“คุณ” คือ “พลัง” ช่วยหยุดยั้งภาวะโลกร้อน
คุณภาพชีวิต
เดือนนี้ คนกลุ่มหนึ่งกำลังรวมตัวกันเพื่อต่อลมหายใจให้สิ่งแวดล้อมไทยด้วยการเข้าชื่อ เสนอร่าง พรบ.องค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อม และร่างแก้ไข พรบ. ท่ามกลางหายนะทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นทั่วโลก คนไทยกว่า 65 ล้านคนจะตระหนักถึงเรื่องนี้ และตัดสินใจอย่างไร? จากเขื่อนปากมูล การก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียที่คลองด่าน โรงไฟฟ้าหินกรูด - บ่อนอก ล้วนเป็นตัวอย่างของความบอบช้ำที่ชุมชนท้องถิ่นต้องทนแบกรับผลกระทบจากการ “พัฒนา” ของภาครัฐและเอกชน โดยไม่มีหน่วยงานอิสระใดที่มีอำนาจตามกฎหมายจะช่วยตรวจสอบยับยั้งผลลบที่เกิดขึ้นจากการพัฒนานั้นๆ ได้ คือความจำเป็นที่วันนี้ ประเทศไทยต้องมีองค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ดร.สุรพล ดวงแข จากสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ชี้ว่าหัวใจของปัญหาอยู่ที่ รายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ที่ผ่านมามักเป็นการจัดทำเพื่อให้โครงการหรือกิจกรรมได้รับการอนุมัติ โดยไม่มีระบบติดตามประเมินว่า มาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เสนอไว้ในรายงานได้รับการปฏิบัติจริงหรือไม่ “สาเหตุที่ทำให้รายงาน EIA ไม่มีประสิทธิผลเกิดจากกระบวนการจัดทำขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ระบบการอนุมัติและการติดตามประเมินผลขึ้นกับส่วนราชการเป็นหลัก เจ้าของโครงการเป็นผู้จัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาในการจัดทำรายงาน EIA มีสภาพเหมือนลูกจ้างของเจ้าของโครงการ จึงมีแนวโน้มที่จะทำการศึกษาให้เป็นไปตามที่เจ้าของโครงการต้องการ และตราบใดที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติยังผูกติดกับอำนาจรัฐที่ยังไม่หลุดพ้นจากบ่วงนายทุนเช่นกันก็ไม่มีทางแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอน” ดร.สัญชัย สูติพันธ์วิหาร คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า รัฐธรรมนูญปี 2550 กำหนดชัดเจนว่า ต้องจัดตั้งองค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ขณะนี้ครบกำหนดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หากยังไม่มีปฏิกิริยาจากรัฐบาลและรัฐสภา จึงถึงเวลาประชาชนต้องใช้สิทธิของตัวเองเข้าชื่อ 10,000 รายชื่อ เสนอร่าง พรบ. ต่อรัฐสภา และจะสำเร็จได้ ต้องอาศัยกระแสสังคมร่วมผลักดัน ดร.สัญชัย คือ 1 ในผู้ริเริ่มร่าง พรบ. ฉบับนี้และต่อสู้มากว่า 10 ปี ช่างเป็นการเดินทางที่ยาวนาน บนเส้นทางที่ไม่ได้มีประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นแนวร่วมมากนัก เพราะความไม่รู้และคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว หลักการใหญ่ขององค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ คือ เป็นองค์กรอิสระดำเนินงานในรูปคณะกรรมการ 9 คนที่มาจากการสรรหาจากองค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม สถาบันอุดมศึกษาที่มีการเรียนการสอนด้านทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและสุขภาพทำหน้าที่ให้ความเห็นต่อการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อชุมชนทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติหรือสุขภาพ เพื่อไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพ หรือคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยรัฐธรรมนูญกำหนดให้โครงการหรือกิจกรรมที่จะดำเนินการต้องผ่าน 3 ขั้นตอนคือ 1) ต้องทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ (HIA) 2) ต้องจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ 3) ต้องให้องค์การอิสระสิ่งแวดล้อมและสุขภาพได้ความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณา โดยทั้ง 3 ขั้นตอนต้องทำก่อนที่โครงการหรือกิจกรรมจะเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม ดร.สัญชัย ชี้ว่า องค์การนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อไปคัดง้าง หรือล้มเลิกโครงการพัฒนาใดๆ ของประเทศ แต่อยากให้โครงการพัฒนาต่างๆ ที่จะมีขึ้นเป็นโครงการพัฒนาที่มีความยั่งยืนด้วย โดยจะมีการศึกษาทำงานกันตั้งแต่โครงการนั้นๆ ริเริ่มขึ้นก่อนที่จะมีการตัดสินใจหรือการลงเสาเข็มไปแล้ว ซึ่งสายเกินไป ในยุคที่หายนะทางสิ่งแวดล้อมกำลังท้าทายคนทั่วโลก ช่วงเวลาของการตักตวงผลประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมก็กำลังหมดลงไปทุกที พวกเขาหวังจะได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ไม่ใช่แค่หมื่นรายชื่อ แต่คือจิตสำนึกร่วมของคนไทยทั้งประเทศ ที่จะร่วมรักษาทรัพยากรธรรมชาติของเราเอาไว้
“7 พันล้านต้น เพื่อโลก” วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี ประชาชาติทั่วโลกได้กำหนดให้เป็น “วันสิ่งแวดล้อมโลก” ซึ่งในปี 2009 มีแนวคิดหลักของการรณรงค์ว่า “Your Planet Needs You-Unite to Combat Climate Change” หรือแปลเป็นไทยเก๋ๆ ว่า “คุณ คือ พลัง ช่วยหยุดยั้งภาวะโลกร้อน” ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญเร่งด่วนของปัญหาโลกร้อน ย้อนไปเมื่อปี 2007 โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNEP ได้เริ่มโครงการ “พันล้านต้น” ที่รณรงค์ให้คนทั่วโลกช่วยกันปลูกต้นไม้อย่างน้อย 1 พันล้านต้นในแต่ละปี มาถึงปี 2009 นี้ UNEP ได้ตั้งเป้าหมายใหม่ รณรงค์ให้มีการปลูกต้นไม้ 7 พันล้านต้น ซึ่งเท่ากับจำนวนคน 7 พันล้านคนบนโลกใบนี้ภายในสิ้นปี 2009 ซึ่งตอนนี้มีการปลูกไปแล้ว 3 พันล้านต้น ส่วนที่เหลือก็อยู่ที่พวกเราต้องช่วยปลูกคนละต้นตั้งแต่วันนี้ หรือร่วมส่งเสียงช่วยรณรงค์ได้ที่ //www.twitter.com/UNEPandYou ที่มา: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2553 16:18:05 น. |
|
0 comments
|
Counter : 442 Pageviews. |
|
|
|
|
| |