むかしある所に(.)(ロ)
การมองเห็นของมนุษย์คือสิ่งอันธรรมชาติบันดาลให้เกิดขึ้นจากการเดินทางหักเหของแสงและเงาที่ตกกระทบเรตินาบนกล่องดวงตาเชื่อมโยงด้วยเส้นใยบุในระบบประสาทสัมผัสผ่านการมองเห็นภายใต้กระจกเงาภายในความรู้สึกนำพา
สู่เส้นประสาทในสมองมนุษย์ทำการประมวลผลเกิดเป็นปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมีปรากฏเป็นภาพภายนอกในโลกแห่งความเป็นจริงเบื้องหน้า..แล้วกระจกเงาภายนอกเล่า...
ตอนนั้น...เวลาสำคัญของการใช้ชีวิตบนโลกในวันหนึ่งกำลังจะหมดไปในขณะที่ความเหน็ดเหนื่อยและความอ่อนล้าเข้าครอบครองคุ้นเคยเข้าปกคลุมในร่างกายของมิโกะสาวผู้หนึ่งนำมาซึ่งช่วงเวลาอันสะลืมสะลือที่เข้าครอบงำในจิตใจ (หญิงสาวผู้มีหน้าที่ดูแลศาลเจ้า เรียกว่า มิโกะ)
ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบไร้ซึ่งสรรพเสียงสำเนียงของสิ่งมีชีวิตและผู้มาเยือนแม้ภายในศาลาที่พักหลังศาลเจ้าก็เฉกเดียวกัน
มิโกะสาวกวาดสายตาไปเรื่อยเปื่อยด้วยความคิดอันไม่มีที่ลอยฟุ้งไปในสายลมเย็นพัดเอื่อยๆภายนอก
ดวงตาของเธอปรือและกำลังเคลิ้มไปกับความเงียบอันสงบของอากาศเย็นสบายยามเย็น...
ภาพในกระจกจากโคมไฟทางเดินเข้าศาลเจ้าปรากฏภาพร่างกายเลือนลางจากแสงสะท้อนของผู้มาเยือนผู้หนึ่งที่ยืนสงบนิ่งอยู่ณทางเดินเข้าแต่เธอไม่อาจรับรู้.. บนโลกแห่งภาพความจริง ภาพใบหน้าของมิโกะสาวปรากฏขึ้นบนกระจกเงาที่ติดบนฝ่าผนังศาลาหลังศาลเจ้าด้วยแสงที่สาดส่องเข้ามาจากโคมไฟภายนอกที่ไม่สูงนักเป็นภาพหญิงสาวที่กำลังยันกายลุกขึ้นนั่ง..
ใบหน้าของเธอขาวซีดไร้สีเลือดเช่นมนุษย์ปกติดวงตาของเธอโหลเลื่อนลอยริมฝีปากซีดผมยาวเยียดที่มัดรวบไว้หลวมๆเป็นกระเซิง
ผู้มาเยือนยามพลบค่ำค่อยๆเดินลากเท้าช้าๆถึงศาลาหลังศาลเจ้าหลังยืนสงบนิ่งอยู่นานแต่เมื่อมองเห็นบางสิ่งที่เบื้องหน้าเขาก็ปริปากส่งเสียงตะโกนร้องดังลั่นด้วยเสียงที่แหบแห้งออกมาเป็นครั้งแรกโอ้ยยย..เสียงร้องสุดเสียงด้วยความตกใจอย่างหนักก่อนขยับร่างโดยอัติโนมัติถอยหลังและหันหลังวิ่งออกไปจากศาลเจ้าอย่างรวดเร็ว...
ในความเป็นจริงกระจกเงาภายนอกสะท้อนภาพจากระบบการทำงานภายในร่างกาย ในเหตุและผลบนเรตินาสู่การมองเห็นภาพสะท้อนบนใบหน้าตัวเองได้ด้วยดวงตาของตัวเองผ่านกระจกเงา...แต่ที่ไม่จริงอาจจะมาจากความคิดที่เกิดขึ้นในใจตัวเองก็ได้...
|