|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ออกกำลังสมอง ก่อนสมองจะเสื่อม
ออกกำลังสมอง ก่อนสมองจะเสื่อม
สมองก็เหมือนร่างกาย ที่ต้องการการออกกำลัง ให้แข็งแรง คล่องแคล่ว ฉับไว โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะการทำงานของสมองเสื่อมลง จนอาจเกิดภาวะสมองเสื่อม สูญเสียความทรงจำ หรือเกิดโรคอัลไซเมอร์
เมื่ออายุมากขึ้น โอกาสเสี่ยง ของการเกิดภาวะสมองเสื่อม ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การป้องกันที่ดีที่สุด คือการรักษาความดันโลหิต ให้ปกติ อย่าให้มีไขมันในเลือดสูง ออกกำลังสมอง ไม่เครียด และเข้าร่วมสังคม จะช่วยกระตุ้นให้สมองทำงาน ไม่เสื่อมสภาพเร็ว การออกกำลังสมอง หรือ นิวโรบิกส์ เอ็กเซอร์ไซส์ (Neurobics Exercise) เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่จะช่วยได้
ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงนันทิกา ทิวชาชาติ จากภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกเล่าถึงถึงวิธีการออกกำลังสมองว่า การออกกำลังสมอง เปรียบเทียบได้กับการออกกำลังของร่างกาย ที่จะต้องเคลื่อนไหว เพื่อใช้กล้ามเนื้อหลาย ๆ ส่วน ให้ทำงานเชื่อมโยงกัน ส่งผลให้ร่างกายเราแข็งแรงขึ้น
ดังนั้นการออกกำลังสมอง จึงเป็นเสมือนการฝึก ให้สมองส่วนต่าง ๆ มีการทำงานที่ประสานสัมพันธ์กัน ทำให้ระบบการทำงานของสมอง แข็งแรงและมีพลังขึ้น เพราะเมื่อฝึกออกกำลังสมองบ่อย ๆ สมองจะมีการหลั่งสาร ที่เรียกว่า นิวโรโทรฟินส์ (Neurotrophins) ที่เปรียบเหมือน อาหารสมอง ที่ทำให้เซลล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในส่วนของ เดนไดรต์ (Dendrite) ที่เชื่อมระหว่างเซลล์ประสาท ทำงานดีขึ้น จึงเป็นปัจจัย ที่ทำให้เนื้อเซลล์เจริญเติบโต และเซลล์สมองแข็งแรง
เมื่อเซลล์สมองส่วนใหญ่แข็งแรง ก็จะทำให้เกิด พุทธิปัญญา (Cognitive Function) ที่หมายถึงความจำ สมาธิ การรับรู้ ที่ทำให้เกิดพฤติกรรมการแสดงออก รวมไปถึง การทำงานของสมองระดับสูง (Executive Function) คือ การคิด แก้ปัญหา การตัดสินใจ และการวางแผนที่ดีขึ้น ทำให้การทำงานของสมอง ยังคงประสิทธิภาพดี แข็งแรง และชะลอความเสื่อม เรียกง่าย ๆ ว่า สมองฟิต เหมือนการออกกำลัง ให้ร่างกายนั่นแหละ
หลักการของการออกกำลังสมอง เกิดจากการกระตุ้นให้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 (Sensory Organs) อันได้แก่ การได้ยิน ได้มองเห็น การได้กลิ่น การลิ้มรส และการสัมผัส รวมไปถึงส่วนสำคัญส่วนที่ 6 คือ
ส่วนของ อารมณ์ (Emotional Sense) ได้ทำงานเชื่อมโยงกัน โดยใช้กิจกรรมในชีวิตประจำวันเดิม เป็นตัวช่วย เพียงแต่ต้องเปลี่ยนวิธีการไปจากเดิม
ยกตัวอย่างเช่น จากที่เคยชินกับการใช้มือขวา ซึ่งเป็นข้างที่ถนัด หยิบจับทุกอย่าง ก็เปลี่ยนมาใช้มือซ้ายทำแทน เนื่องจากพฤติกรรม และการรับรู้ต่าง ๆ เกิดจากการทำงานประสานกัน ระหว่างสมองซีกซ้ายและขวา ถ้าเราใช้แต่มือข้างขวาทำทุกอย่าง สมองด้านซ้ายซึ่งบังคับมือขวา จะได้รับการกระตุ้นด้านเดียว แต่สมองส่วนขวาซึ่งบังคับมือซ้าย ก็จะไม่ค่อยได้ทำงาน และอาจจะเสื่อมไป ดังนั้นเมื่อเราฝึกทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยมือซ้าย ก็ช่วยให้สมองส่วนขวา ได้รับการกระตุ้นและทำงาน อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นด้วย
ถ้าอยู่บ้าน ลองทำกิจกรรมเหล่านี้ดู
- ปิดตาทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ปิดตาอาบน้ำ ปิดตาดูทีวี เพื่อเปลี่ยนความเคยชิน ในการรับข้อมูล จากประสาทสัมผัสเดิม ๆ เช่น เมื่อเราปิดตาดูทีวี แทนที่จะมองเห็น เราก็จะ ฟัง และกระตุ้นความคิดว่า เรากำลังดูรายการอะไร หรือพิธีกร ซึ่งเป็นเจ้าของเสียงนี้คือใคร
- ปิดไฟในห้อง แล้วใช้มือคลำ เพื่อกระตุ้นประสาทในส่วน สัมผัส เชื่อมโยงกับความจำว่าสวิตซ์ไฟ หรือสิ่งของภายในห้องอยู่ตรงไหน
- สลับกับกิจกรรมที่เคยทำ ตั้งแต่ตื่นนอน จากที่เคยอาบน้ำก่อนกินข้าว ก็เปลี่ยนเป็นกินข้าวก่อนอาบน้ำ (แต่จะแปรงฟันก่อนก็ได้) เนื่องจากสมอง จะใช้พลังในการทำสิ่งใหม่ ๆ มากกว่าตอนที่ทำกิจกรรมเดิม ๆ ซึ่งเคยชิน ระหว่างเดินทางก็ฝึกสมองได้
- หากเปิดแอร์ระหว่างขับรถทุกวัน ก็ลองเปิดกระจกขับรถบ้าง แต่ก็ควรเลือกเส้นทาง ที่มีอากาศบริสุทธิ์หน่อย เพื่อเชื่อมโยงประสาทรับกลิ่น และเสียงภายนอก ให้ทำงานประสานกันมากขึ้น
- หากขับรถไปทำงาน ก็ลองเปลี่ยนเส้นทาง ที่ใช้อยู่เดิมบ้าง อาจเป็นเส้นทางที่ใช้อยู่เดิมบ้าง เส้นทางใหม่ที่ทราบอยู่แล้ว หรือเส้นทางทดลองขับก็ได้ เพราะทั้งวิวทิวทัศน์ กลิ่น และเสียงของเส้นทางใหม่ จะช่วยกระตุ้น ทั้งสมองชั้นนอกและฮิปโปแคมปัส ให้สร้างแผนที่เส้นทางชุดใหม่ ขึ้นในสมอง
- เปลี่ยนวิธีการเดินทาง เช่น จากที่เคยขับรถ ก็อาจนั่งรถเมล์ หรือรถไฟฟ้ามาทำงานแทน ทำงานไปด้วย ฝึกสมองไปด้วยก็ได้
- เปลี่ยนตำแหน่งสิ่งของ บริเวณโต๊ะทำงาน โดยเฉพาะถังขยะ เพราะความเคยชิน ทำให้สมองเราทำงานน้อยลง พิสูจน์ได้จาก เมื่อย้ายตำแหน่งถังขยะ ในช่วงแรก ๆ ก็ยังทิ้งขยะลงที่เดิม ซึ่งไม่ลงถังแล้ว นั่นเป็นเพราะสมองเคยชิน
- พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานใหม่ หรือคนที่ไม่ค่อยคุยด้วย เพื่อเติมข้อมูลใหม่ ๆ ให้กับสมอง ทั้งการจำลักษณะใบหน้า เสียงพูดหรืออุปนิสัยส่วนตัว ของเพื่อนร่วมงานคนนั้น
- ชวนเพื่อนร่วมงานถกเถียง อภิปรายหรือพูดคุย ในประเด็นที่ไม่เคยพูด เพื่อเปิดรับข้อมูลใหม่ ๆ ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์
คมคิดคมคาย...
"คนคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในโลก"
ดร.เทียม โชควัฒนา
Create Date : 22 มิถุนายน 2551 |
|
12 comments |
Last Update : 22 มิถุนายน 2551 20:49:42 น. |
Counter : 1256 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 22 มิถุนายน 2551 21:31:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: ann_269 22 มิถุนายน 2551 22:05:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: รัตตมณี (kulratt ) 22 มิถุนายน 2551 22:21:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: Tangible 22 มิถุนายน 2551 22:24:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลิตช์ (Litchi ) 22 มิถุนายน 2551 23:12:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: เซียวฟง(ผีเฮี้ยน) IP: 203.146.147.24 23 มิถุนายน 2551 8:47:57 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 61 คน [?]
|
e-mail ติดต่อโสดในซอย singleinsoi@hotmail.com
Facebook โสดในซอย http://www.facebook.com/profile.php?id=100002317657363
เติมรักให้เต็มรุ้ง งานเขียนล่าสุดของ โสดในซอย
สั่งซื้อในบล็อก พร้อมลายเซ็น ราคารวมค่าส่ง 305 บาท โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ หมายเลขบัญชี 020-056941-6 ชื่อบัญชี มนชญา โปรดโอนให้มีเศษสตางค์ เพื่อง่ายแก่การอ้างอิง และแจ้งรายละเอียดการโอน พร้อมทั้งชื่อ-ที่อยู่ที่จะให้จัดส่ง ที่หลังไมค์ได้เลย หรือตามร้านหนังสือค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ความรักคะ ฉันมีเรื่องจะฟ้อง ของ "โสดในซอย" โดย สำนักพิมพ์ 'ษาริน วางจำหน่ายแล้วตามร้านหนังสือทั่วไปค่ะ หรือสั่งซื้อในบล็อกได้เช่นกัน ราคา 220 บาทรวมค่าส่งค่ะ
ขายหรือให้เช่า ศุภาลัย ปาร์ค ติวานนท์ 35 ตร.ม. ใกล้รถไฟฟ้าสถานีกระทรวงสาธารณสุข ไลน์ aazz999
|
|
|
|
|
|
|
แย่แล้ว