เมื่อเด็กจิ๋วไปหาหมอหาสาเหตุของการตัวจิ๋ววววว วันนี้มิวมิวกะแม่ออกเดินสายทัวร์โรงพยาบาลกันสองคน เพราะ เลยกำหนดฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ มานานละ เพราะ มิวมิวไอค่อกแค่กๆ น้ำมูกไหลย้อยตั้งแต่กลับมาจากเกาะช้าง เพราะ ช่วงนี้มิวมิวงี่เง่าผิดปรกติ6 เพราะ แม่ทำใจได้แล้วถึงแม้ว่าหมอจะบ่นเรื่องน้ำหนัก มันคงไม่สามารถขึ้นไปกว่านี้ได้แล้ว เริ่มด้วยหาหมอวัคซีนประจำตัว ชั่งนน.ได้ 9.6 ความสูง 82 รอบหัว เท่าไหร่จำไม่ได้ ระหว่างรอหมอ แม่ก็ใจตุ้มๆ ต่อมๆ ตายละ ไม่ถึงสิบโล หมอเทศนาอิชั้นแน่ๆ พอไปถึง คุณหมอดูๆ พล็อทกราฟ แล้วถามเรื่องการกิน...ทวงถามถึงไข่วันละฟอง (ทำได้แค่ครั้งเดียวในรอบครึ่งปี) ได้ความว่า น้ำหนักเพิ่มขึ้นโอเคนิดนึงแล้ว ให้ keep เรทนี้ไปเรื่อยๆ กินแบบนี้ หรือถ้าได้มากกว่านี้จะดีมากกกกก โดยเฉพาะไข่ จัดว่าเป็นเด็กไซส์ s ที่ไม่น่าเป็นห่วงอะไร เพราะ s มาตั้งแต่เกิด ยังไม่จำเป็นต้องตรวจมวลกระดูก หรือตรวจอื่นๆ เพิ่มเติมในตอนนี้ เราเลยถามคุณหมอว่า แล้วถ้าเราจะลองไปปรึกษาหมอที่เชี่ยวชาญด้าน Metabolism จะดีไม๊ คุณหมอบอกว่า ถ้าคุณแม่กังวล ก็ไปได้ แต่ถ้าไม่กังวล ผมว่า ก็ยังไม่ต้องไป เพราะตอนนี้ดูโอเคแล้ว สาเหตุเดียวที่จะไป คือคุณแม่กังวล จะว่าไป ถามว่า เรากังวลไม๊คือ ไม่ค่อยเท่าไหร่ เพราะพัฒนาการทั่วไป เราว่า มิวมิวโอเค เชาวน์ ไหวพริบ และอื่นๆ แต่ กลับกลายเป็นความสงสัยมากกว่าว่า บางทีมันก็กินเยอะนะ แต่ทำไมน้ำหนักไม่ค่อยขึ้น ตัวดูมีเนื้อ เนื้อแน่นขึ้นมาหน่อย หน้างี้บานเชียว แต่ นน.เท่าเดิม ที่สำคัญ วันไหนกินเยอะหน่อย คุณหนูมิวมิวเล่นอึ 3 รอบ เรียกได้ว่ากินเท่าไหร่ออกมาเท่านั้น...ดูดซึมไปใช้บ้างป่าวเนีย (แต่หมอบอกปรกติ กินเยอะก็ออกเยอะน่ะสิ) รอบนี้ฉีดวัคซีน ไม่มีร้องไห้อีกตามเคย ลั่นล๊าออกมาจากคลินิก แม่ก็ลังเลเอาไงดีน๊าๆ กับเรื่องหมอเมตาโบลิซึ่่ม (จิงๆ โทรไปนัดไว้แล้วล่ะ กะจะไปหาทีเดียวเลย ประมาณว่าฟิต ว่างั้นเหอะ) จะไปดีไม่ไปดี... แต่เอาวะ..ไหนๆ ก็ไหนๆ อยากเสียตังค์อะ เอาซะหน่อย...จะได้คลายความสงสัย เลยเดินทางไปต่ออีกที่นึง...คราวนี้เป็นคุณหมอเฉพาะทางโรคต่อมไร้ท่อและเมตาโบลิซึ่มในเด็ก ได้รับคำแนะนำจากมี๊เจน ของริวริว ว่าหมอเวริคม๊ากกก จิตวิทยาเด็กดีม๊ากกกกก เราเลยคิดแค่ว่า เอาน่ะ ถ้าไม่เป็นอะไร อย่างน้อยให้หมอหลอกมิวมิวกินข้าวได้ก็ยังดี (ด้วยความหวังอันริบหรี่่ มีใครเคยหลอกให้หล่อนอ้าปากให้ป้อนข้าวได้จริงๆจังๆ หมดชามบ้างไม๊..ไม่มี๊ อย่างดีก็มี๊จีนบ้านลิงนี่แหละ หลอกได้เยอะสุดละ ตั้ง 1 คำบ้างไรบ้าง...5555555) ไปถึง ชั่งนน.อีก คราวนี้ 9.5 (นั่งรถมาครึ่ง ชม. น้ำหนักหายไป 1 ขีด -_-'') ความสูง ยืนวัดแบบเคารพธงชาติ ได้มา 82.6 (ครึ่งชม. สูงขึ้นมา 6 มิล นะยะ) คุณหมอตรวจโดยละเอียด ให้แก้ผ้า ดูสรีระ กดตรงโน้นตรงนี้ ฟังเสียงหัวใจ พล็อทกราฟการเจริญเติบโต ที่เกาะขอบล่างมาตลอด ดูประวัติต่างๆย้อนหลังจากสมุดประจำตัว สอบถามพฤติกรรมการกิน แล้วหมอก็ลงความเห็นว่า อยากให้ลองตรวจเพิ่มเติมเท่าที่จำเป็น เช่น เอ็กเรย์กระดูก ตรวจหาปริมาณเหล็ก โครโมโซม และอื่นๆ เพื่อตรวจดูความผิดปรกติ เพราะเท่าที่ดู ก็ตัวเล็กมาตั้งแต่เกิด แต่เคยมีตอนที่มิวมิวเป็นส่าไข้แล้วไปเจาะเลือด เจอว่าซีดนั่นแหละ ที่เป็นประเด็น อาจจะมีสาเหตุที่เราไม่รู้หรือเปล่า เพื่อความสบายใจ แต่ทั้งนี้...ดูจากภาพโดยรวมโดยทั่วไป เด็กบางคนที่เป็นแบบนี้ 60-70% ปรกติ ถ้าปรกติ ค่อยมาลงลึกถึงพฤติกรรมการกิน ที่ต้องปรับ หรือถ้าตรวจแล้วว่าปรกติ บางคนก็อาจจะต้อง follow ผลระยะยาวกันต่อไป และถ้าไม่ปรกติ เป็นอะไรที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโต ก็ค่อยมาดูกันต่อไปว่าจุดไหนยังไง เราถามหมอว่า..แล้วเรื่องโกรทฮอร์โมนละคะ อย่างมิวมิวนอนดึก แต่นอนหลับลึก นอนยาวด้วย หมอบอกก็โอเคดีแล้ว แต่ถึงอย่างไร จากที่เค้าวิจัยมา ฮอร์โมนจะหลั่งตอนสี่ทุ่มถึงตีสี่ ถ้าหลับลึกช่วงนี้ได้ก็จะดีมาก เลยได้โอกาสถามหมอไปอีกว่า..แล้วถ้าคนอยู่เมืองนอกละคะหมอ...แล้วร่างกายจะรู้ได้ไงว่าเวลาไหนยังไง ถ้าสมมติ เรานอนดึก ตื่นสาย เวลาก็เลื่อนไปเรื่อยๆ หมอบอกว่า.....เขาวิจัยมาแล้วมันเกี่ยวกับพวกแสงสว่าง และการหลับลึกๆของคนด้วย...(เข้าใจเอาเองว่า ต่อให้หลับยาวๆ แต่นอนดึก(ร่างกายล้าแล้ว) ตื่นสาย ตะวันแยงตาแล้ว การหลับลึกมันคงจะต่างกันละมั้ง ฮอร์โมนเลยไม่ออก) จากนั้น..มิวมิวก็ไปเอ็กเรย์ มือซ้าย ก็หลอกล่อกันไป ให้ความร่วมมือดีทุกสิ่งอัน (ยกเว้นแต่ว่ามันวิ่งพล่านไปทั่วต้องไล่ตามจับมาประจำการหน้าห้องหมอ) พอจะมาเจาะเลือด....คุณพยาบาลบอกว่า คุณหมอให้มาแจ้งก่อนค่ะว่า ค่าใช้จ่ายในการเจาะเลือด จะประมาณเท่านี้ ถ้าไม่มีปัญหาก็ให้เจาะเลย เหลือบตามองไปที่กระดาษ..แว๊กกกก 6600 บาท...1500+3500+xxx+xxx+xxx ไรบ้างก็ไม่รู้ โหๆ แอบมึน..ไม่ได้เตรียมใจมา ขอกลับไปตั้งตัวก่อนนะคะ ถ้าเป็นแต่ก่อนเราคงตรวจๆ ไปให้เสร็จสรรพแล้วอะ แต่มีอยู่ครั้งนึง ด้วยความมึน กับ รพ.เอกชนชื่อดังเนี่ยแหละ ตรวจๆไปให้เสร็จสรรพ เจอบิลมาหมื่นกว่าบาท allergy test ไม่แพ้ไรเลย.สันนิษฐานว่าเป็น SLE(เพราะนิ้วบวม) กรดไหลย้อน(เพราะเจ็บคอ) ภูมิแพ้(เพราะตัวเป็นผื่น)ในคราวเดียวกัน หาหมอ 3-4 หมอ พร้อมกัน เข้ามาแว๊บๆ เจอค่าหมอไปคนละ 500 ตรวจไม่เจอไรก็ส่งต่อไปให้อีกคน หายก็ไม่หาย สุดท้ายไปศิริราช..สรุปว่าเป็นไทรอยด์ว่ะค่ะ แต่คุณหมอของมิวมิวนี่ ไม่ใช่รมณ์นั้นนะ..แต่แบบ ไม่ตัดสินใจชั่ววูบอีกแล้ว หมอก็ดีม๊ากกกกกกกกกกกกกกกก บอกว่า ไปตรวจที่รพ.ไหนก็ได้นะคะ ตรวจเลือดเนี่ยเดี่ยวหมอจะเขียนให้ว่าต้องตรวจอะไรบ้าง ถ้าจะให้ดี รพ.รัฐก็จะเห็นความแตกต่าง ว่าถูกกว่าประมาณครึ่งนึง!!!!!! แล้วถ้าไม่สะดวกมาที่นี่ หมอเข้าที่รพ.เด็กทุกวันจันทร์ 9 โมงถึงเที่ยง เอาผลตรวจไปหาได้ที่นั่น หรือจะมาที่นี่ก็ได้.......หรือถ้าจะให้ดี ก็ไปตรวจเลือดที่ รพ.เด็กกับหมอคนไหนก็ได้เดี๋ยวหมอจะเขียนลงไปให้ในนี้ แล้วจากนั้นค่อยมาหาหมออาทิตย์หน้าโน้นน(พอดีทิตย์หน้าไม่อยู่) แล้วหมอก็ลงมือเขียนประวัติมิวมิวย้อนหลังให้อย่างละเอียดด...ย้อนไปถึงตอนที่เคยไม่สบาย(ดูจากผลเลือด) และอื่นๆ อีกมากมาย ยาว 1 หน้ากระดาษเต็มๆ เราก็ซักถามหมออีกนิดหน่อย ระหว่างนั้น มิวมิวก็รื้อห้องหมอซะกระจุยยยยย ถามว่า กินอาหารน้อยๆ นี่ส่งผลกระทบของพัฒนาการสมองมากน้อยแค่ไหน ถ้าสมมติว่าเรากระตุ้นพัฒนาการทางสมองเค้าส่วนนึงแล้ว (คืออยากรู้ว่ามีผลการวิจัยอะไร ที่บอกมาเป็นเปอร์เซนต์ หรือแฟคเตอร์เลยไม๊ว่า...กินน้อย ส่งผล -20% กระตุ้นพัฒนาการโดยวิธี xxx ส่งผล +30% อะไรแบบนั้น...ฟังดูสำเร็จรูปไปหน่อย พูดเป็นเล่น แต่เผื่อมีจริงๆ) หมอบอก มันก็มีผลแหละ แต่ไม่ใช่ซะทั้งหมด "ต้นไม้ ไม่ได้เจริญเติบโตได้ด้วยปุ๋ยอย่างเดียว มันต้องมีปัจจัยอื่นๆ ประกอบกัน ทั้งน้ำ แสงแดด และอื่นๆ" ฟังแล้ว ไม่รู้จะสบายใจขึ้นดีหรือเปล่า 555555 หมอว่าเทคนิคต่างๆที่คุณหมอคนอื่นๆ ที่เค้าเคยบอกมาแล้ว หมอว่าก็ใช้แบบนั้นต่อไป เพราะมันก็มีวิธีเดียวอะแหละ ตามหลักการ กินข้าว ปริมาณ 3 ช้อนโต๊ะ เนื้อ 2 ช้อนโต๊ะ ผัก ให้กินเป็นมื้อๆ ใช้เวลา 30-60 นาที ไม่ควรมีของมาหลอกล่อ หรือกินหน้าทีวี ถ้านานกว่านี้ เก็บขึ้นเลย ไม่ให้กินระหว่างมื้อ ยกเว้นแต่จะเป็นมื้อของว่าง เช่น นม+ผลไม้ นม+แครกเกอร์ ถ้าเด็กกินจุบจิบ (เจ้ามิวมิวนี่แหละตัวดี) ร่างกายจะมีน้ำตาลเข้ามาตลอดเวลา แล้ว สมองจะไม่รับรู้ว่าหิว พอถึงเวลากินก็จะไม่กินเพราะฉะนั้น งดจุบจิบระหว่างมื้อ พูดง่าย ทำยากนะเนี่ยยยยยยย ทิปจากมี๊เจน และคุณหมอในการเพิ่มน้ำหนัก คือ เอาน้ำมันมะกอก น้ำมันพืช น้ำมันรำข้าว ไรงี้ คลุกข้าวประมาณ 1 ชช. เพราะเด็กวัยนี้ใช้น้ำมัน เข้าไปช่วยเสริมสร้างใยประสาท ผสมในนม ประมาณ 10% นม 3 ออนซ์ ใส่ไปประมาณ 3 ซีซี จบแระ   Create Date : 08 มีนาคม 2553 16 comments Last Update : 9 มีนาคม 2553 1:05:02 น. Counter : 1290 Pageviews. Share Tweet

ช่วงนี้มี้เกดมีไรให้อ่านทุกวันเลย ขอบคุณค่ะ พริมกับมิวมิวนี่ตัวใกล้เคียงกันมากเลย เดี๋ยวจะลองเอาน้ำมันมะกอกใส่นมให้พริมกินดู เคยแต่เอาใส่มิโซะซุป พริมก็ชอบอยู่   โดย: แพร IP: 35.11.51.22 9 มีนาคม 2553 2:06:45 น.

มิวมิวยังโอเคที่ s มาตั้งแต่เกิด แต่เกิดมานน. 3.3 โล แล้วตอนนี้น้ำหนักน้อยนี่สิ สงสัยต้องหาต้องพาแตงโมหมอเมตาโบลิซึ่่ม จริง ๆ เฮ้ออ ขอบคุณเรื่องเติมน้ำมันในอาหารกะนมนะคะ   โดย: เจี๊ยบ IP: 10.182.255.60, 203.144.144.164 9 มีนาคม 2553 17:52:29 น.

กิ่งว่าเป็นเพราะระบบเผาผลาญของมิวมิวเค้าดีมากแน่ๆเลยค่ะมี๊เกดเลยไม่อ้วน ยกตัวอย่างดีดี ทานนมวันนึงไม่ถึง 20 ออนซ์ ข้าว 3 มื้อ@ละไม่ถึงครึ่งถ้วย แต่ดูตัวสิ ไม่อยากจะเม้าท์ลูก ได้พ่อได้แม่มาชัดๆ เด็กไซส์S น่าจะดีกว่าเด็กไซส์XL น๊า ว่าแต่ได้ทริปเด็ดๆมาด้วยขอเอาไปลองใช้กับดีดีมั่งนะคะ   โดย: OneDeeK 9 มีนาคม 2553 19:59:38 น.

ขอบคุณมี๊เกด สำหรับข้อมูล เดี้ยนจะได้เตรียมตัวไว้สำหรับตัวเองเอิ๊กกก   โดย: ป้าหรือย่า IP: 111.84.41.87 9 มีนาคม 2553 20:33:11 น.

มิวมิวสู้ๆ หม่ำเยอะๆ จะได้ขยับมาเป็นไซส์ M นะลูก แวววาวจะไปโรงเรียนซัมเมอร์นี้เหมือนกันเลยมี้เกด ให้ไปปรับตัวก่อนเปิดเทอมจริงอะค่ะ ลุ้นๆ ว่าจะรอดมั้ยเนี่ย ^^   โดย: PorBua IP: 119.63.77.2, 117.121.208.2 10 มีนาคม 2553 10:20:37 น.

ดูจากพี่มี๊เกดเล่าผ่าน blog ญาว่า มิวมิว ยังกินเก่งกว่านูฮาอีก นูฮาชอบกินนมมาก ไม่ว่าจะเป็นนมกล่อง นมถั่วเหลืองนมแพะ น้ำเต้าหู้ กินหมด แต่ข้าวไม่ค่อยจะชอบ และผลไม้ก็ไม่แตะเลย น้ำหนักปัจจุบัน 13.5 กิโล ส่วนสูงไม่ได้วัดเลยค่ะ ดื้อซนตามประสา แม่ปรี๊ดแตกได้ทุ๊กวัน อิอิ ญาว่ามิวมิวถึงจะตัวเล็กแต่พัฒนาการดีเยี่ยมนะญาว่า   โดย: ญา(แมนูฮา) IP: 203.144.144.164 10 มีนาคม 2553 11:44:10 น.

มิวมิว หนูถึงจะตัวเล็ก แต่พัฒนาการหนูไม่เล็กตามตัวเลยนะลูก... หลานป้าเอ เฮียณัฏฐ์ 3 ขวบจะ 20 วันแระ น้ำหนัก 12 กิโล ประมาณเนี้ย ไปไหนใครก็ทักว่าตัวเล็ก ผอม เป็นโรคไรป่าว ... แต่ป้าเอ เคยบอก พ่อ + แม่ เฮียณัฏฐ์ ไปว่าไม่ต้องซีเรียส ลูกตัวเล็กมีหลายปัจจัย กรรมพันธ์ และ การ burn ของตัวเด็กเองอ๊ะป่าว... น้องณัฏฐ์เป็นเด็กกินอาหารทุกอย่าง ยากมากกกกกก รวมถึงนมด้วย วันนึงประมาณ 4 ออนซ์ ได้... มี๊เกดไม่ต้องไปสนใจใครจะว่างัย ลูกเราสุขภาพแข็งแรง สมองดี มีกึ๋น ซะอย่าง 555   โดย: บ้านสามออ 10 มีนาคม 2553 12:52:26 น.

วันนี้ป้าเอ ทำขนมจีน น้ำเงี้ยว มิวมิว บอกมี๊เกด ให้ไปกินขนมจีนกะป้าเอไป...   โดย: บ้านสามออ 10 มีนาคม 2553 12:53:51 น.

ถึงมิวมิวตัวเล็ก แต่พัฒนาการทุกด้านดีเยี่ยม ไม่น่าห่วงเนอะมี๊เกด ตัวเล็กแต่แข็งแรงน๊า   โดย: pathy kp 11 มีนาคม 2553 13:28:27 น.

เล็กพริกขี้หนูนิ   โดย: ริวคิ-mawin-maji-minic 12 มีนาคม 2553 18:28:30 น.

มาลงชื่อว่าหัวอกเดียวกันเลยอ่า กำลังกลุ้มใจเรื่องเด็กตัวจิ๋วอยู่เลย ของเรา 2.8 ปีค่ะ น้ำหนักและส่วนสูงก็เท่ากับน้องมิวมิวเป๊ะๆเลย ขุนไม่ขึ้นจนหมอบอกว่าถึง 10 โลเมื่อใหร่ต้องฉลอง เวลาเห็นเด็กที่กินเก่งแล้วอิจฉามากๆ แล้วก็มานั่งกลุ้มว่า ทำไมของเรามันกินยากกินเย็นอย่างนี้น้อ   โดย: French Apple 15 มีนาคม 2553 14:58:46 น.

เรื่องกินข้าวยาก...เนี่ย มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แม่ๆ อย่างเรากังวล เคล็ดลับแบบบ้านๆ ที่แม่นาดาวใช้กับลูกนะคะ คือ รอให้หิวสักหน่อย แล้วค่อยกินข้าวด้วยกัน เราต้องกินให้ดู ถ้าอยู่ด้วยกันครอบครัว ก็กินพร้อมกันหมดทุกคน เด็กจะเล่นซนบ้างไม่ต้องดุ ปล่อยให้เล่นไป แต่ระวังอย่าให้กินอะไรเผ็ดๆ เป็นพอ มีเวลา ก็ลองทำดูนะคะ   โดย: แม่นาดาว IP: 119.63.77.2, 117.121.208.2 17 มีนาคม 2553 8:27:44 น.

คุณหมอน่ารักจัง แล้วตกลงว่าตัดสินใจจะพามิวมิวไปตรวจอีกรึเปล่าจ๊ะ   โดย: พจมารร้าย 17 มีนาคม 2553 17:19:06 น.

ไปจ่ะ แต่ปั๊มเงินก่อนนะ...ฮ่ะ ฮ่ะ   โดย: กุ๊ดจัง 17 มีนาคม 2553 21:42:37 น.

มาแอบอ่าน เพราะลูกตัวเล็กเหมือนกันค่ะ   โดย: iamsquid 19 มีนาคม 2553 11:52:14 น.

อ่านเพลิน แต่ไม่ลืมช่วยจิ้มแระน่ะจ๊ะ ^6^   โดย: แม่น้องพราว IP: 61.90.111.112 6 กันยายน 2553 20:31:41 น.