NATIONAL TREASURE:BOOK OF SECRETS (ปฏิบัติการเดือด ล่าบันทึกลับสุดขอบโลก) : เดิมพันด้วยตระกูล / 3 ดาว
ดารานำ : นิโคลัส เคจ และ ไดแอน ครูเกอร์
กำกับฯ : จอห์น เทอร์เทิ่ลเทอร์บ
ความยาว: 117 นาที
ประเภท : ดูได้ทั่วไป
เป็นไปตามคาด หลังจากหนังภาคแรกออกมาฉายตอนปลายปี 2004 ทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 350 ล้านดอลลาร์ มีหรือที่หนังจะไม่มีภาคต่อตามออกมา เพราะด้วยโครงเรื่องที่ได้วางไว้ อย่าว่าแค่ ภาค 2 และจะทำต่ออีกสักกี่ภาคก็ย่อมได้ และนี่ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องของตัวละครที่ค้นหาขุมทรัพย์เท่านั้น เพราะนี่ก็กลายเป็นอีกขุมทรัพย์ที่ดารานำอย่าง นิโคลัส เคจ จะทำมาหากินต่อไปตราบที่ยังมีความคิดจะสร้างหนังชุดนี้ต่อไป
เคจ กลับมารับบท เบน เกทส์ ที่ความสำเร็จจากค้นพบขุมสมบัติของอัศวินเท็มพลาร์ทางประวัติศาสตร์จากหนังภาคแรกได้ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ เกทส์ ก็ยังต้องการทำหน้าที่ปกป้องของโบราณทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ มากกว่า แต่เหตุการณ์ภาคใหม่นี้เริ่มต้นเมื่อ เบน และ ศาสตราจารย์แพทริค เกทส์ (จอน วอยท์) พ่อของเขาได้ค้นพบว่า มีหน้ากระดาษบางส่วนที่ถูกฉีกหายไปจากบันทึกของจอห์น วิลค์ บูธ ที่รู้กันว่าเป็น มือสังหาร ประธานาธิบดีลินคอล์น ที่สำคัญก็คือ หลักฐานเหล่านั้นกลายเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า โธมัส เกทส์ บรรพบุรุษของตระกูลเกทส์ ได้เข้าไปมีส่วนในการสมรู้ร่วมคิดในการลอบสังหารประธานาธิบดีลินคอล์นด้วย
เบน ต้องกลับมารวมทีมกับ อบิเกล เชส (ไดแอน ครูเกอร์) ภัณฑารักษ์สาวผู้ดูแลเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อเมริกัน และ พาร์ทเนอร์ ที่ชำนาญในเรื่องเทคโนโลยีต่าง ๆ ไรลีย์ พูล (จัสติน บาร์ธา) เริ่มต้นการเดินทางค้นหาปริศนาของหนังสือลึกลับที่ถูกคุ้มไขอย่างหนาแน่นครั้งสำคัญนี้โดยเฉพาะส่วนของหน้าที่ถูกฉีกหายไปเพื่อ ฟอก ตระกูลเขาให้รอดพ้นข้อกล่าวหานั้น เริ่มจากใจกลางกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สู่ปารีส- ลอนดอน ก่อนวกกลับมาตลุยอเมริกาอีกครั้ง
หนังใช้ทีมงานสร้างเรื่อง และเขียนบทชุดเดิมจากภาคแรกมาสานต่อในงานชิ้นนี้ เช่นเดียวกับการได้จอห์น เทอร์เทิ่ลเทอร์บ ผู้กำกับฯ (และนักแสดง) ฝีมือดีคนเดิมมากำกับฯ ภายใต้การคุมบังเหียนของโปรดิวเซอร์ จอมขาย เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ ที่มีมุมมองในการทำหนังถูกใจโดนใจตลาดมาแล้วนักต่อนัก จนทาง ดีสนีย์ ไม่ยอมปล่อยหลุดมือต้องจับมาเซ็นสัญญาสร้างหนังป้อนเป็นเจ้าประจำติดต่อกันมาได้หลายปีแล้ว และที่ผ่านมา บรัคไฮเมอร์ ก็ทำให้ผู้บริหาร ดีสนีย์ รู้ว่า งานนี้คิดไม่ผิด
ในหนังภาคใหม่นี้นอกจากดาราชุดเดิมที่มาแสดงกันพร้อมหน้า หนังยังได้ดาราเจ้าบทบาทอีก 2 คนมาร่วมสมทบคือ เอ็ด แฮร์รีส ดาราชายที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง ออสการ์ มาแล้วถึง 4 ครั้งมารับบท มิทช์ วิลคินสัน ซึ่งก็ต้องการปกปักษ์รักษาภูมิหลังของตระกูลเขาเช่นกันก็เลยต้องมาเผชิญหน้ากับผู้คนจากตระกูลเกทส์ และ เฮเลน มิร์เลน ดาราหญิงที่ฮ็อตที่สุดในรอบปีที่ผ่านมากับการพิชิตรางวัลดารานำหญิงยอดเยี่ยมอย่างเป็นเอกฉันท์จากหลายสถาบันรางวัล รวมทั้ง 3 สถาบันหลักคือทั้ง ออสการ์,ลูกโลกทองคำ และ บาฟต้า อวอร์ด มารับบทเป็นแม่ของ เบน เกทส์ ที่ถูกดึงเข้ามาร่วมไขปริศนาครั้งนี้ด้วย
ว่าไปแล้วการเกิดขึ้นของโปรเจ็คท์นี้ก็เป็นการย้อนรอยความสำเร็จของหนังในชุด อินเดียน่า โจนส์ บวกกับสไตล์เรื่องราวขุดอดีตมาค้นคว้าตีความหมายใหม่แบบนวนิยายชุด "ดาวินชี่ โค้ด" ของ แดน บราวน์ เป็นการแทรกตัวอุดช่องโหว่ของตลาด และตอบสนองต่อผูบริโภค เพียงแต่ว่า เนื้อหาของภาคนี้ค่อนข้าง "ซัพพอร์ต" คนที่อเมริกัน หรือรู้ประวัติศาสตร์มากหน่อยถึงจะดูสนุก ในขณะที่ภาคแรกซึ่งตีความหมายจากภาพที่ปรากฎในธนบัตรของอเมริกา ซึ่งก็เห็นกันได้สำหรับคนทั่วไปในโลก (แต่ก็อดไม่ได้ว่า อะไรมันจะบังเกิดขนาดนั้น เรียกว่า จับอะไรขึ้นมาตีความหมายได้โม้ด)
อย่างไรก็ตามเชื่อเถอะว่า นี่ไม่น่าจะเป็นภาคนุดท้ายที่เขาจะออกปฏิบัติการเด็ดขาด เพียงแต่ว่า ภาคต่อไปไม่รู้จะขุดโคตรเง้าที่ไหนมาเล่นอีกเนาะ.