เช่น สัตว์ป่า ดิน น้ำ อากาศ ฯลฯ เมื่อป่าไม้ถูกทำลาย จะส่งผลไปถึงดินและแหล่งน้ำด้วย เพราะเมื่อเผาหรือถางป่าไปแล้ว พื้นดินจะโล่งขาดพืชปกคลุม เมื่อฝนตกลงมาก็จะชะล้างหน้าดินและความอุดมสมบูรณ์ของดินไป นอกจากนั้นเมื่อขาดต้นไม้คอยดูดซับน้ำไว้น้ำก็จะไหลบ่าท่วมบ้านเรือน และที่ลุ่มในฤดูน้ำหลากพอถึงฤดูแล้งก็ไม่มีน้ำซึมใต้ดินไว้หล่อเลี้ยงต้นน้ำลำธารทำให้แม่น้ำมีน้ำน้อย ส่งผลกระทบต่อมาถึงระบบเศรษฐกิจและสังคม เช่น การขาดแคลนน้ำในการการชลประทานทำให้ทำนาไม่ได้ผลขาดน้ำมาผลิตกระแสไฟฟ้า ปีนี้กรมชลประทานประกาศงดจ่ายน้ำการทำนาปลั่งรวม20จังหวัดเพราะน้ำในเขื่อนต่างๆมีปริมาณน้อยอันเนื่องจากป่าต้นน้ำลำธารบนภูเขาในภาคเหนือถูกทำลายลงไปมาก
ผู้ติดตามบล็อก : 50 คน [
