เมื่อก้าวย่างเข้าฤดูร้อน ลำดับต้นๆ สิ่งที่เราจะนึกถึง นั่นคือทะเลค่ะ
และทะเลที่เราสามารถเดินทางไปพักผ่อน ไปเที่ยวได้ใกล้ๆ
แบบที่ไม่ต้องขับรถไปกลับให้เหนื่อยมากมาย ที่ที่เราจะนึกถึง ก็ไม่พ้นทะเลที่พัทยานะคะ
และยิ่งหากได้เข้าพักในที่พักที่ติดทะเล ติดหาดด้วยล่ะก็
เรียกว่าเป็นสวรรค์แห่งการพักผ่อนกันเลยทีเดียว
หากเราจะเอ่ยถึงชื่อ
ราวินทรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา พัทยา
รีสอร์ทที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองหลากหลาย เพื่อนๆ พอจะคุ้นเคย คุ้นชื่อกันไหมคะ
แต่สำหรับเรา พอได้ยินชื่อนี้ขึ้นมา ก็ต้องร้องอ๋อ เพราะ ชื่อรีสอร์ทแห่งนี้
ได้ถูกรีวิวขึ้นทางโซเซียลต่างๆ ไว้มากมาย มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่จะเข้าพัก
ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งตัวเราเองเช่นกัน ที่ได้รู้มาว่า
ราวินทรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา พัทยาที่นี่ มีห้องพักมากถึง 277 ห้อง
มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่มากถึง 3 สระ
มีแนวทิวต้นตาลสวยๆ ติดทะเล มีชายหาดส่วนตัวที่กว้างมากเช่่นกัน
นั่นคือข้อมูลเบื้องต้นที่เรารับทราบก่อนที่จะได้เข้ามาพักค่ะ
ณ วันนี้เราได้รับเชิญให้เข้ามาพัก ณ รีสอร์ทติดทะเลแห่งนี้ 2 วัน 2 คืน
เราก็พร้อมที่จะแบ่งปันข้อมูลตามสไตล์ของเรา
เพื่อให้เพื่อนๆ ได้รู้และได้เห็นรีสอร์ทแห่งนี้ มากยิ่งขึ้นไป นะคะ ^^
เราได้เข้าพักในวีคที่สอง ของเดือนมีนาคม ที่ผ่านมานี่เองค่า กว่าชีวิตเราจะลงตัว ทั้งวันว่าง ทั้งเรื่องงานก็เลื่อนไปเลื่อนมาจากฤดูหนาว
เลื่อนมาฤดูร้อน เหมาะเหม็งเลยในเวลานี้ ทะเล้ ทะเล ทะเล
การ เดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่รีสอร์ทกันด้วยเลยดีกว่า เราวิ่งยาวๆ จากเส้นพายพาส ชลบุรี
มาลงพัทยาก็วิ่งเส้นถนนสุขุมวิท ผ่านทั้งพัทยากลาง พัทยาใต้ จนเข้าเขตนาจอมเทียน
ซึ่งระหว่างนั้น จุดที่จะสังเกตได้ง่ายๆ ก่อนถึง ราวินทรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ก็คือ มิโมซ่า จากนั้นก็ตียูเทริน์ได้เลยค่าา
เมื่อยูเทริน์มาแล้วสังเกตร้านเซเว่นซ้ายมือ ใกล้ๆ กันก็จะมีป้าย Ravindra ตัวใหญ่ๆ
เมื่อมาถูกทางแล้วก็แลกบัตรรถยนต์และขับรถมุ่งตรงมาจอดที่บริเวณล็อบบี้ได้เลยนะคะ ลานจอดรถกว้างมากกกก
เราเข้าพักวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ค่ะ ขับรถมาถึงกลางคืนพอดี แฮ่
ล็อบบี้ของ ราวินทรา เป็นแบบ Open Air หลังคาสูงโปร่งขนาดใหญ่มากๆค่ะ
และมีส่วนต้อนรับลูกค้า ณ ส่วนแรกนี้ แบบอลังการเอาเรื่องเลยนะคะ
มี Welcome Drink ให้ด้วยจำไม่ได้แล้วค่ะว่าเป็นน้ำอะไร อิอิ
เช็คอินยืนยันด้วยบัตรประชาชนใบเดียวที่หน้าเคาน์เตอร์ ก็เป็นอันเสร็จพิธีรับคีย์การ์ดห้องพัก และมีพนักงานพาไปส่งที่ห้องพักกันเลยค่าาา
ใน ส่วนต้อนรับจะมีที่นั่งกันหลายจุด
ลมพัดเย็นสบาย เพราะรอบทิศทางของล็อบบี้ปลูกต้นไม่้ ดอกไม้ไว้ด้วยช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างมาก
อ้อ ภาพโซนส่วนต้อนรับทีล็อบบนี้เรามาถ่ายภาพในช่วงสายๆ อีกวันหนึ่งค่ะ เนื่องจากเรามาถึงดึกมากแล้วไม่ได้เก็บภาพได้้หมดจึงขอเอาภาพอีกวันที่ได้ถ่่ายรูปมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังล่ะกันนะคะ
หมอนโทนสีส้มที่ให้ความรู้สึกว่า มีพลังดึงดูด ถูกเลือกมาใช้เป็นเทรนด์ที่รีสอร์ทแห่งนี้้ด้วย
ระหว่างทางเดินตามพนักงาน ไปยังห้องพักของเรา
เราจะเดินผ่านสระว่ายน้ำกว้างๆ เป็นสระแรกค่ะ และอย่างที่บอกสระว่ายน้ำที่นี่เป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่มาก มองเห็น pool bar มาแต่ไกล
สองข้างฝั่งซ้ายขวา ของสระว่ายน้ำจะเป็นอาคารห้องพักต่างๆ ของ ราวินทราฯ รีสอร์ทค่ะ
หมายเลขที่ออก ห้องพักเราคือ 1369
ประตูห้องพักเป็นแบบระบบคีย์การ์ดให้ความปลอดภัยสูง และมีการ์ดมาให้ด้วยถึง 3 ใบ สำหรับช่องเสียบเปิดระบบไฟ และการ์ดสำหรับประตู ส่วนตัวเราชอบนะแบบนี้ คือเวลาเราออกไปข้างนอกแป๊ปนึงกลับมาก็อยากเจอแอร์เย็นๆ ไว้เลยไม่ต้องรอเสียบให้ระบบทำงานใหม่ ซึ่งก็จะเปลืองไฟไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะคะ สำหรับระบบนี้ อิอิ
ห้องพักของเรา อยู่ชั้น 3 เป็นห้องหัวมุมบนตึกที่จะหันหน้าออกไปทางทะเลค่ะ แบบห้องพักที่เราได้เข้าพัก คือ
Family Suite
เปิดประตูเข้ามาแล้ววววว เจอมุมโต๊ะทานอาหาร มุมห้องครัวจะมีตู้เย็นขนาดใหญ่ และเตาไมโครเวฟให้อุ่นอาหารได้ด้วยนะคะ
สะดวกสำหรับครอบครัวเป็นอย่างมาก
มุมนั่งเล่นติดระเบียง ทีวีขนาด 29 นิ้ว พร้อมเคเบิ้ลช่องสัญญาณต่างๆ ให้เลือกดู ถ้าพูดถึงสิ่งอำนวยความสะดวกปัจจัยพื้นฐาน รีสอร์ทแห่งนี้จะมีให้ครบถ้วนนะค ะ แต่ขาดอยู่เรื่องเดียวเท่านันคือ WiFi สัญญาณ WiFi ที่รีสอร์ทนี้ยังไม่ฟรีในทันทีค่ะ เรื่องนี้เป็นบริการใหม่ที่เราอยากมาบอกต่อสำหรับคนที่เข้ามาหาข้อมูลรีวิวของราวินทราฯ นะคะ เพียงแค่โชว์เช็คอินใน Facebook โลเคชั่นที่ ราวินทราฯ ให้พนักงานดู ก็สามารถรับรหัส WiFi ฟรีกันได้เลยค่าา
ส่วนสัญญาณ WiFi ภายในรีสอร์ทจะแรงทั่วทุกจุดหรือไม่ ตรงนี้เราไม่ได้ทดสอบการใช้งาน จึงไม่สามารถบอกได้นะคะ
ภาย ในห้องนอน โทนสีส้ม กับเตียงคิงส์ไซด์ขนาดใหญ่ เอกลักษณ์ห้องพักของราวินทราฯ ที่นี่ก็คือ ภายในห้องจะกว้างขวาง และตกแต่งสไตล์ไทยๆ เฟอร์นิเจอร์ไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น แนวนี้เป็นสไตล์ผสมผสานที่ชาวต่างชาติชอบค่ะ
ห้องน้ำแยกโซนแห้งโซนเปียก และมีมุมแบบเซ็กซี่ๆ ด้วยน้าาา แต่หากต้องการความเป็นส่วนตัวก็ปิดประตูมิดชิดก็ได้ค่า แต่เราน่ะชอบ ที่ว่าชอบนี่คือ ชอบปิดประตูด้วยไง 555
ก่อนนอนคืนแรก เราจัดการเปิดน้ำอุ่นแช่ตัวในอ่างค่ะ ไม่รู้เป็นไง ถ้าไปเจอที่พักไหน ๆ มีอ่างด้วยเราจะไม่พลาดนะเออ
เหลือบมองเห็นกลีบกุหลาบลอยอยุู่ในชามแก้ว เราไม่แน่ใจ หรือไม่รู้หรอกนะคะว่าเอาไว้ตกแต่งในห้องน้ำ หรือเอาไว้ให้เราลอยอ่าง
เพราะฉะนั้นในภาพ เราจึงเอามาลอยในอ่างด้วยซะเลย 555 แต่ก็ได้ฟองมาเท่านี้แหละค่ะ เพราะเป็น bath cream ไม่ใช่ bubble bath
รุ่งเช้า เราเปิดระเบียงออกมาเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกห้องเห็นต้นไม้ ดอกไม้สีเขียวๆ ริมระเบียงที่กว้างมากๆ
ห้อง Family Suite มีจุดเด่นอีกอย่างคือ ระเบียงห้องพักจะกว้างมากกว่าห้องแบบอื่นๆ นะคะ และเป็นระเบียงสองฝั่งที่หันหน้าเข้าสระว่ายน้ำ และอีกฝั่งหนึ่งจะหันหน้าหาทะเล
หากมองจากบนเตียงจะเห็นแนวระเบียงพร้อมกันทั้งสองฝั่ง
อ๊ะ..มานั่งชิลๆ มองทะเลยามเข้ากันหน่อยค่าาาาา กดรีโมทปุ๊ป ทำมิวสิคเองซะเยยนี่
ลงมาเฉิดฉายสำรวจภายในราวินทราฯ รีสอร์ทชื่องามกันดีกว่านะคะ หลังจากพักผ่อนกันไป 1 คืนล่ะ และก็มาถึงกลางคืนไม่ได้เห็นอะไรมากมาย พอลงมาเจอสระว่ายน้ำกว้างๆ สีฟ้าในตอนเช้าๆนี่จะสดชื่นมากกกกก
ยิ่งได้เห็นดอกไม้ต่างๆ ที่อยู่ภายในสวนหย่อมภายในรีสอร์ทอีกหลายจุดด้วยก็จะชอบเป็นพิเศษ
เดินมาต่ออีกนิ๊ดดดดด จะเจอสระว่ายน้ำที่อยู่โซนหน้าและติดชายหาด สระว่ายน้ำสระนี้แหละคะ สวยที่สุดของราวินทราฯ ในความคิดส่วนตัวของเรานะคะ อิอิ
มีดีไซน์ความเก๋ ที่ออกแบบจัดเรียงลายกระเบื้องสระว่ายน้ำให้เป็นลวดลายสวยงาม ไม่ได้แค่สวยอย่างเดียวแต่หมายถึงใช้งานได้จริงอีกด้วยค่ะ
มองไป มองไป พร้อมรอยยิ้มบางๆ กับมุมตรงหน้า ^^
ชายหาดหน้าราวินทราฯ จะมองเห็นทะเลที่เป็นแนวโค้งตามชายหาดของพัทยาได้อย่างชัดเจน
ส่วนตึกไหนเป็นตึกไหนบ้าง อย่าถามเรานะคะ เราไม่รู้ด้วยหรอก 555
หนุ่มน้อยคนนี้เค้ามาเล่นน้ำกันแต่เช้าเลยนะเออ เค้าว่ากันว่า มาพักผ่อนสถานที่แบบนี้ต้องตื่นเช้าๆ ค่ะ เพื่อให้ได้กำไรมากที่สุด ว่ากันไว้แบบนั้นน่ะ เนอะ
ไป เดินเล่นหน่อยเดียว ท้องร้องแล้วค่าาาา พากันเดินมาทานอาหารเช้ากัน
ห้องอาหารเช้าที่ราวินทราฯ เป็นแบบบุฟเฟต์ค่ะ ซึ่งเช้าวันเสาร์ และวันอาทิตย์ที่เราเข้าพักคนจะเยอะเป็นพิเศษ ได้เห็นจำนวนคนจริงๆ ก็จะมารวมกันที่ห้องอาหารนี่แหละค่ะ นักท่องเที่ยว ต่างชาติ ชาติไหนเป็นชาติไหนบ้าง เสียงคุยกันหลายภาษาเต็มไปหมด อิอิ วันที่เราไปจะเห็นว่ามีนักท่องเที่ยวชาวจีน และญี่ปุ่นจะเยอะเป็นพิเศษนะคะ
จากการสำรวจไลน์บุฟเฟต์อาหารเช้าของราวินทราฯ
เราว่าที่นี่ อาหารบุฟเฟต์มาตรฐานทั่วไปนะคะ มีเติมให้ตลอดในบางรายการ อาหารหลากหลายที่นักท่องเที่ยวหลายเชื้อชาติสามารถทานได้โดยที่ไม่ต้องคิดถึงบ้านเกิด อิอิ
ห้องอาหารเช้าเปิดบริการ 07-00- 10.30 น.ค่ะ
แต่ถ้าใครมาพักเราแนะนำให้มาเข้าๆ เลยล่ะกัน ความอลังการของไลน์อาหารเช้า ก็อยุูช่วงเช้าๆ และการจัดเรียงไว้อย่างน่าทานนี่แหละค่า
ปล.คนเยอะไปนะคะ เราไม่สะดวกเก็บภาพอาหาเช้ามาให้ชมได้มากนัก แต่พอมาเห็นภาพที่เก็บได้มานิดหน่อย
กลายเป็นเราเน้นหนักเรื่องเบเกอรี่ หรือขนมหวานหรอกเหรอเนี่ย 555
ก็แบบเราหน้าหวาน เอ้ย เราชอบหวานๆ เป็นพิเศษนะนี่
เมื่ออิ่มแล้ว เรามา Relax กันหน่อยดีกว่วา
เมื่อมาทะเลทั้งที เราควรได้สัมผัสถึงทะเลอย่างแท้จริงใช่ไหมคะ ทูพีชกันบ้างนะ หมายถึงคนอื่นค่ะ แต่ตัวเอง ก็ป่าวเล้ยยย เราน่ะได้แค่นี้จริงจิ้งงง หลังๆ หุ่นสวยขึ้นกว่าเดิม ทูพีชเราจึงถูกเมิน 555
ขอเก็บภาพบรรยากาศทูพีชของสาวๆ บริเวณริมทะเลพัทยามาฝากกันหน่อยค่าาา
แสงแดด หาดทราย และสายลม
พร้อมกับความรู้สึกที่จะรู้สึกซิลล์เมื่อได้สัมผัส
เมื่อ มีโอกาสเข้ามาพักที่นี่แล้ว ขอเข้าไปเก็บข้อมูลห้องพักแบบต่างๆ มาฝากเพื่อนๆ กันหน่อยนะคะ บรรยากาศห้องพักในช่วงภาคกลางวันค่าาาา
ห้องนี้ยังคงเป็น Family Suite ค่ะ เหมือนห้องที่เราพัก แต่ต่างกันตรงห้องเราอยู่หัวมุมซึ่งได้ทำเลระเบียงที่กว้างกว่า ส่วนรูปแบบอื่นๆ จะเหมือน ๆ กันค่ะ
ที่นี่มีการแบ่งโซนห้องพักออกเป็นสัดส่วนเพื่อให้สะดวกในการใช้งาน
เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นทางรีสอร์ทเป็นไม้สีเข้ม ที่จะให้ความรู้สึกอบอุ่นและแข็งแรง
พากันเปิดปิดไฟกันจนงงเลยค่ะ เพราะติดตั้งไฟในห้องไว้หลายจุดมาก 555 เรางง ไม่รู้จะเปิดไฟไหนเป็นไฟไหนดี อิอิ
แว๊ปเข้ามาอีกห้องหนึ่งสีเขียวสดใสๆ สีโปรดของใครหลายคน
Deluxe
ห้องนี้มีระเบียงหันหน้าเข้าหาสระว่ายน้ำทุกห้อง ยังคงคอนเซปต์ออกแบบ
และตกแต่งห้องพักสไตล์ไทยๆ เปลี่ยนจากโทนสีส้มมาเป็นสีเขียว
ห้องพัก Type นี้อยู่ตั้งแต่ชั้นสองขึ้นไปค่ะ
ห้องน้ำเหมือนๆ กันนะคะ ที่จะมีอ่างอาบน้ำและหน้าต่างที่ผนังเผยความเซ็กซี่ภายใน และแยกโซนแห้งโซนเปียกอย่างชัดเจน
เก๋ไก๋ ด้วยการพับผ้าเช็ดตัวเป็นรูปช้างน้อย
มองแล้วเรียกรอยยิ้มจากเราได้ด้วยนะนั่น อิอิ แปร้นนน
Pool Villa
มาดูห้องพัก แบบสุดท้ายที่เราได้แวะเข้ามาเยือนกันบ้างค่ะ
เป็นห้องพักที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงที่สุดภายในราวินทราฯ
มีสร่ะว่ายน้ำส่วนตัวที่กว้างมากในบริเวณห้องพักด้วย มีรั้วรอบขอบชิด
ที่จะให้ความเป็นส่วนตัวสูงมากที่สุด สามารถเดินออกมาจากห้องพักเพียง 2 ก้าวก็ลงสระได้เลยค่าาา
เปิดประตูเข้ามาฝั่งซ้าย เจอห้องนั่งเล่นก่อนเลยค่ะ ซึ่งประตูตรงหน้าสระว่ายน้ำจะเปิดถึงห้องนอนพอดิบพอดี
ตกแต่งแบบคลาสสิคผสมความเป็นไทยแถมยังมีโถขนมวางให้ให้ด้วย จริงๆ ก็มีให้ทุกห้องนะคะ รวมทั้งห้องที่เราพักด้วยเช่นกัน เผื่อเหงาปาก เอ้ยหิวๆ เวลาไหนก็หยิบมาชิมได้เลย ฟรีค่าาาา
มีช้างอีกแล้วนะคะ คราวนี้เป็นช้างสีชมพู
หวานๆ ถูกใจสาวหวานเช่นเราเลยแหละ อิอิ
แปร้นนนน
และก็อย่างที่บอกค่ะว่า เปิดปิดไฟในห้องจนงง เพราะมีหลายจุด พอมาดูภาพถ่าย อ้าว ลืมเปิดไฟตรงห้องน้ำ และหน้ากระจก มืดเลย 555
จริงๆ มีห้องพักอีก Type หนึ่งนะคะที่เราไม่ได้เก็บภาพมานั่นคือ Superior ค่ะ
ซึ่งจะอยู่ชั้นล่างสุดเปิดระเบียงออกไปเจอสวนและสระว่ายน้ำได้เลย
รูปแบบห้องพักเหมือนห้อง Deluxe ค่ะ เพียงแต่ห้องพักจะเป็นโทนสีส้มค่ะ
แบกกล้องนานหรือเดินเยอะชักเมื่อย เลยอยากนวด หรือจะหาเรื่องมานวดก็ไม่ว่ากันนะ อิอิ
ยังมีบริการหนึ่งของ วารินทรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่นี่ ที่ๆ เราจะมาเปิดประสบการณ์ของการได้มาใช้บริการนวด สปา จากประสบการณ์จริงของเราเองค่ะ
ซึ่งห้องสปามีความสงบ และเงียบเหมาะกับการผ่อนคลายเป็นที่สุด
เดินเข้ามาร้อนๆ ได้ผ้าเย็นและน้ำกระเจี๊ยบหอมเย็นชื่นใจในบัลดล
ภายในห้องนวดและสปา มีหลายห้องหลายโซนที่ให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้ใช้บริการ เข้ามาแล้วจะหอมกลิ่นเครื่องหอม ทำเอาเคลิ้มๆ กันเลยทีเดียวค่ะ
สิ่งสำคัญที่เราประทับใจเบื้องต้นของสปาที่นี่ก็คือ พนักงานจะพูดคุย เทคแคร์ดูแลดีมาก ทั้งๆ ที่เราเองช่างถาม ถามแล้วถามอีก พนักงานก็ไม่ได้แสดงสีหน้าหงุดหงิดใส่อะไรเลยนะคะ มีแต่เรานีแหละยังหงุดหงิดตัวเองไม่หาย 555 และนั่นเป็นก้าวแรกที่ทำให้เราอยากลิ้มลอง บริการการการทำสปาจากที่นี่บ้าง!!
กับก้าวแรก ของความรู้สึกที่ แสนผ่อนคลาย
คราว นี้เราได้มาแช่อ่างจากุชชี่ที่มีฟองนุุ่มๆ ของ bubble bath อย่างสมใจที่ห้องสปาของ ราวินทราฯ
อบอุ่น สบาย และผ่อนคลาย เป็นที่สุด
พร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ ตลอดการให้บริการ
จากนั้นก็เป็นขั้นตอนการนวดประคบจากสมุนไพรไทยจากพนักงานหญิงมืออาชีพ ทีทำให้เราเคลิ้มและหลับไปตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ ในห้องสปาแห่งนี้
พอตื่นมาอีกทีได้เวลาอาหารแล้วค่ะ 555 จำได้วาเวลานั้น ราวๆ บ่าย 3 เราเพิ่งออกมาทานข้าว
Reva
อากาศร้อนๆ ขอเครื่องดื่มเย็นๆ ล่ะกันค่ะ สำหรับเรา สั่งนี่เลย น้ำแตงโมปั่น เย็นชื่นใจเป็นที่ซู๊ดดดดด
บาร์ บี คิว มาเรียกน้ำย่อยก่อนเลย หน้าตาน่าทานได้อีก
ยำทะเลจานนี้สีสันสวยงามถูกใจเรามากเช่นกันค่ะ รสไม่จัดมากมายกลางๆ นะคะ แต่พอยกมาวางตรงหน้า หมดในพริบตาเดียว
กระซิบบอกว่า อาหารตระกูลประเภทยำๆ เป็นเมนูโปรดของเราเลยล่ะค่าาา อิอิ
กระซิบอีกหน่อยว่าตอนพิมพ์มาถึงบรรทัดนี้ในเวลาใกล้เที่ยง ทำเอาเราหิวเมนูนี้อีกแล้วววววว
เมนู ต่อมาค่าาาา มัสมั่นแกะ และ Three Milk Cake เนื้อครีมเค้กจะนุ่มมากกกกกกก
ความหวานนุ่มยังไม่เพียงพอเมื่อเราได้มาเจอกับเมนู
Chocolate Truffle ที่จะทำเอาเราหนังท้องตึงในทันที อิอิ
เมื่อหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อนตามระเบียบวัยกำลังกินกำลังนอนค่ะ 555
ขอตัวไปงีบต่อในห้องพักแอร์ เย็นๆ ดีกว่า กะเวลาว่า สัก 5 โมงเย็นเราจะออกมาเดินดูพระอาทิตย์ตกริมทะเลค่ะ
แต่งีบไปงีบมา นอนเลยเวลาไปอีก โอ้วววว พระอาทิตย์ของช้านนน จมทะเลไปแล้ว
เมื่อๆ ไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตกริมทะเล ก็ได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่ผ่านไปผ่านมาบนชายหาดก็ยังดีเนอะ
จริงๆ มุมนี้ ชายหาดของราวินทราฯ จะมีมุมที่ชมพระอาทิตย์ตกได้สวยที่สุดนะคะ เราเคยมาทานอาหารร้านใกล้ๆในบริเวณเดียวกัน เห็น ดวงกลมโตสีแดงๆ ค่อยๆ เคลื่อนลับตาไป อย่างสวยงามที่สุด ใครมาพักที่นี่ อย่านอนเพลินเหมือนเรานะคะ แล้วจะหาว่าคนสวยไม่เตือนนะเออ อิอิ
บรรยากาศยามค่ำคืนของสระว่ายน้ำอีกครั้ง
เพราะเราไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสกลับมาอีกหรือไม่ เพราะเราไม่รู้ว่าวันเวลาจะเป็นเช่นไร
เมื่อเราได้มีโอกาสอยู่ตรงนี้ ที่นี่ เราจึงขอดื่มด่ำกับบรรยากาศเหล่านี้ให้จนพอใจ
Dinner คืนนี้เรามีเพื่อนสาวมานั่งเพิ่มด้วยอีกคนค่ะ จึงเป็นคืนที่แสนพิเศษ ที่เรากับเพื่อนไม่ได้เจอกันนานมากกกก ขนาดเรามาพัทยาออกบ่อยแต่เวลาว่างไม่เคยจะตรงกันเลย ณ เวลานี้ ณ ราวินทราฯ ที่นี่ ทำให้เราและเพื่อนสาวได้เม้าท์มอยกันอย่างมันส์
ประเดิมด้วย Cocktails มาการิต้า แก้วนี้ของเพื่อนนะ เพราะเราดื่มไม่เป็น 555 เมนูที่มีบนโต๊ะและหลายรายการที่เราสั่งเพิ่มแต่ก็ไม่ได้เก็บภาพไว้ทั้งหมดนะคะ ดังในภาพจะมี Caesar Salad / Seafood cream soup รสชาติจะออกไปทางอินเตอร์ๆ มากไปหน่อยนะคะ
Grilled Snow fish with dice vegetable, sauteed potato and white-red sauce
เรียกชื่อยากจังเราไม่ค่อยจำด้วยสิ เรียกง่ายๆ ว่า ปลาหิมะย่างพร้อมผักลูกเต๋ามันฝรั่งทอด ซอสแดงดีกว่านะคะ
(เอิ่มมมม นี่เรอะเรียกง่ายแล้วของเธออ่ะ)
มาปิดท้ายด้วยเมนูที่ได้ใจเรามากที่ซู๊ดดดของคนที่ชอบทานหวานๆมันๆ Yoghurt cranberry cheese cake (โยเกิร์ต ชีสเค้ก เครนเบอรี่)
ภายใต้ขนมปังกรอบราดด้วยโยเกิร์ต มาเจอเมนูนี้เข้า ทำเอาแทบจะคลาน ขึ้นห้องกันเลยทีเดียว
กลับมาค่อยมาสำรวจน้ำหนักตัวหน่อยล่ะว่า ขึ้นถึง 2 ขีดมั้ย อิอิ และบทสรุปจากเราหลังการเข้าพักที่
ราวินทรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา แห่งนี้
ที่เราจะมีคอมเมนต์เพิ่มให้คงเป็นเรื่องใหม่ทีอาจไม่เหมือนใคร นั่นคือ การบริการค่ะ
ตลอดเวลาที่เราได้เข้าพักอยู่ในรีสอร์ทแห่งนี้ พนักงานที่เราได้พูดคุยด้วย พนักงานที่เราได้ติดต่อตั้งเต่เช็คอิน ยันเช็คเอ้าท์ ทุกคนจะมีสีหน้ายิ้มแย้ม เป็นมิตร เทคแคร์ ช่วยเหลือแนะนำ ทำให้รู้เลยว่าได้ผ่านการฝึกและอบรมมาอย่างดี
การันตีด้วยใบประกาศจากหลายเวปเรื่องการบริการของราวินทราฯ นั้นทำให้เรายิ่งมั่นใจ ว่าเราไม่ได้พูดเกินเลยจริงๆ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามชมค่ะ
RinSa YoyoLive
Ps. เพิ่งรู้มาว่าตอนนี้มีโปรด้วยค่าาาาา จากราวินทราฯ
พักราวินทรา เที่ยวฟรี ตลอดเดือนเมษายน
พิเศษสำหรับแฟนเพจ จองห้องพักโดยตรงกับราวินทรา รับบัตรเข้าชม Pattaya Dolphin World หรือ Love Art Park ห้องละ 1 ใบ สำหรับ 2 ท่าน
สำหรับลูกค้าที่เข้าพักวันที่ 1-30 เมษายนเท่านั้น ยกเว้นวันที่ 11-15 เมษายนนะคะ
สามารถสำรองห้องพักได้ 3 ช่องทาง 1. ทาง //www.ravindraresort.com , 2 ทาง inbox เพจ //www.facebook.com/ravindraresort, 3 ทางโทรศัพท์ 038 235 777, 0982819493, 0814461642
โรงแรมใหญ่มากๆนะค่ะ..
อยู่ใกล้มิโมซ่านี่เอง..
สระว่ายน้ำก็ใหญ่ดีค่ะ
มีความสุขมากๆนะค่ะ
ตอนนี้คงพาน้องมังกรเที่ยวกรุง..