‘ไก่จ๋า’ นิยามความเชย ที่ครองใจแฟนเพลง

            ย้อนหลังกลับไป 20 กว่าปีในวัยเด็ก ช่วงที่ ผู้เขียน ยังใช้ชีวิตอยู่ในจังหวัดนครพนม เป็นช่วงที่ตัวเองมีความผูกพันใกล้ชิดกับ สถานบันเทิงยามค่ำคืน ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในยุคนั้น ที่เรียกว่า ‘ห้องอาหาร’ หรือ ‘คาเฟ่’ นั่นเอง เนื่องจากญาติผู้ใหญ่ฝ่ายแม่ เปิดกิจการ ทำคาเฟ่อยู่ในตัวจังหวัด ยุคเดียวกับที่ ‘เฮียเลี้ยง’ บุญเลี้ยง อดุลฤทธิกุล กำลังสร้างชื่อกับ วิลล่าคาเฟ่ ดาราคาเฟ่ ศูนย์รวมตลกทั่วฟ้าเมืองไทยอยู่ในกรุงเทพฯ นั่นแหละ

                แต่สถานบันเทิงของญาติผู้ใหญ่ที่มีชื่อว่า ‘ตติยา คาเฟ่’ ซึ่งเป็นเบอร์หนึ่งของจังหวัดยุคนั้น ไม่ได้มีโชว์ตลกอย่างในกรุงเทพฯ หรอกครับ จะมีก็แต่นักร้องชายหญิง แต่งตัวสวยอร่าม ขึ้นมาร้องเพลงทั้งแนวลูกทุ่ง ลูกกรุง สตริงสลับกันไป โดยบนเวทีสแตนเล็กๆ มีเครื่องดนตรีอย่าง ‘อิเล็คโทน’ ตัวเดียวยืนพื้น มีนักดนตรีคอยคุมจังหวะป้อนแบคกิ้งแทรค หรือเล่นคอร์ด เมโลดี้คลอไปกับเสียงนักร้อง แขกที่เข้ามาก็นั่งดื่มกิน ฟังเพลงท่ามกลางบรรยากาศสลัวๆ จนเกือบจะมองอาหารบนโต๊ะไม่เห็น (คงจะนึกภาพกันออกนะครับ) พวกเครื่องเคราเฟอร์นิเจอร์ที่ขาดไม่ได้เลยในคาเฟ่ ก็คือชุดเก้าอี้เบาะนวม ผ้าปูโต๊ะ และม่านประดับสีแดง บนเพดานกลางห้อง แขวนไฟกลมใหญ่แบบลูกโลก วิ่งหมุนไปมา นี่แหละบรรยากาศของ สถานบันเทิงคาเฟ่ ขนานแท้

                แม้อายุจะยังไม่ถึงเกณฑ์จะเข้าได้ แต่ในเมื่อเป็นลูกหลาน ผมจึงได้เข้าไปนั่งฟังเพลง ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ นั่งอยู่ถึง 4 ทุ่ม 5 ทุ่มก็ง่วงเต็มที่แล้ว ที่ ตติยาคาเฟ่ นี่เอง ทำให้ผมได้ยินได้ฟังเพลงลูกทุ่งที่กำลังกระหึ่มดังในยุคนั้น รวมถึงเพลงที่กลายเป็นอมตะไปเรียบร้อยแล้วมากมาย จากลีลาของนักร้องห้องอาหาร ที่มีน้ำเสียงคุณภาพระดับอัดแผ่นได้สบาย หนึ่งในเพลงที่จำได้แม่น และฮิตมากๆ ก็คือ ‘ไก่จ๋า’ ของ พี่เป้า สายัณห์ สัญญา นั่นเอง

                 ความรู้สึกของตัวเอง เพลง ไก่จ๋า เป็นอะไรที่เชยมาก ไม่มีความเท่เลย ซ้ำยังออกไปทางตลกอีกต่างหาก เชยตั้งแต่การตั้งชื่อ ไปจนถึงเนื้อร้อง น้ำเสียงวิธีการร้อง และคาแรกเตอร์ของ สายัณห์ เอง ในสายตาของเด็กที่เพลงอย่าง คู่กัด พริกขี้หนู ของ ‘พี่เบิร์ด ธงไชย’ มันโดนกว่าเป็นไหนๆ

                ว่ากันตามจริง.. เพลงที่นำ ‘ชื่อเล่นผู้หญิง’ มาตั้งเป็นชื่อเพลง ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ อยู่ๆ ก็ให้ชื่อว่า ไก่ แล้วในเนื้อหา ฝ่ายชายก็ได้แต่พร่ำบ่น รำพันว่าตัวเองรัก ไก่ มากมายปานนี้ปานนั้น แต่ก็ถูก ไก่ หักอก ทิ้งไปหาชายอื่นที่กระเป๋าหนักกว่าแทน สุดท้ายต้องยอมตัดใจลา อวยพรให้ ไก่ สมหวังได้ดี มีสุขกับชายคนใหม่ เนื้อหาเช่นนี้ดูแล้วไม่น่าจะกลายเป็นเพลงดัง เพลงอมตะไปได้เลย ซ้ำยังน่าจะเป็น ‘เพลงส่วนตัว’ ที่คนแต่งน่าจะเขียน ร้อง และฟังเองในวงเหล้ามากกว่าด้วยซ้ำ แต่นั่นแหละครับ เพลงๆ หนึ่งถ้ามันจะดังขึ้นหิ้งแล้ว คงไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวอย่างแน่นอน เพลงรักที่แต่งแบบ ทื่อๆ ซื่อๆ ตรงๆ โดยเอาชื่อผู้หญิงมาตั้งแบบง่ายๆ เช่นนี้ ในที่สุดก็ดังกระหึ่มในวงกว้าง นั่นอาจเป็นเพราะเบื้องหลังของเพลงนี้ มีที่มาจากชีวิตจริงของ นักแสดงชื่อดังแห่งยุคในสมัยนั้น ซ้ำยังถูกขับร้องโดยศิลปินขวัญใจมหาชนอย่าง สายัณห์ สัญญา อีกต่างหาก ไก่จ๋า เลยดังแบบช่วยไม่ได้จริงๆ..

 ปิยะ ตระกูลราษฎร์ ผู้แต่งเพลง ไก่จ๋า

                ‘ไก่จ๋า’ ที่เกิดขึ้น และดังกระหึ่มครั้งแรกเมื่อ 30 กว่าปีก่อน แต่งโดย ‘ปิยะ ตระกูลราษฎร์’ อดีตนักแสดงที่โด่งดังมาจากบทนำในหนังเรื่อง ‘ครูบ้านนอก’ ของผู้กำกับ สุรสีห์ ผาธรรม ในปี 2521 ทุกวันนี้ ปิยะ ผันตัวเองมาเป็น โฆษก นักพากย์มวยไทยรายการศึกอัศวินดำ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง และยังรับบทแสดงละครตามช่องต่างๆ อยู่เสมอๆ

ปิยะ เป็นคนบ้านเดียวกับ สายัณห์ เกิดที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี และเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งในวงการของ สายัณห์ ที่มีความสามารถในการขีดเขียนบทเพลงลูกทุ่งอย่างหาตัวจับยาก ปิยะ เขียนเพลงให้ สายัณห์ ร้องไว้จำนวนหนึ่ง แต่ก็ไม่มีบทเพลงไหนจะดังเท่า ไก่จ๋า ซึ่งมีสถานะเป็นภาพจำ เป็นเพลงแห่งคาแรกเตอร์ที่ติดตัว สายัณห์ ไปตลอด ทั้งที่จริงแล้ว ยังมีบทเพลงของ สายัณห์ ที่ไพเราะ และได้รับความนิยมกว่า ไก่จ๋า อีกมากมายหลายยุคก็ตาม

               บทเพลง ไก่จ๋า ถูกแต่งขึ้นแบบกลั่นออกมาจากหัวใจของ ปิยะ เขาเขียนเพลงนี้เพื่อแทนความรู้สึกของตัวเอง มอบให้ ‘ไก่ ปริศนา วงศ์ศิริ’ นักแสดงสาวสวยชื่อดังในยุคนั้น ซึ่งเป็นอดีตคนรักในชีวิตจริงของ ปิยะ นั่นเอง เป็นการแต่งขึ้น หลังจากที่ ไก่ ปริศนา ตัดสินใจหันหลังให้กับชีวิตรักของ เธอ กับ ปิยะ แล้วเริ่มต้นชีวิตรักกับชายคนใหม่ ความเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง จึงทำให้ ปิยะ เขียนเพลงนี้ออกมาทั้งน้ำตา ทั้งประโยค วลีเด็ด แสนออดอ้อนในบทเพลง ก็ล้วนถูกสร้างสรรค์กลั่นออกมาจากก้นบึ้งของ ปิยะ ทั้งสิ้น

                            ไก่ ปริศนา วงศ์ศิริ อดีตนักแสดง นักร้องสาว ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับ ปิยะ ในบทเพลง ไก่จ๋า

                เคล็ดลับของเพลง ไก่จ๋า ผมว่ามันช่างให้อารมณ์ใกล้เคียงกับ หนังโฆษณาแสนเชย ที่เรามักจะจดจำกันได้แม่นยำตลอดกาลอย่าง ‘โทนาฟ’ ยาทาแก้แผลสด แผลเปื่อย แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกนั่นแหละครับ เป็นโฆษณาต้นทุนต่ำ ที่คนคิดครีเอตขึ้นแบบทื่อๆ ตรงๆ ประเภทเอากาน้ำร้อนมาตั้ง ให้นักแสดงวิ่งมาแล้วหกล้มเดี๋ยวนั้น ปวดหลังก็ทำท่าบิดเอว แสดงอาการเจ็บปวดใบหน้าบิดเบี้ยวกันเห็นๆ ไม่มีการลงทุนใดๆ ทั้งสิ้น ยิงตรงสรรพคุณตัวยาอย่างเดียวในเวลาจำกัด แม้เราจะรู้สึกว่าโฆษณาแบบนี้มันน่าถูกล้อเลียน น่าขบขันเพียงใด แต่จริงหรือไม่ว่ามันก็กลายมาเป็น ‘ภาพจำติดตา’ ของเรา มากกว่าหนังโฆษณาที่มีเนื้อหาเท่ๆ ลึกซึ้ง ใช้งบเป็นสิบๆ ล้าน ไม่รู้กี่เท่า    

              เพลง ไก่จ๋า ก็เช่นกัน มันกลายเป็นบทเพลงแห่งคาแรกเตอร์ ที่ติดตัว สายัณห์ ไปโดยปริยาย เมื่อนึกถึงเพลงนี้ รูปหน้า จมูกงุ้มยาว เคราแพะ เสื้อผ้าหน้าผม และสำนวนออดอ้อนแฟนบนเวทีของ สายัณห์ ก็จะผุดขึ้นในความคิดเราทันที กลับกันเมื่อเรานึกถึงชื่อ สายัณห์ อินโทรเพลง ไก่จ๋า ก็จะดังขึ้นตามมาทันทีเช่นกัน

             สำหรับผม ผมประทับใจกับท่อนเพลงสุดท้ายของ ไก่จ๋า มากที่สุด ที่ ปิยะ เขียนว่า.. “..เปรียบเหมือน ลบรอยชอล์กบนกระดาน โปรดจงรักเขานานนาน ลืมฉันเสียเถิดไก่จ๋า..” มันเป็นวรรคทองที่ไม่สามารถไปปรากฏอยู่ในเพลงไทยเพลงไหนได้อีกแล้วล่ะครับ..

ไก่จ๋า ได้ยินไหมว่าเสียงใคร
มันเหมือน เสียงคนร้องไห้
แต่คล้าย ชายเจ้าน้ำตา
เสียงนี้ คือเสียงคนปวดอุรา
จึงร้อง ครวญหา ไก่จ๋า หลบหน้าไปไหน

ไก่จ๋า ขอเพียงหางตาเหลือบมอง
ฉันกลาย เป็นคนเศร้าหมอง
ฉันต้อง เหมือนคนสิ้นใจ
หรือลืม สัญญา ที่เธอ ให้ไว้
ชาตินี้ จะไม่รักใคร ไฉนถึงผิดวาจา

ข่าว เขาว่า ไก่มีแฟนใหม่
คง ร่ำรวยกันใหญ่ สุขใจ อยู่กับเงินตรา
แต่ไก่ รู้ไหม เมื่อยาม ไก่ยิ้มเต็มหน้า
หัวใจฉันแทบบ้า นอนนอง น้ำตาอยู่นาน

ไก่จ๋า แม้ว่าฉันต้องผิดหวัง
ทิ้งฉัน ไว้เพียงลำพัง
จงลืม ความหลังเมื่อวาน
เปรียบเหมือน ลบรอยชอล์กบนกระดาน
โปรดจง รักเขานานนาน
ลืมฉัน เสียเถิด ไก่จ๋า

Create Date : 16 กันยายน 2556
Last Update : 16 กันยายน 2556 13:02:05 น.		0 comments
Counter : 8732 Pageviews.
Share Tweet