สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

จะเลือกดื่มนมชนิดไหนดี

นม เป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่สำคัญทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่
และเป็นแหล่งของแร่ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส
ซึ่งจำเป็นในการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง นอกจากนี้
นมยังให้วิตามินบี 2 วิตามิน บี 12 รวมทั้งเป็นแหล่งไขมัน
และให้พลังงานได้ นมจึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา
สุขภาพของคนไทย จะเห็นได้จากนโยบายของรัฐบาล
ที่มุ่งให้เพิ่มการผลิต และบริโภคนมมากขึ้น โดยเฉพาะ
ในเด็กวัยเรียน หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ และผู้สูงอายุ





นมที่ใช้บริโภคในปัจจุบันของบ้านเรา ส่วนใหญ่
มาจากน้ำนมโค โดยแบ่งผลิตภัณฑ์นมออกเป็น
4 ประเภท คือ

1. ผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรซื
2. ผลิตภัณฑ์สเตอร์ริไรซ์
3. ผลิตภัณฑ์ยูเอชที
4. ผลิตภัณฑ์นมผง


ผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรซ์

นมสดพาสเจอร์ไรซ์ นิยมบรรจุในขวดพาสติกขุ่น
กล่องกระดาษหรือถุงพลาสติก โดยวางจำหน่ายในตู้เย็นหรือ
ตู้แช่ ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส เพื่อไม่ให้นมเสีย
เนื่องจากกระบวนการผลิตนมพาสเจอร์ไรซื ใช้อุณหภูมิต่ำ
ประมาณ 72 - 73 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 วินาที เพื่อ
ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคเท่านั้น แต่ไม่สามารถทำลาย
เชื้อจุลลินทรีย์ที่ทำให้อาหารเน่าเสีย กระบวนการนี้จะใช้
ความร้อนต่ำที่สุด เพื่อรักษากลิ่น และรสของน้ำนมสดไว้
นมสดพาสเจอร์ไรซ์ในท้องตลาด บรรจุในภาชนะที่มีสี
ซึ่งบอกความหมายที่แตกต่างกัน ดังนี้

- สีน้ำเงิน หรือสีแสด หมายถึง น้ำนมสดธรรมดา
มีไขมันต่ำ ร้อยละ 3.3 ขึ้นไป
- สีฟ้า หมายถึง น้ำนมสดพร่องมันเนย มีไขมัน
ประมาณ ร้อยละ 1 - 2
- สีขาว หมายถึง น้ำนมสดขาดมันเนย มีไขมัน
น้อยมาก ต่ำกว่าร้อยละ 0.1
- สีทอง หมายถึง น้ำนมสด มีไขมันถึงประมาณ
ร้อยละ 4

สำหรับเด็กและวัยรุ่น ควรบริโภคชนิดสีน้ำเงิน
หรือสีแสด ส่วนผู้ที่มีอายุเกิน 35 ปี หรือผู้ที่ต้องการ
ควบคุมน้ำหนัก หรือไขมันในเลือด ควรบริโภคชนิด
สีฟ้า หรือสีขาว

นอกจากนี้ ยังมีนมสดชนิดปรุงแต่งรสชาติ
ซึ่งมีสัญญลักษณ์ ดังนี้

- สีเขียว คือ นามสดรสหวาน
- สีน้ำตาล คือ นมสดรสชอคโกแลต
- สีชมพู คือ นมสดรสสตรอเบอรี่

นมประเภทนี้ จะมีส่วนผสมของนมสดประมาณ
ร้อยละ 95 ที่เหลือคือ น้ำตาล, กลิ่น และสี นอกจากนี้
กฏหมายยังไม่กำหนดปริมาณไขมัน ผู้ผลิตนิยมเติม
ไขมันในปริมาณเพียงร้อยละ 2 นมชนิดนี้ นิยมใช้ใน
โครงการอาหารเสริมของกระทรวงศึกษาธิการ และ
กระทรวงอื่น ๆ ซึ่งมักมีข้อด้อยกว่านมจืด คือ ราคา
แพงกว่า มีพลังงานจากไขมันต่ำกว่ามีน้ำตาลสูงกว่า
และมีมาตรฐานของโปรตีนต่ำกว่าเล็กน้อย


ผลิตภัณฑ์สเตอร์ไรซ์

นมสดสเตอร์ไรซ์ มักบรรจุในกระป๋องโลหะ
ปิดสนิท กระบวนการผลิตใช้ความร้อนสูง 110 - 116
องศาเซลเซียส เวลา 30 นาที เพื่อทำลายเชื้อจุลินทรย์
ที่ทำให้เกิดโรค และอาหารเน่าเสียในอุณหภูมิการเก็บ
รักษาปกติได้ (อุณหภูมิห้องปกติเก็บได้ 1 - 2 ปี)

ผลิตภัณฑ์นมสเตอร์ไรซ์ แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

1. นมสดพร้อมดื่ม คือ นมสดธรรมดาที่บรรจุ
กระป๋อง ซึ่งฉลากระบุว่าเป็นนมโค 100%
2. นมข้นไม่หวาน คือ นมผงขาดมันเนย
ละลายน้ำในอัตราส่วนที่น้อยกว่าปริมาณน้ำที่มีในนมสด
ธรรมดาครึ่งหนึ่งแล้วเติมลงไป ถ้าเติมไขมันเนยลงไป
เรียกว่า นมข้นคือรูปไม่หวาน ถ้าเติมน้ำมันปาล์มลงไป
เรียกว่า นมข้นแปลงไขมัน ชนิดไม่หวาน

นมข้นไม่หวาน เมื่อนำมาบริโภคในรูปของน้ำนมสด ต้อง
เติมน้ำลงไปในอัตราส่วน 1:1 จะมีคุณค่าในแง่โปรตีน
และพลังงานใกล้เคียงกับน้ำนมสดธรรมดา แต่ชนิดที่ใช้
น้ำมันปาล์มมีปริมาณกรดไขมันจำเป็น และวิตามิน
บางชนิดต่ำกว่า จึงไม่สมควรใช้เลี้ยงทารก หรือเด็ก
อายุต่ำกว่า 2 ปี

3. นมข้มหวาน มีขั้นตอนการผลิตเริ่มต้นคล้าย
นมข้นไม่หวาน คือต้องมีการระเหยน้ำออก หรือละลาย
นมผงขาดมันเนยผสมกับไขมันเนยหรือไขมันปาล์มตาม
อัตราส่วนดังกล่าว แล้วจึงเติมน้ำตาลลงไปประมาณ
ร้อยละ 45 จะเห็นว่านมข้นหวานมีน้ำตาลในปริมาณสูงมาก
จึงต้องมีการผสมน้ำในปริมาณมากก่อนบริโภค ทำให้
คุณค่าทางโภชนาการโดยเฉพาะโปรตีนจานมจะต่ำกว่า
น้ำนมสดมาก นมข้นหวาน จึงไม่เหมาะสำหรับเลี้ยงทารก
หรือใช้เพื่อประโยชน์ในการเสริมคุณค่าอาหารเช่นเดียว
กับน้ำนมสดธรรมดา


ผลิตภัณฑ์ยูเอชที

น้ำนมสดที่บรรจุในกล่องยูเอชที คือ น้ำนมสดที่ผ่าน
กระบวนการให้ความร้อนที่สูงมากแต่ใช้เวลาสั้นมาก
(130 - 135 องศาเซลเซียส เวลา 1 - 3 วินาที) จึงทำให้น้ำนม
ยังมีกลิ่นและรสที่ดี ไม่มีกลิ่นเป็นนมต้ม (ไหม้) เหมือน
นมสดสเตอร์ไรซ์ นมสดที่บรรจุในกล่องยูเอชที มีอายุ
การเก็บในสภาพอุณหภูมิปกติได้นาน 6 เดือน สีของกล่อง
นมมีความหมายเหมือนกับสีที่แสดงอยู่บนขวดหรือกล่อง
นมพาสเจอร์ไรซ์ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์นมยูเอชทีบรรจุ
ในขวดพลาสติก ซึ่งสามารถเก็บที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา
อย่างน้อย 6 เดือนด้วยผลิตภัณฑ์นมผง

การผลิตนมผง เป็นกระบวนการถนอมรักษานมสด
โดยการทำให้เป็นผงแห้ง การแปรรูปเป็นผงโดยการระเหย
น้ำส่วนใหญ่ออกจากน้ำนมสด ทำให้ผลิตภัณฑ์แห้งเป็นผง
มีน้ำหนักเบา ประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่งและเก็บได้นาน

การเลือกซื้อต้องกระทำความความระมัดระวัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำไปเลี้ยงเด็ก นมผงที่เหมาะ
สำหรับเด็ก คือ นมผงที่ผลิตจากน้ำนมสดธรรมดาที่เรียกว่า
นมผงธรรมดาชนิดละลายได้ทันที ส่วนนมผงที่ผลิตจาก
น้ำนมขาดมันเนยผสมกับน้ำมันพืช ที่เรียกว่า นมผง
แปลงไขมัน ควรใช้เลี้ยงเด็กอายุตั้งแต่ 2 ปี ขึ้นไป
ส่วนนมผงชนิดพร่องมันเนยและขาดมันเนยไม่เหมาะ
ใช้เลี้ยงเด็ก แต่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหา
เกี่ยวกับน้ำหนักมากหรือไขมันในเลือดสูง

ถ้าจำเป็นต้องใช้นมผงชนิดพร่องมันเนยหรือ
ขาดมันเนยเพื่อเลี้ยงเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป ควรเติม
น้ำมันพืชลงไปในปริมาณร้อยละ 3 - 3.5 หลังจาก
ชงนมเสร็จแล้ว

นมผงบรรจุกระป๋องที่ยังไม่ได้เปิดฝา สามารถ
เก็บไว้ได้นานประมาณ 2 ปี อย่างไรก็ตาม หลังจาก
เปิดกระป๋องแล้ว ควรเก็บไว้ในที่แห้งและอุณหภูมิ
ไม่สูงมาก หลังจากเปิดใช้แล้ว อายุการเก็บจะสั้น
นมากไม่ควรเกิน 15 วัน - 1 เดือน


การดัดแปลง / เสริมสารอาหารในนม

ผลิตภัณฑ์นมที่จำหน่ายในท้องตลาด ไม่ว่าจะอยู่
ในรูปแบบใด มักมีการดัดแปลง หรือเสริมสารอาหารเพื่อ
ให้เกิดความหลากหลาย และประโยชน์ทางการตลาด
อย่างไรก็ตามผู้บริโภคก็อาจได้รับประโยชน์เหล่านั้น
ถ้ารู้จักเลือกชนิดที่เหมาะสม การเสริมสารอาหารที่
พบบ่อยที่สุดได้แก่ การเสริมธาตุแคลเซียม ซึ่งนมพร้อม
ดื่ม ขนาด 250 มล. ให้แคลเซียมประมาณ 230 - 250 มก.
(ร้อยละ 30 ของความต้องการของร่างกายใน 1 วัน) นมที่
เสริมแคลเซียมมักให้แคลเซียมเป็นร้อยละ 50 (กฎหมาย
อนุญาตให้เสริมได้ไม่เกินนี้) นอกจากนี้ ยังมีการเสริมวิตามิน
และเกลือแร่บางชนิดในปริมาณที่แตกต่างกัน

ผลิตภัณฑ์นมบางยี่ห้อยังมีการแยกน้ำตาลแลกโตส
ที่ก่อให้เกิดอาการท้องเสียในผู้บริโภคที่ไม่สามารถย่อย
น้ำตาลชนิดนี้ได้ จึงเหมาะสำหรับผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าว เพราะ
ช่วยให้สามารถบริโภคนมได้ตามปกติ

นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์นมที่มีการเสริมสาร
พรีไบโอติค (prebiotics) ซึ่งระบุบนฉลากว่า prebio สาร
ชนิดนี้ เป็นคาร์โบโฮเดรตประเภทหนึ่ง ที่เรียกว่า ฟรุคโต
โอลิโกแซคคาไรซ์ ซึ่งพบในพืชบางชนิด และในน้ำนมแม่
สารชนิดนี้เชื่อกันว่าเป็นอาหารสำหรับเลี้ยงจุลินทรีย์
ที่มีประโยชน์ ซึ่งอยู่ในลำไส้ของมนุษย์ ดื่มผลิตภัณฑ์นม
ประเภทใดคุ้มค่าที่สุด

การพิจารณาว่าจะเลือกดื่มนมชนิดไหน ขอให้ดู
ปัจจัยต่าง ๆ ประกอบกัน นมเป็นแหล่งโปรตีน แคลเซียม
และฟอสฟอรัสที่ดี การดื่มนมจึงมุ่งให้ได้สารอาหารดังกล่าว
เป็นสำคัญ สำหรับเด็กไขมันในนมก็สำคัญ ด้วยเพราะเป็น
แหล่งพลังงาน ดังนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีไขมันด้วย

นมพาสเจอร์ไรซ์ นมสเตอร์ไรซ์ นมกล่องยูเอชที
นมข้นไม่หวาน และนมผง หากมีการใช้ถูกต้อง จะให้สาร
อาหารหลักที่กล่าวมาแล้วไม่แตกต่างกัน จึงขอให้เลือกตาม
กำลังทรัพย์ และความสะดวกที่มีอยู่ ถ้าทีปัญหาเรื่องน้ำตาล
แลกโตส อาจต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อซื้อนมชนิดที่ไม่มีแลกโตส
แต่ถ้าอยากได้วิตามิน และสารที่ใช้เสริมเพิ่มเติม ก็ต้องเลือก
ชนิดที่ผู้ผลิตเติมเข้าไป ซึ่งราคาก็แพงขึ้นไปอีก แต่ผู้บริโภค
ไม่ต้องกังวลถ้าไม่ได้ดื่มผลิตภัณฑ์นมชนิดนั้น ๆ เพราะว่านม
ไม่ได้ให้สารอาหารทุกชนิดที่ร่างกายต้องการ เราจำเป็นต้อง
กินอาหารอื่น ๆ ให้หลากหลายด้วย ส่วนผู้ที่ดื่มนมไม่ได้
หรือไม่ชอบดื่มนม หรือดื่มนมแล้วไม่สบายท้อง อาจกิน
อาหารอื่นแทนเพื่อให้ได้แคลเซียม เช่น ปลาตัวเล็ก
ทอดกรอบ ปลากระป๋อง ผักใบเขียวเข้ม หรือเต้าหู้แข็งเป็นต้น




ขอบคุณบทความจากอาจารย์กันยา สุวรรณคีรีขันธ์ : คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
//www.horapa.com





 

Create Date : 18 กรกฎาคม 2552
0 comments
Last Update : 18 กรกฎาคม 2552 17:20:36 น.
Counter : 1661 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
18 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.