All Blog
DORORO (ดาบล่าพญามาร โดโรโระ) จากหนังสือการ์ตูนมาเป็นหนังฮิต
DORORO (ดาบล่าพญามาร โดโรโระ) : การทวงคืนความเป็นคน / 3 ดาว

ดารานำ : ซาโตชิ ทซึมาบุกิ และ โค ชิบาซากิ
กำกับฯ : อากิฮิโกะ ชิโอตะ
ความยาว: 139 นาที
ประเภท : ไม่เหมาะสำหรับผู้เยาว์ดูโดยลำพัง

นี่คือ การกลับมาจับคู่กันอีกครั้งของ ซาโตชิ ทซึมาบุกิ และ โค ชิบาซากิ คู่พระนางวัยรุ่นที่ขายดีในวงการหนัง-ทีวี ญี่ปุ่นยุคนี้คู่หนึ่ง ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยแสดงซีรี่ส์ “ออเรนจ์ เดย์” ด้วยกันเมื่อปี 2004 มาแล้ว แต่มาครั้งนี้เป็นการรับบทในบรรยากาศที่เป็น “พีเรียด” ย้อนยุค ไม่ใช่เรื่องในสังคมสมัยใหม่
“โดโรโระ” หรือที่ในหนังบอกความหมายว่า “ปีศาจน้อย” สร้างมาจากหนังสือการ์ตูนที่ได้รับการตีพิมพ์ออกมานานหลายสิบปีแล้ว แต่นี่ดูจะเป็นการนำมาทำเป็นหนังใหญ่ครั้งแรก และความที่ได้ทั้งเรื่องกับดาราแสดงที่ดัง จึงไม่น่าเซอร์ไพรสซ์เท่าไรนักที่ได้รู้ว่า หนังประสบความสำเร็จในการทำรายได้ขึ้นอันดับ “บ๊อกซ์ออฟฟิศ” ของญี่ปุ่นติดต่อกันนานถึง 4 สัปดาห์ทีเดียว
หนังจับความเกิดขึ้นในยุคสมัยเซ็นโกคุ ซึ่งเป็นช่วงเวลาตอนไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่น่าจะอยู่ในยุคของญี่ปุ่นโบราณ เพราะดินแดนต่าง ๆ ยังถูกแบ่งออกเป็นแว่นแคว้น ไม่ได้รวมกันอย่างเป็นเอกภาพ เป็นยุคสมัยของซามูไร และเจ้าเมืองต่างๆ ที่พยายามทำสงครามรบพุ่งเพื่อขยายอาณาเขตดินแดนของตนออกไปเหนือแคว้นอื่น ๆ ฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่าก็ย่อมได้รับชัยชนะเหนือฝ่ายที่อ่อนแอกว่า ขณะเดียวกันก็ยังมีความเป็นแฟนตาซีตรงที่มีเรื่องราวของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เหลือเชื่อ และการติดต่อกันได้ของมนุษย์กับเทพปีศาจต่าง ๆ อย่าง คาเงะมิตสึ ไดโกะ พ่อของ ฮัคคิมารุ (ทซึมาบุกิ) นั้นก็ได้ทำสัญญาแลกเปลี่ยนต่อปีศาจทั้ง 48 ตน ให้ช่วยให้เขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่กุมชัยชนะเหนือแว่นแคว้นต่าง ๆ เหนือปีศาจทั้งหลาย โดยแลกกับอวัยวะทั้ง 48 ของ ฮัคคิมารุ ลูกชายของเขาที่ยังอยู่ในครรภ์ภรรยา ดังนั้นเมื่อ ฮัคคิมารุ เกิดมาเขาจึงเป็นเด็กที่ไม่มีอวัยวะใด ๆ ในตัวเลย ดูเหมือนก้อนเนื้อ แต่แม่ของ ฮัคคิมารุ ก็ไม่อาจทำใจเข่นฆ่าลูกที่เกิดมาตามที่ คาเงะมิตสึ บอก เธอจึงเลือกนำร่างลูกชายใส่ตะกร้าลอยไปตามสายน้ำ โชคชะตาได้ทำให้ เด็กทารกฮัคคิมารุ ได้พบกับ จูไค ผู้ปราชญ์เปรื่องในศาสตร์ปลูกถ่ายอวัยวะเทียม ได้ทำการสร้างอวัยวะเทียมทั้งหมดให้กับ ฮัคคิมารุ จนเติบโตเป็นหนุ่มขึ้นมาราวคนปกติ แม้จะไม่มีตาที่จะมองเห็น ไม่มีปากที่จะพูด แต่เขาก็รับรู้สิ่งเหล่านั้นด้วยความรู้สึกลึก ๆ และเริ่มต้นเดินทางพร้อมดาบปราบปีศาจคู่ใจเพื่อเข่นฆ่าปีศาจแต่ละตนแลกกับการได้คืนมาของอวัยวะที่แท้จริง ๆ แต่ละอย่างเพื่อแทนที่อวัยวะเทียมที่อยู่ในตัว โดยมีเป้าหมายว่า ถ้าเขาฆ่าปีศาจได้ครบทั้ง 48 ตน เมื่อใด ฮัคคิมารุ ก็จะได้อวัยวะของเขาทั้งหมดกลับคืนมาจากเหล่าปีศาจเหล่านั้น เป็นการทวงคืนความเป็นคนได้สมบูรณ์ โดยเด็กสาวที่ทำตัวกระโดกกระเดกเหมือนเป็นผู้ชาย (ชิบาซากิ) ที่หากินกับการลักขโมย และได้ ฮัคคิมารุ ช่วยเหลือไว้เป็นมิตรร่วมเดินทางไปด้วยกัน โดนฉวยเอาชื่อท้ายของ ฮัคคิมารุ ที่ว่า โดโรโระ มาใช้เป็นชื่อของเธอเอง จนกระทั่ง ฮัคคิมารุ ได้พบกับ คาเงะมิตสึ พ่อของเขา ซึ่งก็เป็นศัตรูที่ฆ่าครอบครัวของสาวโดโรโระเพื่อนร่วมทางด้วย
นอกจากซีนต่อสู้ด้วยเพลงดาบที่ว่ากันว่า คราวนี้ญ่ปุ่นหันไปพึ่งผู้กำกับคิวบู๊ของฮ่องกงมาช่วยอีกแรงหนึ่ง หนังก็จะมีการสร้างภาพสเปเชียลเอฟเฟ็คพวกปีศาจต่าง ๆ ที่จะปรากฎตัวในรูปลักษณ์ประหลาด ๆ ต่าง ๆ กัน ซึ่งภาพเทคนิคตรงดูเหมือนว่า คนทำจะจงใจที่จะทำให้ออกมาเหมือนภาพเทคนิคหนังญี่ปุ่นเมื่อ 30-40 ปีก่อนด้วยซ้ำ
แต่ด้วยความพิสดารพันลึกของเนื้อเรื่อง และการแสดงของดารา ก็ทำให้หนังดูกันได้เพลิน ๆ ทั้ง ๆ ที่หนังมีความยาวกว่า 2 ชั่วโมง ดูจบแล้วก็รู้เลยว่า หนังคงมีภาค 2 ต่อตามมาอย่างแน่นอน เพราะจบตอนนี้ลงไป ฮัคคิมารุ ก็เพิ่งปราบปีศาจเรียกอวัยวะคืนมาแค่ครึ่งหนึ่งเอง ยังคงมีภารกิจไล่ล่าฆ่าปีศาจที่เหลือต่อไป.



Create Date : 15 มิถุนายน 2550
Last Update : 15 มิถุนายน 2550 23:00:27 น.
Counter : 3519 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

alexkh
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]