ณ ตึกระฟ้าใกล้ลานบินบังคับบัญชาการน่าซาหลังปรากฏการเครื่องบินFFiyหายไปจากฟากฟ้าผ่านไปนานถึง6เดือนชาวโลกยังวิพากษ์วิจารณ์ถึงอาหารเม็ดแค๊ปซูนที่นาซ่าออกประกาศว่าสามารถช่วยประทังชีวิตผู้โดยสารได้ในเสียงเบื้องหลังของความรู้สึกห่วงใยและการทำดีที่สุด..โดยที่ไม่มีใครทราบว่าอีกด้านหนึ่งของขอบฟ้าพระอาทิตย์กำลังก่อกำเนิดแรงแม่เหล็กอันมีแรงมหาศาลกำลังดึงดูดพลังงานจากแกนสีขาวของดวงดาวและโลกมาสู่แกนกลางของวงล้อจักรวาลที่ห่างกันหลายปีแสง..
ในขณะแกนโลกเกิดการแปรปรวนหมุนเข้าสู่คศ.2013 ลมพายุก็หอบวาโยลูกใหญ่มหึมามีพลังความโน้มถ่วงอันมหาศาลอย่างมากกำลังดึงแกนโลกด้านล่างเกิดเป็นแรงสั่นสะเทือนจนภูเขาไฟเกิดความร้อนตัวแตกกระจายพุ่งขึ้นสู่ฟ้ามีลาวาโพยพุ่งออกมาไหลไปทั่วบริเวณพื้นโลก..โลกบางแห่งกำลังมีพายุโซน และสายฝนตกเต็มไปทั่วโลก บางที่น้ำท่วมบางที่ไม่มีน้ำและแห้งแล้งที่ขั้วโลกก็เกิดแผ่นดินไหวที่ใจกลางกลุมรูปเกือกม้าแห่งไฟมีผู้คนมากมายที่ประสบเหตุและสิ้นชีวิตเหตุการณ์อันเกิดจากธรรมชาติโดยไม่คาดฝันกำลังดำเนินไปอย่างไม่สิ้นสุดมนุษย์กำลังหายไปจากโลก...
อีกฟากฟ้าหนึ่งของท้องฟ้าเครื่องบินFFiyกำลังบินฝ่าสายฟ้าฟาดที่มีแรงโน้มถ่วงดึงดูดเครื่องเข้าไปสู่หลุมดำอวกาศฉันกับบล็อกเกอร์หนุ่มมีหน้าที่ใหม่และกำลังบังคับเครื่องให้บินผ่านหลุมดำอวกาศไปให้ได้โดยไม่ได้สนใจเสียงคลื่นติดต่อจากภายนอกที่ดังขึ้นเป็นระยะ...ขณะกัปตันนาซ่าและจนท.สลบคาเครื่องไปแล้ว..
ฉับพลันสายตาของฉันก็มองเห็นสิ่งมีชีวิตราวกับนกสีฟ้าตัวหนึ่งกำลังบินเข้ามาใกล้ฟิ้วว..ฉันกดปุ่มติ๊ด!!ไม่ทันแล้วเครื่องบินกำลังถูกพลังงานสีแดงราวกับแม่เหล็กอวกาศดึงเข้าไปหาและหมุนเคว้งในอวกาศอย่างแรง..แว๊บ!แสงกระพริบอันเจิดจ้าฟาดลงพาดผ่านเป็นทางเสียงฟืดที่กระจก!!ฉันรีบหลับตาลงอย่างเร็ววววอ๊ากกกกกกกกกกก.....
หญิงสาวผมยาวมีปีกราวกับนกอวกาศยื่นมือมาดึงเครื่องบินไว้ได้ก่อนที่เครื่องจะบินเข้าไปในหลุมดำอวกาศเธอเอามือที่เหมือนกับปีกพังพืดออกมาสะบัดไปมาพลัน!!!สายลมแรงจากฟากฟ้าก็พัดลมเย็นยะเหยือกบนวงแหวนสีขาวขุ่นจากอวกาศหอบผู้โดยสารและทุกคนปลิวเข้าไปในหลอดกระสวยแก้วทุกคนถูกสายลมพัดปลิวหายไปในความรู้สึกไม่อาจรู้ชะตาตัวเองขณะควันกระสวยห่อตัวเป็นวงยาวรีแล่นผ่านดาวอังคารและดวงดาวดวงอื่นๆที่ถูกปกคลุมด้วยแรงรัศมีของพระอาทิตย์..ด้วยแสงอันร้อนแรงระดับรังสียูซ่าสลับในความมืดแสงสีเขียวสีฟ้าด้วยควันสีขาวพาทุกคนข้ามเวลาด้วยปีแสงแห่งจักรวาลสู่ห้วงเร้นลับอันไกลโพ้นน...
ควันสีขาวสลับสีส้มเข้มจากกระสวยอวกาศที่โพยพุ่งออกมาอย่างเร็วหอบร่างทุกคนปลิวกระจายย้อนเวลากลับสู่โลกอีกครั้ง..เมื่อควันจางหายร่างทุกคนก็ร่วงลงสู่พื้นปฐพีของโลกปลิวไปคนละทิศละทางรวมทั้งฉันกับบล็อกเกอร์หนุ่มที่จับมือกันไว้อย่างแน่นเลยร่วงมาตกที่กองซากไม้ผุผุหักพังใกล้ๆกันหลังเสียงดังตุ๊บ!!ตับ!ตุบตุบบ!สมองฉันสั่งการให้ฉันเอามือจับศีรษะตัวเองไว้อย่างไวโอ้ย!อ๋อยยย..
ณ นาที..ที่ร่างกายและสองเท้าสัมผัสพื้นโลกที่เต็มไปด้วยน้ำนองที่ซัดเข้ามาตรงพื้นที่ ที่เราทรุดตัวลงแบบไม่คุ้นเคยกับแรงโน้มถ่วงโลกด้วยท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนในอาการอย่างมึนตรึบๆยังไม่หาย..สายน้ำที่ค่อยๆพัดโถมเข้ามาจนร่างกายของฉันกับบล็อกเกอร์หนุ่มเปียกปอนไปตามๆกัน..ท่ามกลางกลิ่นโชยของเศษขยะและซากไม้ผุหักพังที่ลอยปะปนมากับสายน้ำที่ขุ่นมัว..
"เฮ้ย..นี่เรากลับมาคศ.2013หรอ"ฉันก้มมองเวลาแล้วสบัดนาฬิกาข้อมือของตัวเองที่โดนน้ำกระเซ็นเปียก
"ไม่ใช่หรอกแพมๆ"
"หานั่น!!..ช่ายดิ๊"บล็อกเกอร์หนุ่มจ้องมองตามไปรอบๆตัวเขาสะดุดเล็กน้อยเมื่อมองเห็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตเป็นฝูงที่เหมือนกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาหาแต่เขาหันมาพูดกับฉันด้วยเสียงโอนโยนอย่างเบา
"มองใหม่ดิ..ไม่มีอะไรหรอกมั้ง"ฉันเงยหน้ามองเขา..โดยบังเอิญเขาก็ก้มใบหน้าลงมาใบหน้าเราเลยเกือบชิดกันจนฉันได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออกของเขา..ฉันจ้องใบหน้าหน้าเขาอย่างนิ่ง..ความคิดหนึ่งปลิวเข้ามาและไหลกระจายไปตามสายน้ำอย่างไกล..
"เอ่อ...เรามาเป็นกิ๊กกันดีป่าว"ฉันพูดเสียงเบาพอให้เขาได้ยิน แต่เขาส่งเสียงทุ้มอย่างดัง
"หา!!...ว่าไงนะแพมๆ"บล็อกเกอร์หนุ่มอ้าปากค้าง
"ต๊องแระ - -"
"ก้อมองไปไกลไกลโน่นดิไม่เหลือใครละ..มีเหลือกันสองคนที่ไม่เหมือนใคร"
เขามองตามฉันชี้นิ้วมือไปรอบๆเราสองคนเงียบไปพักใหญ่เมื่อพบว่ารอบๆตัวมีชายหญิงที่กำลังเดินท่องน้ำอยู่ทั่วไป..พวกเขาใช้ใบไม้มาปกปิดร่างกายไว้ราวกับมนุษย์ยุคหินใบหน้ามีริ้วรอยของความหิวโหย...กำลังเดินฝ่าสายน้ำที่สูงระดับครึ่งท่อนร่างอีกไม่ถึงร้อยเมตรจะเข้ามาใกล้เราแล้ว
"เฮ้ย..ไม่อ่ะ..ผมไม่อยากมีกิ๊ก..เอาไงดีว๊า!!"
"นี่ถ้าท่าน..ไม่เป็นกิ๊กกันข้าพเจ้าก็ไม่ให้จับมือวิ่งแล้วนะ..แล้วก็ไปอยู่กับสาวมนุษย์หินโน่นเลย.."
พลันกลุ่มคนหน้าตาแปลกที่แต่งกายห่อหุ้มปิดไว้ด้วยใบไม้ราวกับสาวมนุษย์หินผู้หิวโหยก็ฝ่าสายน้ำเข้ามาถึงตัวบล็อกเกอร์หนุ่มต่างจับแขนขาและใบหน้าเขาที่ดูเหมือนจะส่งกลิ่นหอมน่ากินมากทุกคนต่างดึงและรุมทึ่งจนเขาต้องปัดมือพร้อมก้มตัวหลบเซถลาไปหลายทีส่งเสียงร้องดังโวยวายลั่นนนนไปทั่วสายน้ำที่กำลังไหลเอื่อยๆ..
"โอ๊ย!!!อ๊ากกกกก..ช่วยผ๊มด้วย!!"
"สม!...ข้าพเจ้าไปก่อนล่ะ!!!
******************************************
โลกหลังปีคศ.2012 จะเป็นอย่างไรกันในเมื่อเวลายังเดินมาไม่ถึงเราก็ไม่อาจคาดเดาและก็ไม่รู้อาจจะรู้ว่าจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้น รึป่าวนั่นคือภัยธรรมชาติ..ตอนนั้นบ้านเรือนและตึกที่ก่อสร้างด้วยมนุษย์และผู้คนอาจจะสูญหายไปหรือกลับไปสู่..ยุคมนุษยหินฟริ้นโตน..ก็เป็นได้นะ.."
โจทย์65ของพี่อ๋า^^วนารักษ์&ประกายพรึก))ให้จินตนาการถึงโลกหลังปี 2012ประมาณว่าหลังจากโลกเผชิญกับภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติแบบขนานใหญ่จนมนุษย์หวิดจะม่องเหม่งกันประมาณนั้นโลกหลังปี 2012 หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไรคิดกันเอาโลคไม่จำกัดรูปแบบงานเขียนค่ะ..จขบ.ก้อคาดหวังว่าจะให้เป็นภาค2ของโจทย์ที่แล้ว..เลยเพิ่มเงื่อนไขให้ตัวเองซะงั้นเอาหินมาแท๊กไปสองกองแล้วเอามันผูกโบว์มัดไว้อย่างเ้ม้าม๊วฟมากตามสไตล์แพมๆเฮะแบบว่าตะแรกที่เขียนนึกถึงหน้าท่านชีริวกับคุณต่อไว้เขียนไปๆเอาเป็นแบบหนุ่มบล็อกเกอร์ในจินตนาการแล้วกันนะค่ะเด่วจะโดนทุบเหม่งเอาฮีๆส่วนโจทย์หน้าถ้าเอาเป็นภาค3ไว้กดดันตัวเองอีกท่าจะดีไม่ช่ายน่อยนะเนี่ย!!แพมโม้อีกละโปรดใช้วิจารณาณในอ่านนะค่ะย๊ากกก!!((อ่านภาค1!(คลิก))
❤
ⓛⓞⓥⓔ
☀(`.¸ ¸.´)<.´¯`.
✿.。.:* *.:。✿*゚¨゚✎・ ✿.。.:*
*.:。✿*゚¨゚✎・ ✿.。.:* *.:。✿*゚¨゚✎・ ✿.。
✿mastana✿mastana✿mastana✿mastana✿~~
✿✲-(¯`°.°.★* *★ .°.°´¯)*¤°★)))PampamMastanaYeah!chooo.!!!