เดินมาให้จับ





หยิบมาฝากให้อ่านครับจากคอลัมน์ชกไม่มีมุม
จากหนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 8 ตุลาคม 2551
ที่เขียนโดยคุณวงค์ ตาวัน เขียนไว้น่าสนใจมากครับ

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ประกาศในม็อบเมื่อคืนวันเสาร์ว่า
ในเช้าวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
จะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งด้วย
โดยเป็นการพูดจาท่ามกลางความเคียดแค้นของม็อบ
กรณีตำรวจจับกุมนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กล่าวชัดเจนว่า
ในฐานะที่มีหมายจับด้วยจะดูสิว่า
ตำรวจจะขัดขวางการใช้สิทธิเลือกตั้งหรือไม่
พอรุ่งเช้า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
ก็ไปปรากฎตัวที่คูหาเลือกตั้งจริงๆ พอใช้สิทธิเสร็จ
ตำรวจก็เข้าควบคุมตัวตามหมายจับ
สรุปแล้วก็คือเดินไปให้ตำรวจจับกุม
และประกาศล่วงหน้าด้วยว่าจะไป

เพราะฉะนั้นการวิเคราะห์เบื้องหลังกรณีนี้
จึงต้องมองไปประเด็นที่ว่า
พล.ต.จำลอง หรือแกนนำพันธมิตรมีแผนอะไร ????
เห็นก็มีแต่แกนนำพันธมิตรบางคนกระมัง
ที่มาวิเคราะห์เบื้องหลังการจับกุมพล.ต.จำลองนั้น
มีใครสั่งการตำรวจมาเป็นทอดๆ อย่างไร
ตำรวจจะไปมีเบื้องหลังได้อย่างไรในกรณีพล.ต.จำลอง
ในเมื่อเป็นการเดินออกมาจากม็อบในทำเนียบฯ
เดินมาให้ตำรวจจับเสียเอง
เพราะฉะนั้นคนที่สั่งการให้ตำรวจต้องจับ ก็คือ
พล.ต.จำลอง นั่นเอง !!!!

จะไปวิเคราะห์ว่านายตำรวจใหญ่คนหนึ่ง
หรือรัฐบาลนอมินี หรือลอนดอนสั่งมา
ไม่เป็นการหาเรื่องใส่ความเขาเกินไปหรือ
ในเมื่อต้นเรื่องการจับพล.ต.จำลองนั้น
มาจากพล.ต.จำลองเอง
ไม่น่าแปลก
ที่คำสัมภาษณ์ของผู้คนหลายวงการพูดตรงกันว่า
การเดินออกจากทำเนียบฯ ของพล.ต.จำลอง
เป็นแผนการของพันธมิตร
เพราะในทันทีทันใดก็มีการเรียกระดมเครือข่ายพันธมิตร
จากต่างจังหวัดเข้ากรุง
แล้วลงเอยเป็นการขยายม็อบไปปิดล้อมรัฐสภา
สกัดการแถลงนโยบายเพื่อเริ่มการทำงานของรัฐบาล

การทำงานของตำรวจในครั้งนี้
ไม่ใช่การเมืองบงการอะไรหรอกจะวิเคราะห์ว่า
ตกหลุมพรางการเมืองของฝ่ายพันธมิตรก็ยังได้
แต่เชื่อไหมว่า
ถ้าหากพล.ต.จำลองเดินออกจากทำเนียบฯ
ไปคูหาเลือกตั้ง
แล้วตำรวจตัดสินใจไม่จับกุมจะเกิดอะไรขึ้น

จะกลายเป็นคดีความละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
โดยมีข้อเปรียบเทียบกับกรณีนายไชยวัฒน์ทันที
ตำรวจจะโดนยื่นฟ้องอย่างดุดันในกรณีละเว้น
จึงไม่มีทางเลือกต้องจับกุม
พูดกันตรงๆ รัฐบาลไม่ได้เล่มเกมการเมืองอะไรเลย
ในกรณีจับแกนนำพันธมิตร
ตำรวจก็ไม่ได้ใบสั่งการเมืองอะไรหรอก
รัฐบาลและตำรวจนั้นแหละ
ไม่ทันเกมการเมืองของพันธมิตรด้วยซ้ำ
งานนี้พันธมิตรแสดงให้เห็นถึง
การเป็นนักเล่นเกมอำนาจที่เหนือเมฆ
รัฐบาลที่เต็มไปด้วยนักการเมืองเขี้ยวลากดิน
ยังไม่เก่งเกมอำนาจเท่าพันธมิตรและผู้อยู่เบื้องหลัง






หยิบมาจากคอลัมน์เหล็กใน เรื่อง "ปลุกกระแส"
จากหนังสือพิมพ์ข่าวสดหน้าการเมือง หน้า 6

เป็นความเหมือนที่แตกต่าง
กรณีตำรวจจับกุมนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
นายไชยวัฒน์ถูกจับกุม
หลังออกจากม็อบเดินทางไปโน้นไปนี่
ซึ่งเป็นกิจวัตรที่ทำเป็นประจำ
จนถูกตำรวจเพ็งเล็งตั้งแต่แรก

ส่วนพล.ต.จำลอง นั้นชัดเจนว่า
เจตนาเพื่อให้ตำรวจจับ
เพราะนอกจากจะประกาศล่วงหน้าแล้ว
ยังเขียนจดหมายถึงผู้ชุมนุม
แถมโทรศัพท์สั่งเสียนายสนธิ ลิ้มทองกุล
แกนนำอีกคนหนึ่ง

จากนั้นก็ออกจากทำเนียบไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
จึงถูกล็อกตัวที่คูหา
ในส่วนของตำรวจ
เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องติดตามจับกุมผู้ต้องหา
ซึ่งมีหมายจับเป็นชนักติดหลังคาอยู่
แม้ฝ่ายการเมืองจะอยู่ในขั้นตอนเจรจา
แต่หากเห็นผู้ต้องหาเดินลอยชายไปมาแล้วนิ่งเฉย
คงเป็นเรื่องไม่เหมาะสม
และเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วย

ความน่าสนใจในความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตร
ในช่วงหลังการขึ้นมาดำรงตำแหน่งของ
นายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ ดูเหมือนจะลดดีกรีลง
ประการหนึ่งเพราะบุคลิกของนายสมชาย
ที่อ่อนน้อมถ่อมตนแตกต่างจากนายสมัคร สุนทรเวช
ที่ยิ่งพูดหรือแสดงออก
ก็เหมือนจะเพิ่มคะแนนให้พันธมิตร
รวมไปถึงปัญหาเศรษฐกิจระดับโลก
ที่กำลังลามเข้าเอเซียและเมืองไทย

สำคัญที่สุดคือความยืดยื้อของม็อบพันธมิตร
และจุดหมายที่ดูคลุมเครือ
เรียกร้องในสิ่งที่ยังไม่สุกงอม
ทำให้มีผู้ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า
การที่พล.ต.จำลอง ออกจากทำเนียบฯ มาให้ตำรวจจับ
มีเบื้องหหน้าเบื้องหลังหรือไม่
เพราะเพียงไม่กี่อึดใจที่พล.ต.จำลอง ถูกจับกุม
แกนนำก็พร้อมหน้ากันเต็มเวที
ประกาศเชิญชวนให้คนมาร่วมชุมนุมกันมากๆ

พูดกันว่าอาจจะเป็นแผนเดิมเหมือนสมัยพฤษภาทมิฬ
ซึ่งพล.ต.จำลองเป็นแกนนำ
เดินขบวนออกมาให้ทหารจับกุม
อย่างที่พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผอ.กอ.รมน.
เพื่อนร่วมรุ่นจปร.รุ่น7 เคยออกมาบอกก่อนหน้านี้ว่า
สมัยพฤษภาทมิฬมีการวิเคราะห์กันว่า
ฝ่ายพล.ต.จำลองจะชนะได้
ก็ต่อเมื่อทหารทำร้ายประชาชน
หรือพล.ต.จำลองถูกจับ

แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
เพราะทันทีที่พล.ต.จำลองถูกทหารจับกุม
เหตุการณ์ก็บานปลาย
กระนั้นก็ตามแม้ท้ายที่สุดฝ่ายพล.ต.จำลองจะชนะ
แต่ก็เป็นชัยชนะบนกองศพของประชาชน !!!!
กลายเป็นวลีติดตัวว่า "จำลอง...พาคนไปตาย"

เวลาล่วงผ่านมา 16 ปี
พล.ต.จำลองเป็นแกนนำพันธมิตร
เดินออกมาให้ถูกจับอีกครั้ง
ทำให้ม็อบเหงาๆ มาหลายวัน
เริ่มมีแอ๊กชั่นให้กระชุ่มกระชวย
ทั้งยังฉวยโอกาสนี้เคลื่อนพลจากทำเนียบ
ไปปิดล้อมรัฐสภาทันที !!!






หยิบมาจากหน้า . คอลัมน์ "หักทองขวาง
ในประเด็นที่ว่า
"บาทก้าวพันธมิตรก้าวจากทำเนียบรัฐบาล
ไปยังอาคารรัฐสภา"

พลันที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ออกมาประกาศ
ยืนยันว่า
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ออกไปเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
จนถูกจับนั้นเป็นมติ
ของ 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ทุกอย่างก็ชัด

ชัดเหมือนกับที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี
ชัดเหมือน พล.ท.พิรัช สวามิวัศดุ์ เพื่อนจปร.
ของพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ออกมาสรุป
ชัดเหมือนที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ออกมาย้ำอีกคำรบหนึ่ง
ถ้ามองในแง่ของยุทธศาสตร์
การเดินไปให้ตำรวจจับของพล.ต.จำลอง ศรีเมือง
ถือเป็นวิธีการรบครั้งสุดท้าย
หวังสร้างเงื่อนไขให้มวลชนออกมาเพิ่มมากขึ้น
เพื่อนำไปสู่สภาวะที่เป็นจุดเหลี่ยนผ่านของสถานการณ์

วิธีนี้ พล.ต.จำลอง ศรเมือง เคยใช้มาแล้ว
จนเกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
การที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ใช้วิธีนี้เพิ่อต้องการพลิกเกม
หลังจากที่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
การเดินเกมของพันะมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ตกเป็นรอง

ทุกอย่างเป็นไปตามเนื้อร้อง
"นี่คือการต่อสู้ครั้งสุดท้าย สามัคคีให้ถึงวันพรุ่ง"
ในเพลงแองเตอร์นาซิอองนัล นั่นเอง

อย่าได้แปลกใจหากคำชี้แนะจาก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
ผ่านการต่อสายโทรศัพท์กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล
เมื่อ 06.00 น. วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม คือ
" ไม่ต้องไปเยี่ยม
หากต้องการช่วยให้ชุมนุมอยู่ในทำเนียบ
และระดมพลมาจากทั่วประเทศ "

คำชี้แนะนี้ส่งผลให้จำนวนผู้ชุมนุม ณ บริเวณทำเนียบรัฐบาล
ทะยานขึ้นสู่หลักหมื่นและหลายหมื่นในตอนค่ำ
ของวันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม
เวลา 19.00 น. เศษ ก็เคลื่อนพลไปบริเวณหน้ารัฐสภา
กำลังส่วนหนึ่งมาจากบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์
บนถนนราชดำเนิน
กำลังส่วนหนึ่งมาจากภายในทำเนียบรัฐบาล
เป้าหมายคือ
การสกัดกั้นการประชุมรัฐสภาในเช้าวันอังคารที่ 7 ตุลาคม

เพราะว่ามาตรา 176
"คณะรัฐมนตรีที่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดิน
ต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
โดยไม่มีการลงมติความไว้วางใจ ทั้งนี้ภายใน 15 วัน
นับแต่วันเข้ารับหน้าที่
และเมื่อแถลงนโยบายแล้วต้องจัดทำ
แผนการบริหารราชการแผ่นดิน
เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติราชการ
หากไม่ดำเนินการตามมาตรา 176 ก้ไม่สามารถ
บริหารราชการแผ่นดินได้ตามรัฐธรรมนูญ"

การบุกเข้าปิดล้อมรัฐสภาเพื่อมิให้สามารถประชุม
และแถลงนโยบาย
ของพัธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
จึงเป็นการต่อสู้ในเชิงสัญญลักษณ์
อีกก้าวหนึ่งซึ่งสำคัญ

คงจำได้ถึงสถาการณืเมื่อวันที่ 26 สิหาคม 2551
นั่นก็คือ การบุดยึดสถานีโทรทัศน์ NBT
การบุกยึดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงคมนาคม
กระทรวงการคลัง
กรมประชาสัมพันธ์

จากนั้นในตอนค่ำที่บุกยึดทำเนียบรัฐบาลเป็นการถาวร
จากสถานการณ์เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม
มาถึงสถานการณ์ในวันที่ 6 ตุลาคม จึงเป็นก้าวหนึ่ง
ในทางการเมือง
ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551
เป็นการบุกเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลอันเป็นตัวแทนฝ่ายบริหาร
ในวันที่ 6 ตุลาคม 2551 เป็นความพยายามที่จะปิดล้อม
เพื่อมิให้การประชุมรัฐสภาในวันที่ 7 ตุลาคม
ประสบผลสำเร็จก็เท่ากับเป็นการ
ทำให้อำนาจนิติบัญญัติต้องกลายเป็นอัมพาต

หากมองในเชิงสัญญลักษณ์พลันที่ทำเนียบรัฐบาลถูกยึด
พลันที่รัฐสภาถูกยึดและปิดกั้นมิให้ทำงานได้ตามปกติ
นั่นหมายถึง
การทำให้อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ
หมดความชอบธรรมไม่สามารถทำอะไรได้
เมื่อทั้งอำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติง่อยเปลี้ย
ก็ยากที่อำนาจรัฐจะดำรงอยู่ได้

จากนี้จึงเห็นได้ว่า
ปฏิบัติการของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ครั้งนี้
ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง
เพราะว่าเป็นปฏิบัติการในท่ามกลางความอ่อนแอของรัฐบาล
เพราะว่าเป็นปฏิบัติการ
ในท่ามกลางความขัดแย้ง
แตกแยกภายในพรรคพลังประชาชน

เมื่อพรรคอ่อนแอ
เมื่อรัฐบาลอ่อนแอ
จึงยากที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะอยู่ดีมีสุข





Create Date : 08 ตุลาคม 2551
Last Update : 8 ตุลาคม 2551 21:46:20 น. 10 comments
Counter : 1176 Pageviews.

 
ถูกต้อง

ทุน กะ เวลา มีผลมาก


โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:20:25:02 น.  

 
หวัดดีครับ...ขอบคุณที่เข้าไปทักทายในบ้านผมอ่ะครับ ชอบสโลแกน "เป็นหนุ่มน้อย...." มากครับผม


โดย: พี่รี่+ต๊อก วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:22:33:44 น.  

 
เฮ้อ..มีแต่เสีย กับ เสีย เนอะ


โดย: ต้นข้าว_ต้นนั้น วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:23:25:30 น.  

 
บล๊อกสวยมากครับ แวะมาชมครับ


โดย: scimovie วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:8:32:11 น.  

 
สวัสดีค่ะ..

ในวิกฤตการณ์ที่น่ากลัวแบบนี้

อ้อมแอ้มขอเรียนเชิญ

มาเลือกรูปที่ประทับใจ

ชอบรูปไหนบ้างค่ะ..ลองเลือกดูนะค่ะ

zwani.com myspace graphic comments
Orkut Graphics
อยากเห็นคนไทยรักกันค่ะ



โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:17:27:03 น.  

 
ขึ้นอยู่กับมุมมอง
และการวิเคราะห์ จริงๆเนาะครับ

แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง
มีแต่เสียกับเสียทั้งนั้น
เสียที่สุด คือ ประเทศเราเอง


โดย: ชรันจ์ วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:18:49:21 น.  

 
สวัสดีค่ะ น้องจันทร์ใส

มีน้องสาวอิกคนค่ะ ชื่อน้องอำ รักมากๆค่ะน้องคนนี้ก็ มาๆหายๆ

เนี่ยะ ก็มีน้องชายอิกคน คนนี้ ก็มีความรู้สึกที่ผูกพันเพราะเปํนเพื่อนคนแรกของพี่โรส ในบ๊อกแก็งค์ ที่ได้ให้การต้อนรับ
พี่โรสอย่าง อบอุ่นค่ะ แอดพี่โรสเป็น เพื่อน
เล่นบ๊อกมาครบปีแล้วนะคะน้องชายที่น่ารักเอ๋ย อย่ามาๆๆหายๆๆเลยค่ะ เป็นห่วงทุกข์สุขกันเสมอค่ะ

พี่โรสช่วงนี้งานยุ่งมากมายค่ะ แต่สองสามวันก็จะแวะเข้ามาทีนึง ดีใจที่น้องจันทร์ใสแวะมาค่ะ งานยุ่งๆ ดูแลสุขภาพนะคะ พี่โรสนึกถึงน้องชายที่น่ารักเสมอค่ะ



โดย: นายกุหลาบ วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:18:32:03 น.  

 
สวัสดีค่ะ..

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...มีความสุขมากๆนะค่ะ


โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:17:35:18 น.  

 






มีความสุขวันปีใหม่ไทยค่ะ



โดย: นายกุหลาบ วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:20:42:42 น.  

 



Photobucket



พี่โรสแวะมาเที่ยวปีใหม่ค่ะ ปีใหม่ของทุกๆปีแต่ละปี เราก็หวังกันแต่สิ่งใหม่ๆที่ดีๆ เข้ามาในชีวิตกันค่ะ พี่ขอให้น้องจงได้พบแต่สิ่งดีๆ
มีแต่ความสุขสมหวัง ร่ำรวย สุขภาพดีนะคะ



โดย: นายกุหลาบ วันที่: 27 ธันวาคม 2552 เวลา:17:40:43 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

SertPhoto
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
8 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add SertPhoto's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.