GEGEGE NO KITARO (อสูรน้อยคิทาโร่) : J-HERO / 2 ดาวครึ่ง
ดารานำ : เออิจิ เวนซ์ และ มาโอะ อิโนะอุเอะ
กำกับฯ : คัตสึฮิเดะ โมโตกิ
ความยาว: 103 นาที
ประเภท : ดูได้ทั่วไป
งานการ์ตูนอายุกว่า 40 ปี ของนักเขียนการ์ตูนรุ่นเก๋า ชิเงรุ มิสึกิ ซึ่งว่าไปแล้วเด็กที่อ่านการ์ตูนรุ่นแรกตอนนี้ต่างก็เติบโตเป็นพ่อคนแม่คนไปแล้ว แต่การ์ตูนชุดนี้ก็ยังมีอายุยืนยาวเป็นที่รู้จักต่อมาจนถึงเด็กรุ่นนี้ เกะเกะเกะ โนะ คิทาโร่ นอกจากมีจุดเด่นที่พัฒนามาจากตำนานพื้นบ้านของญี่ปุ่น และการเชื่อมต่อระหว่างอดีตกับปัจจุบัน หรือโลก แฟนตาซี กับโลกความเป็นจริงแล้ว ก็ยังเป็นแบบฉบับของ ซูเปอร์ฮีโร่ ที่อยู่ในใจคนญี่ปุ่น ไม่น้อยหน้าไปกว่า ซูเปอร์ฮีโร่ คนดังของคนอเมริกัน อย่าง ซูเปอร์แมน หรือ แบ็ทแมน ฯลฯ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่หนังจะเริ่มเปิดเรื่องด้วยเด็กชายเคนตะส่งจดหมายถึง คิทาโร่ เพื่อขอความช่วยเหลือ
คิทาโร่ นั้นเป็นปีศาจหนุ่มอมตะ (มีพ่อเป็นปีศาจตาเดียวตัวกระจิ๋ว แต่ตัวเขาสูญเสียตาซ้ายไป จึงเอาผมมาปิดตาข้างนั้นซะ-อย่างเท่เชียว) แม้จะมีอายุถึง 3,500 ปี แล้ว แต่ยังคงสภาพเป็นเด็กหนุ่มอยู่เสมอ มีเพื่อนที่เป็นปีศาจประเภทต่าง ๆ (อย่าง ปีศาจแมว-ปีศาจหนู-แม่มดทราย ฯลฯ) ลักษณะเด่นของเขาคือเป็นปีศาจที่รักและห่วงใยมนุษย์ รักที่จะช่วยเหลือมนุษย์ หนังพาคนดูไปรู้จักโลกของปีศาจ และการเดินทางของปีศาจที่มาเกี่ยวพันกับโลกมนุษย์ ขณะเดียวกันบางช่วงขณะมนุษย์ก็สามารถเดินทางไปสู่โลกของปีศาจได้เช่นกัน และว่าไปแล้วโลกของปีศาจกับโลกมนุษย์ก็ล้วนแต่มีความวุ่นวายอีรุงตุงนังเหมือนกัน เพราะในหนัง เคนตะ ก็มีปัญหาหนึ่ง ขณะที่ คิทาโร่ ก็มีปัญหาหนึ่ง แต่ทุกปัญหานั้นสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ วิธีการแก้ไขปัญหานั่นเอง
หนังคว้า เออิจิ เวนซ์ หนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่น-เยอรมัน-อเมริกัน (มิน่าตัวเขาจึงดูขาวโพลนดีแท้ เมื่อเทียบกับนักแสดงคนอื่นที่เป็นผิวเหลือง) ที่เป็นนักร้องคู่ ดูโอ วงดังของวัยรุ่นญี่ปุ่น และแฟน ๆ เจ ป๊อป มารับบท คิทาโร่ (แต่บางฉากก็หลุดเห็นตาซ้ายของ คิทาโร่ หล่อเต็มตาเหมือนกัน) และความเป็นสตูดิโอ ก็เลยทำให้มีดารา ดัง ๆ แวะเวียนโผล่หน้ามาร่วม แจม ในหนังด้วย แม้จะออกมาไม่กี่ฉาก รวมถึงคู่พระนางจากหนังดัง บี วิธ ยู ที่มารับบทตุลาการ และราชินีแห่งสวรรค์นั่นเอง
ถึงจะเป็นหนัง เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี ซึ่งเด็ก ๆ นะดูสนุกแน่ แต่ผู้ใหญ่อาจจะออกอาการง่วงหาวนิดหน่อยในบางช่วง.