ไข้หวัด 2009 เเละการป้องกัน
ไข้หวัด 2009 เเละการป้องกัน
วิธีสู้ "หวัดพันธุ์ใหม่" โดยคุณซูม จากไทยรัฐ
เชื้อสาเหตุ
เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 (A/H1N1) เป็นเชื้อตัวใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน เกิดจากการผสมสารพันธุกรรม ระหว่างเชื้อไข้หวัดใหญ่ ของคน สุกร และนก เป็นโรคที่แพร่ติดต่อระหว่างคนสู่คน พบที่ประเทศเม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา แล้วแพร่ไปยังอีกหลายประเทศ
การแพร่ติดต่อ
การแพร่ติดต่อจากคนหนึ่ง ไปยังอีกคนหนึ่ง เกิดขึ้นได้ง่าย เกิดจากการถูกผู้ป่วย ไอ จามรดโดยตรง หรือหายใจเอาฝอยละออง เสมหะ น้ำมูก น้ำลาย ในระยะ 1 เมตร เนื่องจากเชื้อไวรัส อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย แต่บางรายอาจได้รับเชื้อทางอ้อม ผ่านทางมือหรือสิ่งของเครื่องใช้ ที่ปนเปื้อน เชื้อ เช่น แก้วน้ำ ลูกบิดประตู โทรศัพท์ ผ้าเช็ดมือ เป็นต้น เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ตา ปาก ผู้ป่วยอาจเริ่มแพร่เชื้อได้ ตั้งแต่ 1 วันก่อนป่วย ช่วง 3 วันแรก จะแพร่เชื้อได้มากสุด ระยะแพร่เชื้อมักไม่เกิน 7 วัน
อาการป่วย
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ จะเริ่มมีอาการ หลังจากได้รับเชื้อไวรัส 1-3 วัน น้อยรายที่นานถึง 7 วัน อาการป่วย ใกล้เคียงกันกับโรคไข้หวัดใหญ่ ที่เกิดขึ้นทั่วไป เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ไอ เจ็บคอ อาจมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียด้วย ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง หายป่วยได้ โดยไม่ต้องนอนรักษา ในโรงพยาบาล อาการจะทุเลาและหายป่วย ภายใน 5-7 วัน แต่บางราย ที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรง จะมีอาการหายใจเร็ว เหนื่อย หอบ หายใจลำบาก ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้
การรักษา
ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที แพทย์จะพิจารณาให้ยาต้านไวรัส คือ ยาโอลเซลทามิเวียร์ (oseltamivir) เป็นยาชนิดกิน หากผู้ป่วยได้รับยาภายใน 2 วัน หลังเริ่มป่วย จะให้ผลการรักษาดี ผู้ป่วยที่อาการไม่มาก เช่น ไข้ต่ำ ๆ ตัวไม่ร้อนจัด และยังรับประทานได้ อาจไปพบแพทย์ที่คลินิก หรือขอรับยา และคำแนะนำ จากเภสัชกรใกล้บ้าน และดูแลรักษาที่บ้านได้ โดย
* รับประทานยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้พาราเซตามอล ยาละลายเสมหะ วิตามิน และเช็ดตัวลดไข้เป็นระยะ ด้วยน้ำสะอาดไม่เย็น
* ดื่มน้ำสะอาด และน้ำผลไม้มาก ๆ งดดื่มน้ำเย็น
* พยายามรับประทานอาหาร ที่มีประโยชน์ให้ได้มากพอเพียง เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ไข่ ผัก ผลไม้ เป็นต้น
* ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ ยกเว้นติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ซึ่งต้องรับประทายา จนหมดตามแพทย์สั่ง เพื่อป้องกันไม่ใช้เชื้อดื้อยา
* ให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทดี การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ
* หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกั บผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่
* หากต้องดูแลผู้ป่วย ควรสวมหน้ากากอนามัย และให้ผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัยด้วย หลังดูแลผู้ป่วยทุกครั้ง ควรรีบล้างมือด้วยน้ำ และสบู่ให้สะอาดทันที
* ไม่ใช้แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อนอาหาร ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดหน้าร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่
* ใช้ช้อนกลางทุกครั้ง เมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
* หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลัง ไอ จาม
* รักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมทั้งไข่ นม ผัก และผลไม้ ดื่มน้ำสะอาด และนอนหลับพักผ่อนให้พอเพียง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงบุหรี่ และสุรา
การป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อ
* หากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ควรหยุดงานหยุดเรียน เป็นเวลา 3-7 วัน ซึ่งจะช่วยลดการแพร่ระบาดได้มาก
* หลีกเลี่ยงการคลุกคลี ใกล้ชิดกับผู้อื่น
* สวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่กับผู้อื่น หรือใช้ทิชชูปิดจมูกปากทุกครั้งที่ไอจาม ทิ้งทิชชูลงในถังขยะที่มีฝาปิด แล้วล้างมือให้สะอาด
* * *
หมายเหตุ : โปรดเผยแพร่ต่อ ๆ ไป ให้เหมือนจดหมายห่วงลูกโซ่ด้วย เพื่อความปลอดภัยของคนไทยทุก ๆ คน
ขอขอบคุณ คุณ "ซูม" ไทยรัฐ (คัดลอกแบบจดหมายห่วงลูกโซ่ มาจากคุณ "หลังคาดำแดง" ค่ะ)
Create Date : 14 กรกฎาคม 2552 |
|
8 comments |
Last Update : 14 กรกฎาคม 2552 10:48:51 น. |
Counter : 1772 Pageviews. |
|
|
|
แต่จะว่าไปก็น่ากลัวจริงๆอะ