สึนามิเกิดขึ้นเมื่อ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๔๗ โดยครั้งแรกได้ยินข่าวเล็กๆ ในเนชั่นทีวี จนขนาดของข่าวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผมเองก็สูญเสียเพื่อนไปหนึ่งคนพร้อมครอบครัวของเธอจากเหตุการณ์นี้สิ่งหนึ่งที่คิดว่าเสียดายที่ไม่ได้ทำคือ การไปเป็นอาสาสมัครช่วยค้นหาศพ ฟังเพื่อนที่ไปร่วมกิจกรรมนี้มาแล้วอิจฉา อ่านเล่ม เราจะพาเขากลับบ้าน ของหมอพรทิพย์แล้วได้แต่อนุโมทนาในความพยายาม สองปีแล้ว ไม่อยากให้ลืมกัน การซ้อมยังคงน่าจะมีไว้ การเตือนภัยก็น่าจะพัฒนา จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ไปเที่ยวฝั่งอันดามันอีกเลยครับ กลัวเล่มนี้ได้มาจากคุณดี มัชชาร ฝากมาเข้าร่วมโครงการ LIF พอดีจะไปวัดป่าธรรมอุทยานที่ขอนแก่น จะหาหนังสือที่เหมาะกับวัดหน่อย เลยพกเล่มนี้ไปด้วย เล่มนี้มีคำนิยมจากคุณหมอพรทิพย์ (ขวัญใจผมเลยครับท่านนี้) เลยมั่นใจว่าต้องเป็นหนังสือที่ดีเล่มนี้เป็นเรื่องที่ ดร.ปาริชาติ สถาปิตานนท์ เล่าเรื่องของครอบครัวเธอ ก่อนและหลังเกิดสึนามิ มีผู้ช่วยเรียบเรียงอีกที เหมือนทุกครั้งที่อ่านเล่มเกี่ยวกับสึนามิ น้ำตาต้องซึมเป็นระยะๆ เล่ม เราจะพาเขากลับบ้าน ของคุณหมอพรทิพย์ ก็ประมาณนี้ เล่มนี้จะเด่นเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว, การทำใจได้ของผู้เล่า ที่ต้องสูญเสียสี่ชีวิต เหลือเธอคนเดียว, การค้นหาศพที่ต้องอาศัยหลายๆ ทางเข้าช่วยอ่านแล้วจะรู้ว่าบิดาของ ดร.ปาริชาติ สถาปิตานนท์ ท่านจะเคี่ยวเข็ญเรื่องการว่ายน้ำของลูก เพื่อจะได้ติดตัวลูกไปเรื่องนี้ เราเลยต้องลุกมาให้ลูกเรียนว่ายน้ำต่อ หลังจากกำลังจะซาๆ ไปมีคำดีๆ เต็มเล่มเลย เช่น"สุขก็เตรียมไว้ ว่าความทุกข์คงตามมาอีกไม่ไกล จะได้รับความจริงเมื่อต้องเจ็บปวดไหว"อ่านเล่มนี้แล้วจุดประกายการเขียนบันทึกขึ้นมา เพราะในเล่มบอกว่า ก่อนนอนเราควรนึกว่า วันนี้มีอะไรที่เราประทับใจบ้าง แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม การคิดถึงบรรยากาศที่ดีๆ ที่ประทับใจ จะช่วยให้เราจดจำแต่ด้านดีๆ ที่สวยงาม นอนหลับฝันดี ไม่จมปลักแต่กับความทุกข์เหตุที่ชื่อเล่มว่าตรงเส้นขอบฟ้าเพราะผู้เล่าเรื่องชอบทะเล และ เส้นขอบฟ้า"ตรงเส้นขอบฟ้านั้นสวยงาม และฉันเองก็อยากจะบอกกับคนอื่นๆ ว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่เรามักจะกลัวการเปลี่ยนแปลง...ดูอย่างขอบฟ้าสิ ถึงสมาชิกในครอบครัวของฉันจะจากไปด้วยมหันตภัยทางทะเล แต่ฉันก็ยังรักทะเล และยังรักที่จะมองไปตรงเส้นขอบฟ้าที่เชื่อมต่อระหว่างน้ำทะเลกับท้องฟ้าอันกว้างใหญ่"น่าจะถูกใจคนที่ชอบทะเลนะครับท้ายสุดก็ Happy Ending เจอศพทั้งหมดมีมุมมองในการคิดถึงผู้ที่จากเราไปจากเล่มนี้ ให้มองความดี ความน่ารัก ของคนที่จากเราไป แล้วมานั่งยิ้ม น่าจะดีกว่าการมานั่งเสียใจที่เขาจากไปเพราะสุดท้ายเราก็ต้องไปเจอพวกเขาเช่นกัน เพียงแต่เขาล่วงหน้าไปก่อน เท่านั้นเองปล.๑ สนใจเล่มนี้ยืมได้ที่โครงการ Lend It Forward ปล.๒ ในเล่มแนะนำหนังดี Life is beautiful ที่เหมาะสำหรับคนต้องทำใจในสถานการณ์มีทุกข์ ต้องหามาดูบ้างแล้ว
ไม่ใช่เพราะว่าคนที่แอมรัก.....ต้องสังเวยชีวิตไปกับมันหรอกน่ะ
แต่เป็นเพราะ.....มันเป็นวันเดียวกับวันเกิดแอม........
ทุกครั้งที่แอมไปทำบุญ.............แอมไม่เคยจะลืม
อุทิศส่วนกุศลให้พวกเค้าเลย..................