ตามมาเที่ยวต่อเลยค่ะ ตามล่าหาของอร่อยที่ตลาดสามชุก สุพรรณบุรี ตอนแรก ตลาดสามชุก เป็นตลาดเก่าแก่อายุกว่า ๑๐๐ ปี ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำท่าจีน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้นี่เลยนะคะ //www.samchuk.in.thหรือถ้าวัยจ๊าบหน่อยก็ไปนี่เลยค่ะ สามชุก hi5บ้านหลังเก่าในชุมชน ถูกจัดให้เป็นศูนย์ประสานงานชุมชนบรรยากาศตลาดที่นี่คึกคักตลอดเวลา ....เลือกรูปไม่ถูก เพราะชอบเกือบทุกรูป ก็เลยใส่ภาพแบบโปสการ์ดให้ดูบ้างนะคะ รูปอาจเล็กไปหน่อยแต่ก็อยากให้เห็นบรรยากาศแยะที่สุดเริ่มสายแล้วคนเริ่มแยะแล้วค่ะ เดินไปอีกหน่อยมีข้าวหลามในลูกมะพร้าว แต่มุดเข้าไม่ถึง ก็เลยได้กระบอกนี้มาแทน...หลามปลาช่อน ปลาแนม.....ถึงไม่มีไส้กรอกแต่ก็ขายดี เพราะทำได้น่ากินจังเดินผ่านร้านนี้ก็น่ากิน...5..5.. ขนาดเพิ่งจะอิ่มมาแหมบๆ ...ขนมผักกาดเตาถ่านของโปรดค่ะ กินแล้วปากเหม็นแต่อร่อย...ปลาช่อนนาแดดเดียวจืดอร่อย ปลาช่อนตัวเล็กๆ แบบนี้มีที่สุพรรณที่เดียว ผักข้างรั้ว เก็บมาใส่จานขาย เห็นมะดันแล้วเปรี้ยวปากอยากกินยำปูเค็มใส่มะดัน เข้ามาในซอยตลาดเถ้าแก่เบี้ยวริมน้ำ มีขนมขายแยะเลยค่ะ ทำกันใหม่ๆ ขนมดอกจอกส่วนนี่ขนมกงหรือขนมกงเกวียน ขนมโบราณตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น เดี๋ยวนี้หากินยากเหมือนกัน เป็นขนมมงคลอย่างนึงที่ใช้เป็นขนมขันหมาก ด้วยเชื่อว่าจะทำให้คู่บ่าวสาวมีใจคอหนักแน่นและครองรักกันตลอดไปเหมือนกงล้อของเกวียนที่หมุนไปเรื่อยมาขนมไทยแบบสดบ้าง จำได้มั๊ยขนมขี้หนู...บางทีก็เรียกกันเองว่าขนมขี้มือ ก็ความที่มันร่วนๆ เวลากินจะร่วงก็เลยเอามาปั้นเป็นก้อนๆ ก่อนกิน (จริงๆ แล้วจะเล่นมากกว่า) แล้วยังมีทองหยิบ ทางหยอดฝอยทอง ขนมมัน ขนมเผือก ขนมกล้วย ขนมฟักทอง ขนมตาล แต่มีขนมแปลกที่ไม่เคยเห็นสีเหลืองๆ ตัวเล็กๆ นั่นเรียกขนมไข่ปลาทำจากลูกตาลผสมแป้งข้าวเหนียวต้มคล้ายขนมเหนียวกินกับมะพร้าวขูดคลุก หมี่กะทิ หมี่หมีกรอบ ทอดมัน ฯลฯ อีกมากมาย....ข้าวหมูกรอบหมูแดงเจ้านี้แม่ค้าหลายคนในตลาดบอกว่าอร่อยเด็ด ใกล้ๆ กันมีร้านบะหมี่เจ๊กอ้าว เป็นร้านบะหมี่เก่าแก่เปิดมานานกว่า 70ปี มีบะหมี่สีเหลืองอ่อนนุ่มนอนรอลูกค้าอยู่ในลิ้นชักตู้ก๋วยเตี๋ยวสะเต๊ะสักไม้มั๊ยคะ...ข้าวอบกุ้งห่อใบตอง ใส่กุ้งสด เม็ดบัว เห็ดหอมและแห้วตลาดนี้ไม่ใช่มีแต่ของกินอย่างเดียวนะคะ มีข้าวของเครื่องใช้ด้วย เห็นปิ่นโตกับหม้อหูหิ้วแล้วนึกถึงตอนเด็กๆ แต่ที่เด็ดสุดก็ใบสีขาวข้างบนสองใบนั่น หม้อเอนกประสงค์ไว้ใช้ตอนกลางคืน...อิ..อิ.. เห็นจานแบบนี้จะนึกถึงวัดตามต่างจังหวัดเสื้อยืดที่ระลึก รับรองว่าแต่ละตัวไม่เหมือนกันแน่นอนเพราะนั่งเพนท์กันสดๆ กล่องทิชชู่เก๋ไก๋ไม่โบราณน้องๆ มาตั้งวงร้องเพลงเพราะๆ หารายได้พิเศษในวันหยุดบ้านขุนจำนง จีนารักษ์ นายภาษีอากรคนแรกและเจ้าของตลาดสามชุก ปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ของชุมชน บ้านหลังนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2459 ร้านนี้ขายของที่ระลึก น่ารักๆ แต่เราติดใจสาวน้อยแม่ค้าหน้าหวานที่อยู่หน้าร้านมากกว่าบ้านโค๊ก สำหรับคนรัก Coke แวะซื้อโปสการ์ดส่งให้คนทางไกลหน่อย ค่าแสตมป์ 15 บาท น้องคนขายมีแต่ 3 บาทส่งในประเทศ เลยต้องแปะแสตมป์ซะพรึดร้าน ถ่ายรูป ชื่อ ร้านศิลป์ธรรมชาติ เป็นร้านถ่ายรูป เก่าแก่แห่งที่ 2 ของตลาดสามชุก เปิดบริการมาเป็นเวลา กว่า 54 ปี แล้ว โดยภายในร้านไม่มีเครื่องอัดภาพด้วยระบบดิจิตอลอันทันสมัยเหมือนปัจจุบัน กล้องที่ใช้ตอนนี้คือกล้องที่ใช้เมื่อสมัยเปิดครั้งแรก เป็นกล้องที่นำเข้ามาจากเยอรมัน ราคาประมาณ 8000 บาท ในร้านยังคงใช้อุปกรณ์ดั้งเดิมไม่ว่าจะเป็นกล้องที่แต่งภาพ อุปกรณ์ในห้องมืดในสตูดิโอ มีฉากและเครื่องแต่งการในอดีต รับถ่ายรูปย้อนอดีตสมัยคุณแม่ยังสาว มีคนดังๆ มาถ่ายแยะเชียว ใครอยากมีรูปที่ใช้ฉากแบบโบราณก็มาแวะถ่ายรูปที่นี่ได้เลยร้านถ่ายภาพ "ศิลป์ธรรมชาติ" เปิดทุกวัน ยกเว้น วันอาทิตย์ ปิดร้านคริ่งวันเช้า ร้านโปสการ์ดเก๋ไก๋ร้านนี้ เจ้าของร้านคงเป็นรุ่นหลานเจ้าของบ้านแล้วล่ะค่ะ เพราะเห็นยังเด็กอยู่เลย ขนมและของเล่นมีที่เป่าลูกโป่งที่เป็นหลอดเล็กๆ มีแผงจับฉลากที่ชอบเล่นตอนเด็กๆ ด้วย ตระกร้าสานกระเป๋าสานสวยๆ สาวๆ มุงหน้าร้านกันเพียบนอกจากนั้นก็ยังมีแผงขายเสื้อผ้าสำหรับคนสูงวัยประเภทผ้าถุง เสื้อคอกระเช้า ผ้าห่ม ที่นอน หมอน มุ้ง ...เดินผ่านตรงนี้ทีไรก็เห็นคนมุงกันยังกะมีแจกของฟรี ไหนๆ ก็จะกลับอยู่แล้วอดไม่ได้เลยขอมุดดูหน่อยว่ามุงอะไรกันนักหนาอิ..อิ..หมูย่าง ซี่โครงหมูย่าง และก็หมูกรอบค่ะ แย่งกันซื้อกันคนละเส้นสองเส้นเป็ดย่างจ่าเฉิดเจ้าแรกในสามชุกตั้งแต่ปี 2518 เป็ดย่างที่ใครๆ บอกว่ามาตลาดสามชุกต้องเป็ดย่ายจ่าเฉิด ปะทะกับเป็ดพะโล้เป็ดย่างเจ๊ตี๋สูตรใหหลำแท้ ต้นตำหรับมาจากเมืองจีนที่ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติเป็ดพะโล้ เนื้อนุ่ม หอม กรอบ พร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ด 4 รสชาติ เข้มข้น ใช้ผลิตภัณฑ์สด ใหม่ และเครื่องปรุงสมุนไพรจีนคุณภาพดี ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ. 2499 ปัจจุบันสืบทอดโดยเจ๊ตี๋ ไม่ได้ชิมทั้งสองเจ้าเลยฟันธงให้ไม่ได้ว่าเจ้าไหนเด็ดกว่ากัน ยังมีอีกหลายร้านที่ยังไม่ได้แวะอย่าง ร้านกาแฟเจ๊หมวยเล็ก ซึ่งมีกาแฟสูตรโบราณ ที่คั่วกันเห็นๆ บริเวณริมน้ำ เครื่องดื่มที่ขึ้นชื่อของร้านนี้คือ "จ้ำบะ" แล้วยังข้าวห่อใบบัวสูตรดั้งเดิม ร้านหรั่งศรีโรจน์อยู่บริเวณตีนสะพาน "พรประชา" นอกจากข้าวห่อใบบัวแล้วยังมีก๋วยเตี๋ยวยำบก แล้วยังมี.....อิ่วก้วยขนมโบราณต้นตำหรับจากจีน ขนมไข่สูตรดั้งเดิม น้ำพริกแม่กิมลั้ง ขนมกุยช่ายโบราณ ข้าวเกรียบโบราณ ข้าวหมากข้าวเหนียวตัด ฯลฯ อีกมากมายสาธยายไม่หมด อย่างงี้ต้องไปพิสูจน์กันดีกว่าค่ะ ก่อนจะลงเรือ กินน้ำจรวดกันคนละแก้ว สมัยก่อนตอนเด็กๆ เวลาไปสนามหลวงชอบกินน้ำเขียวประจำ ตอนนั้นรู้สึกว่ามันเอร็ดอร่อยชื่นใจเสียเหลือเกิน แต่เดี๋ยวนี้กินความรู้สึกอร่อยมันไม่ยักเหมือนเดิมแฮะ...อิ่มตาอิ่มท้องแล้วลงเรือกลับ(ไปตั้งหลักก่อนแล้วคราวหน้าจะมาใหม่จ้า...)ทั้งที่ซื้อของกินจากตลาดมาเยอะแยะ แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะแวะซื้อขนมที่ร้านเอกชัย ติดใจขนมเปี๊ยะนมข้นกับขนมลูกเต๋าไส้เผือกใส่แห้ว สำหรับคนที่ไม่มีรถไปเอง มีคิวรถตู้ไปถึงหน้าตลาดเลยค่ะ รถจอดอยู่ตรงข้ามกองสลาก ถนนราชดำเนิน ค่ารถคนละ 110 บาท
เป็นสถานที่ๆ ฝนอยากไปบ้างจังเลยค่ะ แถมยังมีอายุเก่าแก่อีก สนใจๆ
อาหารแต่ละอย่างที่มีขายที่นั่นก็สุดยอดไปเลยนะคะ ตอนกลับไทยฝนน่ะไม่ได้ไปไหนเยอะอย่างที่หวังเลยค่ะ เพราะว่าแพ้ท้องมาก เสียดายจริงๆ
ไม่เป็นไว้หนหน้าเอาใหม่
เห็นสเต๊ะแล้วน้ำลายสอ ฝนชอบกินมากๆ ค่ะ ดีหน่อยที่ว่ากลับไทยหนนี้ได้กิน ฝนสั่งมาเป็นร้อยไม้เลยล่ะ เจ้าประจำน่ะค่ะ ไม่ได้กินคนเดียวหรอกน๊า กินกับญาติๆ ค่ะ
ขอบคุณที่พาชมสถานที่งามๆ นะคะ