ความทรงจำ...ระหว่าง...รัก
ครั้งแรกกับหนังสือทำมือสำหรับผม
ได้ยินมานานแล้วกับหนังสือทำมือ สมัยก่อนตอนวัยละอ่อน เคยคิดว่าคือหนังสือที่เราเย็บเล่มเอง กล่าวคือมีเรื่องสั้นวางให้เลือก แล้วนำมาเย็บรวมเป็นหนังสือ ๑ เล่ม หลังๆ เลยเริ่มรู้ว่าเป็นหนังสือแบบทำเองขายเอง
หนังสือทำมือเล่มนี้มีส่วนร่วมเพราะ คุณสายลมอิสระ หลังไมค์มาชวน เห็นโครงการเป็นการกุศลด้วย โดยช่วย กลุ่มเด็กรักป่า ที่จังหวัดสุรินทร์ของครูหน่อย อีกทั้งเป็น Blogger ใน GotoKnow ชื่อ ดอกแก้ว อ่านประวัติแล้วเคยได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียวกับเขาด้วย รางวัลนี้รับประกันความดีได้ ที่เคยรู้จักคือจ่าวิชัยจอมปลูกป่า ที่เคยมาปลูกต้นไม้ที่โรงงานด้วย
บนปกโปรยไว้ว่า รวมเรื่องเล่าเบาๆ ของคนมีรัก ไม่ว่าทุกข์หรือสุข ความรักมีแง่มุมให้จดจำเสมอ
หลังจากเขียนเรื่องส่งไป คุณสายลมอิสระ ก็แจ้งความคืบหน้าเป็นระยะๆ สั่งซื้อหนังสือไป ๔ เล่ม เมื่อได้รับเล่มนี้มา ก็แซงทุกคิวที่มีอยู่ อ่านแล้วทำให้รู้ว่าชาว Bloggang นี่ เขียนหนังสือน่าอ่านกันทุกคนเลย
บางคำโดนใจ ต้องจดเลย อย่างเช่น ออกเดินทางไปอยู่บางที่...ไม่มีใครรู้จักเรา ได้มองสิ่งอื่นๆ บ้าง บางทีจะได้คิดถึงตัวเองน้อยลงจาก ........A MERRY HEART LIVE ON ของ ::ไฮยาซินธ์::
ของ คุณสายลมอิสระ บก. ประจำเล่ม ก็ยิ่งตอกย้ำว่าทำไมถึงทำหนังสือเล่มนี้ออกมา จนตอนนี้เริ่มรู้จัก กลุ่มเด็กรักป่า มากขึ้นเรื่อยๆ กำลังวางแผนจะพาลูกๆ ไปเข้าร่วมกิจกรรมอยู่เหมือนกัน เห็นคุณสายลมอิสระแนะนำกิจกรรมอุ้มช้างอาบน้ำ อยู่ อีกความคิดที่อ่านและพูดคุยกับคุณสายลมอิสระทาง MSN คือ เรื่องการให้ไต จริงๆ ผมเคยสัมผัสเรื่องการให้ไต มาครั้งหนึ่งแล้ว กล่าวคือพี่ในบริษัทที่รับไตข้างหนึ่งจากภรรยา ได้ยินแล้วทึ่งในความเสียสละ แต่ลึกๆ ต้องใช้โชคช่วยด้วย กล่าวคือได้ไตมาอาจใช้ไม่ได้ก็ได้นะครับ ต้องเข้ากันได้ด้วย แบบว่าต้องเป็นคู่แท้กัน เคยเห็นในละครตอนเย็นเอามุกบริจาคไตมาใช้ด้วย น่าจะให้รายละเอียดหน่อยนะว่าไม่ง่าย และอาจไม่ได้ผล เคยแซวภรรยาว่าหากเขาต้องการไต จะบริจาคให้ข้างหนึ่ง โดนตอบว่าไม่เอาหรอก หาว่าของเราสกปรกกว่า ดูซิคนอุตส่าห์จะทำซึ้ง (ฮา) แต่เชื่อว่าทำได้แน่นอน หากจำเป็น
ลองคิดเล่นๆ ไว้บ้างก็ได้นะครับว่า เราพร้อมจะบริจาคไตให้ใครได้บ้าง หรือกลับกัน จะมีใครบ้างไหมพร้อมจะบริจาคไตข้างหนึ่งให้เรา แล้วลองคิดต่อว่าเราจะรับไหมหากเสี่ยง และเป็นอันตรายต่อเขา คิดไปเรื่อยๆ จะได้ไม่ประมาท เมื่อถึงเวลาจริงจะได้ไม่ต้องคิดนาน
มีสองเรื่องในเล่มที่เล่นกับความรักในสังคมที่เสื่อมโทรมทางจิตใจ แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดในปัจจุบัน คือ ของ เมฆชรา และ ส.ปาลกะวงศ์ แต่เรื่องหลังจบดี สร้างสรรค์ แต่กลางๆ เรื่องแสดงสังคมที่เสื่อมโทรมได้ชัดจริงๆ
ถ้าถามเรื่องที่ชอบที่สุด เป็นเรื่อง หยาดโศกที่บึงบอด ของ ธีรวิชย์ วงศ์มุสิก อ่านแล้วเอาไปคิดต่อได้มากมาย โดยเฉพาะคำถาม "เราจะยังดื่มเหล้าอีกไหม?"
ส่วนผลงานของชาว Bloggang หากต้องเลือกที่ชอบที่สุด คงต้องยกให้ คุณสายลมอิสระ ในเรื่อง หนึ่งช่วง(ลม)หายใจ สะดุดสองประโยคเด็ด เราไม่จำเป็นต้อง "รวย" หรือต้องรอให้มีเงินเหลือใช้จึงจะ "ให้" ผู้อื่นได้ เพียงแค่แบ่งปันในส่วนที่เราให้ได้ โดยที่เราไม่เดือดร้อน ลมหายใจที่เหลืออยู่นับจากนี้ ฉันจะทำสิ่งใดและเพื่ออะไร เท่านี้ก็คงพอ กับชีวิตเล็กๆ ของฉันในโลกใหญ่ๆ ใบนี้
อ่านจบแล้วนึกถึงคำในหนัง The Polar Express ที่เพิ่งดูไป "มันไม่สำคัญหรอกว่ารถไฟจะไปไหน ที่สำคัญคือการตัดสินใจขึ้นรถไฟ"
ดีใจครับที่ได้ร่วมรถไฟขบวนนี้ที่มุ่งหน้าสู่จังหวัดสุรินทร์
อีกเรื่องที่เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้ คือ หากเจอหนังสือทำมือ ต้องพิจารณาซื้อเป็นลำดับแรก เพราะมันมีหัวใจคนทำซ่อนอยู่ในเล่มด้วย
ไม่ลองทำเองไม่รู้หรอกครับ เหมือนคนขับมอเตอร์ไซค์จะไม่รู้ว่าการขับกลางถนนอันตรายกว่าการขับข้างทาง ถ้าไม่เคยขับรถยนต์แบบนั้นเลยครับ
ปล.เล่มนี้มีให้ยืมในโครงการ Lend It Forward ด้วยนะครับ

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2550 |
|
9 comments |
Last Update : 24 มีนาคม 2553 0:25:21 น. |
Counter : 2669 Pageviews. |
|
 |
|
แต่ยังไม่ได้โอนเงินให้เธอเลย