Mr.Pos : The Thinking & Learning in My Life
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
29 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 

‘กิเลสหนา ปัญญาเบา’ กำเนิด ถึงใกล้อวสาน ของ ‘เณรคำ’ อรหันต์ลวงโลก ยุค Social Media

 

‘กิเลสหนา ปัญญาเบา’

 

กำเนิด ถึงใกล้อวสาน ของ ‘เณรคำ’ อรหันต์ลวงโลก ยุค Social Media  

 

 

                ไม่น่าเชื่อว่า ปรากฏการณ์ ‘อรหันต์ลวงโลก’ ตัวใหม่ ที่สันนิษฐานว่าที่สุดแล้ว นี่คงเป็น ขบวนการอันใหญ่โต มีเครือข่ายผู้ได้ผลประโยชน์สุดซับซ้อน ที่อุปโลกย์ ยกตัวตน ‘นายวิรพล’ ขึ้นมาเล่นบทแสดงนำเป็น ‘อรหันต์ผู้เกิดและดับชาติสุดท้าย’ เที่ยวตระเวนเปล่งวาจาภาษาเทพ หว่านล้อมพุทธศาสนิกชนผู้หลงศรัทธา จนตกเป็นเหยื่อ ปล้นสะดมผู้คนไปทั่ว ถึงขณะนี้เมื่อถูกกระแสสื่อ กระแสสังคมโหมรุก กระแทกตีหนักเข้าทุกวัน เหล่าบริวารรายล้อม จะออกอาการ ‘เป๋’ ซวนเซ จวนอยู่เจียนไป เข้ามุมแบบสิ้นกระบวนท่าอย่างที่เห็น !

 

                คลิปโฉ่ ภาพฉาว ที่ปรากฏปล่อยหลุด ทั้งตั้งใจไม่ได้ตั้งใจ กันแบบรายวันนั้น ไม่ต้องเป็นชาวพุทธที่ปฏิบัติธรรมแบบลึกซึ้งเข้าถึงอะไรหรอก ก็รู้จะๆ แจ้งๆ แล้วว่า ทรชนที่เอาผ้าเหลืองห่มร่างตัวนี้ ยังสมควร มีค่าพอแก่การยกประนม ก้มไหว้ หรือประดับคำว่า ‘พระ’ นำหน้าอยู่อีกต่อไปหรือไม่ !? ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยครับ

 

 

                กระแสโฉ่ฉาวคราวนี้ คนไทยมากมายที่ไม่เคยคิดว่า ‘ชีวิตนี้’ จะได้พบเจอภาพ คนโกนหัวห่มเหลือง ทำสิ่งที่ขัดแย้ง กลับขั้ว กับหลักคำสอนของพุทธศาสนาได้แบบ ฮาร์ดคอร์ ปานนี้ ก็ได้เห็นกระจะคาตากันแล้ว นี่ขนาดสิ่งที่เป็นคลิป ภาพ วีดีโอ ที่เป็นหลักฐานแบบโต้งๆ ยังขนาดนี้นะครับ แทบไม่อยากจินตนาการต่อเลยว่าไอ้พฤติกรรมที่อยู่ลับตา ญาติโยมผู้ศรัทธา จะเลวร้ายกว่านี้อีกกี่ร้อยเท่าปานไหน !

 

                ถามว่า ขบวนการลวงโลก ที่ใกล้สิ้นท่ารอมร่อนี้ มันพ่ายต่อสิ่งไหน มันคงหลงย่ามใจ นึกว่าตัวเองแน่ ใหญ่โต และมีบารมี อำนาจลวงตา ปกคลุมมากจนเกินไป แต่ที่สุดมันก็แพ้ต่ออิทธิฤทธิ์ของ เทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต และบรรดาโซเชียลมีเดีย อันทรงฤทธานุภาพต่างหาก มันพ่าย เทคโนโลยี ที่ตัวมันบ้าคลั่งไคล้ ใช้โปรโมตตัวเองนั่นแหละ !

 

เทคโนโลยี ที่ทำให้หลักฐานสำคัญชิ้นโบว์แดงต่างๆ ปรากฏสู่สายตาสังคมได้รวดเร็ว ง่ายดายเพียงชั่วลัดนิ้วมือ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงในยุคที่สื่อ และสังคม ไล่ตะครุบจับ ขบวนการลวงศาสนาอย่าง ‘จิ้งเขียว ยันตระ’ อันเป็นยุคที่ยังไร้เทคโนโลยีไอที อินเตอร์เน็ตอย่างในเวลานี้

 

 

                ไม่แน่ใจว่า ขบวนการอรหันต์ลวงโลก มันโง่ หรือบ้ากันแน่ ที่ประมาท ย่ามใจขนาดที่ว่า การกระทำย่ำยีศาสนา ใดๆ ของพวกมันจะรอดพ้นจากสายตา เครือข่ายโซเชียลมีเดียไปได้ พวกมันย่อมรู้ว่ายุคนี้ ‘พระเจ้าสีน้ำเงิน’ อย่าง ‘facebook’ มีอิทธิพลชักจูงกระแสสังคมได้มากขนาดไหน แต่นั่นเป็นเพราะมันแพ้ภัยตัวเอง จาก ‘กิเลสอย่างหนา’ และ ‘ความโลภ’ อันไม่มีสิ้นสุดที่เกาะจับตัวอยู่หนาเตอะ จนทำให้มันหูตามืดบอด ปัญญาเบา จนสวาปามหาผลประโยชน์เข้าใส่ตัวมันเอง และพรรคพวกขบวนการอย่างมูมมามไม่ลืมหูลืมตา !

 

                สิ่งที่บอกว่า เครือข่ายบริวารที่ห้อมล้อม อรหันต์ลวงโลกตัวนี้ กำลังหมดสิ้นท่าเข้าไปทุกที ผมว่าก็คือข้อแก้ตัว แก้ต่าง ‘สุดแสนโปกฮา’ ที่เหล่าลูกศิษย์เรียงหน้ากันออกมาแถลงแทน ‘เจ้าลัทธิ’ แบบรายวันนั่นเอง ยิ่งพูดยิ่งโต้ ก็ยิ่งดูเป็นคน ‘ไร้ปัญญา’ พาให้ชาวบ้านได้ ฮาครืน หัวเราะลั่นราวกับดู หนัง 500 ล้าน ‘พี่มากพระโขนง’ ก็ไม่ปาน ไม่เชื่อดูสิครับ..

 

 

อวดอุตริ แต่งนิทานหลอกชาวบ้าน ว่าสามารถไปเข้าเฝ้า สนทนาธรรมกับ ‘พระอินทร์’ บนสวรรค์ได้ ลูกศิษย์ก็แก้ต่างให้ว่า ตีความกันไปผิดๆ หมายถึง ‘เพื่อนชื่ออิน’ ที่บวชเป็นพระต่างหาก ฮาจริง !

 

 

เป็นพรีเซ็นเตอร์ ถ่ายคลิป โปรโมต ‘เครื่องฟอกอากาศ’ ให้ชาวบ้านแห่ซื้อถวายพระ ก็แก้ต่างว่า เป็นเพราะท่านมีจิตเมตตาต่อลูกศิษย์ ที่ถวายของใช้มีคุณภาพให้ เลยเผื่อแผ่บุญ แชร์ประสบการณ์ดีๆ ต่อ เข้าทำนอง ‘ใช้ดี จึงบอกเพื่อน’ อยู่อเมริกายังมีใช้ตั้ง 4 เครื่องแน่ะ ฮามาก !

 

 

นั่งชักภาพอยู่ในห้างสรรพสินค้า ในท่า ‘ชูสองนิ้ว’ หน้าตาเริงรื่น แอ๊บแบ๊วสุดขีด ! ลูกศิษย์แก้ต่างแทนว่า เพราะ ถามหลวงปู่ไปว่า ต้องการของกี่ชิ้น ? หลวงปู่ตอบกลับ ‘เอา 2 ชิ้น’ พร้อมตรงจังหวะแชะภาพพอดี จะเอาฮาไปถึงไหน !

 

 

นักธุรกิจที่เป็นโยมอุปถัมภ์ ออกมาแฉว่า เคยไปทัวร์ต่างประเทศกับลูกชาย ตกค่ำรบเร้าลูกชายตนให้ช่วยพา ‘ไปเที่ยวผู้หญิง’ โดยอ้างแบบข้างคูว่า ‘ต้องการศึกษา บรรลุธรรมท่ามกลางสิ่งอโคจร’ โอ้ ! สุดยอดอรหันต์

 

 

‘ใส่แว่นกันแดดเท่’ แอ๊กอาร์ต ขณะนั่งเครื่องบิน ลูกศิษย์ก็แก้ต่างว่า เมื่อก่อน หลวงปู่ ‘เคยอ๊อกเหล็ก’ มาก่อน สายตาจึงรับแสงจ้าไม่ได้ อันนี้ฮาจนกรามค้าง !

 

 

 

                ‘ถือกระเป๋าแบรนด์หรู ยี่ห้อดัง’ ลูกศิษย์โต้แทน หลวงปู่ ไม่ได้ถือใช้เป็น อาจิณ นานๆ ถึงถือที ว่าแต่ สิ่งของที่ผิดธรรมวินัย ไม่ใช่กิจของสงฆ์ จะถือแค่ทีเดียว ครั้งเดียว มันก็ผิดทนโท่อยู่แล้วไม่ใช่หรือ !

 

 

                จนมาถึง ภาพใบหน้าตัวเองไปแปะหราอยู่ข้าง ฮ. ลูกศิษย์ก็แก้ต่างว่า กัปตันขอทำสติกเกอร์ไปติดเพื่อเป็นสิริมงคลเอง อ้างเข้าไปโน่น กลับกันผมว่า ฮ. ลำนั้นต้อง ‘อัปมงคล’ ไปตลอดแน่ๆ !! กระทั่งที่มาคำเรียกขาน ‘หลวงปู่’ ที่ใช้นำหน้าฉายา บรรดาสาวก ก็อ้างว่า ‘เป็นเพราะนับรวมอายุในชาติที่แล้วเข้าไปด้วย’ นี่ไม่เรียกอวดอุตริ แล้วจะเรียกว่าอะไรเล่าครับ

 

 

                ที่แย่กว่านั้นก็คือ ในขณะที่มีกระแส ‘ยี้’ ประณาม สาปส่งจากสังคมแทบเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ยังอุตส่าห์มี พระผู้ปกครอง ระดับเจ้าคณะภาค ออกมาให้ทัศนะเชิงปกป้อง พฤติกรรมของ ‘นายวิรพล พระเถื่อน’ อีกว่า.. ยังคงคุณสมบัติเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบอยู่ไม่เสื่อมคลาย ท่านสร้างคุณความดีที่สังคมไม่รู้ไว้มากมาย ไม่ได้ช่วยเหลือชาวบ้านเท่านั้น ยังเผื่อแผ่บารมีไปถึงวงการทหาร ตำรวจ อีกต่างหาก

 

                แต่คำพูดของ พระผู้ใหญ่รูปนี้ ที่ฟังแล้วขัดแย้งกับหลักทางพุทธศาสนาอย่างสุดที่จะรับ อยู่ตรงที่.. เรื่องราวเกี่ยวกับตัว ‘เณรคำ’ ที่เกิดขึ้นบานปลายใหญ่โตนี้ เป็นเพราะความอิจฉา ริษยาของพระรูปอื่นๆ ที่ไม่ได้มีทรัพย์สมบัติ มีฐานะเทียบเท่ากับ ‘นายวิรพล’ นั่นเอง

 

                ยิ่งกว่านั้น ประเด็นการพูดปกป้องยังเน้นไปที่ ‘จำนวนตัวเลขเงินบริจาค’ เป็นสำคัญ ที่อึ้งและรับไม่ได้มากที่สุด ก็ตรงที่บอกว่า ถ้าท่านไม่ได้เป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบจริง เหตุใดจึงมีคนศรัทธา มีรถขบวนติดตามเป็นทิวแถวมากขนาดนั้น แค่เพียงออกเดินบิณฑบาต ครั้งเดียว ชาวบ้านยังยัดตังค์ใส่มือ กลับมาคราวหนึ่งได้เป็นหลัก 6 – 7 หมื่นบาท !!

 

               

 

ได้ฟังถ้อยคำพระผู้ใหญ่ผ่านสื่อแล้ว ก็ได้แต่อึ้งกิมกี่ และปลงสังเวชว่า ระดับพระผู้ปกครอง ที่มีหน้าที่ดูแลพระภิกษุเป็นหมื่นเป็นพันรูปให้อยู่ในระเบียบวินัยสงฆ์ ยังมีทัศนะ ‘แย่ๆ’ และมีความคิดหลงเสพติดวัตถุนอกกายได้มากขนาดนี้  ไม่แปลกใจแล้วว่า ทำไม ไอ้ขบวนการลวงโลก ที่ใช้ ‘บาป บุญ คุณ โทษ’ บังหน้า เป็นเครื่องมือหากิน รีดไถ่ปล้นชาวบ้านแบบหน้าด้านๆ จะโอหัง สถาปนาตนอย่างย่ามใจ ใหญ่โตได้ปานนั้น

 

ถึงตอนนี้ ใครจะยังเรียก มารศาสนาตัวนี้ว่า ‘อรหันต์’ ต่อไปก็เรียกเถอะครับ แต่ถ้าไม่อยากกระดากปาก ก็ขอใช้ศัพท์แบบ ‘พระอาจารย์พุทธะอิสระ’ ที่ออกมาท้าชน ขบวนการทุรชนป่นศาสนานี้ว่า ‘อรหอย’ น่าจะเข้าท่านะครับ เพราะความจอมปลอม และสิ่งลวงโลกทั้งหมดในตัวมัน กำลังจะอวสานลงก็เพราะ ‘กิเลส’ ในตัวมัน ที่ ‘ฆ่า’ ตัวมันเองแท้ๆ !!

 

               

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 




 

Create Date : 29 มิถุนายน 2556
2 comments
Last Update : 29 มิถุนายน 2556 17:56:56 น.
Counter : 3143 Pageviews.

 

ขอให้พทธศาสนิกชนพิจารณาจิตตัวเองดีๆก่อนบูชาพระพวกนี้ เราชาวบ้านยังรู้เองได้ว่า อะไรควรไม่่ควร บรรพชิตยิ่งมีโอกาสได้ดูจิตตนเองยิ่งกว่า มองไม่เห็นหรือไร

 

โดย: ลุง IP: 49.49.218.162 29 มิถุนายน 2556 19:16:06 น.  

 

Thank you very much

 

โดย: Kai (nookookai8 ) 29 มิถุนายน 2556 19:40:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


โปสการ์ดราดซอส
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add โปสการ์ดราดซอส's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.