Mr.Pos : The Thinking & Learning in My Life
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
23 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 

‘ผ้าขาวม้า’..ผืนผ้ามหัศจรรย์ จากต้นทุนภูมิปัญญาไทย

เรื่องเล่า...มรดกไทย

‘ผ้าขาวม้า’..ผืนผ้ามหัศจรรย์ จากต้นทุนภูมิปัญญาไทย

 

 

       เมื่อพูดถึง ‘สิ่งของเครื่องใช้’ ในชีวิตประจำวัน ที่เกิดจากการสั่งสมทางภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยเรา ที่ยังได้รับการใช้สอยประโยชน์อย่างแพร่หลาย มาจนถึงคนรุ่นปัจจุบัน จนมีชื่อเสียงก้องไกลไปทั่วโลก หนึ่งในนั้นเราคงต้องยกนิ้วให้กับ ‘ผ้าขาวม้า’ ผืนผ้าที่ดูแสนธรรมดามากๆ หากแต่เปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติสารพัดประโยชน์อย่างไม่น่าเชื่อ !

      ‘ผ้าขาวม้า’ ที่มาคำๆ นี้ แม้ฟังดูแล้วน่าจะเป็นคำในภาษาไทยเรามาแต่อ้อนแต่ออก แต่ ‘ผ้าขาวม้า’ ก็กลับไม่ใช่คำไทยแท้ๆ อย่างที่เราคิดกันนะครับ เพราะมันมีรากศัพท์มาจากภาษาเปอร์เซีย ว่า ‘กามาร์บันด์’ ซึ่ง ‘กามาร์’ มีความหมายถึง ท่อนล่างของร่างกาย ส่วน ‘บันด์’ นั้นแปลว่า พัน รัด คาด ความหมายรวมของคำนี้ จึงหมายถึง ‘เข็มขัด ผ้าพัน หรือ คาดสะเอว’ นั่นเอง

เชื่อกันว่าในสังคมไทย คนรุ่นเก่าก่อนเขาใช้ ผ้าขาวม้า กันมาเป็นเวลานานแล้ว ตั้งแต่ยุคเชียงแสน พุทธศตวรรษที่ ๑๖ ขณะที่ฝ่ายหญิงนิยมนุ่งผ้าถุง ฝ่ายชายก็จะนิยมใช้ ผ้าขาวม้า เคียนเอวย่ำเดินทางไปถึงไหนต่อไหน โดยไทยเรารับวัฒนธรรมการใช้ ผ้าขาวม้า ต่อมาจาก ‘คนไทยใหญ่’ (คนไทยใหญ่จะใช้ผ้าขาวม้าโพกศีรษะ) อีกทอดหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะนำมาใช้เคียนเอวแล้ว ผู้ชายไทยยุคนั้น ยังปรับประยุกต์ใช้สอยประโยชน์ของ ผ้าขาวม้า ได้อีกสารพัดรูปแบบ ใช้ห่ออาวุธ บรรจุข้าวของสัมภาระระหว่างเดินทาง ใช้ปูนอน ไปจนถึงนุ่งอาบน้ำ ใช้เช็ดตัวถูร่างกายก็ยังไหว

พอมาถึงสมัยอยุธยา ช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ ๒๒ ก็มีหลักฐานว่า ชาวเมืองก็นิยมใช้ ผ้าขาวม้า กันอย่างแพร่หลาย ทั้งคาดพุง พาดบ่า ใช้นุ่งเป็น ‘โจงกระเบน’ ต่อเนื่องจนมาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ การใช้ประโยชน์จาก ผ้าขาวม้า ของชาวไทยก็ยิ่งแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ โดยหาได้จำกัดการใช้อยู่เฉพาะในหมู่ผู้ชายแต่อย่างใด แต่ยังรวมไปถึงบรรดาอิสตรีอีกด้วยครับ

 

 

      แม้ใครๆ ต่างก็รู้จัก ผ้าขาวม้า กันเป็นอย่างดีแล้ว แต่ไหนๆ มานั่งเขียนถึง ผ้าขาวม้า แล้ว ก็ขอเรียงไล่แจกแจงลักษณะ รูปโฉมโนมพรรณของ ผ้าประจำชาติชนิดนี้ กันอีกซักเล็กน้อยนะครับ ผ้าขาวม้า  นั้นมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า นิยมทอจากผ้าฝ้าย หรือผ้าไหม ส่วนบางท้องถิ่นนิยมทอจากเส้นด้ายดิบ และเส้นป่าน มีความกว้างประมาณ ๒ ศอก ยาว ๓ – ๔ ศอก เป็นผ้าสำหรับผู้ชายใช้นุ่งแบบลำลอง ความกว้างจึงเท่ากับระยะจากเอว ไปจนถึง กลางหน้าแข้ง มีความยาวเท่ากับระยะพันรอบตัวแล้วเหลือเศษอีกเล็กน้อย

ลวดลายของ ผ้าขาวม้า นั้นนิยมทอเป็นลายตารางเล็กๆ โดยใช้ด้ายหลากสีสอดประสานผสมกันอย่างสวยงาม ซึ่งสีสัน และลวดลายของ ผ้าขาวม้า ก็จะมีเอกลักษณ์ มีความแตกต่างไปตามความนิยมในแต่ละท้องถิ่นครับ อย่างภาคกลาง ผ้าขาวม้า ก็จะมีลวดลายแบบ ‘ตาลายสก๊อต’ หรือ ‘ตารางหมากรุก’ ส่วนแถบถิ่นอีสานจะนิยมเป็นแบบ ‘ตาเล็กๆ’ พูดถึง อายุการใช้งานโดยเฉลี่ยของ ผ้าขาวม้า ผืนหนึ่งๆ แล้ว ก็นับว่ามีความทนทานไม่ธรรมดาเลยครับ เพราะสามารถใช้งานได้นานตั้งแต่ ๑ ปี ขึ้นไปจนถึง ๓ ปีทีเดียว อีกทั้งยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ผ้าขาวม้า ก็ยังมีพัฒนาการทางรูปลักษณ์ และลวดลายที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ มีการหลอมรวมทั้งศาสตร์แห่งสีสัน และศิลปะในลายผ้าไทยรูปแบบใหม่ๆ ที่นำมาผสมผสานเข้ากันอย่างกลมกลืน

 

 

         จนทุกวันนี้ ผืนผ้าจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยที่ว่านี้ ก็ยังคงถูกใช้สอยประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่ามหาศาล ผ้าขาวม้า ในยุค Facebook  Smart phone วันนี้ มันก็ยังถูกใช้ประโยชน์เป็นทั้ง ผ้านุ่งอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย ใช้เป็นผ้าปูรองนั่ง ซับเหงื่อไคล ใช้โพกศีรษะกันแดดในยามต้องทำงานอยู่กลางแจ้ง หรือใช้บังแดด ลมฝน ประยุกต์ใช้แทนเปลผูกนอนใต้ต้นไม้ได้อย่างสบายอารมณ์ เวลาอยู่กับบ้านก็สามารถนุ่งแบบสบายๆ แทนกางเกงได้อีก ผ้าขาวม้า ถูกใช้ห่อข้าวของจิปาถะแทนย่าม ใช้มัดสิ่งของต่างๆ แทนเชือก แม้ในยามที่ ผ้าขาวม้า ได้ถูกผ่านการใช้งานจนเก่าชำรุดเต็มทีแล้ว ผ้าขาวม้า ก็ยังไม่หมดค่าหมดราคา เพราะหลายบ้าน ยังนำไปใช้งานเป็นผ้าขี้ริ้ว ผ้าเช็ดเท้าได้อีกด้วยครับ

จากประโยชน์สารพัดสารพันที่ไล่กล่าวจารนัยมา คงเป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งจริงๆ เท่านั้น เพราะตัวผมเองยังเชื่อมั่นว่า ผ้าขาวม้า นั้นยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกนับร้อยแปดพันประการ ตามแต่ไอเดียบรรเจิด ของผู้เป็นเจ้าของมันนั่นเอง.. ได้เห็นประโยชน์กันขนาดนี้ คงไม่เกินความจริงไปหรอกกระมังครับ หากเราจะกล่าวว่า…  ‘ผ้าขาวม้า’ คือผืนผ้ามหัศจรรย์ แห่งมนุษยชาติอย่างจริงแท้และแน่นอน !!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 




 

Create Date : 23 มิถุนายน 2556
2 comments
Last Update : 23 มิถุนายน 2556 15:45:03 น.
Counter : 6704 Pageviews.

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
ภูมิปัญญาไทย ของแท้ดั้งเดิมเลย ^^

 

โดย: lovereason 23 มิถุนายน 2556 20:26:03 น.  

 

LIKE

 

โดย: deco_mom 18 กรกฎาคม 2556 11:00:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


โปสการ์ดราดซอส
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add โปสการ์ดราดซอส's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.