Memory Linking and Power of suggestion - Shichida method
สาระล้นทะลักบล็อค..อัพมันวันละ 3 เอ็นทรี่ ฮ่าๆๆ
เขียนเอง ไว้อ่านเอง.....
เพิ่งรู้ว่า..ชิจิดะ โซป็อปปูล่ามากกกกกกกกกกกกกกในประเทศอื่นๆ แต่ เมืองไทยนี่แพงกระชากใส้เลย...
อยากจะพาลูกไปเรียน แต่คงหมดตรูดเสียก่อน..ยิ่งอ่านๆๆ ก็ยิ่งน่าสนใจ
วันนี้...จะมาเลคเชอร์ย่อๆ เกี่ยวกับ Linking Memory เท่าที่อ่านเจอมา (ไม่ได้คิดเองนะ วิธีนี้..แต่สรุปเอาจากที่อ่านเว็บบอร์ดแม่ๆ สิงคโปร์ และเข้าใจเอาเองว่าน่าจะเป็นแนวๆนี้ ถ้าใครได้ไปลองเรียน หรือรู้ทฤษฎี วิธีการที่ถูกต้อง รบกวนช่วยบอกด้วยเด้อค่ะ)
เพื่อเป็นการต่อยอด Flash card ที่สอนลูกอยู่ และคิดเอาเองว่าโตขึ้นเค้าจะสามารถนำไปใช้กับ mind map ได้อย่างแน่แท้..เพราะวิธีการก็คล้ายๆหลักการจำของโทนี่ บูซาน เจ้าของทฤษฎีไมน์แมพ
Linking Memory คือ การฝึกจำลำดับภาพ โดยใช้เรื่องราวเป็นตัวช่วยเชื่อมโยง เพื่อเป็นการฝึกฝนทักษะการจำ
แทนที่จะแฟลช รูปภาพและสอนคำศัพท์เฉยๆ เราจะใช้วิธี เล่าเป็นเรื่องราวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างรูปภาพแต่ละรูป
เริ่มจาก 5 รูป ค่อยๆเพิ่มปริมาณไปเรื่อยๆ เช่น... เรามีการ์ด รูป รถ แมว นม เครื่องบิน โทรศัพท์
รถ(โชว์การ์ดรูปรถ) วิ่งมาเร็วปรื๋อออ เบรคไม่ทัน ชนแมว(โชว์การ์ดรูปแมว) แมวหมดแรง โซเซหลงทา งไปกินนม(โชว์การ์ดรูปนม) บนเครื่องบิน(โชว์การ์ดรูปเครื่องบิน) จากนั้นก็โทรศัพท์(โชว์การ์ดรูปโทรศัพท์) ไปฟ้องแม่
(คิดเรื่องที่มันคริเอทกว่านี้คงจะดี ตอนนี้ง่วง คิดไม่ออก เอาตามนี้ล่ะ)
เด็กๆ จะสามารถลิงค์เรื่องราว เข้ากับลำดับของรูปภาพ เมื่อเค้าสามารถจำลำดับได้แล้ว ก็ค่อยๆเพิ่มรูปภาพและเรื่องราวเข้าไป จนถึง 100 ภาพ....ได้มากขนาดนั้นเลย
อาจจะลองถามว่า...รูปภาพอันไหนมาก่อน อันไหนหลัง ถ้าตอบได้ถือว่าผ่าน เค้าสามารถลิงค์รูปภาพและเรื่องราวเข้าด้วยกันได้ เป็นต้น
จริงๆถ้าไม่ซีเรียสมาก ก็ถือซะว่าเอามันส์ เป็นการเล่านิทานให้ลูกฟังไปในตัว เพิ่มทักษะทางด้านภาษาและจินตนาการ
ส่วน Photo memory นั้น เป็นการ train observation power ทำโดย การโชว์รูปให้ดู 1-2 วินาที สมองเด็กจะบันทึกภาพไว้เหมือนกล้องถ่ายรูป จากนั้น ให้นำรูปอื่นๆ ที่เหมือนกัน แต่สีอาจจะแตกต่างกัน หรือ position ต่างกัน แล้วถามเด็กๆว่า..คืออันไหน...อาจจะเป็นการวางบล็อค แดง-น้ำเงิน-แดง จากนั้น....เราลองวางบล็อคให้เค้าดูหลายๆแบบถามว่าแบบไหนที่ได้เห็นไปเมื่อกี้ น่าจะเหมาะกับเด็กโตหน่อย
นอกจากนี้ ยังมีแบบทดสอบ หรือวิธีการเทรนเมมโมรี่ ขั้น advance อีกหลายวิธี หลายสำนัก คงต้องค่อยๆ เริ่มศึกษาไป
อีกอันที่น่าสนใจ คือ Power of suggestion
ด้วยความเชื่อที่ว่า ร่างกายเรานั้น ในช่วงที่กำลังเริ่มต้นหลับ สมองยังคงทำงาน active อยู่ บางทฤษฎีก็ว่า unsconcious mind is 30,000 more powerful than conscious mind เชียวนะ....
วิธีการคือ
หลังจากลูกหลับไปแล้ว ให้ลูบหัวเค้า แล้วพูดกะเค้าในสิ่งที่เราอยากให้เค้าเป็น เช่น เป็นคนดีนะลูก หลับให้สบาย ตื่นเช้ามาจะได้สดใส สุขภาพแข็งแรง อะไรก็ว่าไป เค้าว่าทำสัก 30 นาที
หลายคนทำแล้วเห็นผล... จากเด็กที่ตื่นกลางดึกบ่อยๆ สามารถหลับยาวได้ จากเด็กที่ไม่สบายบ่อยๆ ตื่นเช้ามาสดใสเหมือนไม่ได้ป่วย..
ถือซะว่าเป็นเรื่องทางใจ ไม่มีไรเสียหาย...ปรกติก็น่าจะทำกันอยู่แล้วชิมิ....เอาทฤษฎีมาช่วยซัพพอร์ด จะได้ดูขลังดี....ฮิฮิฮิ
Create Date : 16 เมษายน 2552 |
Last Update : 16 เมษายน 2552 3:47:42 น. |
|
13 comments
|
Counter : 2554 Pageviews. |
 |
|
|
เพราะเวลามังกรหลับ อุ้มชอบลูบหัวแล้วบอกว่า
"ทำไมซนอย่างงี้หือ กว่าจะหลับได้นี่ยากเย็นจังเลยนะลูก"555
นี่ก็เพิ่งหลับ เช้าพอดี-*- อยากจะบ้าตาย
flash cardที่พี่บอก ว่าจะลองทำดู แต่อุ้มก็นะ
เป็นพวก "ฮึดเป็นพักๆ"ส่วนมากจะพักมากกว่าฮึดซะด้วย- -'
ข้อมูลแน่นมากๆ ขอก๊อปไปทำบ้างเน้อ