บล็อกนี้ไม่มี VIP ค่ะ ทุก ๆ คนเป็น VIP อยู่แล้ว เมื่อคลิกเข้ามา
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
26 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
ประโยชน์ของพริก

ประโยชน์ของพริก




พริก...ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด

ช่วยให้ระบบการหายใจสะดวกสบายยิ่งขึ้น สารแคปไซซินที่อยู่ในพริกมีคุณสมบัติช่วยลดน้ำมูกหรือลดปริมาณสารที่ขัดขวางระบบการหายใจ ในผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด ไซนัส หรือโรคภูมิแพ้ต่างๆ ช่วยบรรเทาอาการไอ สารแคปไซซินเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของตัวยาหลายๆ ชนิด นอกจากนั้นสารเบตาแคโรทีนในพริกช่วยป้องกันการติดเชื้อต่างๆ ในบริเวณเนื้อเยื่อบุผนังช่องปาก จมูก ลำคอ และปอด






พริก...ช่วยลดการอุดตันของเส้นเลือด
หรือการเสียชีวิต
อันเนื่องมาจากเส้นเลือด
ที่ไปเลี้ยงสมองอุดตัน


การบริโภคพริกเป็นประจำ จะช่วยลดอัตราความเสี่ยง จากการอุดตันของเส้นเลือด นับเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหัวใจล้มเหลว เนื่องจากพริกช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความดัน เพราะว่าในพริกมีสารจำพวกเบตาแคโรทีนและวิตามินซี ซึ่งช่วยเสริมสร้างผนังหลอดเลือดให้แข็งแรงเพิ่มการยืดตัวของผนังหลอดเลือด ทำให้ปรับตัวเข้ากับแรงดันระดับต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น





พริก...ช่วยลดปริมาณสารคอเลสเตอรอล
สารแคปไซซิน
ช่วยป้องกันมิให้ตับสร้างคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี
(LDL-Low density lipoprotein)


ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้มีการสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-high density lipoprotein) มากขึ้น ทำให้ปริมาณของไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือดต่ำลง เป็นผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค






พริก...ช่วยลดความเสี่ยง
ของการเกิดโรคมะเร็ง


เนื่องจากพริกเป็นพืชผักที่มีวิตามินซีสูง การบริโภคอาหารที่มีวิตามินซีมากๆ จะช่วยปกป้องการเกิดโรคมะเร็งได้ วิตามินซียับยั้งการสร้างไนโตรซามีนซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร วิตามินซีช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบของกระดูกอ่อน รวมถึงเป็นส่วนประกอบของผิวหนัง กล้ามเนื้อและปอด คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่สามารถหยุดการแพร่กระจายของเซลล์เนื้อร้ายได้

นอกจากนี้ วิตามินซียังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) คือสามารถยุติหรือขัดขวางบทบาทของอนุมูลอิสระ (free radicals) ที่จะก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์จนเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด สารเบตาแคโรทีนในพริกช่วยลดอัตราการเสี่ยงของโรคมะเร็งในปอด และในช่องปาก คนที่รับประทานผักที่มีสารเบตาแคโรทีนน้อย จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งมากกว่าคนที่รับประทานผักที่มีเบตาแคโรทีนสูงถึง 7 เท่า

คุณสมบัติของสารเบตาแคโรทีนจะช่วยลดอัตราการกลายพันธุ์ของเซลล์และทำลายเซลล์มะเร็ง สำหรับพริกบางชนิดที่มีสีม่วงจะมีสารพวกแอนโทไซยานิน ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ คือ สามารถทำลายอนุมูลอิสระได้เช่นกัน





พริก...ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด

เช่น ลดอาการปวดฟัน บรรเทาอาการเจ็บคอ และการอักเสบของผิวหนัง เป็นต้น ในปัจจุบันมีการใช้สารแคปไซซินเป็นส่วนประกอบของขี้ผึ้ง ใช้บรรเทาอาการปวดอันเนื่องมาจากผดผื่นคันและอาการผื่นแดงบริเวณผิวหนัง รวมทั้งอาการปวดที่เกิดจากเส้นเอ็น โรคเกาต์ หรือโรคข้อต่ออักเสบ เป็นต้น นอกจากนี้ผลการทดลองใหม่ๆยังบ่งชี้ว่าสารแคปไซซินช่วยลดอาการปวดศีรษะและไมเกรนลงได้





พริก...ช่วยเสริมสร้างสุขภาพและอารมณ์ดี

เนื่องจากสารแคปไซซินมีส่วนในการส่งสัญญาณให้ต่อมใต้สมองสร้างสาร เอนดอร์ฟิน (endorphin มาจากคำว่า endogenous morphine) ขึ้น สารเอนดอร์ฟินเป็นเปปไทด์ขนาดเล็ก (โปรตีนสายสั้นๆ) มีคุณสมบัติคล้ายมอร์ฟีน คือ บรรเทาอาการเจ็บปวด ในขณะเดียวกันก็สร้างอารมณ์ให้ดีขึ้น ยิ่งรับประทานเข้าไปมากเท่าใด ร่างกายก็จะสร้างเอนดอร์ฟินขึ้นมามากขึ้นเท่านั้น ปกติร่างกายของคนเราจะสร้างสารเอนดอร์ฟินขึ้นภายหลังการออกกำลังกาย ดังนั้นการออกกำลังกายแม้จะทำให้ร่างกายเมื่อยล้า แต่ผู้ออกกำลังกายจะรู้สึกสดชื่นแจ่มใส

ถ้าต้องการบรรเทาความเผ็ดของอาหารในปากควรดื่มแอลกอฮอล์ หรือรับประทานอาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบมากกว่าการดื่มน้ำ เพราะการดื่มน้ำมีผลเพียงช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนได้เท่านั้น แต่ความเผ็ดก็ยังไม่ได้ลดลง เนื่องจากว่า ‘น้ำ’ ละลายสารดังกล่าวได้ไม่ดี...นั่นเอง



Tips
เกณฑ์วัดระดับความเผ็ดร้อนสากลของพริก
หรือผักผลไม้ที่มีสารแคปไซซิน
ซึ่งให้ความเผ็ดร้อนนี้
เรียกว่า สโกวิลล์ (Seoville)
เป็นคำที่ตั้งขึ้น
ตามชื่อของผู้คิดค้นวิธีการวัดระดับนี้
ซึ่งก็คือ วิลเบอร์ ลินคอร์น สโกวิลล์
นักเคมีชาวอเมริกัน
โดยเขาได้คิดค้นระดับวัดความเผ็ดนี้
ขึ้นในปี ค.ศ. 1912
ขณะทำงานอยู่
ที่บริษัทผลิตยา พาร์ก เดวิส
เพื่อวัดความฉุนหรือความเผ็ดร้อน
ของพริกต่างชนิดกัน


สำหรับความเผ็ด
ที่วัดได้จากพริกขี้หนูสวนบ้านเรานั้น
จะอยู่ที่ 50,000-100,000 สโกวิลล์
ในขณะที่สารแคปไซซินบริสุทธิ์นั้น
มีค่าประมาณ
15,000,000-16,000,000 สโกวิลล์

ส่วนพริกที่ได้รับการบันทึก
ลงในกินเนสส์บุ๊กว่า
เผ็ดที่สุดในโลกก็คือ
พริกฮาบาเนโร
จากเรด ซาบีนา
วัดค่าได้
ถึง 350,000-577,000 สโกวิลล์เลยทีเดียว




ขอขอบคุณ
ข้อมูลมีประโยชน์นี้
จาก
//women.sanook.com/health/herbal/herbal_52961.php



Create Date : 26 มิถุนายน 2552
Last Update : 26 มิถุนายน 2552 5:36:03 น. 12 comments
Counter : 1782 Pageviews.

 
เปนคนชอบทานเผ็ดมากค่ะ หลัง ๆ อาหารที่เค้าว่าเผ็ดนักเผ็ดหนา แต่ทำทำไมเราถึงไม่รู้สึกเผ็ดกะเค้าเลย - -"

สงสัยจะด้านชา


โดย: peeshin วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:7:46:47 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลคะ


โดย: kobnon วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:10:19:52 น.  

 
ก้าทานพริกมากเกินไป ( adversr effect ) ทำให้เป็นโรคริดสีดวงทวารได้ ...เนาะคุณวีเนาะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:11:08:20 น.  

 
ผมกินเผ็ดชนิดที่ว่า...ข้าว 1 จาน ผมโปรยพริกขี้หนูลงไป 2 กำมือเป็นอย่างน้อย
ทุกช้อนที่ตัก มีพริกประมาณ 4-5 ดอก
เรื่องแสบตรูด ไม่มีครับ (สงสัยชินชาซะแร้วว 555)
จะมีก็อาการแสบท้อง หลังอาหารซักชั่วโมง (เป็นบ้างไม่เป็นบ้าง)
โดนคนทักประจำ ว่าระวังกินพริกมาก ๆ สายตาจะเสีย
ไปถามหมอรักษาตา หมอก็บอกไม่เห็นเกี่ยว
แต่หมอให้ระวังเรื่องโรคกระเพาะมากกว่า


โดย: ซ้าย IP: 118.173.203.45 วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:11:39:36 น.  

 
พริกมีประโยชน์จริงๆ ถุงเองกะชอบทานเผ็ด


โดย: ถุงก๊อปแก๊ป วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:13:32:02 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ที่เป็นประโยชน์
พริกมีประโยชน์มากค่ะ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ทานเผ็ดไม่เก่ง
นี่สิคือปัญหา เลยได้รับประโยชน์น้อยเลย ฮือ ฮือ
ขอไปเสริมตรงอื่นแล้วกันเด้อ


โดย: coffeebake IP: 124.122.213.117 วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:23:06:55 น.  

 
แวะมาทักทายคะ


โดย: kobnon วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:7:48:49 น.  

 
ขอบคุณนะค่ะ


โดย: Macys วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:15:58:05 น.  

 
เป็งเว็บที่น่าสนใจจางเลยน๊า


โดย: ปีโป้ IP: 125.26.110.210 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:14:08 น.  

 
อร่อยจังเผ็ดแต่มีประโยชน์


โดย: เด็กวุุ่นวาย IP: 118.172.43.4 วันที่: 10 ตุลาคม 2553 เวลา:18:38:18 น.  

 
ขอบคุณมากจ้าา สาระดี ๆ แบบนี้


โดย: pup IP: 58.9.122.33 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:3:31:55 น.  

 
ขอบคุณครับ


โดย: abc IP: 124.120.63.170 วันที่: 7 มกราคม 2554 เวลา:6:56:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

โสดในซอย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 61 คน [?]






e-mail ติดต่อโสดในซอย
singleinsoi@hotmail.com






Facebook โสดในซอย
http://www.facebook.com/profile.php?id=100002317657363





“เติมรักให้เต็มรุ้ง”
งานเขียนล่าสุดของ “โสดในซอย”

สั่งซื้อในบล็อก
พร้อมลายเซ็น
ราคารวมค่าส่ง 305 บาท
โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ
หมายเลขบัญชี 020-056941-6
ชื่อบัญชี มนชญา
โปรดโอนให้มีเศษสตางค์
เพื่อง่ายแก่การอ้างอิง
และแจ้งรายละเอียดการโอน
พร้อมทั้งชื่อ-ที่อยู่ที่จะให้จัดส่ง
ที่หลังไมค์ได้เลย
หรือตามร้านหนังสือค่ะ

ขอบคุณค่ะ





ความรักคะ ฉันมีเรื่องจะฟ้อง
ของ "โสดในซอย"
โดย สำนักพิมพ์ 'ษาริน
วางจำหน่ายแล้วตามร้านหนังสือทั่วไปค่ะ
หรือสั่งซื้อในบล็อกได้เช่นกัน
ราคา 220 บาทรวมค่าส่งค่ะ








ขายหรือให้เช่า
ศุภาลัย ปาร์ค ติวานนท์
35 ตร.ม. ใกล้รถไฟฟ้าสถานีกระทรวงสาธารณสุข
ไลน์ aazz999




Friends' blogs
[Add โสดในซอย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.