ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น : ท่องไปในโลกความรัก 4 แบบ 4 วัย / 3 ดาว
ดารานำ : โฟกัส จีระกุล และ ชาลี ไตรรัตน์
กำกับฯ : ทรงยศ สุขมากอนันต์
ความยาว: 125 นาที
ประเภท : ไม่เหมาะสำหรับผู้เยาว์ดูโดยลำพัง
นี่คือ งานที่มาพร้อมกระบวนการ เพลย์เซฟ ครั้งใหญ่ของค่ายหนัง จีทีเอช และผู้กำกับฯ ย้ง-ทรงยศ จาก แฟนฉัน และ เด็กหอ เมื่อไม่แน่ใจว่า จะหยิบหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาทำให้ โดน สำหรับแฟนหนังทั้งหลาย ก็เลยใช้วิธีหว่านแหตระครุบกลุ่มคนดูให้หมด เรียกว่า ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน ม.ต้น ไล่ไปจนถึงนิสิตนักศึกษาปีหนึ่งไปจนกระทั่งชั้นปีสุดท้ายใกล้จะสำเร็จการศึกษาแล้ว พร้อมกับการขนเหล่าดารานักแสดง เด็กสร้าง ที่แจ้งเกิดกับหนัง จีทีเอช ในช่วง 4-5 ปีมานี้มาร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้กันครบครัน โดยบางคนก็มีบทเป็นเรื่องเป็นราว แต่บางคนก็แค่โผล่แว่บ ๆ เป็นตัวประกอบพอสร้างสีสันกับหนังก็มี
แล้วหนังอะไรถึงจะแจกบทให้นักแสดงมาแสดงกันได้มากมายขนาดนั้นได้ คำตอบที่ไม่ยากเลยก็คือ การสร้างหนังที่ประกอบด้วยเรื่องย่อย ๆ หลาย ๆ เรื่องรวมไว้ด้วยกัน ซึ่งดูท่าในปีชวดนี้ทำท่าว่า จีทีเอช จะถือเคล็ด เลข 4 เพราะในหนังเรื่องนี้ก็บรรจุไว้ด้วยเรื่องราว 4 เรื่อง 4 ตอน (ที่ถูกนำมาเรียงร้อยให้ดูต่อเนื่องกัน แต่ก็ไม่ใช่เล่าทีละเรื่องที่ละตอนแบบพอจบตอนหนึ่งก็ขึ้นอีกตอนหนึ่ง แต่เป็นการเล่าสลับกันไป ๆ มา ๆ แล้ว) พอเดือนหน้า จีทีเอช ก็จะมีหนังสยองขวัญออกฉายตามมาเรื่อง 4 แพร่ง หรือ สี่แพร่ง ที่เป็นการร้อยหนังสยองขวัญ 4 เรื่องเข้าไว้ในหนังเรื่องเดียว โดยผู้กำกับฯ 4 คนอีก
สำหรับ ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ย้ง-ทรงยศ น่าจะได้แรงบันดาลใจจากหนังอังกฤษ เลิฟ แอ็คชวลลีย์ ที่ออกฉายในปลายปี 2003 (ปีเดียวกับที่ แฟนฉัน ออกฉายนั่นแหละ) เหมือนกับที่ตัวละครตัวหนึ่งในตอนหนึ่งของหนังก็ไปได้แรงบันดาลใจบางอย่างจากการดูหนังเรื่องนั้นเช่นกัน คือ จะเป็นการรวมเรื่องราวความรักในหลากหลายรูปแบบ และหลายวัย (แต่ก็ยังมี สโคป เป็นวัยรุ่นอยู่) ดูจากเครดิตในไตเติ้ลหนังก็ใช้ทีมเขียนบทหลายคนอยู่เหมือนกัน ซึ่งเข้าใจว่า น่าจะเป็นการแบ่งเป็นทีมมาดูแลเขียนเป็นตอน ๆ กันไป
หนังเริ่มเรื่องจากรุ่นเยาว์สุดก่อน (และเป็นตอนเดียวที่เกิดขึ้นที่เชียงใหม่ ในขณะที่ตอนอื่น ๆ เกิดขึ้นที่กรุงเทพฯหมด) อันเป็นตอนที่มี เด็กสร้าง ของ ย้ง-ทรงยศ จาก เด็กหอ คือ คู่ของ แน็ค-ชาลี ไตรรัตน์ กับ ไมเคิล-ศิรชัช เจียรถาวร เป็นดาราตัวยืนในบท พุ กับ ไม้ เพื่อนนักเรียนชั้นม.3 (โรงเรียนเดียวกัน ห้องเดียวกัน แถมยังอยู่บ้านตรงข้ามกันซะอีก) ซึ่งใช้ความเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาดีทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ (นักเรียนรุ่นพี่) หลงรักหลงใหลไปตาม ๆ กัน จนกระทั่งวันหนึ่ง พุ กับ ไม้ ได้พบกับ นานา (อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) เพื่อนนักเรียนเก่าที่ถูกส่งไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯที่กลับมาบ้านในช่วงปิดเทอมใหญ่ พุ กับ ไม้ เลยมาตกลงกันแข่งกันจีบ นานา กันคนละวันหนึ่งคนหนึ่งได้เจอวันคู่อีกคนก็มาเจอวันคี่ เมื่อใดที่คนหนึ่งคนใดได้เบอร์โทรศัพท์มือถือส่วนตัวของ นานา ถือเป็นผู้ชนะ
ตอนต่อมามี โฟกัส จีระกุล หรือ น้อยหน่า จาก แฟนฉัน เป็นตัวยืน (รับบท โอ๋เล็ก) และเป็นเรื่องที่ออกจะ อินเตอร์ ตรงที่ โฟกัส ในเรื่องนี้เป็นนักเรียน (น่าจะม.ปลายแล้ว) ที่หลงใหลคลั่งไคล้ดารา-นักร้องไต้หวันที่ชื่อ ตี่ตี๋ (ติงเหว่ยลู) แบบชนิดหายใจเข้าหายใจออกก็เป็น ตี่ตี๋ และพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อ ตีตี๋
ตอนถัดมาก็โตขึ้นเป็นนักศึกษา (น่าจะเป็นช่วงปี 1 ปี 2 นี่แหละ) แต่คราวนี้เป็นการใช้บริการนักแสดงจากหนัง ซีซั่นเชนจ์ส-เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย คือ รัชชุ สุระจรัส เพื่อนพระเอกในเรื่องที่เลื่อนชั้นมาแสดงประกบกับ ชุติมา ทีปะนาถ นางเอกของเรื่อง (ในบท โจ้ กับ ซี) และเป็นประเด็น เพื่อนรักเพื่อน แต่ไม่ว่าฝ่ายชายจะพยายามทำดีเอาอกเอาใจฝ่ายหญิงทุกรูปแบบ แต่ก็เป็นแค่รักฝ่ายเดียว เพราะถึงเขาจะเลือกเธอ แต่เธอก็ไม่ได้เลือกเขา และไม่ต้องการก้าวจากความเป็นเพื่อนมาเป็นแฟนอย่างที่ฝ่ายเขาอยากจะให้เป็น
ตอนสุดท้ายเป็นช่วงของนักศึกษาชั้นปีสุดท้าย โดยใช้นักแสดงหน้าใหม่ และทำท่าจะเป็นเรื่องรักสามเส้าด้วย เมื่อ นวล (ธนิยา อำมฤตโชติ) ซึ่งคบหาเป็นแฟนกับ เหิร (ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) ต้องไปฝึกงานไกลถึงจังหวัดตรัง ไปฝึกงานไกลถึงตรัง เหิร เลยดูจะกลับมาเป็นหนุ่มโสดมีอิสระอีกครั้ง แต่พอนานวันเข้าเขาก็เริ่มคิดถึง นวล เลยกะทำเซอร์ไพรสซ์แฟนสาวโดยจับรถไฟมุ่งไปตรังก่อนถึงวันครบรอบการ เดท กันครั้งแรก 1 วัน แต่บนรถไฟสายใต้วันนั้น เหิร ได้พบกับ อาโออิ (โซระ อาโออิ) สาวญี่ปุ่นทั้งขาว สวย และอึ๋ม ตรงตามสเปคในฝันของหนุ่ม ๆ ยุคนี้ ซึ่งขึ้นรถไฟไปสุราษฎร์ฯเพื่อไปเที่ยว ฟูลมูน ปาร์ตี้ ที่เกาะพงัน ตามลำพังคนเดียว และอาโออิ ก็ทำให้ เหิร เริ่มหวั่นไหว และตัดสินใจลงรถไฟตาม อาโออิ ไปที่เกาะพงันด้วย แต่ก่อนที่ เหิร จะเผลอตัวเผลอใจมีอะไรกับ อาโออิ เขาก็ได้สติก่อน และตัดสินลาจาก อาโออิ ไปหา นวล ที่ตรัง แต่เป็นการไปถึงช้ากว่าวันที่นัดหมาย 1 วัน โดยที่ เหิร นำเวลาที่เป็นวันครบรอบการ เดท กันนั้นไปใช้อยู่กับ อาโออิ ที่เกาะพงัน
แต่ถึงจะเล่าเรื่องความรัก 4 แบบ 4 วัย แต่ก็ถือได้ว่า เรื่องราวเหล่านั้นก็เป็นตัวแทนของคนในวัยนั้น ๆ ในสังคมยุคนี้ที่มีความเป็นไปได้จริง ๆ และมีรายละเอียดอยู่เยอะ ขณะเดียวกันตัวละครในบางตอน อย่างคู่ พุ กับ ไม้ กับสิ่งที่เขาทำอยู่ ทั้งคู่อาจจะยังไม่รู้จักความหมายของความรักด้วยซ้ำ ขณะที่คู่ของ โจ้ กับ ซี ดูเหมือน โจ้ จะได้รับความเห็นใจจากคนดูไปเต็ม ๆ เพราะมีฉากที่แสดงให้เห็นว่า โจ้ ย้ำคิดย้ำทำอะไรเพื่อ ซี อยู่หลายครั้ง แต่ความรักก็ไม่ใช่ บะหมี่สำเร็จรูป ที่เทน้ำร้อนลงไปยังไงก็ได้กินบะหมี่อยู่ดี หรือจะต้องเป็นไปตามที่ฝ่ายหนึ่งต้องการเสมอไป ขณะที่คู่ที่ได้รับการถกเถียงมากที่สุดเห็นจะเป็นคู่รักสามเส้า เหิร-นวล-อาโออิ ซึ่งดูเหมือนฉากที่ชายหาด หนังดูจะทำให้ เหิร ออกจะแสนดีเกินความน่าจะเป็นของวัยที่ฮอร์โมนน่าจะฉีดพล่าน ส่วนตอนของ โอ๋เล็ก ที่เหมือนจะถูกมองว่าไร้สาระสุด เหลือเชื่อสุด กลับเป็นฝ่ายสมหวังกว่าใคร และหนังก็แสดงให้เห็นว่าการที่มองเด็กวัยรุ่นคลั่งไคล้ดารา-นักร้องต่างชาตินั้น บางครั้งก็ยังมีอีกมุมมองที่แปรเปลี่ยนให้เป็นด้านดีได้เหมือนกัน
ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น นอกจากจะเป็นหนังที่เหมือนเป็นการรวมพลังทรัพยากรที่มีอยู่ของ จีทีเอช มา ร่วมด้วยช่วยกัน กับงานชิ้นนี้แล้ว ยังเป็นการกลับมาทำงานร่วมกับ นิรมล รอสส์ ที่เคยถ่ายภาพ เด็กหอ มาแล้ว คราวนี้ได้ดูงานที่สดใสขึ้น ขณะที่องค์ประกอบในงานของ ย้ง-ทรงยศ เรื่องนี้ก็ยังดูมีอะไรที่ละม้ายคล้ายกัน อย่างใน เด็กหอ ก็มีหนัง ผีกัด ซึ่ง เมค ขึ้นมา พอเรื่องนี้ก็มีการ เมค หนังที่ ตี่ตี๋ แสดงขึ้นมา อีก แต่ที่น่าสังเกตก็คือ การกำกับการแสดงนักแสดงที่ในแต่ละตอนกลับออกมามีคุณภาพไม่เท่ากัน ตอนที่ออกมาดี และลื่นไหลสุดเห็นจะเป็นตอนของ โอ๋เล็ก ตามด้วยตอนของ โจ้ กับ ซี และตอนของ เหิร-นวล-อาโออิ ขณะที่ตอนของ พุ-ไม้ ดูจะฝืดทั้ง แอ็คติ้ง และ ไดอะล็อก และมีช่องว่างอยู่เยอะ ยังดีที่ได้การตัดต่อมาช่วยไว้ แต่เทียบฝีมือการแสดงระหว่าง แน็ค กับ โฟกัส แล้ว จะเห็นว่า โฟกัส วันนี้ไปไกลกว่าเยอะเลย.