กุ๊ดจัง
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]




ไม่มีสาระ...จริงๆ นะ..

แต่ถ้าหลวมตัวมาแล้ว จะแอบอ่านก้อไม่ว่ากัน ถ้ารับแนวเถื่อนนิดๆ ถ่อยหน่อยๆ แต่จริงใจได้ ^_^

คิดถึง ถูกใจ ก้อเจิมกันสักนิดนุง แต่ถ้าไม่ถูกใจ มาทางไหนเชิญกลับไปทางนั้น ไม่ต้องเม้นไว้ให้เปลืองมือนะ ฮ่าๆๆ
HighStudio

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
บทความ โดย littlemiumiu.com อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ต้นฉบับ.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ www.littlemiumiu.com.
การอนุญาตนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในสัญญาอนุญาตนี้ อาจมีอยู่ที่ www.littlemiumiu.com
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
17 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กุ๊ดจัง's blog to your web]
Links
 

 
วัยของการเรียนรู้และจินตนาการที่ไม่สิ้นสุดของด.ญ.มิวมิว

เด็กวัยสองขวบกว่าๆ นี่จะว่ามันน่ารักก็ใช่...กวนประสาทก็ใช่อีกนั่นแหละ...เวลาดื้อก็แสบชะมัด...ป่วนไปซะหมด

มุขใหม่ของ ด.ญ. มิวมิวคือ...คุณแม่ อุ้มโหน่ยยย มิวมิวเดินไม่หวายยยย.. คุณแม่ทำให้โหน่ยยย มิวมิวทำไม่เป็นน..มิวมิวไม่มีแรงงง..ไม่ได้ ไม่ได้ ละก็แหกปาก
หลังๆ มานี่ แม่เลียนแบบมั่งดิ ลงไปนั่ง แม่เดินไม่ไหวววววววว แม่ไม่มีแรงงงงง คิดว่าจะได้ผลไม๊ล่ะนั่น
มิวมิวจาช่วยอุ้มคุณแม่....ลุกหน่อยซี่... จิกหัว ลากแขน ล็อคคอ (จะดีหรอฟระ)

ให้เก็บของเล่น ก็บอกว่า แม่เก็บหน่อยยย มิวมิวเก็บไม่หวายยยย...
ให้ช่วยเช็ดขนมที่ทำหก ก็บอกว่า มิวมิวเช็ดไม่เป็นนนน...คุณแม่ทำให้หน่อย มิวมิวทำไม่หวายยย

วีรกรรมล่าสุด แม่พาแวะตลาดแถวบ้าน
ถามมิวมิวว่า..มิวมิว กินโจ๊กใส่ไข่ไม๊...
ม่ายกินน...ไข่มันเน่า
ถามอีกว่า งั้น..มิวมิวกินราดหน้าไม๊
ม่ายกิ๊นนนนน ราดหน้า มันเข้าตา..แฉบตา ตาเจ็บ (จนทุกวันนี้ ถามมันว่า จะกินราดหน้าไม๊..ยังคงไม่กิน...เพราะมันแฉบตา..คิ้วขมวดกลับมาว่า ว่าแม่นี่ ถามไร ไม่รู้เรื่องเร้ยยยย) จะเรื่องมาก แล้วยังสะเหร่ออีก....เด็กอะไร

กินนมก่อนนอน...กินเสร็จบอกให้แปรงฟัน..ไม่ยอมแปรง..ด้วยเหตุผลว่า "แบคทีเรียกลับบ้านไปแย้วววว..." ฮ่วยยยยยย คุณมิวมิววว...

นอกจากนี้ ก่อนจะนอนทุกคืน จะต้องหาเรื่องร้องไห้อยู่เป็นชั่วโมงๆไม่รู้เพราะ over tired หรือไร...แต่จะอ้อน จะนอนจับนม จะให้แม่อุ้ม ทั้งๆที่ก็นอนอยู่ข้างๆกันนี่แหละ แต่จะให้อุ้ม...จะนอนบนตัวแม่ บางที แม่เหนื่อยมากกก ไม่สามารถรับโหลดบนตัวได้อีกแล้ว คุณนายก็จะดิ้นๆๆๆ ไถไปปลายเท้า ร้องไห้เป็นนางเอกรับบทโศก ขอให้แม่อุ้ม....(ก็ดิ้นไปเองงิ)

วิธีแก้ปัญหาตอนนี้คือ...ถ้าร้องไห้ จะจับไปนั่งที่โต๊ะ พร้อมทั้งสาธยายยาวเหยียดว่า ถ้าคิดว่าอยากหยุดร้องเมื่อไหร่ก็เดินมานอนได้ หรืออยากได้อะไร อยากทำอะไรที่ไม่ใช่ร้องไห้ ก็บอกพ่อกับแม่ได้ แต่ถ้าร้องไห้ ให้ไปนั่งที่โต๊ะ เนื่องจากหนวกหูคนอื่น....ที่ตรงนี้สำหรับเด็กที่อยากร้องไห้ แต่ถ้าเด็กที่อยากนอนให้มานอนข้างๆ แม่ได้..

เจ้าตัวก็หยุด เดินโต๋เต๋มานอนข้างๆ...สักพัก จะจับยม แม่ไม่ให้จับ...ก็ร้องไห้เป็นเผาเต่าอีกตามเคย หลังจากร้องจนสะใจแล้ว ก็จะปรับโหมดมาเป็นมิวมิวเด็กดีเหมือนเดิม ให้ตายสิ.....แม่ไม่เข้าใจวัยรุ่นซะจริงๆ


แต่บทจะน่ารัก เค้าก็มีเยอะนะ ด้วยความที่เวลาเราสอนอะไรเค้า เราสอนด้วยเหตุผลเป็นหลัก

มิวมิว เข้าใจ คำว่า "อาจจะ" ในแบบของผู้ใหญ่

บางอย่างเรารู้ว่าลูกคาดหวัง ว่าจะมี หรือจะได้ แต่เราไม่สามารถบังคับสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้เป็นไปได้ดั่งใจซะทุกอย่าง...

เราบอกลูกว่า อาจจะ นะ...มิวมิวอยากเห็นรถไฟ เวลาเราขับรถผ่านทางรถไฟ...บอกลูกว่ารถไฟอาจจะผ่านมา แต่มันอาจจะไม่มาก็ได้นะ ถ้ายังไม่ถึงเวลา เพราะเขาต้องจอดรับผู้โดยสาร(คือ ถ้ามีก็เห็นนั่นแหละ ถ้าไม่มีแม่ก็ไม่รู้จะทำยังไง สั่งรถไฟไม่ได้นี่หว่านะ)
แต่จะไม่บอกลูกว่า..รถไฟยังไม่มาหรอก..ไม่มีหรอกรถไฟตอนนี้ มันทำลายความหวังกันเกินไปหน่อย
บางทีขับผ่านถนนเส้นที่มิวมิวจำได้ ผ่านหลักสี่ แต่เราขึ้นสะพานข้ามวิภาวดี มิวมิวเรียกแม่ แล้วบอกว่า..คุณแม่ คุณแม่..ข้างล่างนี่ อาจจะ มีรถไฟนะ...รถไฟอาจจะผ่านมา..
ใช่แล้ว..แต่เราอยู่บนสะพานไงลูก..เลยมองไม่เห็น ข้างล่างอาจจะมีรถไฟที่หนูชอบก็ได้

ลูกอยากไปเซเว่น...เราบอกลูกว่า เดี๋ยวถ้าผ่าน เราอาจจะแวะได้นะ ถ้ามีเวลา หรือ เราอาจจะผ่านเซเว่น แล้วค่อยแวะนะลูก...เขาก็เข้าใจ ไม่ร้องไห้งอแง..ถ้าขับรถผ่านแล้วเห็นเข้า เราก็อธิบายไปต่อว่า อืมม..เราไม่มีเวลาเหลือแล้ว จะต้องรีบไป แต่เดี๋ยวทำธุระเสร็จเมื่อไหร่ เราค่อยไปซื้อขนมกันนะ มันก็ไม่ได้เป็นการทำลายความหวังกันซะทีเดียว ถ้าเป็นไปได้ ก็พยายามรักษาสัญญากับลูกด้วย

เพราะวัยนี้ขอบอกว่า รู้เรื่องทุกอย่าง!!!!!!!!

เหตุผล เป็นสิ่งสำคัญมากๆๆๆ บ้านเราไม่สอนลูกด้วยเหตุผลผิดๆ เพราะคิดว่าเขายังไม่เข้าใจ...เขาเล็กเกินไป เหตุผลยากๆ ก็อธิบายให้มันฟังแล้วง่ายลงมา ถ้าเขาสงสัย เขาก็จะถาม ถ้ามันยากเกินไปอีก..เขาก็อาจจะเก็บไว้ถามวันหลังอีก เราค่อยหาคำตอบที่มันฟังแล้วง่ายขึ้นมาอธิบาย

ง่ายๆ เลย...แปรงฟัน เด็กๆ ต้องแปรงฟันหลังอาหาร..กินขนมหวานมากๆ แล้วถ้าไม่แปรงฟัน หรือบ้วนปาก จะมีแบคทีเรียมากินเศษขนมในปากมิวมิว...กินเสร็จแบคทีเรียก็จะอึ ฟันมิวมิวโดนอึแบคทีเรีย(ที่เป็นกรด โห..บอกไปมันคงยังไม่รู้จัก) ฟันก็จะผุเป็นจุดดำๆ แล้วจะปวดมาก...ปวดมากๆ แล้วต้องไปหาหมอ (เด็กวัยนี้ เข้าใจอยู่แล้วล่ะว่า ปวดหัว ปวดโน่นนี่ ไม่สบาย ต้องกินยา ต้องหาหมอ) แต่หมอไม่น่ากลัวนะ..อย่าไปสร้างภาพว่าหมอฟันน่ากลัว..หมอจะช่วยรักษาฟันผุ ไม่เจ็บเท่าไหร่..แต่ แม่ไม่มีตังค์ ฮ่า..
(จบด้วยเหตุผลง่ายๆ งี้แหละ เหตุผลอุบาดจัง)

มิวมิวเข้าใจว่ามีผล ที่เกิดมาจากการกระทำ การกระทำมีเหตุให้ต้องทำ
ถ้ามิวมิวทำเลอะเทอะ ทำน้ำหก ถ้าไม่รีบมาก (เช่นหกลงบนพื้นที่เสี่ยงอันตราย หรือกำลังจะรีบไป) มิวมิวจะต้องรับผลของการกระทำนั้น คือ ไปเอาผ้ามาเช็ด (แรกๆ ก็ทำดี หลังๆ มันเริ่ม มิวมิวทำไม่หวายยยยย มิวมิวเช็ดไม่เป็นนน)
น้อยครั้งมาก ถ้าอยู่บ้านแล้วเราจะไปเอาผ้ามาเช็ดให้ เคยตัว เสียนิสัยมากๆเพราะสิ่่งสำคัญคือ ต้องฝึกให้ระมัดระวัง
กินขนมหก หล่น ก็ต้องหยิบไปทิ้ง หลังๆมา ไม่ทิ้ง แล้วเอาเท้าเขี่ยอีกแหนะ..แต่ด้วยอำนาจมืดของแม่ ลูกก็เป็นฝ่ายปราชัย ยอมเอาไปทิ้งแต่โดยดี วัยลองของก็งี้ ต้องเข้าใจเค้าหน่อย

ทำไมแม่ถึงดุ ทำไมแม่ถึงให้ไม่ได้ ทำไมเราถึงต้องรอ ทำไมแม่ถึงตี ทุกอย่างมีสาเหต และแน่นอน สาเหตทั้งหลายพยายามอธิบายให้ลูกฟังอย่างกระจ่าง เพราะถ้ามองดีๆ มันมาจากการที่โลกหมุนรอบตัวแม่ในตอนนี้ แม่มีอำนาจสิทธิ์ขาดทุกอย่าง แต่แม่ก็พยายามให้สิทธิ์มิวมิวเท่าเทียมกันในการตัดสินใจ ไม่ได้บังคับ ขู่เข็ญ อยากลองก็ให้ลอง อยากทำก็ให้ทำ แล้วมาดูกันว่าผลเป็นยังไง ดีก็ชมกันไป ไม่ดีก็บอกก็สอนกันไป

มิวมิวรู้จัก ใกล้ ไกล...เก่า ใหม่ ข้างหน้า ข้างหลัง ข้างบน ข้างล่าง รู้ว่ามีข้างซ้าย กับขวา (แต่แยกยังไม่เป็น) มืด สว่าง ร้อน เย็น หนาว....ทุกสิ่งอย่าง ที่เป็นสิ่งรอบตัว เขาหยิบคำมาใช้ได้ถูก

วันนี้ เราหยิบเสื้อโทมัสออกมา...เป็นตัวแรกที่ซื้อให้จากตลาดนัด เค้าเห็นปุ๊บส่ายหัว..บอก ม่าย..โทมัสตัวนี้เก่าแล้ว..มิวมิวมีอีกตัวแต่ต้องซักก่อน แน่นอนสิ เพิ่งใส่วันนี้เองนี่นา (ตัวที่สอง คือ คุณยายเย็บและปักให้ เจ้าตัวภูมิใจมากๆๆๆ เวลาถามว่า ใครให้เสื้อตัวนี้มิวมิวมา..มิวมิวจะบอกว่า ยายติ๋มทำให้มิวมิว..ยายติ๋มตัดให้มิวมิว)

เราพยายามให้เขาเข้าใจการให้ และรับรู้ถึงคุณค่าของการให้
ของเกือบทุกชิ้น ที่มีคนให้มา...เราจะบอกเขาว่า ใครให้มา ถามบ้างไรบ้าง บอกว่าเขาต้องรักษาและใช้ให้ดี

กระเป๋าอันนี้ ป้าแจงให้มิวมิวมานะ...มิวมิวชอบไม๊...แล้วมิวมิวขอบคุณป้าแจงด้วยใช่ป่าว...
ชุดนอนอันนี้ น้องพราวให้มิวมิวมานะ...มิวมิวชอบไม๊...
เสื้ออันนี้มี๊จีนกับจิระ ซื้อให้มิวมิวล่ะ...สวยไม๊...

บางครั้งเวลาหยิบของชิ้นใดชิ้นนึงมา...เค้าก็รำลึกถึงคนให้ มันก็น่ารักดี
มิวมิวใส่ชุดนอนอันนี้..ชี้ๆพุงตัวเอง แล้วบอกว่า น้องพราวให้มิวมิวมา..น้องพราวรักมิวมิว...

บอกได้เลยว่า ถึง ณ บัดนาว ถ้าไม่ใช่ของเล่นสำเพ็งกะโหลกกะลา(คือแมร่งแค่แกะออกมา มันก็หลุดกระเด็นไปแล้วนับประสาไรกับน้ำมือเด็กเล่นอะ)...ไม่ใช่หนังสือที่มิวมิวอ่านไปอมไปฉีกไปตอนเป็นเบบี้...แทบจะไม่มีของชิ้นไหน หาย หรือพัง.... พยายามรักษาไว้อย่างดี ให้ครบทุกชิ้นส่วน ถ้าอันไหนเล่นไม่เป็น เล่นไม่เก็บ แม่เก็บ..ซ่อน...

บอกลูกว่า ถ้าหนูเล่นแบบนี้ ไม่ยอมเก็บ แสดงว่าไม่รักของเล่น ยังเล่นไม่เป็น ก็ไม่ต้องเล่น แม่เก็บ (จิงๆเอาไปซ่อน ทำโทษๆๆๆๆ)

บางอย่างเด็กควรจะ ขออนุญาต หรือถามก่อนเล่น ถ้าเป็นไปได้
มิวมิวจะถามว่า "เล่นอันนี้ได้ไม๊ อันนี้เล่นได้ไม๊" ถ้าไม่ได้ แม่ก็จะบอกเหตุผล แล้วมิวมิวก็จะเข้าใจ หรือบางทีถามเองตอบเองก็มี "อันนี้ยังเล่นไม่ได้ มิวมิวต้องกินข้าวให้หมดก่อนถึงจะเล่นได้..ใช่ไม๊"
(อ้าวว ก็รู้นี่หว่า..แม๊...แล้วทำไมไม่กินล่ะฟระ)

ของเล่นที่ต้องการสาระ ทุกครั้ง เราจะเล่นกับลูก ไม่ปล่อยให้หยิบมาเล่นเองโดยไม่จำเป็น (ยกเว้นจะก้มหน้าก้มตาทำงานแล้วหันไปอีกทีระเบิดลงนั่นแหละ) ให้เขารอ...ฟัง ดู วิธีการเล่นที่ถูกต้อง ถ้าเขาเล่นแบบที่ถูกต้องไม่ได้ เราบอกว่า..มิวมิวยังเล็กเกินไป เลยยังเล่นอันนี้ไม่เป็น แม่ต้องเก็บก่อน มันจะได้ไม่หาย ไม่พัง ถ้ามิวมิวเล่นถูกวิธี แม่ก็จะไม่เก็บ เพราะแสดงว่ามิวมิวเล่นเป็นแล้ว (ของบางอย่างเอามา introduceให้ลูกเกินวัยไปหน่อย ก็งี้)
บางทีก็คิดว่า เป็นการปิดกั้นจินตการในการเล่นหรือเปล่า...เพราะของเล่นมันไม่จำเป็นต้องเล่นแบบนี้แบบนั้น

แต่....สำหรับของเล่นที่ต้องการสาระ..แบบฝึกหัด เชาวน์ต่างๆ เราอยากให้เขาเล่นจริงจัง ตามวัตถุประสงค์ของมัน แต่พอหมดเวลาสาระแล้ว ถ้าเขาอยากเอามาเล่นพิเรน เราก็ยอมให้ได้....เล่นไป อยากจะเอาไปเล่นยังไงก็ตามใจ แต่ต้องรักษาของ ไม่ใช่เอาไปเหวี่ยง ขว้าง กระจุยกระจาย..แบบนั้นไม่เรียกว่าเล่น เรียกว่าทำลาย!!

เด็กๆวัยนี้ เวลาเค้าเล่น ใช้จินตนาการถ้าแอบๆ ดู แอบฟัง จะตลก และเพลินดีชะมัด เล่นขายของบ้าง ทำกับข้าวบ้าง

เดินมา คุณแม่..มิวมิวเอาต้นไม้มาฝาก แล้วมายัดใส่พุงเรา (ที่วอลอีเอาต้นไม้มาให้อีฟน่ะ เพิ่งจะเก็ทเมื่อไม่กี่วันนี้แหละ) เวลาต่อบล็อคเล่นโน่นนี่ ก็จะมีอะไรประหลาดๆ มาให้ดูอยู่เสมอ เพราะ มันเลียนแบบผู้ใหญ่ชัดๆ ทุกเม็ด ทุกคำพูด คำยากๆ ประโยคซับซ้อน มีหมด


มิวมิวรู้จัก คำว่า สัญญา
ของบางอย่างให้ไปเฉยๆ ง่ายๆ ก็ไม่มีความหมาย....บางทีเราก็บอกมิวมิวว่า...แม่ให้แล้ว หนูสัญญาได้ไหม ว่าจะไม่ดื้อ ไม่ซน สัญญา คือการที่เรารับปากกับใครไว้ แล้วเราต้องทำให้ได้นะ
เด็กๆ ไม่รู้หรอก...ก็พูดตามไป
เอาเข้าจริงๆ เวลางอแง....มิวมิวจำได้ไม๊ ว่ามิวมิวสัญญากับแม่ไว้ ว่าจะไม่ดื้อไม่ซน ไม่ใช่หรอออ...

บางทีอารมณ์ดีๆ ออดอ้อน ด.ญ มิวมิว ก็จะยิ้มฟันสวยเข้ามา...แม่จ๋า แม่จ๋า..มิวมิวฉันยาว่าจะไม่ดื้อไม่ซน ไม่ร้องไห้ ไม่งอแง จะเก็บของเย่นนน....มิวมิวเล่นอันนี้ได้ไม๊..

สุดท้ายของความดีที่จะสาธยายวันนี้ มิวมิวรู้จักคำว่า อดทน

เด็กน้อยอาจจะไม่รู้ว่าอดทน ที่แท้จริงๆแล้วมันคืออะไร
แต่เวลาหกล้ม แม่ถามว่า เจ็บไม๊ อดทนได้ไม๊
เวลาหิวน้ำ บางทีแม่ถามว่า อดทนได้ไม๊ หรือว่าอยากจะกินเลย รอหน่อยได้ไม๊ แม่ทำธุระอยู่
หลายๆสถาณการณ์ผ่านไป มิวมิวตอบได้ว่า มิวมิวอดทนได้...
ไม่ร้องไห้งอแง...

ฟังแล้วก็น่าชื่นจายยยย...

มิวมิว

เราก็ไม่ใช่แม่ดีเด่นอะไร..มีปริ๊ดแตกบ้าง แว๊ดๆ ใส่ลูกบ้าง..แต่เฮ้ย..ลูกมันก็พยายามเข้าใจเราบ้างเหมือนกัน(ในวันที่รมณ์ดีๆ) คุณแม่เหนื่อยไม๊ คุณแม่เจ็บไม๊..ต้องเป่าไม๊ ปวดหัวหรอ..หาหมอไม๊ กินยาไม๊ บอกให้ทำไรก็ทำ เก็บไรก็ช่วยเก็บแต่โดยดี ยกเว้นนนน จะเป็นคราวทดสอบพลังในด้านมืดของกันและกันนี่แหละ ถึงจะเปิดศึกกันบ้าง แต่นะ..แม่ก็เป็นผู้ชนะซะส่วนมาก เพราะ ถ้าไม่มีเหตุผล หรืองอแงเพื่อจะเอาชนะ มิวมิวไม่มีทางชนะแม่ได้ล่ะ ว่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ....ร้องไห้กันบ้านแตกดังไปถึงสามแยกปากซอย ลงไปดิ้นกะแด่วๆ นอนกระซิกๆ น้ำตาท่วมหมอน จวบจน ยกมือไหว้ขอโทษแล้วบอกว่าตัวเองทำอะไรผิดนั่นแหละ ถึงจะพักรบกัน

ถ้ายอมอ่อนข้อให้..บางทีมันก็รู้สึกเหมือนว่า ต่อรองได้
บางที เราก็ทำให้ลูกรู้สึกผิดมากเกินไป ในความผิดนั้นๆ (อันนี้จากความเห็นพี่ป้อม) ก็พยายามจะปรับปรุง ใจเย็นนนนนนๆ..กดดันลูกน้อยลง self esteem คนเรามันก็เป็นสิ่งสำคัญ
แต่หลักๆ คือ ทิฐิ นี่แหละ ที่เราอยากให้ลูกลดลง(2 ขวบกว่าๆนี่แหละตัวดีนัก แพ้ไม่เป็น ยอมไม่ได้ แบ่งไม่ได้ นี่ก็ของฉัน นั่นก็ของฉัน แม่ต้องทำให้ฉัน พ่อต้องยอมให้ฉัน) และตัวเราเองก็ต้องลดลงด้วยเช่นกัน บางอย่างรอได้ก็รอ ชีลๆ กันไป บางอย่าง รอไม่ได้ ก็พยายามเย็นไว้โยมมมมมมมม....

ไม่สร้างภาพ ไม่ก้าวร้าว ไม่ยึดติด รู้จักอดทนอดกลั้น ในสิ่งที่มันควร ปล่อยวางในสิ่งที่ควรปล่อย ทำให้ได้จริงๆ อย่างที่พูด อย่างที่เขียน แล้วชีวีจะมีสุขมากๆ (ทำได้ไม่ได้ ก็ไม่เดือดร้อนใครอยู่แล้ว อยู่ที่ตัวเองน่ะแหละ)
คนเป็นแม่ ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ และสอนลูกได้...ไม่เชื่อดูห้องแม่ลูกเดะ...ทะเลาะกันเป็นบ้าเป็นหลัง อ่านแล้วเอริ่มมมม.....

การกระทำเป็นผลมาจากความคิด
บางทีคิดได้ แต่ทำไม่ได้ หรือคิดได้แต่ไม่ต้องแสดงออกมาหรอกวุ้ย ถ้าไม่จำเป็น คนสมัยนี้ คิดอะไรต้องรีบแสดงออกมาให้เห็นว่าฉันนี้แน่ แม้แต่คนที่เอาธรรมมะมาข่มสอนชาวบ้าน...ยังตายเพราะปาก จะลูกน่ารักแค่ไหน ปากหวานแค่ไหน แฟนขับเยอะแค่ไหน..ถ้าโทสะเข้ามาครอบงำจิตใจเมื่อไหร่...เสียหมากันหมด

อ้าว ไหนว่าจะไม่วิจารณ์แล้วไงตรู..จบไม่สวยเลยวันนี้...5555555555


เพิ่มเติมให้มี๊เอ...มิวมิว on air หัวใจไกลกัน

เรายังไม่กล้าดูตัวเองเลยอะ..ฮ่าๆๆๆ


Create Date : 17 มีนาคม 2553
Last Update : 18 มีนาคม 2553 14:08:05 น. 14 comments
Counter : 1430 Pageviews.

 
กรี๊ซซซซซซซซซซซซซซววว ได้เจิมบ้านมิวมิวด้วยอ่ะ....


โดย: บ้านสามออ วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:8:16:21 น.  

 
ขอบอกว่า มี๊เกด เป็นคุณแม่ที่ดี คนหนึ่งเลยทีเดียว...

เก็บรายละเอียด ลูกได้ทุกเม็ด เลยนะนั่น...

มีทั้งวิชาการ และ ตลก ไปด้วยคราวเดียวกัน..

ขอแนะนำว่าน่าจะไปเปิด รร.อนุบาล นะเนี่ย...

กรี๊ซซซ ตอนจบมีแอบเหวี่ยงได้อีก 555


โดย: บ้านสามออ วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:8:18:51 น.  

 
^
^
เค้าเห็นด้วยเลย ถ้ามี้เกดเปิดโรงเรียนอนุบาลนะ จะพาแวววาวไปสมัครเป็นคนแรกเลยอะ

สุดยอด!!


โดย: PORBUA วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:9:18:24 น.  

 
หุหุ มิวมิวโดน Time Outซะแล้ว ว่าแต่วิธีนี้ก็ได้ผลนะคะ กิ่งยังอ่านไม่จบเลย เดี๋ยวมาอ่านต่อนะคะมิวมิว


โดย: OneDeeK วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:9:48:10 น.  

 
เข้ามาอีกรอบ พึ่งนึกขึ้นได้ ลืมดูเลยอ่ะ เขียนไว้ที่ ปฏิทิน ว่าวันที่ 15 5.30 pm จะดูมิวมิว ลืมเลยอ่ะ

ว่าแต่มี๊เกด มีอัดไว้ป่าว เอามาให้ดูมั่งดิ...


โดย: บ้านสามออ วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:9:56:54 น.  

 
อ่านเรื่องมี๊เกด ได้ทั้งสาระข้อคิด ได้ทั้งความตลกด้วย
ขำมุข ราดหน้า ของมิวมิวจัง คิดไปได้


โดย: Pibhu วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:10:06:35 น.  

 
มาชื่นชมความน่ารักและจินตการของมิวมิวค่ะ
และมาเก็บรายละเอียดและแนวคิดดีๆ เอาไว้ไปสอนลูกค่ะ


โดย: น้องหมีพิมพ์ วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:10:15:23 น.  

 
อายุเท่าๆกัน แต่ลูกเรายังไม่ไปถึงไหนเลยอ่ะ


โดย: เกด IP: 218.186.199.109, 218.186.10.233 วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:12:02:43 น.  

 
ชอบบล็อกนี้จังเลยค่ะ

จะลองเอา "อาจจะ" มาใช้กับนูฮาบ้างดีกว่า



โดย: ญา(แม่นูฮา) (~sinur_ya~ ) วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:17:24:36 น.  

 
thank you ไม่รู้นึกงัยเข้ามาเที่ยวหาอีกรอบ เลยได้ดู แล้ว มี๊เกด เสียงเพราะนะ...

เสื้อผ้า หน้าผม โอเคเรยอ่ะ..

พูดดี มีสาระ น่ารักกันทั้งบ้านเลย ป๊าเชี่ยวดูหล่อนะวันนี้...

ส่วนมิวมิว she ลัลล้าตลอดเวลา เนอะมี๊เกด เป็นทำมะชาดดีว่ามั้ย...


โดย: บ้านสามออ IP: 118.172.197.110 วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:12:44:55 น.  

 
ชั้นชอบเอนทรี่นี้ว่ะ แล้วก็ชอบมิวมิวด้วย ^0^


โดย: ไผ่ไร้กอ IP: 203.144.144.165 วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:10:06:42 น.  

 
วันนี้พิมพ์ยาวเลย ชอบค่ะ ได้สาระดี ติดตามอ่านทุกเรื่องของมิว มิว เลย สาวน้อยจะไปโรงเรียนแล้ว ปีนี้จะไปงานหนังสือหรือเปล่าค่ะ


โดย: แม่น้องน้ำ IP: 58.9.113.233 วันที่: 26 มีนาคม 2553 เวลา:17:37:05 น.  

 
สอนลุกเก่งมากเลยอ้ะค่ะ จะเอาไปใช้มั่ง ที่บ้านคุณยายพูดเก่งนะ แต่ชอบอยากสอนภาอังกิดอ้ะ ทั้งๆที่เราอยากให้เค้าพูดไทยได้เยอะก่อน ไอ้เราก็คนพูดน้อย ไม่รู้จะสอนไรลุกไม่กล้าพูดมาก กลัวยายอ้ะ เวลาสอนลุกเหมือนต้องแอบๆไปสอน แล้วเมื่อไหร่ลูกจะพูดได้เยอะๆล่ะเนี่ย


โดย: รันโกะจัง^_^ IP: 124.122.136.83 วันที่: 26 มีนาคม 2553 เวลา:22:00:31 น.  

 
อ่านยาวเลยค่ะ แต่ได้พัฒนาการตามน้องมิวมิวไปด้วย น้องมิวมิว ตัดผมได้เกาหลีมาก


โดย: PooH (ladiesorange ) วันที่: 3 เมษายน 2553 เวลา:22:41:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.