นั่งคุยกับความตาย : เชิด ทรงศรี

มีคนพูดถึงมากมายเล่มนี้ ส่วนคนคนนี้ไม่ต้องพูดถึง ลองมาดูเนื้อหาในเล่ม
เริ่มด้วยข้อมูลน่าตกใจสำหรับผู้ชาย "ผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก ๘๕%"
ความรู้อีกข้อ PSA (Prostate Specific Antigen) เป็นตัววัดสารแปลกปลอมผิดปกติที่เกิดกับต่อมลูกหมาก ชายทั่วไปค่าอยู่ที่ 0-4 ng/ml คุณเชิดวัดได้ 46.28 ng/ml เป็นระยะที่ ๔
คุณเชิดเล่าถึงหนังที่ไม่เคยออกฉายเรื่อง "คน-ผู้ถามหาตนเอง" มีคำเด็ดๆ เช่น เมื่อเราหัวเราะโลกจะหัวเราะกับเราด้วย, ถ้าเราไม่รู้จักแบ่งเวลา ถึงจะไปพักผ่อนที่ไหนก็ไม่ได้พักผ่อนอย่างแท้จริง หรือ ความหลัง เป็นเหมือนวัตถุโบราณ มีค่าสำหรับคนรู้ค่า คนไม่รู้ค่า-ไม่สนใจ ทิ้งความหลังไปโดยเปล่าประโยชน์ น่าเสียดายนัก
มีบทสนทนากับความตายให้อ่านเพื่อสร้างความคุ้นเคยด้วย
ในเล่มพูดถึง บัลวี ศูนย์ธรรมชาติบำบัด อยู่ที่ซอยระนอง ๑ ถนนพระรามที่ ๖ พญาไท โดยที่ศูนย์ฯ จะมี ห้องอาหารครัวธรรมชาติ ไปทานอาหารสำหรับคนปกติและคนป่วยได้ ต้องหาโอกาสไป
แนวที่คุณเชิดใช้ต่อสู้เป็นหลักคือท่านรักษาโรคทางใจตามธรรมวิธี "พุทธรักษา" กฤษณมูรติ มหาปราชญ์อินเดียเคยถูกถามว่า ทำไมคนถึงกลัวตาย ท่านตอบว่า เพราะเขาไม่รู้จักความตาย พระพุทธเจ้าทรงสอนให้รู้จักความตาย พิจารณาความตายทุกครั้งที่ไหว้พระสวดมนต์ กระทั่งหาญกล้านั่งคุยกับความตายหลายหน จนเป็นกันเองถึงขนาดว่าถ้าจะให้ไปกับความตายก็ไม่รู้สึกกลัวและทุกข์ทรมานแล้ว
ภรรยาและลูกสาวเป็นผู้ดูแลทั้งทางกายและทางใจ ทำให้ท่านไม่เป็นคนไข้เจ้าอารมณ์ โดยเฉพาะภรรยาที่ยอดเยี่ยมเรื่องทำเครื่องดื่มและอาหารแบบบัลวี
คุณเชิดบอกว่าในยามที่ร่างกายเป็นมะเร็ง จิตใจท่านแจ่มใสกว่าในยามร่างกายปกติเสียอีก
การรักษามะเร็งเหมือนสงครามระหว่างเซลล์ร่างกาย กับ เซลล์มะเร็ง ดังนั้นต้องกำหนดยุทธศาสตร์อย่างเป็นฝ่ายกระทำ อย่ารอตั้งรับให้มะเร็งมันบุกเราฝ่ายเดียว
ช่วงท้ายเป็นสมรภูมิรบอันดุเดือดมันจริงๆ ครับ แต่ที่ต้องเตรียมไว้รบคือความเป็นวิถีไทย แบบชนบท เช่น การชอบกินผัก, การปลูกพืชพวกสมุนไพรไว้ในบ้าน และอีกอย่างที่ต้องมีคือ จงเชื่อพระพุทธเจ้า จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้ คุณเชิดยก โพชฌงค์ เจ็ดข้อที่ใช้สร้างภูมิคุ้มกันให้กับใจ ดังนี้ ๑. ผูกจิตที่ฟุ้งซ่านไว้กับเสาหลัก-สติ ๒. เลือกคิดและทำแต่สิ่งที่ดีงาม-ธัมมจริยะ ๓. ด้วยความพากเพียรพยายาม อย่าท้อถอย-วิริยะ ๔. อิ่มใจกับสิ่งดีงามที่ได้คิดและทำแล้ว-ปีติ ๕. ผ่อนคลาย ไม่กระสับกระส่าย-ปัสสัทธิ ๖. จิตใจแน่วแน่ สงบเย็น-สมาธิ ๗. วางเฉย รู้ทันกิเลส ไตร่ตรองหาวิธีรักษาตัว รักษาใจ-อุเบกขา
สรุปว่า ๖ เดือน ค่า PSA ของคุณเชิดลดจาก 46.28 ng/ml เหลือ 0.5 ng/ml หายครับ ระยะที่ ๔ ก็หายได้ครับ เล่มนี้ให้กำลังใจสุดๆ เพราะทำได้จริงๆ
มี ๒ คำทิ้งท้าย มะเร็งที่ไม่โต ฆ่าเราไม่ได้ - ดร.อัลเบิร์ต บี โลรินซ์ จะตายหรือไม่ตายขึ้นอยู่กับตัวของตัวเอง
ยิ่งอ่านบทสัมภาษณ์ คุณจันทนา (ภรรยาคุณเชิด) ท้ายเล่ม ยิ่งรู้นี่แหละคนจริง นับถือ นับถือ
แต่สุดท้ายทุกคนก็หนีไม่พ้นความตาย แต่คนดีย่อมมีชื่อจารึก ชื่อคุณเชิด ได้ไปอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราชอย่างสมเกียรติ ลองไปดูบรรยากาศ งานเชิด ทรงศรี เลือดเนื้อแห่งนครศรีธรรมราช ที่คุณดี.เขาไปร่วมงานมานะครับ งานมีถึง ๓๑ มกราคม ๒๕๕๐ ต้องหาโอกาสไปเสียแล้วเรา
Create Date : 10 ธันวาคม 2549 |
Last Update : 8 ตุลาคม 2551 0:24:35 น. |
|
4 comments
|
Counter : 3280 Pageviews. |
 |
|
ไม่ได้หายขาดหรอกค่ะคุณเชิดไม่ได้พูดทั้งหมด สิ่งที่เล่าเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นเ หตุการณ์ช่วงเขียนหนังสือช่วงนั้นอาการดีขึ้นค่ะดีขึ้นจนทุกคนคิดว่าหายแล้วแน่ๆ แต่พอป่วยหนัก คุณเชิดก็เก็บตัวเงียบขนาดว่าคนใกล้ชิดรองลงมาจากครอบครัวยังไม่ค่อยทราบเลย คุณเชิดเป็นคนที่เข้มแข็งมากน่ะค่ะ