All Blog
คนหิ้วหัว : งานสู่จุดสุดยอด
คนหิ้วหัว : จังหวะก้าวสู่การบรรลุจุดสุดยอด / 2 ดาว

ดารานำ : พิง ลำพระเพลิง และ วิสา สารสาส
กำกับฯ : พิง ลำพระเพลิง
ความยาว: 90 นาที
ประเภท : สำหรับผู้ใหญ่โดยเฉพาะ

แม้ชื่อหนังจะเอาไปแปลงคำแล้วเล่นคำผวนออกมาเป็นสองแง่สองง่าม และดูหนังตัวอย่างก็ให้รู้สึกว่า ทั้งเลือดสาด และเต็มไปด้วยคำหยาบชนิดสิงสาราสัตว์โผล่ออกมาให้ได้ยินไม่หวาดไม่ไหว แต่ความติดตามดูงานของ พิง ลำพระเพลิง ทั้ง “โคตรรักเอ็งเลย” ที่ทั้งกำกับฯ และเขียนบท (ที่อาจจะรู้สึกขัดใจกับครึ่งหลังของหนังก็ตาม) จนมาถึง “แสบสนิทศิษย์ส่ายหน้า” ที่โชว์ฝีมือเขียนบทอย่างเดียวได้อย่างลงตัว ก็คิดว่า “คนหิ้วหัว” งานที่ พิง ลำพระเพลิง ก้าวออกมากำกับฯ และเขียนบทครั้งที่ 2 จะมีอะไรมาโชว์แฟนหนังของเขาไปอีกขั้น
แล้ว พิง ก็มีอะไรมาโชว์แฟนนหังของเขาจริง ๆ แต่ออกจะดูเป็นการโชว์ “พาวเวอร์” ในฐานะคนทำหนังที่พกความมั่นใจมาเต็มพิกัด และงานชิ้นนี้ก็ไม่ต้องพึ่ง “โน้ต-อุดม” มาเล่นอีกแล้ว เพราะ พิง โดดลงมาแสดงเป็นตัวเดินเรื่องเองเสียด้วย
สันนิษฐานว่า คงมั่นใจว่า ตัวเองขายได้
หนังพยายามทำให้ดูมีอะไรเก๋ ๆ อย่างการแบ่งออกเป็น 5 ตอน ที่มีชื่อตอนเป็นศีล 5 แต่ละข้อไล่เรียงกันมา แล้วก็ความเป็นมือเขียนบท ที่ทำอะไรธรรมดาเล่าเรื่องเรียงลำดับจาก 1 เป็น 2 เป็น 3 ไปเรื่อย ๆ คงกลัวว่า คนจะมองว่า ไม่แน่จริง เรื่องนี้ก็เลยเล่าเรื่องสลับไปมาหน้าหลังจากตอนนั้นไปโผล่ตอนนี้จากนี้ไปเล่าต่อตอนนั้นให้วุ่นไปหมด แต่ความพยายามที่จะทำให้หนังเป็นการทำให้คนดูรู้จักกับเนื้อหาของศีล 5 แต่หนังก็ออกมาไม่ต่างละครทีวี ที่มีอยู่ทั้งหมด 16 คน ก็มีแต่เรื่องร้าย ๆ มาซะ 15 ตอน มาถึงตอนจบนั่นแหละก็มาสรุป ธรรมมะย่อมชนะอธรรมหรือคนทำชั่วย่อมได้รับการลงโทษ-ว่างั้น!
เพราะบางตอนนอกจากเนื้อหาบางทีแทบจะไปไม่ได้กับชื่อตอนด้วยซ้ำ แต่ก็ใส่เข้าไปหน้าตาเฉย และถ้าจะมาสรุปว่า ตัวละคร ไอ้เตี้ย ที่ พิง แสดงเป็นพ่อที่รักลูกชายคนเดียว และภรรยา (วิสา สารสาส) เป็นหนักหนา ในคาแรคเตอร์สไตล์ โรแบร์โต้ เบนนีนี่ (จาก “ไลฟ์ อีส บิวตี้ฟูล” และ “เดอะ ไทเกอร์ แอนด์ เดอะ สโนว์”) สิ่งที่พ่อที่ไม่เอาไหนมาโดยตลอดแต่กลับหาเงินก้อนโตมาให้ครอบครัวได้ ก็ไม่ใช่การได้มาที่คนในครอบครัวภูมิใจ เพราะเป็นเงินที่ไปปล้นเขามาอีกที จนเป็นเรื่องให้พวกที่ร่วมปล้นกันตามล่าฟันคอขาดหัวหลุดออกจากตัวไปคนละทิศละทางมาแล้ว และกว่า คนดูจะได้มาเห็นภาพสามีภรรยาคู่นี้เขามีอารมณ์ซึ้ง ๆ กัน ก็ต้องมาทนฟังสามีภรรยาคู่นี้เขาเจอกันก่นด่ากูมึง...สาด....อะไรสารพัดมาตั้งแต่ต้นเรื่องยันหนังใกล้จะจบ
หนังอุดมไปด้วยคำหยาบ ๆ เยอะแยะไปหมด จนทำให้พลอยรู้สึกว่า คนทำเขาไม่มั่นใจตัวเองหรือไงว่า ถ้าไม่พูดคำหยาบหนังจะเดินไปไม่ถึงจุดหมายที่ต้องการ หรือจงใจจะกรอกหูคนดูแบบนี้ ในขณะที่การ “พรีเซ้นต์” ตัว พิง ที่แสดงออกมา หลายตอนก็มีการแก้ผ้าโชว์ก้น ใส่กางเกงเอวต่ำ ใส่เสื้อไม่กลัดกระดุม แล้วกล้องก็ซูมไปที่ไรขนใต้สะดือ ย้ำแล้วย้ำอีกตั้ง 2-3 ฉาก จนดูไร้รสนิยม และที่น่าคิดก็คือ พิง เขาคิดยังไงกับคนดูหนังของเขากันแน่ หรือคิดว่า คนดูเป็นเครื่องรองรับอารมณ์ทุกอย่างที่เขานึกอยากจะใส่มากับหนังตรงไหนก็ใส่เข้าไป นึกจะล้อหนัง “ต้มยำกุ้ง” ก็เอาซะหน่อย ในฉากร้านสูท (ขณะที่ ภูริ กับ กระแต ถึงจะโผล่มาหลายฉากก็เป็นแค่ตัวประกอบอยู่ดี)
ไม่รู้ว่า สร้างหนังเรื่องนี้เสร็จออกฉายนี่จะรู้สึกว่า ตนเองได้ “สำเร็จ” บรรลุถึงจุดสุดยอดสมใจหรือเปล่า?.



Create Date : 01 กันยายน 2550
Last Update : 1 กันยายน 2550 23:48:58 น.
Counter : 1469 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

alexkh
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]