สาเหตุที่ราคาน้ำมันไทยต้องอิงตลาดสิงคโปร์ สาเหตุที่ราคาน้ำมันไทย ต้องอิงตลาดสิงคโปร์ นายสรัญ รังคสิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงสาเหตุ ที่ราคาขายปลีกน้ำมันของไทย ต้องอิงกับราคาตลาดน้ำมันสิงคโปร์ ว่า การตั้งราคาซื้อขายสินค้าทั่วไป ส่วนใหญ่ มีวิธีการกำหนดราคา 2 ประเภท คือ การตั้งราคาสินค้าจากต้นทุนบวกกำไร (Cost Plus) และ การตั้งราคาสินค้าโดยอ้างอิงตลาดใหญ่ (Reference Price) ที่มีปริมาณการซื้อขายสูง ซึ่งวิธีการหลังนี้จะใช้กับสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน ข้าว น้ำตาล ผัก ผลไม้ ที่มีตลาดกลางมีการซื้อขายกันอย่างเสรี สำหรับการกำหนดราคาน้ำมัน ณ โรงกลั่นของไทย ได้ใช้เกณฑ์อ้างอิงราคาน้ำมันสำเร็จรูป ที่ซื้อขายกันในตลาดโลกที่สิงคโปร์ เหมือนกับการซื้อขายสินค้าอื่น ๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในประเทศไทย เช่น การอ้างอิงราคาซื้อขายดอกไม้ ที่ปากคลองตลาด ราคาผลไม้ ที่ตลาดไท ราคาข้าว ที่ท่าข้าวกำนันทรง “ราคาน้ำมันอ้างอิงที่ตลาดสิงคโปร์ ไม่ใช่ราคา ที่โรงกลั่นในสิงคโปร์ประกาศขึ้นมาเอง แต่เป็นตัวเลขราคา ที่ผู้ค้าน้ำมันจากประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย เข้าไปตกลงซื้อ-ขาย ผ่านตลาดกลางสิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลาง ซื้อขายน้ำมันระหว่างประเทศ ที่สำคัญที่สุด ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกไกล” นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังเป็นที่ตั้ง ของสำนักงานตัวแทนบริษัทน้ำมันรายใหญ่ ทั่วโลก 325 บริษัท มีปริมาณการซื้อขายสูง เช่นเดียวกันกับตลาดในยุโรปและสหรัฐฯ ทำให้ยากต่อการปั่นราคา โดยผู้ซื้อหรือผู้ขาย และราคาที่ตกลง จะสะท้อนจากดีมานด์และซัพพลาย ของน้ำมันในภูมิภาคนี้ อีกทั้งเป็นตลาดการส่งออกน้ำมัน ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และอยู่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุด ทำให้ต้นทุนในการนำเข้า จึงเป็นต้นทุนที่ถูกที่สุด ที่โรงกลั่นไทยต้องแข่งขันด้วย และ ราคายังเปลี่ยนแปลงสอดคล้อง กับตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก หากราคาน้ำมันสำเร็จรูป หน้าโรงกลั่นของไทย ไม่ได้อิงตลาดสิงคโปร์ จะทำให้เกิดความไม่สมดุล ในการผลิตและการจัดหาของประเทศ เพราะหากไทยกำหนดราคาน้ำมันเอง เมื่อใดที่ราคาในประเทศ ต่ำกว่าราคาที่ตลาดสิงคโปร์ จะทำให้โรงกลั่นนำน้ำมันส่งออกไปขาย เพราะจะได้ราคาสูงกว่า อาจทำให้ เกิดการขาดแคลนน้ำมันในประเทศได้ เมื่อใดที่ราคาสิงคโปร์ลดลง จนต่ำกว่าราคาที่โรงกลั่นกำหนด บริษัทน้ำมัน ก็ต้องอยากนำเข้าจากสิงคโปร์ เพราะราคาถูกกว่า ทั้งสองกรณี จะทำให้เกิดการนำเข้า-ส่งออก โดยไม่จำเป็น “การกำหนดราคาน้ำมัน โดยอ้างอิงราคาสิงคโปร์ เป็นวิธีที่เหมาะสมตามกลไกตลาด เป็นวิธีการปฏิบัติสากล ที่ใช้ในการกำหนดราคาน้ำมันทั่วโลก เหมือนตลาดซื้อขายน้ำมันระหว่างประเทศ แหล่งใหญ่ของโลกมี 3 แห่ง ได้แก่ ตลาดนิวยอร์ก (NYMEX) เป็นตลาดกลางซื้อขายน้ำมันในสหรัฐฯ ตลาดลอนดอน (IPE) เป็นตลาดกลางซื้อขายน้ำมันในยุโรป ตลาดสิงคโปร์ (SIMEX) เป็นตลาดกลางซื้อขายน้ำมันในเอเชียแปซิฟิก” อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไทยจะมีโรงกลั่นน้ำมันเป็นของตัวเอง แต่น้ำมันดิบที่ใช้กว่า 90% ของกำลังการกลั่น ต้องนำเข้าจากแหล่งต่าง ๆ ในหลายประเทศ เพื่อให้ได้น้ำมันสำเร็จรูปชนิดต่าง ๆ ได้แก่ ก๊าซหุงต้ม แนฟธา น้ำมันเบนซิน น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา ยางมะตอย ในสัดส่วน ที่สอดคล้องกับความต้องการ ของตลาดในประเทศ และกระบวนการกลั่นน้ำมัน ของโรงกลั่นแต่ละแห่ง จะได้สัดส่วนของน้ำมันสำเร็จรูป ในสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับลักษณะของโรงกลั่น ดังนั้น ผลตอบแทน หรือค่าการกลั่นของโรงกลั่น จึงต้องพิจารณาถัวเฉลี่ย จากทุกผลิตภัณฑ์ “ค่าการกลั่น ก็ไม่ใช่กำไรสุทธิของโรงกลั่น แต่เป็นผลต่าง ของราคาเฉลี่ยน้ำมันสำเร็จรูป ทุกชนิดที่โรงกลั่นผลิตได้ กับราคาเฉลี่ย ของต้นทุนน้ำมันดิบทุกชนิด ที่นำมาใช้กลั่นในแต่ละครั้ง และรวมค่าขนส่ง สูตรการคิดค่าการกลั่น เหมือนกันทั่วโลก ไม่ใช่การนำราคาน้ำมันสำเร็จรูป ชนิดใดชนิดหนึ่ง มาหักด้วยราคาน้ำมันดิบ เพียงชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น และค่าการกลั่นถือเป็นรายได้ ที่ยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายในการลงทุน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเชื้อเพลิง ค่าดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน ค่าการกลั่น ที่คุ้มค่าต่อการลงทุนในปีนี้ อยู่ที่ 8 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล หรือ 1.60 บาท/ลิตร” ดังนั้น ในการดูค่าการกลั่น ต้องดูจากค่าการกลั่นเฉลี่ย ของน้ำมันสำเร็จรูปทุกชนิดที่ผลิตได้ รวมทั้งต้นทุนน้ำมันดิบทุกตัว ที่นำมากลั่นใน 1 งวด และยังต้องดูเป็นช่วงระยะเวลา ที่ยาวพอสมควร เพราะโรงกลั่นเป็นธุรกิจ ที่มีการลงทุนสูง มีการใช้งานนาน ค่าการกลั่นแต่ละเดือน แต่ละผลิตภัณฑ์ ปรับขึ้นลงตลอดเวลา ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก "ไทยรัฐ" คมคิดคมคาย... A still tongue makes a wise head. ลิ้นสงบ สมองฉลาด ไม่ทราบที่มา   Create Date : 24 มิถุนายน 2551 13 comments Last Update : 24 มิถุนายน 2551 12:28:22 น. Counter : 1485 Pageviews. Share Tweet

จ๊ะ เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น ขอบคุณที่นำมาฝาก จ๊ะ   โดย: บ้าได้ถ้วย 24 มิถุนายน 2551 12:38:49 น.

โดย: สันดานเสีย 24 มิถุนายน 2551 12:42:29 น.

แอบแวะมาหาความรู้ครับ   โดย: สอระ (สอระ ) 24 มิถุนายน 2551 12:44:56 น.

ขอบคุณสำหรับความรู้ข่าวสารที่นำมาฝากนะคะ   โดย: เบบูญ่า 24 มิถุนายน 2551 14:24:30 น.

ชอบคำคมจังเลยค่ะ (มาดามว่าบางทีพูดมากก็ไม่มีฟังคนอื่นพูดทำให้โง่ได้เช่นกัน เห็นด้วยอย่างแรง)   โดย: Madame Kp 24 มิถุนายน 2551 15:20:52 น.

สาระมาก ๆค่ะ   โดย: กระปุกกลิ้ง IP: 203.150.232.78 24 มิถุนายน 2551 16:44:33 น.

เป็นความรู้ดีครับ   โดย: I love Thailand 24 มิถุนายน 2551 16:53:49 น.

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ แวะมาเยื่ยมครับ ช่วงนี้ยุ่งๆ เลยไม่ค่อยได้เ้ข้ามา Comment   โดย: M|B 24 มิถุนายน 2551 17:07:18 น.

ปล.แวะมาหาอีกรอบ เสียใจสำหรับพี่เลี่ยนที่ตกรอบไปนะค่ะ คราวนี้มาช่วยเชียร์พี่เปนด้วยคร้า...   โดย: Madame Kp 24 มิถุนายน 2551 17:36:22 น.

น้ำมันผลิตเอง จากแหล่งในประเทศ ทำไมต้องอ้างอิงต่างประเทศ ถ้าบ้านผมเลี้ยงไก่ ทำข้าวมันไก่เอง ทำไมลูกผมต้องซื้อข้าวมันไก่กินจากผมด้วยราคาอ้างอิงร้านข้าวมันไก่ต่างประเทศ ทำไมต้องกลัวลูกผมเอาข้าวมันไก่ไปขายต่างประเทศ เราหากระบวนการขั้นตอนที่ดีกว่านี้ไม่ได้จริงๆหรือ หรือเราต้องมีหน้าที่ยอมรับ ก้มหน้า หมดสิทธิ์ตั้งคำถามใดๆ   โดย: หลับตา IP: 58.64.66.167 24 มิถุนายน 2551 19:25:17 น.

In my opinion น้ำมันเป็นสัญลักษณ์ของทุนนิยม ทุกวันนี้ทุกอย่างจึงไปผูกกับน้ำมันหมด ข้อมูลล่าสุดน้ำมันจะมีใช้อีก ๔๑ ปี แล้วจะทำอย่างไรกัน บ้านเรายิ่งแล้วใหญ่ บริษัทที่จัดการเรื่องน้ำมันเป็นบริษัทเอกชน ซึ่งต้องหาผลกำไร ดังนั้นราคาจะแพงเกินจริงมากมาย ไม่ปฏิเสธครับว่าราคาน้ำมันจะขึ้น แต่ไม่สูงเท่านี้ ถ้าไม่หวังกำไร สังเกตนะครับ บริษัทที่ว่าไม่เคยโฆษณาผลกำไรเลย ทั้งๆ ที่ปีที่แล้วยังมาบอกเรื่องการจัดอันดับอยู่เลย บอกไม่ถูกครับ ออกไปทาง Hopeless ต้องทำใจครับ บ้านนี้เมืองนี้   โดย: คนขับช้า 24 มิถุนายน 2551 23:17:12 น.

คุณวีคะ เคยมีนักวิชาการมาออกรายการทีวี บอกเล่าถึงศักยภาพในการผลิตน้ำมันของประเทศเรา ที่ผลิตได้พอใช้และส่งออกให้ต่างประเทศได้ด้วย แต่ที่น้ำมันแพงก็เพราะ การกำหนดราคาของ"นายทุน" และ"ผู้มีผลประโยชน์ทับซ้อน" เท็จจริงอย่างไรก็ไม่ทราบนะคะ ขอบคุณที่คุณวีนำข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากค่ะ   โดย: รัตตมณี (kulratt ) 24 มิถุนายน 2551 23:26:27 น.

ราคาน้ำมันลดลงได้อีกหลายบาทแต่ปตท.ไม่ยอมลดราคาเพราะเกรงใจผู้ถือหุ้น ที่ส่วนมากเป็นรมต.และนักธุรกิจ ที่เป็นพวกพ้องของ นช.ทักษิณ โคตรโกง เมื่อสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศ   โดย: ชมัยฯ IP: 192.168.100.20, 124.122.155.127 8 มิถุนายน 2552 16:17:54 น.