Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
สิทธารถะ

แล้วธรรมชาติจะบอกเราเอง



ผู้เขียน : เฮอร์มานน์ เฮสเส
ผู้แปล : สดใส
สำนักพิมพ์ : สร้างสรรค์บุ๊คส์
จำนวนหน้า : 148 หน้า
ราคา : 100 บาท
ระดับความชอบ : 9.5/10

เป็นวรรณกรรมชิ้นก้องโลกของนักเขียนรางวัลโนเบล ชาวเยอรมัน แต่ต้องโอนสันชาติเป็นสวิสเซอร์แลนด์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะนาซีกวาดล้างหนังสือของเขา
หนังสือของเขาพัฒนาจิตวิญญาณ แนวคิดได้เป็นอย่างดี

ที่อ่านเจอคือเป็นขบถทางความคิดเต็มๆ
มีอย่างที่ไหน ปฏิเสธจะบวชกับพระพุทธเจ้า ออกแสวงหาด้วยตนเองในรูปแบบต่างๆ แล้วก็มาจบที่เรียนรู้จากแม่น้ำ จากธรรมชาติ
แต่แนวทางการเรียนรู้ของสิทธารถะเป็นแบบเปิดใจ ทำให้ได้แก่นของแต่ละวิชา แล้วก็เอามาประเมินว่าเป็นแนวทางแห่งการหลุดพ้นหรือไม่?

ในเล่มบอกว่าสิทธารถะมีแนวคิดคล้ายผู้เขียน เพราะเขาปฏิเสธที่จะเป็นนักสอนศาสนาเหมือนกับคุณพ่อ แล้วออกแสวงหาจากการทำอาชีพต่างๆ จนมาจบที่อาชีพนักเขียน
สิทธารถะก็ปฏิเสธการเป็นพราหมณ์ตามครอบครัว แล้วก็หนีออกมาค้นหากับเพื่อนชื่อโควินทะ จนเจอพระสมณโคดม โควินทะตัดสินไจบวช ส่วนสิทธารถะแสวงหาต่อ
สิทธารถะเรียนรู้การค้า การพนัน และกาม แต่แล้วเมื่อรู้แล้วก็ประเมินได้ว่าไม่ใช่หนทางพ้นทุกข์
จึงมาเรียนรู้กับคนแจวเรือจ้างที่มีธรรมชาติเป็นครู

ธรรมะคือธรรมชาตินั่นเอง ถ้าเราเป็นเนื้อเดียวกับธรรมชาติ ไม่ทำร้ายกัน สื่อสารกันได้โดยเฉพาะการรับรู้ได้ในสิ่งที่ธรรมชาติต้องการจะบอกเรา เตือนเรา เราก็อยู่บนโลกนี้อย่างสงบสุข
นับวันเราจะใช้ชีวิตออกห่างจากธรรมชาติ เราจึงมีชีวิตที่วุ่นวายและไม่สงบเสียที
มนุษย์เป็นแค่เห็บตัวหนึ่งที่เกาะโลกนี้อยู่นะครับ ทำร้ายโลกมากๆ โลกก็เลยเปลี่ยนตัวเองสู่สมดุลใหม่ เห็บอย่างเราๆ จึงเดือดร้อน เพราะไม่รู้จักประมาณตัวเอง

นักเขียนบรรยายในหลายตอนได้ดีมาก โดยเฉพาะช่วงท้ายที่เรียนรู้จากแม่น้ำ บรรยายได้ถึงและเข้าใจปรัชญาของพุทธะได้ดีเหลือเกิน

พี่จิก - ประภาส ชลศรานนท์ เคยเขียนไว้ว่าชาวญี่ปุ่นจะคิดว่าสามารถเป็นอรหันต์ได้ทุกคน ขึ้นกับการสร้างเหตุปัจจัย
มาอ่านเล่มสิทธารถะตอนที่เป็นคนแจวเรือและบรรลุแล้วก็บอกอย่างนั้นครับ
อ่านแล้วได้กำลังใจมากเลย เราทุกคนมีสิทธิ์บรรลุและหลุดพ้นได้ครับ เปิดใจกว้างๆ หาครูบาอาจารย์ที่ถูกจริต เป็นมิตรกับธรรมชาติมากๆ หลุดพ้นแน่นอนครับ

สู้ๆ ไปด้วยกันครับ

ขอให้พบความสงบสุขทุกคนนะครับ

ปล. ขอบคุณคุณ MagicApple ที่ให้ยืมหนังสือเล่มนี้ แถมไม่เอาคืนให้ส่งต่อสำหรับผู้สนใจอีกต่างหาก ใจดีจริงๆ ขอให้มีความสุขมากๆ นะครับ


Create Date : 12 ธันวาคม 2554
Last Update : 12 ธันวาคม 2554 21:23:25 น. 9 comments
Counter : 1975 Pageviews.

 
เป็นหนังสือที่น่าสนใจมากค่ะ
"ธรรมชาติเป็นครูของทุกสิ่ง" คงไม่หนีคำนี้ใช่ไหมคะ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:22:06:25 น.  

 
ประมาณนั้นแหละครับ แต่หมอโจเคยเขียนไว้น่าสนใจเดี๋ยวไปอ่านก่อนนะครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:22:10:24 น.  

 
เล่มโปรด
แต่แนวทางที่เค้าปฏิบัติ มันก็แนวทางเดียวกับพระพุทธเจ้านั่นแหละ
คือเรียนรู้ด้วยตัวเองจนเข้าใจกระจ่างแจ้ง


โดย: lovelypriest วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:0:10:21 น.  

 
เห็นชื่อหนังสือ รีบเข้ามาทันที


โดย: lovelypriest IP: 24.58.234.25 วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:5:04:16 น.  

 
ผมอ่านไปสองรอบแล้วครับพี่
ชอบมาก
ถึงมากที่สุด

บางบทบางตอน
ผมรู้สึกว่าตัวผมเป็นสิทธารถะ
และสิทธารถะเป็นตัวผม


พระพุทธเจ้าท่านหลุดพ้นได้ด้วยวิธีของท่าน
ผมก็เชื่อว่าเราทุกคนมีศักยภาพที่จะหลุดพ้น
ในแนววิธีและวิถีแบบของเรา
โดยไม่ต้องเดินตามรอยท่านก็ได้


เหมือนกับคำถามที่พี่ถามว่า
การศึกษา
ศึกษาเพื่อชนะไม่ได้หรือ
เพระาแพ้ชนะก็วนเวียนอยู่ในวัฏสงสารเหมือนเดิม


ผมกลับคิดว่าการศึกษาเพื่อไม่ชนะและไม่แพ้
เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าผลแห่งการเรียนรู้

บางคนบอกว่าเวลาเราลงแข่งขันวิ่ง
จงวิ่งเพื่อเอาชนะ
ไม่เอาชนะคู่แข่่งขันเพื่อเป็นผู้ชนะ
ไม่ก็ต้องเอาชนะเพื่อทำลายสถิติของตัวเอง
หรือที่สุดแล้วก็ต้องเรียนรู้ที่จะเป็นผู้แพ้ที่ดี


แต่น้อยครั้งนะครับ
ที่การศึกษาของเรา
จะสอนให้คน

"วิ่งเพื่อวิ่ง"



เหมือนกับการปฏิบัติธรรม
เราสอนแต่เพื่อเอาชนะกิเลส
เอาชนะตัณหา
เพื่อจะได้พาตัวเองหลุดพ้น
มีความอยากและปรารถนาในนิพพาน

ที่สุดแล้ว
เราก็ลืมตัว

ลืมไปว่าแท้จริงแล้ว

เราควรปฏิบัติธรรมเพื่อปฏิบัติธรรม
เราปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าใจและยอมรับในการอยู่ร่วมกับควาเมป้นจริง
อยุ่กับกิเลสอย่างรู้ทัน ไม่ใช่เอาชนะกิเลส
อยู่กับธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงอย่างรู้ทัน
มิใช่การปฏิเสธหรือท้าทายธรรมชาติ

และในการศึกษาที่เ่ป็นอยู่
ไม่เคยสอนให้่เราได้ตระหนักรู้ในความจริงข้อนี้เลยครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:10:31:44 น.  

 
ผมว่าฝรั่งเขาคิดเป็นระบบ เป็นเหตุเป็นผล
ศาสนาพุทธน่าจะตอบโจทย์เขาได้เลย
โดยเฉพาะเรื่องของ ปฏิจสมุปบาท น่ะครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:17:43:53 น.  

 
พระพุทธเจ้าสอนไว้ไม่ให้เชื่อครูอาจารย์...ถูกต้องที่สุดเลยค่ะ


โดย: normalization วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:20:16:20 น.  

 
เราเคยเชื่อว่าธรรมะคือธรรมชาตินะคะ

จนไปเจอพระอาจารย์ท่านหนึ่งบอกว่า ธรรมะเหนือธรรมชาติ แล้วท่านก็บอกว่า ธรรมชาติแล้ว คนเราต้องเีวียนตายเวียนเกิด

การที่เราจะทำให้ไม่เวียนตายเวียนเกิดอีก เราต้องเข้าใจหลักปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นไปสู่จุดเหนือธรรมชาติค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 14 ธันวาคม 2554 เวลา:7:20:27 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 ธันวาคม 2554 เวลา:5:44:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนขับช้า
Location :
สระบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




ย้ายมาเป็นคนสระบุรี ตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๖๖

เคยมาเป็นคนนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ ๑ เมษายน ๒๕๕๘

เคยมาเป็นคนสระบุรี ตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๕๗

เคยเป็นคนกรุงเทพฯ ตั้งแต่ ๑ เมษายน ๒๕๕๒

ย้ายที่ทำงานในจังหวัดสระบุรี ตั้งแต่ ๑ มีนาคม ๒๕๔๖
เคยเป็นคนสระบุรี ตั้งแต่ ๑ มิถุนายน ๒๕๔๕

เคยเป็นคนนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ ๑ สิงหาคม ๒๕๓๙

เคยเป็นคนระยอง ตั้งแต่ ๒๕๓๗
Friends' blogs
[Add คนขับช้า's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.