ครบปีมีเรื่องเล่า : สิงคโปร์แรก ตอนที่ 6 เที่ยวส่งท้าย by the bay6 มีนาคม 2024

.
.
ความเดิมตอนที่แล้วhttps://www.bloggang.com/mainblog.php?id=myluckyfriday.
.
วันสุดท้ายของทริปแล้ว
เช้ามาเฟสบุ้กกลับมาใช้ได้ ตื่นมาเก็บของเก็บกระเป๋า
แวะลงไปนั่งรับลมที่ชั้น 4 เติมน้ำท่า แล้วกลับมาอำลาห้องพักลงไปเช็คเอาท์
(เขาให้เช็คเอาท์ก่อน 11 โมง)
แต่ไฟลท์กลับนั้น สามทุ่มกว่า เลยจะฝากกระเป๋าไว้ แล้วไปตระเวนเที่ยวก่อน




07:12 07:29 08:01 08:20

มานั่งเล่นรับลมยามเช้าที่ชั้น4

มากดน้ำที่นี่


(ซ้าย) วิ่งผ่านไปนั้นคือรถเมล์
(ขวา) ด้านหลังของตึกนี้เข้าไปน่าจะเป็นที่พักอาศัยแหละ


(ซ้าย) วิวข้างทาง / under construction
(ขวา) ผ่านด้านนอกของโรงแรม JW Marriott Singapore South Beach
ชอบหลังคาเขานะ
เช้านี้ใช้บริการ MRT เช่นเดิม แต่จำไม่ได้แล้วว่าลงสถานีไหน
ระหว่าง Esplanade กับ Promenade
เพราะจุดหมายของเราคือตึก
Suntec City เพื่อไปชม
น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง Fountain of Wealth ทางเข้าอยู่ที่ชั้นล่างของอาคาร รอบเช้านี้ สิบโมงถึงเที่ยง มองนาฬิกาแล้วยังทัน
ทีแรกหาทางเข้าไม่เจอ วนอยู่นั่นแหละ สุดท้ายก็ไอประตูที่เราเดินเลยมาเมื่อกี้ 555
เดินวนน้ำพุสามรอบ พร้อมกับเอามือยื่นสัมผัสน้ำ แล้วขอพรไปด้วย



น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง Fountain of Wealth ตั้งอยู่ใจกลางระหว่างตึก 5 อาคาร
คอนเซ็ปต์เขาว่าอาคารเปรียบสเมือนนิ้วทั้ง 5
และมีน้ำพุกลางฝ่ามือซึ่งเปรียบสเมือนเงินที่กำอยู่ในมือ
.
.
.
.


.
เสร็จจากจุดนี้ก็ไปหาอะไรกินที่
Food Republic ในตึกนี้แหละมื้อนี้เทคนิคการจองด้วยทิชชูไม่รอดแล้วอ่ะ
มันเป็นเวลาพักเที่ยงของชาวออฟฟิสด้วย คนเยอะมาก
พอได้อาหารแล้วเดินมาถึงโต๊ะ อูย นามบัตรเพียบเชียว
เลยกวาดตามองหาทำเลใหม่ โชคยังดีเจอโต๊ะชาวออฟฟิสกลุ่มนึงว่างหนึ่งที่ ถามแล้ว ปลอดโปร่ง 55
มื้อนี้กินข้าวหน้าเป็ด
ร้าน HK ROAST กินเสร็จก็ไปเดินหา
llao llao (เหยาเหยา) ไอศกรีมโยเกิร์ตแช่แข็งสัญชาติสเปนกิน
เราสั่งไซส์ M (มั้งนะ) ใส่ท้อปปิ้งได้3 อย่างอะไรก็ได้
เขาจะมีผลไม้ crunch และซอส ซึ่งแต่ละประเภทมีแยกย่อยไปอีก
เราเลือก melon / muesli / แต่ดำๆ นั่นจำไม่ได้แล้ว
กว่าจะหาร้านเจอวนอยู่หลายรอบจนเกือบตัดใจแล้วนะ
.



.
.
.
.

ทางออกสู่ที่หมาย
อิ่มสมอารมณ์หมายแล้วลง MRT เพื่อไปสถานี Bayfront เพราะจะไป
Gardens by the Bayตอนนี้เงินในบัตรไม่พอค่ารถแล้ว ต้องเติม
เดินลงสถานีเจอตู้เติมเงิน กดๆๆ วนไปมาอยู่สองสามรอบ เอ๊ะ ทำไมไม่ได้ล่ะ?
เลยจะไปเติมที่เคาน์เตอร์ แต่พนักงานไม่ทำไห้อ่ะ 555 แล้วเขาก็ชี้มือไปที่ตู้นึง
ปกติเขาคงต้องเติมเงินที่ตู้เองนั่นแหละมั้ง เราไม่ได้ดูมาก่อน
พอไปที่ตู้นั้น...อ๋อ เมื่อกี้ที่เราไปจิ้มๆ มันไม่ใช่ตู้เติมเงิน 555 บ้อบอมาก
คราวนี้เติมได้แล้ว

เขียวชะอุ่มพุ่มไสว

.
ถึงแล้วที่หมาย
Gardens by the Bayเข้ามาแล้วก็เดินลัดเลาะมาเรื่อยๆ กว้างใหญ่ไพศาลจริงๆ เดินเท่าที่เดินไหวล่ะกัน
พวกโซนจ่ายตังค์ก็คือไม่ได้เข้าเลย เดินชมของฟรีไปก่อน
..
และพูดเลย วันนี้ร้อนมากกกกกกกกกกกกกกก

สวนที่มีอะไรน่ามองดึงดูดสายตาไปตลอดทาง

มาอยู่ตรงนี้ จินตนาการไปถึงการ์ตูนโดราเอมอน
ตอนผจญภัยในป่าดึกดำบรรพ์






Sumatran Tiger ประติมากรรมเสือสุมาตรา ยาว 10เมตร กว้าง3เมตร สูง 7เมตร
ทำจากขยะรีไซเคิล โดน Artur Bordalo (ฺBordaloii) ศิลปินชาวโปรตุเกส
Planet โดย Marc Quinn ศิลปินชาวอังกฤษ
ประติมากรรมโลหะ ความยาว 10 เมตร น้ำหนัก 7 ตัน
ชอบงานนี้มาก มีความลอยเคว้ง

เดินมาสักพักขอนั่งพักตรงนี้ให้หายเหนื่อย แต่เอ๋ สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง.. เ_ี้ยแล้ว
ทำท่าจะเดินมาทางนี้ด้วย แล้วเราคงคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง เผ่นก่อนดีกว่า 55


Supertree Grove ไม่ได้ขึ้นไปดู

เมฆครึ้มอีกแล้ว จะตกให้ได้เลยใช่ไหม
Flower Dome ก็ไม่ได้เข้าไปดูนะ




มีดีเทล มีความใส่ใจรายละเอียด
เดินจนเป็นที่น่าพึงพอใจแล้ว เตรียมตัวกลับบ้านดีกว่า
แวะวัดพระเขี้ยวแก้วอีกสักครั้งซื้อเครื่องรางฝากตัวเองและที่บ้าน
เสร็จแล้วข้ามมา maxwell กินอะไรรองท้องสักหน่อย
สรุปทริปนี้คือห่วงเที่ยวมาก ไม่ห่วงหิวเลย
ถ้ามีโอกาสทริปต่อๆ ไปต้องบาลานซ์ให้ดีกว่านี้




ซื้อ
Oyster cake ร้าน
Maxwell Fuzhou Oyster Cake มากิน
ข้างนอกเป็นแป้งกรอบๆ ข้างในไส้หอยนางรม หมูสับ และผัก
กินเปล่าๆ แบบไม่ต้องน้ำจิ้มก้อร่อย
เราซื้อน้ำเต้าหู้ ร้าน
One Soy มากินด้วย
ชอบบบทั้งคู่เลย
.
วันนี้มีนักท่องเที่ยวล็อตใหม่ทยอยเข้ามาแล้ว
เพราะคอนเสิร์ตรอบถัดไปเริ่มพรุ่งนี้ 7 8 9 นึกถึงวันที่เรามาวันแรก
และได้ยินเสียงภาษาไทยคุยกันเนืองๆ
ถนน Telok Ayer
ซ้ายมือร้าน
Panda mart
Nagore Dargah Shrine
วัดเทียนฮกเก๋ง (Thian Hock Keng)
ย่าน Ann Siang Hillพอมาดูรูปที่ถ่ายๆ ไว้ เราชอบรูปนี้มากเลย
Chinatown
กินเสร็จข้ามมาซื้อของฝากที่ไชน่าทาวน์
และเดินเตร็ดเตรชมสองข้างทางแบบชะโงกทัวร์อีกสักหน่อย
ระหว่างที่สาละวนเลือกของเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ เช็คราคาแหละ
ฝนเริ่มตั้งเค้า เริ่มปรอยๆ พอซื้อเสร็จไม่ทันไรพระพิรุณก็เทลงมาหนักเลย
ร่มก็ไม่มี เสื้อกันฝนก็อยู่ในกระเป๋าเดินทางที่ฝากไว้
รอจนจังหวะซารีบบึ่งลง MRTกลับโรงแรมเพื่อรับกระเป๋า
แล้วก็ตรงไปสนามบินเลย ที่จริงก็ดูเวลายังเหลือนะ
แต่พอมาคนเดียว แล้วไม่ใช่คนคล่องตัวด้วย เลยเซฟๆ ไปแต่เนิ่นๆ ดีกว่า
ระหว่างอยู่บนMRT ที่เป็นสถานีลอยฟ้าก็ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองไป
แบตก็เหลือน้อยยยเต็มที
ถึงสนามบิน เช็คอินเสร็จ ฝากกระเป๋าเสร็จ เดินไปเดินมาเจอจุดชาร์จไป เดินปรี่เข้าไปเลย
ฮือ....รอดตายแล้วเรา

ชอบฝ้าเพดาน
.
.
หยิบตั๋วเครื่องบินมาดู เอ๋ เขาไม่พิมพ์ว่า Gate ไหน
เลยส่องที่บอร์ด พบว่าไฟลท์ที่เราจะขึ้นต้องต่อรถไปอีกเทอร์มินอลนึงด้วย
ที่จริงก็หิวนะแต่ไม่อยากเดินไปไหนแล้ว ถ่านในตัวอ่อนมากแล้ว
รอเวลาขึ้นเครื่องอยู่ตรงนี้ล่ะกัน หยิบหนังสือมาอ่านฆ่าเวลาไป
ไฟลท์กลับนี้ที่นั่งไม่เต็มลำเหมือนขามา
ไม่นานนักก็ถึงสนามบินดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ
รับกระเป๋า เรียกแท็กซี่เข้าบ้าน
วันรุ่งขึ้นก็ไปรับสองเมียวกลับบ้าน
.
.
เป็นอันจบทริปสิงคโปร์แรก ด้วยแรงขับเคลื่อนจากคอนเสิร์ต The Eras Tour
ที่สามารถดึงคนที่อยู่ติดบ้านข้ามน้ำข้ามทะเลมาเปิดหูเปิดตาที่นี่
เป็นการเดินในทางแบบฉบับ Music Torism ที่แสนสนุกเลยล่ะ
จนกว่าจะพบกันใหม่ในทริปหน้าซึ่งยังไม่รู้ว่าที่ไหนและเมื่อไหร่
แต่สัญญากับตัวเองว่า
จะเตรียมตัวให้พร้อมมากขึ้น พาวเวอร์แบงค์ล่ะสำคัญ
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามรับชมกันจนจบทริปนะครับ