มิวมิว กับบล็อคหมีหมี
ชะแว๊บ..แอบสปอย เบื้องหลังการถ่ายทำเมื่อวานมาให้ดู
แย่ๆ มีลูกแล้วนั่งหลังค่อมเป็นกิจวัตร ใครเป็นบ้างยกมือขึ้น ตั้งแต่ให้นม จนมาถึง ณ บัดนาว หลังเดี้ยงไปเลย
นางแบบครึ่งท่อน

กิจกรรมวันอาทิตย์ คือ มีนัดสัมภาษณ์บล็อคหมี แม่หมี สำหรับบ้านเรา นัดตอนบ่ายโมงครึ่ง เลยกะว่าไปถึงเที่ยงๆ หาข้าวกินก่อน แล้วค่อยขึ้นไป
ระหว่างทาง ลงทางด่วนเพลินจิตปุ๊บ มิวมิวถามเราว่า คุณแม่ คุณแม่ เดี๋ยวจะเห็น KoKo ใช่ไม๊ KoKo อยู่ตรงนี้ใช่ไม๊ (หมายถึงเครื่องเล่นใน Singha World Carnival สุดโปรดที่เจ้าตัวร่ำร้องขอไปเล่นอีกทุกวัน หยิบภาพถ่ายมา เดินอวดชาวบ้านไปทั่ว "มิวมิวอยากไปขึ้นโคโค่อีก..มิวมิวม่ายมีตังค์" (ทำท่าควักเงินออกมาจากกระเป๋าแล้วโบเบ๋ๆ แถมเดินไปขอตังค์ยายอีก ฮ่าๆ) ข้อสันนิษฐานตั้งแต่เด็กๆว่ามิวมิวจำทางได้ อันนี้ ชัวร์เลย มันจำได้จิงๆ อะ ประมาณว่าแยกไฟแดงหน้าจะเห็น KoKo เจ้าตัวก็ยิ่งกระตือรือล้นเข้าไปใหญ่ น่าเสียดาย ที่แม่หมดตรูดซะแล้ว รถไฟรอบละ 50 บาท ไหนจะค่าเข้าอีกคนละ 50 ไว้วันหลังค่อยพาไปที่อื่น ไม่รู้ห้างไหนมีแบบนี้ ช่วยกระซิบบอกด้วยน๊า
พอไปถึงเซ็นทรัลเวริล ร้านที่อยากกิน ทั้งฮิโรกุ ทั้งอุตะอันด้ง รอคิว เต็มๆๆ ต้องรออย่างนานอะ เลยอด เศร้าเรย ต้องไปกิน S&P กันคนละจาน เพื่อความว่องไว ปรกตินั่งร้านอาหาร จะเจอแต่ร้านหนาวๆ แต่ เอสแอนด์พีสาขานี้ ร้อนจนหายใจไม่ออก โฮกกกกก
ตั้งหน้าตั้งตากิน ใช้ช้อนส้อมเริ่มเก่งแล้ว ไม่มีหก ใครที่ยังประเคนป้อนข้าวลูกอยู่ ก็เลิกๆ ลดๆ ได้แล้วนะ เด็กสองขวบกว่า กินข้าวเองได้แล้ว ไม่งั้นไปโรงเรียนกินไม่ทันเพื่อนนะเออ...

จากนั้น ก็ตรงดิ่งไปสถานที่นัดหมาย ลงชื่อรายงานตัว จากนั้น เข้าไปรอในห้อง พร้อมของที่ระลึก อาหารว่าง อิ่มหมีพีมัน... เจอครอบครัวหน้าคุ้นๆ หลายบ้าน...มีบ้านน้องปันปันทักบ้านเราด้วยแต่ กว่าจะนึกออก ก็นะ...แหะๆๆๆๆๆๆๆๆ (อายตัวเองเล็กน้อย)

มิวมิวพรีเซนเต้อชั้นเยี่ยม เห็นปุ๊บ คุณแม่..มิวมิวจะกินนมหมีอันนี้...พยายามไปรื้อหิ้ง เขย่ากล่องใหญ่ เจอแต่กล่องเปล่า ฮ่าๆ

ระหว่างรอแม่..มิวมิวก็นั่งดู "รถไฟไฟฟ้า" ดี๊ด๊าไป ยังดีที่วันนี้เชี่ยวว่าง ทีแรกทำท่าจะไม่ว่าง ถ้าไปกันสองคนเราต้องหอบมิวมิวเข้าไปสัมภาษณ์ด้วยเพราะคงไม่ทิ้งไว้ด้านนอกแน่ๆ มันส์เลยล่ะทีนี้

สนุกๆ ขำๆ น่ะ ได้ไม่ได้ ไม่เป็นไร คำถามเบสิก ที่ถามง่ายตอบยาก ถ้าจะตอบกันจริงๆ ก็สามวันไม่จบ ฮ่า....

แนวคิดในการเลี้ยงลูกที่ตอนนี้ เปลี่ยนไป...มันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามประสบการณ์ที่เราได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกับลูก แรกๆ เราอาจจะค้นคว้าหาแนวทาง สะเปะสะปะ ไปทางโน้นบ้าง ทางนี้บ้าง สุดท้ายแล้วเมื่อเรารู้จักลูกตัวเองดีพอในระดับนึง ก็จะรู้ว่า ควรจะไปทางไหนดี หนังสือ คำแนะนำต่างๆ ไม่ใช่สิ่งสำเร็จรูปที่แม่คนไหนก็สามารถหยิบไปใช้ได้เลย
สุดท้ายแล้ว เราปล่อยลูกไปตามธรรมชาติ แต่ธรรมชาติในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่า เราปล่อยปะละเลย แต่ก่อน เราสอนกระดานร้อยช่องให้ลูก แต่ลูกเราไม่ชอบ..เราปล่อย เพราะเชื่อว่ามีหนทางอื่นอีก..เชื่อว่าถ้าเค้าโตอีกหน่อย จำเป็นต้องใช้ สอนตอนโตอีกหน่อยก็ได้ ง่ายกว่าด้วย อย่างน้อย อันนี้ก็เป็นเครื่องมือที่เราได้ศึกษาเก็บเอาไว้ในคลังความรู้ แฟลชการ์ด แต่ก่อน มิวมิวก็ชอบ ตอนนี้ เล่นบ้างไม่เล่นบ้าง ก็ไม่เป็นไร เบบี้ไซน์ ช่วงแรกมีประโยชน์มากๆ แต่ตอนนี้ ลดน้อยลง เหลือบางไซน์ที่แม่คิดว่า ทำไว้ก็ดีน่ารักดี เช่น please sorry และอื่นๆ ที่เค้าชอบทำ บางทีก็ชวนทบทวนไซน์เก่าๆ สนุกๆ เป็นเพลง ทำท่าทำทาง ไม่ซีเรียส อย่างที่พี่ป้อมเคยตอบกระทู้เก่าๆ ไว้ว่า คนเรา พอเดินได้แล้วจะคลานทำไม เออ จิง พูดได้แล้วจะทำไซน์ทำไมล่ะ...ยกเว้นเสียแต่ว่าจะต่อยอดภาษาอื่นๆ หรือเพื่อความสนุก เพื่อความอยากรู้จริงๆ
ของเล่นมิวมิว ตอนนี้ มีหนังสือ มีเลโก้ มีจิ๊กซอว์ และของเล่นประเภทที่ต้องใช้แรงงาน ใช้หัวคิด ใช้จินตนาการ ถึงจะได้มาซึ่งของเล่น อันไหนทุ่นแรงซื้อได้ก็ซื้อ อันไหนทำได้ ก็ทำ
ทีวี เราไม่ได้ห้ามลูกดูนะ การ์ตูนนี่ก็เปิดให้ดู หนัง หรือบางทีสารคดี มิวมิวก็ชอบดู มองในแง่ดี เราเห็นพัฒนาการ สิ่งที่เค้าได้เรียนรู้ ตราบใดที่ไม่ใช่การเปิดทีวีแล้วทิ้งลูกไว้หน้าทีวีทั้งวันนั่นแหละ
วันก่อนดูสารคดี เรื่องฉลาม...การสะกดจิตฉลาม มิวมิวก็นั่งดู สนใจมาก...และเอามาพูดต่อๆ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่หน้าทีวีแล้ว "ฉลามกินอาหาร ฉลามกินปลา ฉลามว่ายอยู่ในน้ำทะเล ฉลามดุ ฉลามไม่ดุ ในนี้ไม่มีฉลาม"
ไม่ว่าจะรถไฟ หรือจะวอลอี หรืออื่นๆ ที่ให้เค้าดู มันมีผลกับจินตนาการ ช่วยเปิดไอเดียให้ลูกเรามากขึ้น วันก่อน อยู่บนรถแทกซี่ พร้อมกระเป๋ากล้อง

เรามองว่า นี่ก็แค่กระเป๋ากล้องเหลี่ยมๆ มิวมิวหันมาบอกว่า คุณแม่ คุณแม่...มิวมิวเป็นวอลอี แล้วก็ทำท่าเบ่งพลัง อัดขยะเข้าไปในพุง แล้วขยะกลิ้งออกมาเป็นก้อนสีเหลี่ยมๆ (กระเป๋ากล้อง) ละมันก็ทำมือเป็นวอลอี..ยกกระเป๋า ไปตั้งไว้หลังรถ นี่..วอลอีสร้างกำแพง ฮามาก....
หรือบางที..แม้แต่มือเปล่า ไม่มีอะไรเลย...เราบอกมิวมิวว่า..นี่ มิวมิว..แม่จะเป่าลูกโป่งให้ มิวมิวจะเอาสีอะไร มิวมิวก็ทำท่าคิดๆ แล้วเลือกลูกโป่งจากอากาศ พอมิวมิวเลือกมา...เราก็ทำท่าเป่า...เหมือนมีลูกโป่ง ลูกโ่ป่งใหญ่ขึ้นๆๆๆ เสร็จแล้วก็ผูกปลาย..ส่งให้มิวมิว... มิวมิวทำท่ารับลูกโป่งไป แบบทนุถนอม...โยนขึ้นไป..แล้วบอก เอ้า ลูกโป่งลอยไปแล้วว..คุณแม่ เป่าให้มิวมิวใหม่หน่อย...เค้าเข้าใจว่า นี่ เป็นเรื่องสมมติ แต่ว่าความสนุกจับต้องได้นะ
นี่แหละธรรมชาติของเด็ก คู่กับจินตนาการ บางที ไม่จำเป็นต้องมีของจริงมาประเคนให้ทุกสิ่งอย่างก็ได้ วีรกรรมจินตนาการประหลาดๆ ของเด็กหญิงมิวมิว นี่ เล่าเท่าไหร่ก็ไม่จบ....
Create Date : 08 มีนาคม 2553 |
Last Update : 8 มีนาคม 2553 1:17:50 น. |
|
11 comments
|
Counter : 2126 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: jittrees IP: 61.7.161.172 วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:7:48:09 น. |
|
|
|
โดย: maesnake วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:8:15:00 น. |
|
|
|
โดย: pathy kp วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:10:07:21 น. |
|
|
|
โดย: Master2009 วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:10:34:00 น. |
|
|
|
โดย: phety talon วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:12:01:14 น. |
|
|
|
โดย: แม่พี่ข้าวสวย & น้องมวยไทย (ดวงขวัญ ) วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:12:04:39 น. |
|
|
|
โดย: บ้านสามออ วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:19:47:37 น. |
|
|
|
โดย: เจี๊ยบ IP: 10.182.255.60, 203.144.144.164 วันที่: 9 มีนาคม 2553 เวลา:17:59:59 น. |
|
|
|
โดย: ญา(แม่นูฮา) IP: 203.144.144.164 วันที่: 10 มีนาคม 2553 เวลา:13:12:09 น. |
|
|
|
โดย: Mrs. Krinch IP: 58.64.87.47 วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:23:40:47 น. |
|
|
|
โดย: แม่อิ IP: 58.8.103.203 วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:16:54:11 น. |
|
|
|
|
|
อยากสอนให้ก้านกล้วยกินข้าวเองได้แบบมิวมิวจังมีเทคนิคไง ว่าง ๆ มาลงให้หน่อยน๊าจ๊ะ