วิธีต้มน้ำซุปให้ใสน่ากิน วิธีต้มน้ำซุปให้ใสน่ากิน หนังสือ "ความรักคะ...ฉันมีเรื่องจะฟ้อง" พร้อมลายเซ็น ตอนนี้มีเหลืออยู่ในมือของวี รวม 5 เล่มค่ะ ผู้ใดสนใจ สามารถสั่งซื้อได้ค่ะ รายละเอียดตามนี้.... ราคารวมค่าส่ง 220 บาท โอนเงินผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย หมายเลขบัญชี 880-0-01347-3 ชื่อบัญชี มนชญา กมลวานนท์ โปรดโอนให้มีเศษสตางค์ เพื่อง่ายแก่การอ้างอิง และแจ้งรายละเอียดการโอน พร้อมทั้งชื่อ-ที่อยู่ที่จะให้จัดส่ง ที่หลังไมค์ได้เลย การต้มน้ำซุป หรือบางทีก็เรียกน้ำสต็อค ดูเหมือนจะง่าย แต่การต้มให้น้ำซุปดูใส น่ารับประทาน รวมทั้งรสอร่อย ต้องมีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นส่วนประกอบ น้ำซุปไก่ เริ่มจากล้างซี่โครงไก่ ลอกเอาหนังและไขมันออก สับเป็นชิ้นใหญ่ ๆ ต้มน้ำให้เดือดจัด นำโครงไก่ลวก ประมาณ 5-6 วินาที แล้วจึงนำมาใส่หม้อ ใส่น้ำพอให้ท่วมโครงไก่ไก่เล็กน้อย ใส่หัวไชเท้าประมาณครึ่งหัว ยกขึ้นตั้งไฟ โดยใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน เมื่อน้ำเดือด จึงเปลี่ยนเป็นไฟอ่อน ใส่คึ่นฉ่าย 2 ต้น หมั่นคอยช้อนฟองทิ้ง เคี่ยวจนน้ำงวดลง เหลือประมาณ 2 ใน 3 ปิดไฟ ยกลงกรอง น้ำซุปหมู ทำเช่นเดียวกับน้ำซุปไก่ คือ ล้างกระดูกหมู และสับกระดูกหมูตรงข้อต่อให้แตก นำไปลวกในน้ำร้อนจัด แล้วต้มในหม้อที่ใส่น้ำพอท่วมกระดูกหมู ยกขึ้นตั้งไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน ใส่หัวไชเท้า พอน้ำเดือด เปลี่ยนเป็นไฟอ่อน ใส่คึ่นฉ่าย เคี่ยวจนน้ำเหลือ 2 ใน 3 ปิดไฟ ยกลงกรอง น้ำซุปผัก โดยใช้ฟักเขียว 1 ลูก หัวไชเท้า 2 หัว เห็ดหอม 5 ดอก เริ่มจากปอกฟักเขียว หั่นเป็นชิ้นพอประมาณ หัวไชเท้าปอกเปลือก และหั่นเป็นแว่นหนาประมาณ 1 ซ.ม. ใส่ผักทั้งหมดลงในหม้อ ใส่น้ำพอประมาณ ต้มด้วยไฟปานกลาง จนความหวานจากฟัก และหัวไชเท้าออก ใส่เกลือ พริกไทยเม็ดบุบ เคี่ยวจนน้ำงวด เหลือประมาณ 2 ใน 3 ปิดไฟ ยกลงกรอง (เห็ดหอมที่เหลือนำไปปรุงอาหารต่อได้) เคล็ดลับความอร่อย การจะเลือกน้ำซุปชนิดไหน ควรพิจารณาจากเนื้อสัตว์ ที่จะใส่ในอาหารชนิดนั้น ๆ เช่น ถ้าแกงจืดหมูสับ ก็ควรใช้น้ำซุปหมู แต่ถ้าแกงจืดไก่สับ ก็ควรใช้น้ำซุปไก่ เป็นต้น การเก็บซุป ถ้าทำอาหารทุกวัน อาจทำน้ำซุปครั้งละมาก ๆ แล้วเก็บใส่ขวดที่มีฝาปิด เพื่อไม่ให้สัมผัสอากาศ เพราะจะ ทำให้เสียเร็ว แต่หากต้องการเก็บไว้นาน ๆ อาจตักใส่ถุงพลาสติค ขนาดพอใช้ 1 ครั้ง แล้วแช่ช่องแช่แข็ง เมื่อจะใช้ก็นำออกมาใช้ครั้งละ 1 ถุง ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก //www.moc.go.th/opscenter/ay/trip.htm   Create Date : 10 มกราคม 2552 29 comments Last Update : 10 กันยายน 2554 14:05:53 น. Counter : 13372 Pageviews. Share Tweet

แค่อ่านก็อยากกินก๋วยเตี๋ยวค่ะ แหะ แหะ เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย   โดย: asita 10 มกราคม 2552 0:42:36 น.

เคล็ดลับดีๆ ชอบจัง   โดย: Febie 10 มกราคม 2552 1:01:13 น.

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ เพิ่งรู้ว่าคุณวีเป็นแม่บ้านแม่เรือน ทำอาหารเก่งด้วย อิอิ   โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 10 มกราคม 2552 1:04:09 น.

มาอ่านความรู้ดีดีค่ะ จะได้ลองทำบ้าง ขอบคุณนะคะ   โดย: Suessapple 10 มกราคม 2552 1:16:50 น.

อ่านจบเล่นเอาท้องร้องจ๊อกๆ ไปเลย แต่ๆๆ ฝนงดกินอาหารตอนดึกๆ อ่ะค่ะ เลยต้องทนหิวต่อไป หลับฝันดีน๊า   โดย: N a m F o n.. (CeciLia_MaLee ) 10 มกราคม 2552 1:43:32 น.

ขอบคุณที่ไปอวยพรวันเกิดให้นะคะ เคล็ดลับอยู่ตรงนี้นี่เอง แต่เวลาเราทำ ใส่คนอร์อย่างเดียวเลย ค่ะ กร๊ากก คือ เอะอะก็คนอร์อย่างเดียวเรย ยินดีที่ได้รู้จัก ขอให้มีความสุขมากๆในปีใหม่ นี้ ขอให้ร่ำรวยเงินทองมากมายนะคะ   โดย: kulov023 10 มกราคม 2552 4:16:38 น.

มาซุ่มเเอบเก็บเคล็ดลับ ขอบคุณมากค่ะ   โดย: YUCCA 10 มกราคม 2552 6:31:30 น.

หิ๊ว หิว ง๊ะ แอบมาอ่านตอนดึกๆ แล้วจะทำไงดีคะเนี่ย   โดย: beuysliv 10 มกราคม 2552 7:42:55 น.

...สุขสันต์วันเด็กแห่งชาตินะครับคุณวี...   โดย: doctorbird 10 มกราคม 2552 8:39:45 น.

พออ่านถึงซุปไก่ก็อยากกินขึ้นมาเลยค่ะ มีความสุขมากๆ นะคะ   โดย: วิสกี้โซดา 10 มกราคม 2552 9:27:54 น.

ว้าว เคล็ดที่ไม่ลับแบบนี้ล่ะคะ .. ต้องเซฟเก็บไว้เลย เอาไว้อ่านย้ำๆ เวลาจะต้อง ทำเอง .. น้ำซุปอร่อยๆ แบบนี้คิดถึงก๋วยเตี๋ยว จังเลยค่ะ   โดย: JewNid 10 มกราคม 2552 9:59:53 น.

มีประโยชน์ กับเเม่บ้านมากเลย เคล็ดลับนี้   โดย: หลังคาดำแดง 10 มกราคม 2552 10:14:53 น.

โดย: ดราก้อนวี 10 มกราคม 2552 10:15:47 น.

ขอบคุณค่ะ อิอิ ชอบทานซุปมากค่ะ เพิ่งรู้เคล็ดลับความอร่ิอยวันนี้เอง   โดย: little bear june 10 มกราคม 2552 12:40:58 น.

ตามมาทักทาย ค่ะ... คงไม่สายไปนะ ที่จะบอกว่า สวัสดีปีใหม่ นะจ้าาาาาาาาาาาา ไปเที่ยวไหนมาหรือปล่าว หรือว่า ซุ้มทำอาหารอยู่ แล้วจะแวะมาหา สูตรอาหารไปลองทำดูมั่งนะ   โดย: สาวน้อยคนโง่ (sha..la..la..la ) 10 มกราคม 2552 14:02:14 น.

สวัสดีวันเด็กครับ มาศึกษาวิธีต้มซุป   โดย: สมัชชาความรักแห่งชาติ 10 มกราคม 2552 18:02:15 น.

น้ำซุปเนี่ยเป็นสิ่งที่แม่ครัวทั้งหลายต้องใช้เลยนะคะ เคล็ดลับดีๆ แบบนี้เดี๋ยวต้องไปกระซิบข้างหูแม่ซะหน่อย   โดย: ส้มแช่อิ่ม 10 มกราคม 2552 19:05:55 น.

แวะมาอ่านค่ะ ขอบคุณสำหรับความรู้ เทคนิคดี ๆ ที่นำมาฝากกันนะคะ   โดย: wiyada_susi 10 มกราคม 2552 19:34:28 น.

สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังนะค้าบ   โดย: smartman หล่อสุดๆ 10 มกราคม 2552 19:59:44 น.

อยากทานน้ำซุปร้อนๆจังเลยค่ะ   โดย: วนิส 10 มกราคม 2552 22:31:06 น.

วันนี้หนาว ขอซุปร้อนๆถ้วยนึง   โดย: Original April 10 มกราคม 2552 22:33:56 น.

แวะมาดูเคล็ดที่ไม่ลับค่ะ สบายดีนะค่ะคุณวี   โดย: ann_269 10 มกราคม 2552 23:14:49 น.

ขอขอบคุณที่ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ จะไปทดลองทำได้ผลประการใด จะแจ้งให้ทราบ   โดย: คนก้นครัว IP: 125.24.35.212 5 กุมภาพันธ์ 2552 3:58:49 น.

เป็นความรู้ที่มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ   โดย: นัต (Kala-ก้นครัว ) 6 สิงหาคม 2552 16:56:55 น.

เคล็ดลับของเราต่อไปนี้จะช่วยคุณหลีกเลี่ยงการสวาปามจนเกินเลย จำกัดการกินจุบกินจิบ และหลีกเลี่ยงการ กินเพราะอารมณ์เป็นเหตุ ดื่มน้ำเย็นหนึ่งแก้วทันที ที่คุณนั่งลงกินอาหาร และเริ่มต้นการกินด้วยการกินผักสด หรือสลัดที่ราดน้ำสลัดน้อย ๆ มันจะช่วยระงับความอยากอาหาร และทำให้คุณไดรับเส้นใยมากขึ้น เพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือด (และความอยากอาหารของคุณ) อยู่ในระดับสม่ำเสมอตลอดทั้งวัน อย่าอดอาหาร เกินกว่า 5 ชม. โดยไม่กินอะไรเลย และกินอาหารมื้อย่อย ๆ หลาย ๆ มื้อต่อวัน แทนการกินอาหารมื้อใหญ่มื้อเดียว กินของว่างที่ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน หนึ่งถึงสองชั่วโมงก่อนมื้ออาหาร เช่น ชีสไขมันต่ำกับแค รกเกอร์ หรือโยเกิร์ตไขมันต่ำ ออกกำลังกาย เวลาที่คุณรู้สึกอยากกินจุบกินจิบ การออกกำลังเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้อารมณ์ดีขึ้น และ เบี่ยงเบนจิตใจจากเรื่องอาหาร นอกจากนั้นมันยังคลายเครียดด้วย www.thaiza.com   โดย: โสดในซอย 4 กุมภาพันธ์ 2554 9:06:51 น.

Blog น่าอ่านมากๆค้า แล้วจะแวะมาเยี่ยมเยียนบ่อยๆนะคะ   โดย: Jahja_caroline 23 มีนาคม 2554 19:16:45 น.

ขอบคุณมากครับ สำหรับสูตร มีความรู้เพิ่มมากขึ้นเยอะเลย   โดย: โอฬาร IP: 101.51.47.226 10 ตุลาคม 2555 15:48:36 น.

ตอนที่ 8 เผ่าทองแวะมาหาสะบันงาที่เอยูเอสอพาร์ตเม้นต์ไม่เว้นแต่ละวัน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เปิ่นกับเผ่าทองจะต้องเดินสวนกัน เห็นหน้ากันอยู่บ้าง ต่อให้พยายามจะหลบเลี่ยงกันมากเท่าใดก็ตาม หลายครั้งหลายหนอยู่เหมือนกัน ที่เปิ่นเกือบจะทนท่าทางดูหมิ่นดูแคลนที่เผ่าทองแสดงออกไม่ไหว เขาต้องพยายามสะกดใจอย่างหนัก บางครั้งแทบจะกัดลิ้นของตัวเองขาดเลยทีเดียว ถ้าไม่เห็นแก่นางฟ้าของเขาแค่นิดเดียว นายเผ่าทองได้ตายคามือของเปิ่นแน่ ๆ สะบันงารู้ว่าเปิ่นถูกเผ่าทองเล่นสงครามจิตวิทยาด้วย และรู้ว่าเปิ่นอดทนเพื่อเธอ “ขอบคุณนะเปิ่น งาไม่รู้จะทำยังไงกับพี่เผ่าเหมือนกัน เกะกะระรานไม่เลือกที่ คุณยายเองก็ระอาจนไม่อยากจะมองหน้าแล้ว” สะบันงาคงจะเหลืออดเหลือทนอยู่เหมือนกัน จึงได้บอกกับเขาตรง ๆ อย่างนั้น เพราะปกติเธอจะพยายามไกล่เกลี่ยให้อย่างสุดความสามารถ และบางครั้งสะบันงาก็ช่วยแก้ตัวแทนเผ่าทองอยู่บ่อย ๆ ซึ่งที่ผ่านมาเปิ่นเองก็ไม่รู้ว่า ที่นางฟ้าทำอย่างนั้น ทำเพื่อรักษาน้ำใจของเปิ่น หรือทำเพื่อปกป้องเผ่าทองกันแน่ “ไม่เป็นไรครับ” เปิ่นตอบอย่างถนอมปากถนอมคำ ถึงอย่างไร เทียบกับเผ่าทองแล้ว เปิ่นก็ยังเป็นแค่เศษดินอยู่ดี เขาจึงต้องกันตัวเองออกมาจากความเป็น “พวกเดียวกัน” กับนางฟ้า จะว่าไปแล้วเขาเป็นซาตานก็ยังไม่ได้เลย เป็นแค่ลูกกระจ๊อกปลายแถวที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย ไม่มีสิ่งใดท่คู่ควรกับสะบันงาเลยสักนิดเดียว ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ตาม “งาก็ไม่ได้อยากจะให้พี่เผ่ามาที่นี่หรอกนะ แต่งาไม่รู้จะพูดอะไรได้” สะบันงาดีเกินไป...เธอคอยห่วงความรู้สึกของทุกคน ยกเว้น....ของตัวเอง “ผมทนได้...” เปิ่นตอบเสียงเรียบ ในใจระอุเดือดในขณะที่คิดไปพร้อมกันว่า.... วันนี้ผมทนได้ แต่วันหน้าผมไม่กล้ารับประกัน ท่าทางกร่าง ๆ ของเผ่าทอง ทำให้เปิ่นนึกถึงไอ้โหน่ง ไอ้นั่นที่ว่ากล้าบ้าบิ่นแล้ว ยังไม่เคยมาวางท่ายะโสกวนประสาทเท่ากับเผ่าทอง อย่างน้อยก็ยังเกรงใจเปิ่นอยู่บ้าง จะว่าไปแล้ว เปิ่นไม่เคยอดทนกับ “คนพวกนี้” ได้นานเท่านี้มาก่อน และ “คนพวกนี้” ก็ไม่มีใครแรงใส่เขาได้มากเท่าไอ้เศรษฐีมือเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อคนนั้น ที่เปิ่นมั่นใจว่า แค่ผลักเบา ๆ ไอ้หมอนั่นก็ลงไปนอนคว่ำอยู่กับพื้นแล้ว ชกสักหมัดสองหมัด ขี้คร้านจะคลานเข้ามากราบตีนเขาประหลก ๆ ด้วยซ้ำไป และในวันเดียวกันนั้นเอง เปิ่นก็เผชิญหน้ากับเผ่าทองอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่แค่การเดินสวนกัน เพราะเมื่อเผ่าทองหาตัวสะบันงาไม่พบ เขาก็เดินเตร่เข้ามาหาเปิ่น จะเรียกว่า จงใจเข้ามาหาเรื่องก็ไม่ผิดนัก “งาไม่อยู่หรือ” สายตาของเผ่าทองนั้นแสดงความเหยียดหยามชัดเจนตอนที่ถามเสียงต่ำ ๆ “คุณงาไปวัดกับคุณยายครับ” “เรียกเป็นญาติเชียวนะเอ็ง” “ครับ ผมรู้สึกเหมือนคุณงาและคุณยายเป็นญาติของผม” เขาจะกลัวอะไร เมื่อ “มัน” กวนมา เขาก็ “กวน” กลับไป เผ่าทองไม่ได้มีบุญคุณเหนือหัวของเปิ่น เหมือนที่เปิ่นรู้สึกกับนางฟ้า และโดยเฉพาะกับคุณยายที่เขาแสนจะรักและเคารพ “สองคนนั่นเขารู้สึกเหมือนแกหรือเปล่า ไอ้เปิ่น” เผ่าทองไม่เคยสุภาพกับเปิ่น จิกได้เป็นจิก และยิ่งลับหลังนางฟ้า เผ่าทองยิ่งไม่ละวางโอกาส “ไม่ทราบครับ แต่คุณงากับคุณยายไม่เคยพูดอะไร ท่านเมตตากับผมเสมอ...” สายตาของเปิ่นมองมาที่เผ่าทอง เหมือนจะบอกว่า.... ไม่เหมือนกับเอ็ง มันทำให้เผ่าทองตัวร้อนผ่าวด้วยความโกรธ “แกต้องรอให้สองคนนั่นพูดด้วยเหรอ ทำไมไม่เจียมตัวเสียบ้าง แกมีอะไรให้สองคนนั่นมานับญาติด้วย ว่าง ๆ ก็ตักน้ำใส่กะโหลกแล้วชะโงกไปดูเงาหัวของแกบ้างนะ ไอ้เวร...” ...เกือบแล้ว...เปิ่นเกือบจะเงื้อหมัดขึ้นชกมันแล้ว ถ้าหน้าตาหวาน ๆ ของนางฟ้าไม่ลอยขึ้นมาในมโนภาพเสียก่อน “งาเป็นแฟนฉัน ฉันไม่ต้องการให้แกมาวุ่นวายกับชีวิตของแฟนฉัน...” “ผมเป็นแค่ลูกจ้างของคุณงา คงไม่ได้วุ่นวายกับคุณงาอย่างที่คุณเข้าใจ” “เออ แล้วจำกัดตัวเองไว้แค่นั้นด้วยนะ...อย่าทำให้งาต้องโดนคนอื่นดูถูกเอาที่มีคนอย่างแกมาวอแวด้วย” เปิ่นไม่เคยนึกว่าตัวเองวิเศษวิโส ที่จริงสำนึกว่าตัวเองเป็น “ไอ้กระจอก” ด้วยซ้ำไป แต่การที่ถูกตราหน้าดูถูกซึ่ง ๆ หน้า มันก็ทำให้เปิ่น   โดย: 1 IP: 119.46.149.66 3 มกราคม 2556 11:12:27 น.

น่าทานค่า   โดย: สมาชิกหมายเลข 3445422 10 เมษายน 2563 13:57:54 น.