คุณเคยเกลียดตัวเองบ้างมั้ย
วันนี้ฉันกลับเข้าบ้านด้วยความรู้สึกเหนื่อยเกินบรรยายเลยค่ะ จนแม้แต่แฟนเองก็สังเกตุได้ ว่าฉันล้าขนาดไหน เธอจึงไม่เซ้าซี้ให้ฉันทำโน่นทำนี่อย่างเคย อาหารเย็นถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะโดยปราศจากเสียงเร่งเร้าจากเธอ เสียงเแป้นคีย์บอร์ดดังมาเป็นระยะๆ จากการแชทของเธอกับเพื่อนที่อยู่แดนไกล กลิ่นหอมของอาหารทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น (ตละกละจังเลยหล่อน) เราสองคนกินกันเงียบๆโดยไม่พูดอะไรมากนัก และฉันก็ล้าเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาได้ แต่เมื่อได้อาบน้ำ ความเย็นของน้ำช่วยฉันได้มากทีเดียว เหมือนกับสายน้ำเย็นช่วยพัดพาขุ่นตะกอนที่ตกค้างในใจฉันให้หลุดออกไป ฉันก้าวออกมาจากด้วยสีหน้าที่คงจะดูดีกว่าเดิม
และแฟนฉันก็คงสังเกตุได้เช่นกัน เธอจึงเข้ามากอดอย่างประจบ แล้วอ้อนถามว่าทำไมวันนี้ดูเหนื่อยๆ แล้วก็กลับมาช้าจัง ฉันนึกย้อนไปถึงสาเหตุของความเหน็ดเหนื่อยในวันนี้ เรื่องราวถูกถ่ายทอดให้เธอฟังเป็นฉากๆ
จริงๆแล้ววันนี้ฉันไม่ได้กลับมาถึงที่นี่ผิดเวลาแต่อย่างใด แต่สิ่งที่รั้งฉันไว้ให้กลับขึ้นห้องได้ช้าลงคือเสียงเรียกของพี่ปู พี่ปูเป็นพี่ที่อยู่ร่วมคอนโดเดียวกับฉันแต่คนละชั้นกัน ฉันรู้มาว่าพี่ปูเป็นมัณฑนากรฝีมือดีคนหนึ่ง ดูจากงานที่พี่รับมาทำไม่ได้ขาด และถ้ามองในอีกมุมหนึ่งก็เป็นอันรู้กันว่า พี่ปูเป็นทอม หากจะมองด้วยสายตาที่ไม่อคติแล้วพี่ปูเป็นทอมที่เท่ห์มาก รูปร่างดี โครงหน้าก็ดี และคงจะมีเสน่ห์ไม่เบา เพราะฉันมักจะเห็นสาวหน้าตาน่ารักมาหาพี่ปูเสมอ และแน่นอนพี่ปูเคยจีบฉันด้วย
คำถามแรกหลังจากที่ฉันนั่งลงตรงข้ามพี่ปูคือ "ได้ข่าวว่าคนที่มาพักอยู่ด้วยเป็นแฟนบลูหรอ" ฉันพยักหน้าอย่างยอมรับพี่ปูถอนหายใจมาเฮือกหนึ่งแล้วถามต่อว่า "บลูเกลียดทอมใช่มั้ย" คำถามนี้เล่นเอาฉันต้องมองไปในตาของพี่ปูอย่างตั้งใจเพื่อค้นหาความหมายของคำถามนั้น ฉันไม่ได้พบแววตาของการประชดประชันแม้แต่น้อย ฉันจึงได้แต่ปฏิเสธว่าเปล่า ฉันไม่ได้มีอคติอะไรกับทอมแม้แต่น้อย
"แล้วทำไมตอนนั้นบลูถึงไม่เปิดใจรับพี่บ้าง" เสียงนั้นดูกับจะตัดพ้อฉันเสียเหลือเกิน ฉันได้แต่ตอบไปว่า ฉันกับแฟนรักกันมานานก่อนที่จะได้รู้จักพี่ปูซะอีก "ถ้าพี่ได้เจอบลูก่อนหน้านี้เราจะรักกันได้ไหม?" ฉันอึ้งไปกับคำถามนี้พอสมควร คิดอยู่นานว่าจะตอบแบบถนอมน้ำใจ หรือตอบตามความเป็นจริงดี ฉันเลือกอย่างหลัง ฉันอธิบายให้ห้กับพี่ปูไปว่า
"จริงอยู่ว่าถ้าบลูเจอพี่ก่อน เราอาจจะได้เป็นแฟนกัน แต่สุดท้ายแล้วผลัลพท์จะเหมือนเดิมค่ะบลูคิดว่ามันดีแล้วที่เป็นแบบนี้ ดีแล้วที่เราไม่เจอกันก่อน เพราะหากเป็นอย่างนั้นบลูนี่แหละจะเป็นฝ่ายทำร้ายพี่ให้สาหัสกว่านี้อย่างแน่นอน บลูเคยถามพี่ว่า พี่ชอบบลูตรงไหน พี่บอกว่าบลูเป็นคนดูลึกลับ น่าค้นหา ความเย็นชาของบลูเป็นแรงดึงดูดให้พี่ปูอยากเข้ามาใกล้" พี่ปูพยักหน้ารับว่าเคยพูดแบบนั้นไว้จริง ฉันเลยอธิบายต่อไปว่า
"แต่พี่รู้มั้ยว่านิสัยนี้ของบลูเป็นสิ่งที่บลูเกลียดมากที่สุด บลูเกลียดความเย็นชาของตัวเองที่มักจะไปทำร้ายคนอื่นโดยไม่รู้เสมอ บลูต้องการอย่างที่สุดที่จะหลีกห่างจากมัน และบลูได้เรียนรู้ว่าคนที่ขับไล่ความเย็นชาออกจากใจบลูได้คือใคร"
"จริงๆแล้วบลูเป็นเลสใช่มั้ย พี่พอเข้าใจล่ะนะ เลสส่วนใหญ่มักไม่ชอบเป็นแฟนกับทอมอยู่แล้ว" ฉันได้แต่ถอนหายใจ "บลูไม่รู้หรอกค่ะว่าบลูเป็นเลสมั้ย แต่บลูบอกพี่ได้แค่ว่า บลูเป็นผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งที่คนที่เธอรัก และรักเธอในตอนนี้ คือผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ เราสองคนก็แค่ผู้หญิงธรรมดาๆที่รักกัน"
พี่ปูได้แต่ฟังนิ่งๆอย่างไม่โต้แย้งอะไรออกมา ฉันไม่สามารถทำอะไรมากกว่านี้ได้ ฉันปลอบใจใครไม่เป็นในเรื่องความรัก ฉันได้แต่ลุกแล้วเดินจากมาอย่างเงียบๆ ระหว่างทางฉันมานั่งคิดทบทวนดู ที่ผ่านมาฉันได้เผลอเอานิสัยแบบนี้ไปทำร้ายใครบ้างหรือเปล่านะ ถ้าจะถามฉันว่าฉันรังเกียจคนที่เป็นทอมมั้ย ฉันคงตอบว่าไม่เลย แต่ก็คงไม่ยินดีนักกับการโดนจีบ ไม่ใช่เพราะรังเกียจ แต่ก็ไม่สามารถหาคำตอบที่แน่ชัดลงไปได้ว่าทำไม อาจเป็นเพราะฉันมองว่าพวกเค้าเป็นหญิง และพวกเค้า ไม่ใช่เธอคนนั้นของฉันก็ได้
และที่แย่ที่สุดสำหรับฉันในตอนนี้คือ ฉันไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ทำให้พี่ปูเสียใจ ไม่เคยแม้แต่จะรู้สึกผิด สภาพพี่ปูในตอนที่ฉันเดินจากมาไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกว่าจะต้องรับผิดชอบอะไรเลยแม้แต่น้อย นี่แหละคือนิสัยที่ฉันรังเกียจมากที่สุด ความรู้สึกเกลียดตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆจนฉันล้าไปหมดทั้งใจ แม้กระทั่งเข้ามาในห้องพักของตัวเอง แฟนฉันยังจับความรู้สึกนั้นได้
แฟนฉันฟังเรื่องราวที่ฉันเล่าอย่างเงียบๆมือเธอโอบหัวฉันไปซบกับอกของเธอ ความอุ่นที่มาจากความห่วงใยถ่ายทอดมาจนสัมผัสได้ มือเล็กลูบผมฉันอย่างเบาๆ ฉันจำได้เพียงว่า ฉันร้องไห้อย่างหนักในอ้อมกอดของเธอ.....
ของแถมท้ายบันทึก (อีกแล้ว) ^_^
มานั่งเขียนบล๊อคตอนอารมณ์เริ่มเข้าที่ค่ะ แหะๆอายจัง เพราะตั้งใจไว้ว่าจะเขียนบล๊อคเหมือนไดอารี่ตัวเอง เลยต้องซื่อสัตย์กับความตั้งใจเสียหน่อย อยากจะบอกว่าตอนนี้ตายังแดงอยู่เลยล่ะ (เขินจัง)เสียงคีย์บอร์ดจากสาวนักแชทยังดังเป็นข้าวโพดคั่วอยู่ข้างหลัง วันนี้บลูแวะซื้อหนังเรื่องไซเลนฮีลมาด้วย ตั้งใจว่าจะซื้อเก็บเอาไว้ แต่ก็ไม่ทำซักที เพราะว่าเรื่องมันน่ากลัวเกินกว่าจะดูคนเดียวได้ ในเมื่อในเวลานี้มีแฟนมาอยู่ด้วยแล้ว การดูหนังสยองขวัญสำหรับบลูคงไม่น่ากลัวอีกต่อไป (โรคจิตจริงๆชอบหนังผีแต่ไม่กล้าดูคนเดียว) สุดท้ายหรับวันนี้ ขอให้ทุกคนที่อ่านและมาเยี่ยมเยียน Blog ของบลูมีความสุขค่ะ ส่วนใครที่คอมเม๊นท์ ขอให้มีความสุขเป็นสองเท่า ^_^
Create Date : 10 ตุลาคม 2550 |
|
11 comments |
Last Update : 10 ตุลาคม 2550 21:45:04 น. |
Counter : 1263 Pageviews. |
|
|
|
แต่ว่าตอนนั้นดิฉันไม่เอาหมดทั้งปู้จายทั้งทอม
อย่าเกลียดตัวเองเลยค่ะ
ทุกอย่างที่เราทำมันมีเหตุผลของตัวมันเอง
แต่บางที แม้แต่เรา อาจจะไม่เข้าใจมันก็ได้
ขอให้คุณบลูมีความสุขเหมือนกันค่ะ