ตามไสตล์จขบ. ขอเข้ารกเข้าพงก่อนไปถึงร้านอาหารนะคะ ที่ไปเจอร้านอาหารร้านที่จะรีวิว เหตุก็เพราะกะปิ....เคยได้ยินมานานแล้วว่ากะปิเคยตาดำของคลองโคนเนี่ยขึ้นชื่อว่าอร่อย แต่เราไปเจอที่เขาขายกะปิคลองโคนทีไรมันแฉะๆ เค็มๆ ทุกที จนเมื่ออาทิตย์ก่อนโน้น ด้วยความสงสัยเพราะมีคนพูดถึงแยะก็เลยชวนน้องไปคลองโคนพิสูจน์กะปิกัน ถนนเส้นพระรามสองผ่านทางเข้าจังหวัดสมุทรสงคราม ข้ามสะพานแม่น้ำแม่กลองสักพักก็จะเข้าตัวตำบลคลองโคน สังเกตุทางซ้ายมือจะมีปั๊มน้ำมัน(จำชื่อไม่ได้ ) จะมีซอยเขียนว่าเป็นทางลัดไปชะอำ ซอยเนี่ยแหละที่เป็นทางเข้าไปยังตำบลคลองโคนด้วย ที่ตำบลคลองโคนเองมีกิจกรรมน่าสนใจแยะ ทั้งโครงการณ์ปลูกป่าชายเลน แล้วยังมีโฮมเสตย์บนกระเตงที่ปลูกอยู่กลางทะเล ไปกินอาหารทะเลสดๆ ฝีมือชาวบ้านโดยเฉพาะหอยแมลงภูและหอยแครงที่ชาวบ้านเลี้ยงอยู่แถวนั้น แต่วันนี้เราขอแค่มาแวะพิสูจน์กะปิก่อน....ที่นี่ทำกะปิกันเป็นล่ำเป็นสัน ดูได้จากอ่างกะปิยักษ์สูงเกือบเท่าเอวผู้ใหญ่ มาซื้อถึงที่ราคากะปิมีตั้งแต่ 40 บาทจนถึง 80 บาทต่อกิโล ราคาถูกแพงอยู่ที่ส่วนผสม แน่ละตัวที่ราคา 80 จะหอมอร่อยกว่าแน่นอน ในหมู่บ้านจะมีกะปิให้ซื้อตั้งแต่ขายตามริมทางจนถึงบุกเข้าไปซื้อจากในบ้านที่ทำกะปิเอง เวลาซื้อก็ใจเย็นๆ ชิมก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ ....ทีแรกเราอุตสาห์บุกเข้าไปถึงบ้านทำกะปิบ้านแรกก็ว่าอร่อยเลยซื้อมา 1 โล น้องชายเดินเข้าไปข้างในลึกหน่อยเดินมาบอกว่าข้างในอร่อยกว่า อ้าว...ได้มาอีก 2 โล พอขากลับแวะร้านป้าอ้วนตรงปากทางเข้าหมู่บ้านซะหน่อย ของป้าอร่อยกว่า 2 เจ้าที่ซื้อมาอีกก็เลยได้มาอีก 1 โล เบ็ดเสร็จ 3 โลที่ได้มาก็เอามาแบ่งใส่กล่องแจกจ่ายให้พี่น้องเพื่อนฝูงไป ตอนหลังไปซอกแซกแถวแม่กลองอีก ไปเจอแหล่งที่ทำกะปิส่งให้คลองโคน กะปิหอมและไม่เค็มอร่อยกว่าที่คลองโคนอีกโลละ 50 บาทเอง หลังจากซื้อกะปิเสร็จ แทนที่จะกลับออกเส้นพระราม2 เราขับรถออกเส้น4012 ที่มีป้ายบอกว่าเป็นทางลัดไปชะอำ ถนนเส้นนี้จะไม่ค่อยมีรถวิ่งมาก ธรรมชาติ 2 ข้างทางจะเป็น บ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงปู ทำนาเกลือ ถ้าขับเข้าเขตจังหวัดเพชรบุรีจะมีสะพานข้ามคลองแห่งหนึ่ง แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว ก่อนถึงปากคลองบางตะบูน ถ้าใครจะไปก็ถามชาวบ้านใจดีแถวนั้นได้ ตรงสะพานที่ว่านี้เป็นแหล่งลงปูทะเล(ตอนนี้สะพานกำลังรื้อซ่อมแซมอยู่) ถ้าต้องการซื้อปูทะเลสดซึ่งส่วนใหญ่เป็นปูทะเลดำ ลงจากเรือใหม่ๆ สามารถซื้อได้ในราคาส่ง แต่ต้องมาไม่เกิน 8 โมงเช้า ถนนเส้นนี้มีร้านค้าขายปูนึ่ง หอยลวกขายอยู่หลายร้าน แต่ลงไปลองถามราคาแล้วเราว่าแพงไม่สมกับมาถึงถิ่นเลย โม้นอกเรื่องซะยาว..... พากลับเข้าเรื่องดีกว่าครัวป้าทินเป็นร้านที่เรามาเจอระหว่างทาง เป็นร้านอาหารเพิงเล็กๆ แต่ดูสะอาดสะอ้าน อยู่ตีนสะพานริมถนนติดกับบ่อเลี้ยงปลา ที่จริงก็อิ่มกันมาตั้งแต่ก่อนเข้าไปคลองโคนแล้ว น้องชายแค่ลงไปถามหาแหล่งซื้อพวกปูพวกหอยสดๆ ในแถบนั้น แต่คุยไปคุยมาน้องชายเลยสั่งผัดฉ่าปลาฉลามมากิน ปลาสดเนื้อหวานเชียวค่ะ รสชาติดีแต่พอดีท้องไส้ไม่ค่อยดีก็เลยสั่งแกแบบเอาไม่ค่อยเผ็ด เราตามลงไปนั่งรอชิมผัดฉ่าปลาฉลาม ก็คุยกับป้าแกไปเลยรู้ว่าบ่อที่เห็นเป็นบ่อปลากับบ่อปูทะเลที่แกเลี้ยงไว้ขาย แต่ตอนที่ไปเพิ่งเริ่มเทศกาลกินเจแกเลยต้องปล่อยเอาไว้ก่อนเพราะเอาขึ้นมาขายตอนนี้ก็ไม่ได้ราคา นั่งไปนั่งมาตาก็สอดส่ายไปเห็นเมนูแกงป่าปลากระทุงเหว ปลาชื่อแปลกๆ จะอร่อยหรือเปล่า เลยสั่งมา 1 ชาม....ทีแรกนึกว่าเป็นปลาติดก้างมาแบบพวกปลากระบอก แต่ที่ไหนได้แล่เนื้อมาเรียบร้อย ไม่ต้องคอยแกะทึ้งดึงก้างที่คอยมาทิ่มแทง...ระหว่างที่ป้าทินทำกับข้าวก็นั่งคุยกับลุงไป ได้ความว่าถ้าอยากกินหอยแมลงภู่หอยแครงหรือปูทะเลสดๆ แกแว้น(รถมอไซด์)ไปซื้อมาทำให้ได้ ถึงแม้ท้องเริ่มตึงแล้วแต่พอลุงพูดถึงปูทะเลสดๆ เลยตาโต บอกให้ลุงวิ่งไปเอาปูตัวโตๆ หนักๆ มาให้กิโลหรือกว่านิดหน่อยก็ได้ ระหว่างนี้เราก็นั่งมองเมนูอีกแระ(ก็ไม่รู้จะทำอะไรดีอ่ะ ) ถามป้าว่าแกงส้มหัวปลาเนี่ยปลาอะไร ป้าบอกว่าเป็นหัวปลาริวกิว(หรือปลาเรียวเซี่ยว) ....พอบอกว่าปลาริวกิวก็รีบถามหาไข่ปลาแต่ป้าแกไม่มีเพราะหายาก ส่วนใหญ่ส่งขึ้นร้านอาหารใหญ่ๆ หมด ....ไม่มีไข่ปลาก็กินหัวปลาก็ได้...อยากลอง ตอนยกมางงนิดหน่อยเพราะไม่เคยกินแกงส้มแบบไม่มีผัก แกงส้มป้าทินใส่ตะใคร้ใบมะกรูด หัวปลาริวกิวจะกรุบๆ แต่ไม่ค่อยมีเนื้อเท่าไร ส่วนรสชาติน้ำแกงบอกไม่ถูกแต่ซดกินตอนร้อนๆ ก็อร่อยดี ปูทะเลมาแล้ว....ลุงบอกว่าปูตัวโตไม่มากแต่แน่นปึ้ก ได้มา 6 ตัว หนักเกือบกิโลครึ่ง ไม่ถึง 300 บาท ทั้งมันทั้งไข่ปูสีส้มอัดแน่นเต็มกระดอง ป้าทินนึ่งร้อนๆ ยกมากับน้ำจิ้มเข้มข้นรสแซ่บปูดำจะเป็นปูโคลน เท่าที่กินมาเราว่าเนื้อปูขาวจะอร่อยกว่า ปูดำเนื้อจะแน่นแต่จะกระด้างหน่อย ไข่ปูจะแข็งและปูจะมีมันมากก่อนกลับถามป้าทินว่าทำไม่ร้านถึงชื่อครัวป้าทินสุดเขต ป้าบอกว่าเป็นเพราะร้านของป้าอยู่ตรงสุดเขตจังหวัดสมุทรสงครามพอดี ก็พอข้ามสะพานตรงหน้าบ้านป้าไปก็เป็นเขตจังหวัดเพชรบุรีแล้ว อาหารร้านป้าทินราคาไม่แพง คงเป็นเพราะแกทำขายให้กับชาวบ้านแถวนั้นด้วย เพราะระหว่างที่นั่งอยู่ก็มีเพื่อนบ้านแกขี่มอเตอร์ไซด์มาสั่งอาหารใส่ถุงไปกินบ้านอยู่เรื่อยๆเบ็ดเสร็จรวมค่าอาหารเครื่องดื่ม ค่าปูและค่าทำ ~580 บาท ป.ล.ร้านป้าทินตอนนี้ปรับปรุงใหม่ขยับขยายร้านกว้างขวางกว่าเดิม .....ป.ล. ร้านอาหารที่รีวิวในบล๊อกเป็นความเห็นส่วนตัว ณ เวลาที่ทำรีวิวไว้และไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางร้าน