ปะการังงาม น้ำทะเลใส หาดทรายขาว มะพร้าวเยอะ สโลแกนของเกาะสมุย จ. สุราษฏร์ธานี เกาะสวาทหาดสวรรค์ ที่นักท่องเที่ยวหลายคนใฝ่ฝันจะไปเที่ยวกัน รวมทั้งเราด้วย แต่ก็ยังคิดหนัก หากจะไปเที่ยวทะเลใต้แต่ละที ค่าใช้จ่ายตัองสูงแน่ๆ แต่แล้วเมื่อโอกาสงามๆ เข้ามาหาตรงหน้า เราต้องคว้าเอาไว้เชยชม กับประสบการณ์ท่องเที่ยว บนเกาะสมุยของเราในครั้งแรก 2 คืน 3 วัน เราได้ไปเที่ยวจุดไหนของเกาะสมุยมาบ้าง วันนี้เราพร้อมจะเผยแพร่ให้เพื่อนๆ ได้รู้จักสมุยกันมากขึ้นแล้วนะคะ ร่วมเดินทางไปกับเรากันได้เล้ย ... เริ่มจากเที่ยวบินโคตรเช้าสุดๆ รอบ 6 โมงเช้าค่ะทำให้เราตื่นตั้งแต่ตี 4 และต้องมาเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิก่อน ตี 5 เพื่อบินไปลงที่สนามบินนานาชาติ เกาะสมุย เที่ยวบินนี้เราบินไปกับ บางกอกแอร์เวย์ค่ะ เป็นการบินตรงลงเกาะเลย เพียงแค่ชั่วโมงเดียว เราก็มาถึงเกาะเป็นที่เรียบร้อย พูดถึงสนามบินเกาะสมุย ที่นี่เป็นสนามบินเอกชนของ บางกอกแอร์เวยโดยตรงเลยนะคะ ที่ผูกขาดกับสนามบินแห่งนี้ ทำให้ค่าโดยสารค่อนข้างแพงพอๆ กับบินไปสิงค์โปร หรือมาเลย์เลยก็ว่าได้ ค่าโดยสารเราในช่วงวีคสุดท้ายของเดือนกรกฏาคม ทั้งไปและกลับ ตกอยู่คนละ 8610 บาทค่ะ มาถึงแล้ววววว อันดับต่อไปยานพาหนะที่เราจำเป็นใช้ในการขับเคลื่อนไปเที่ยวรอบๆ เกาะสมุย แห่งนี้ รถเช่า เราเลือกรถเช่าของ ไทยเร้นท์ อะคาร์ ที่เราคุ้นหูกับสโลแกน ออกมาเที่ยว ออกมาเช่า กับไทยเร้นท์ อะคาร์ เลือกรถที่ตรงใจเรากันได้เลยนะคะ ซึ่งรถเช่า ไทยเร้นท์ อะคาร์ จะมีสาขาในสนามบินทั่วทุกพื้นที่ เป็นเครือข่ายใหญ่ เปิดรับจองผ่านเวปไซด์ www.thairentacar.com ตารางการเปรียบเทียบราคาที่แสนสะดวก ยื่นใบจองให้พนักงานพร้อมด้วยใบขับขี่ยืนยันตัวตน ก่อนที่พนักงานจะพาไปยังรถที่เลือกไว้ เราเลือกรถคันเล็กๆ ค่ะ เพราะมาแค่ 2 คน ทำให้เราได้รถมิราจ เกียร์ออโต้ พอเห็นรถแล้วก็จะยิ้มแป้นเลยล่ะ เพราะเหมือนรถของเรามาก ขับทั่วทุกถนนบนเกาะสมุยก็รู้สึกว่า ขับรถตัวเองเที่ยวซะงั้น อิอิ
ยิ่งออกมาเช้าเท่าไหร่ ทำให้เรายิ่งมีเวลาเที่ยวมากเท่านั้น และก็เป็นจริงแบบนั้นด้วยนะคะ เมื่อพร้อมแล้ว ไปกันเลยมั้ย มองเกจน้ำมันเต็มถัง เราพาไปเที่ยวกัน เกาะสมุย ทะเล ทะเล ทะเลหน้าฝน โย่วววววว
ท่าเรือพระใหญ่ (Big Buddha Pier) เป็นท่าเรือที่อยู่ใกล้ๆ กับวัดพระใหญ่ เกาะฟานค่ะ สำหรับให้บริการนักท่องเที่ยวนั่งเรือข้ามไปยังเกาะพะงัน โดยจะจอดที่หาดริ้น บรรยากาศทั่วไปของท่าเรือพระใหญ่ ตอนเช้าๆที่เราไปถึง มีความสงบนักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านมากนัก เพราะเป็นท่าเรือขนาดเล็ก แต่มีวิวและมุมถ่ายภาพสวยงามอีกแห่งหนึ่งของเกาะสมุย มุมแบบนี้แหละ เราชอบบบ ลมเย็นๆดีด้วยไม่ร้อน คงเพราะว่าเราได้เยือนช่วงเช้าด้วยกระมังเนาะ ^^
วัดพระใหญ่ เกาะฟาน (Big Buddha Temple, known locally as Wat Phra yai Koh Phan) เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ขึ้นชื่อของเกาะสมุยค่ะ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ประดับด้วยกระเบื้องสีเหลืองทองทั้งองค์ เป็นที่สักการะของพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวทั่วไป จากบริเวณประดิษฐานด้านบนสามารถมองเห็นเกาะพะงัน ได้อย่างชัดเจน รวมถึงทัศนียภาพที่สวยงามของหาดบางรักและหาดบ่อผุด มาถึงที่นี่ก็ยัง 8 โมงกว่าๆ อยู่เล้ย อากาศกำลังดี คนไม่เยอะไม่มาก เรียกได้ว่า ทั้งวัดแทบจะโล่งเลยอ่ะนะคะ เช้าๆ แบบนั้น ยิ่งรอบๆ วัดติดทะเลด้วยล่ะก็ มองกันเพลินๆ มาถึงวัดเราไปไหว้พระกันก่อนเลยค่ะ องค์พระใหญ่สีทองเปล่งประกาย ส่วนของที่ระลึกในวัดนี่จะแพงนิดนึงอ่ะนะคะ พอถามราคา เราไม่ปลื้มก็เดินออกมาล่ะ 555เจดีย์วัดเขาหัวจุก (Wat Khao Hua Juk) เจดีย์วัดเขาหัวจุก หรือเจดีย์ศรีสุคตคีรี เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเจดีย์ บนเขาหัวจุกเป็นจุดชมวิวอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจของเกาะสมุยค่ะ เพราะสามารถมองเห็นวิวหาดเฉวง ชุมชนคนสมุย พรุเฉวง และสนามบินของเกาะสมุย สามารถชมเครื่องบินขึ้นลงได้อย่างชัดเจน วัดนี้ทางขึ้นลง ค่อนข้างชันนะคะ จอดรถแล้วต้องเดินขึ้นบันไดอีกหลายขั้นเลยทีเดียว ขึ้นมาก็เห็นวิวทิวทัศน์ได้รอบๆ โดยเฉพาะสนามบินเกาะสมุย ซึ่งเป็นของ บางกอกแอร์เวย์ เราจะเห็นเครื่องบินขึ้นลงได้อย่างขัดเจน ข้างบนอากาศเย็นสบาย เราก็นั่งเล่นเพลินๆ ที่นี่นานเหมือนกัน ที่นานไม่ใช่เพราะอะไรหรอก ปวดเมื่อยขาต่างหากล่ะ 555 Koh-Samui หาดเฉวง (Chaweng Beach) ชายหาดที่ยาวที่สุด (ราว 6 กม.) และสวยที่สุดของเกาะสมุย ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันออกของเกาะ นักท่องเที่ยวชอบมาเล่นน้ำทะเลกันที่นี่เพราะหาดทรายขาวละเอียดมากๆ สัมผัสได้เลยว่า ละเอียดและทรายจะหนามากกว่าที่เคยเห็นมา ทางหาดลาดชันต่ำ น้ำทะเลใส และมีระดับน้ำไม่ลึกมาก ถัดไปทางทิศใต้ของหาด มีหาดเฉวงน้อย ซึ่งจัดเป็นหาดทรายที่สวยงามไม่แพ้กัน ใกล้ชายหาดเฉวงจะมีที่พัก ร้านอาหาร และสถานบันเทิงสำหรับให้บริการนักท่องเที่ยวตามแนวชายหาดเป็นจำนวนมาก เรียกว่า หาดเฉวงตรงนี้ นักท่องเที่ยวจะเยอะ กว่าหาดอื่นๆ นะคะ
จุดชมวิวลาดเกาะ (Lad Koh Viewpoint) ตั้งอยู่บนเนินเขาอยู่ระหว่างหาดเฉวงน้อยและหาดละไม ถือเป็น "สุดยอดจุดชมวิว" ของสมุย เพราะจากจุดนี้ เราสามารถมองเห็นทะเลกว้างสีครามตัดกับขอบฟ้าโดยมีหาดเฉวงประดับอยู่ทางซ้ายได้จากมุมสูงแบบพาโนรามา 360 องศา นอกจากนี้ยังมีทางเดินให้ลงไปสัมผัสชายฝั่งทะเลที่อยู่เบื้องล่างได้ และมีศาลาด้านบนจุดชมวิวให้พักผ่อนหย่อนใจ หากมองจากข้างบนจะเห็นจุดชมวิวนี้อยู่บนหน้าผาสูง จุดชมวิวนี้จะเป็น 1 ใน 2 จุดที่นักท่องเที่ยวแวะถ่ายรูปกันมากที่สุดด้วยทัศนียภาพที่สวยและโรแมนติกโดยเฉพาะยามพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน หินตาหินยาย (Hin Ta and Hin Yai Rocks) หินตา-หินยาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยม จนสร้างชื่อเสียงให้แก่เกาะสมุยอย่างมาก ด้วยรูปร่างของหินที่แปลกประหลาดดูคล้ายกับอวัยวะเพศของชายและหญิง จากรูปทรงของหินนี้จึงทำให้เกิดตำนานเล่าถึงความเป็นมาว่า ครั้งหนึ่งมีตายายคู่หนึ่งเรือล่มและจมลงในอ่าว ร่างของทั้งสองได้เกยฝั่งและทำให้เกิดหินรูปร่างประหลาด หินตา หินยาย อยู่บริเวณปลายหาดละไมด้านทิศใต้ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเกาะ พื่นที่ตรงนี้หากขับรถเข้ามาใกล้ๆ รยนต์จะเสียค่าจอดรถคันละ 30 บาท และรถมอไซด์ ค่าจอดรถ 10 บาทค่ะ ยังมีกาละแม ที่หินตา หินยาย ที่จะเป็นของฝาก เค้าว่าขึ้นชื่อมากกกของเกาะสมุย มีขายหลายเจ้าแค่ที่นี่เท่านั้นนะคะ หากจะซื้อของฝาก ที่เป็นกาละแมต้องมาซื้อที่หินตา-หินยายที่เดียว เพราะหากไม่ซื้อคิดว่าจะซื้อที่อื่นๆ ก็คงมีขาย นั่นคือเป็นการคิดผิดแน่ๆ เพราะเราก็เป็นมา คิดแบบนั้นเลย 555
หาดบ่อผุด (Bo Phut Beach) หาดบ่อผุด ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของเกาะสมุย มีชายหาดที่ทอดยาวไปตามแนวโค้งของอ่าว ซึ่งจุดเด่นอย่างหนึ่งของหาดบ่อผุดคือ ธรรมชาติยังสวยงามและความเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน เนื่องด้วยพื้นที่แถบนี้เคยเป็นชุมชนและแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวประมง ดั้งเดิมบนเกาะสมุย จึงนับเป็นย่านเก่าแก่ที่ยังคงเสน่ห์ความน่าสนใจของตัวเองไว้ได้อย่างดี แถวนี้จะมีโรงแรม และรีสอร์ทสวยๆ เยอะเหมือนกันค่ะ เพราะใกล้แหล่งบันเทิงยามค่ำคืน กว่าเราจะขับรถมาถึตรงนี้ก็มืดล่ะ เลยได้แต่นั่งชิลๆ ร้านที่เลือกแถวๆนี้ล่ะกัน จิบ เครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมลมเย็นๆ ที่ผ่านไปมา เอ่อ..เหนียวตัวเหมือนกันนะ 555
ถนนคนเดิน ฟิชเชอร์แมน วิลเลจ (Fishermans Village) จุดเดินเที่ยวยามเย็นของหาดบ่อผุด ที่จัดขึ้นทุกวันศุกร์เท่านั้นค่ะ โดยถูกดัดแปลงจากหมู่บ้านชาวประมงให้เป็นย่านร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร ซึ่งมีร้านอาหารทะเลอยู่ละลานตาไปหมด แต่ละร้านจะนำของทะเลสดๆ มาตั้งโชว์กันที่หน้าร้าน เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะอุดหนุน นอกจากนี้ บรรยากาศดินเนอร์ที่นี่ยังโรแมนติกด้วย เพราะร้านอาหารส่วนใหญ่ตั้งอยู่ริมหาด ที่ทำให้สามารถมองเห็นวิวทะเลและชายหาดบ่อผุดได้สุดสายตา
3 วัน 2 คืน เราพักกันที่นี่นะคะ เรเนซองส์ เกาะสมุย รีสอร์ทแอนด์สปา ตั้งอยู่ชายหาดละไม ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกแห่งหนึ่ง ถ้าถามว่า เราประทับใจอะไรในรีสอร์ทแห่งนี้ ขอตอบแบบไม่ลังเลเลยค่ะว่า ประทับใจในด้านการบริการ เอาใจใส่ของพนักงานที่นี่มากๆ เสมอต้นเสมอปลายต่อแขกทุกๆ คน แล้วเราจะมารีวิวรีสอร์ทนี้ให้ชมกันอีกทีค่า
หาดละไม (Lamai Beach) ชายหาดนี้มีความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร ทางตอนเหนือและใต้สุดของหาดมีบรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ หาดทรายสะอาดและน้ำทะเลใสๆ บริเวณตอนกลางของหาดเหมาะแก่การเล่นน้ำพักผ่อนมากกว่าเพราะเป็นแนวโค้งตามชายหาดและมีทิวต้นมะพร้าวที่สวยงาม นับเป็นหาดอันดับสองรองจากหาดเฉวงหากพิจารณาในด้านสีสัน ความคึกคักของนักท่องเที่ยว และความละเอียดของหาดทราย อย่างไรก็ดี หาดละไมมีค่าครองชีพที่ถูกกว่าและโดดเด่นในด้านบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวหรือผ่อนคลายในแบบสงบๆ มากกว่า ร้านอาหารหาดละไม มีหลากหลายแบบค่ะ และราคาต่างกันถ้าเป็นร้านอาหารที่อยู่ภายในรีสอร์ทจะแพงกว่าร้านที่อยู่ตามชายหาด แต่เราก็ไปฝากท้องไว้ที่รีสอร์ทใกล้ๆ กัน พอเห็นราคาแต่ล่ะเมนูก็ โห รสชาติก็ยังไม่ได้ถูกปากถูกคอมากมาย ครั้งนี้เราสั่งเน้นอาหารทะเล แม้กระทั่งกุ้งก็ผัดและต้มยำมาซะแข็งเหลือเกิน >"< จริงๆ ก่อนเดินทางไปได้หาข้อมูลเรื่องร้านอาหารบนเกาะสมุยไว้พอสมควร และก็ได้ติ๊กๆ ชื่อร้านไว้แล้ว แต่พอถึงเวลาหิวจริงๆ กลับหาร้านไม่ถูก จริงๆ ก็มีคนแนะนำร้านอาหารมาหลายคนเหมือนกันนะคะ แต่ส่วนใหญ่เราจะขับรถหลงทางวนไปเวียนมาซะมากกว่าจะหาร้านนั้นๆเจอให้ได้ก็ไม่ไหวแล้วค่า หิวตาลาย >"< วัดราชธรรมาราม หรือวัดศิลางู (Wat Ratchathammaran or Wat Sila Ngu) วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่บริเวณกลางเกาะสมุยและมี โบสถ์แดง ประติมากรรมทางพุทธศาสนาที่สร้างขึ้นด้วยพลังศรัทธาจากชาวพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ โดยใช้ศิลปะแบบศรีวิชัย-กึ่งบายน ศิลปะศรีวิชัยคือศิลปะที่ได้รับอิทธพลมากจากศิลปะอินเดียมัยคุปตะเจริญรุ่งเรืองอยู่แถบภาคใต้ของไทยในยุคอาณาจักรศรีวิชัย ศิลปะบายนคือศิลปะของขอมในยุคท้ายๆ สมัยพระเจ้าชัยวรมัน หรือยุคเขมรเมืองพระนคร (Angkorian Period) และสร้างเสร็จในปี 2550 ด้วยความวิจิตรงดงามของโบสถ์แดง ทำให้เป็นหนึ่งในโปรแกรมท่องเที่ยวที่แนะนำให้ต้องแวะเยี่ยมชม
ตรงนี้น่าจะเป็นวัดจีน หรือสมาคมอะไรสักอย่างบนเกาะสมุยนะคะ เป็นทางผ่าน ที่เราขับรถไปวนรอบๆ แล้วเจอรูปปั้นก็เข้าไปดูหน่อย แต่ไมไ่ด้เข้าข้างใน เพราะยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ว่า ด้านข้างๆ จะมีต้นมะพร้าวกันอยู่หลายจุด นั่นเป็นที่มาทำให้เราเสาะหาไร่มะพร้าวหนาๆ ไปให้เห็นกับตากันดีกว่า ไม่มีทางหาไม่เจอแน่ ต้นมะพร้าวที่เกาะสมุยเพียบบบบ อิอิ หากจะพูดถึงราคามะพร้าวที่นี่ เราถึือว่าแพงเหมือนกันนะคะ ทั้งที่เป็นแหล่งมะพร้าวแท้ๆ ราคาที่เราซื้อได้คือ มะพร้าวน้ำหอม มะพร้าวสดที่ปอกพร้อมขาย ขายลูกล่ะ 30 บาท แต่มะพร้าวเผา จะขายลูกละ 25 บาท เราก็งง ราคานี้เราไม่ได้ซื้อที่รีสอร์ท หรือร้านอาหารตามชายหาดที่ไหนนะคะ แต่เราซื้อที่ร้านขายผลไม้ข้างทางนั่นแหละ ในความคิดเราก็ยังว่าแพงอยู่ดี แต่ที่จะถูกเพราะถูกใจเรามากกว่านั้นคือ ทุเรียนทอด คาดวานำเข้ามาขายจากจังหวัดอื่นในใต้นี่แหละคะ ราคาถุงละ 50 บาทเท่านั้น ซึ่งราคาถุงนั้นๆ เท่ากับที่ระยอง และชลบุรีขายถุงละ 100 เลยแหละ ทีนี้คงรู้นะคะว่า เราจะจัดอะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง อิอิทิวมะพร้าวสวยทั่วทั้งเกาะ (coconut palm plantation) หมู่ต้นมะพร้าวเรียงเป็นทิวแถวบริเวณชายหาด และจะมีมากเป็นพิเศษตามสวนมะพร้าวขนาดใหญ่ที่หาดละไม ต้นมะพร้าวถือเป็นต้นไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของเกาะสมุย การทำสวนมะพร้าวก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพของชาวเกาะที่นี่ เป็นอีกหนึ่งวิถีชีวิตชุมชมที่น่าดูมาศึกษาถึงวิธีการเก็บลูกมะพร้าว และการฝึกลิงขึ้นต้นมะพร้าว ซึ่งปัจุบันหาดูได้ยากแล้ว
สัมผัสวิถีชีวิตชาวเกาะสมุย (Koh Sumui Way of Life) วิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวสมุยมีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย การที่จะท่องเที่ยวให้ลึกซึ้งก็ควรได้เรียนรู้ถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเกาะสมุยด้วยเช่นกัน อาชีพชาวประมง เป็นอาชีพหลักต้นๆ ของชาวเกาะสมุย เป็นหมู่บ้านที่กระจายทั่วเกาะสมุย จะมีกันมากที่บ่อผุด, วัดพระใหญ่ เกาะฟาน, ชุมชนหัวถนนและทางตอนใต้ของหาดละไม วิถีชีวิตที่มีการออกหาปลายามค่ำคืน การลากอวนปลา ตลอดจนการคัดปลาเพื่อส่งจำหน่าย ไปยังพื้นที่ข้างเคียง วิถีชีวิตของชาวเกาะสมุยจะเป็นทั้งหมู่บ้านชาวประมง และการใช้ชีวิตในชุมชนนั้นๆ ที่ทำให้คุณนอกจากจะได้สัมผัสและเรียนรู้การประมงแล้ว ยังได้สัมผัสถึงรอยยิ้มและการต้อนรับของเจ้าของชาวพื้นที่เมื่อคุณได้เข้าไปเยี่ยมเยือน
วัดพระเจดีย์แหลมสอ (Laem Sor Pagoda Temple) แหลมสอเป็นแหลมที่อยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะสมุย แหลมสอตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างอ่าวท้องกรูดทางทิศตะวันตกและอ่าวบางเก่าทางทิศตะวันออก ที่แหลมสอนี้มีเจดีย์ศิลปะสมัยศรีวิชัยสีเหลือทองงดงามภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ตั้งอยู่ริมทะเลมีนามว่า "เจดีย์แหลมสอ" แห่งวัดแหลมสอวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของเกาะสมุยทีเดียว หลวงปู่แดงแห่งวัดแหลมสอมีชื่อเสียงมากในเรื่องคุ้มครองความปลอดภัยในการเดินเรือ ชาวบ้านนิยมและศรัทธากันอย่างยิ่ง เจดีย์รัตนโกสินทร์ (Rattanakosin Pagoda) ถัดจากเจดีย์แหลมสอไปไม่ไกลนัก ขึ้นไปบนเขาบนแหลมสอ จะมีเจดีย์ทรงสวยงามน่าสักการะอีกแห่งหนึ่งชื่อ "เจดีย์รัตนโกสินทร์" แต่เดิมเจดีย์ของวัดแหลมสอตั้งอยู่บนนี้แต่ต้องพังเสียหายหลายคราวจากภัยฟ้าฝ่า ต่อมาเมื่อซ่อมแซมบูรณะเป็นเจดีย์องค์สีขาวใหม่นี้ขึ้นมาและตั้งชื่อว่าเจดีย์รัตนโกสินทร์ก็ได้ย้ายทำเลไปสร้างเจดีย์แหลมสอขึ้งที่ใหม่ด้านล่างชายทะเลองค์สีทองอร่ามที่ชื่อเจดีย์แหลมสอนั่นเอง บริเวณด้านบนนี้นอกจากเจดีย์รัตนโกสิทนทร์แล้วยังมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สวยงามตั้งอยู่ภายในวัดหลายองค์
ท่าเรือหน้าทอน ( Na Thon Pier) เป็นท่าเรือขนาดใหญ่ มีเรือจอดเรียงรายไว้บริการให้กับนักท่องเที่ยวได้เดินทางไปยังหมู่เกาะต่างๆ รวมทั้งมีเรือเฟอร์รี่ขนาดใหญ่ไว้บริการ โดยบริเวณด้านหน้าทางเข้าของท่าเรือหน้าทอนจะเป็นชุมชมตลาด ที่นักท่องเที่ยวและชาวเกาะสมุยนิยมมาเดินเล่นจับจ่ายซื้อหาของรับประทาน โดยเฉพาะอาหารทะเล ไม่ว่าจะเป็นการปิ้ง ทอด ย่าง ตามวิถีชาวเกาะกันที่นี่ รวมทั้งเป็นจุดชมวิวมองพระอาทิตย์ตกอีกแห่งหนึ่งของเกาะสมุยอีกด้วย ส่วนเราแวะมาที่นี่เพราะ ของกินอร่อยค่าาา อิอิ วัดสุวรรณาราม (หรือวัดปลายแหลม) Wat Suwannaram (Wat Plai Laem) อยู่ทางทิศเหนือของเกาะสมุย เป็นวัดที่มีชื่อเสียงสองเรื่องคือ เรื่องของปลานับร้อยตัวหลายพันธุ์ที่มีคนมาปล่อยในทะเลสาปของวัด และสองความสวยงามของตัวโบสถ์ที่สวยที่สุดในเกาะสมุย มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่หรือเจ้าแม่กวนอิม ที่มีจำนวนแขนถึง 18 แขนตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเลสาปของวัด
วัดปลายแหลม เป็นที่ๆ สุดท้ายที่เราได้มาเยือน ก่อนที่แสงจะหมดวัน เสียดายที่ทางวัดไม่ได้เปิดไฟให้ค่ะ อุตสาห์นั่งรอแสงไฟจนมืด 555 เรามีนัดคืนรถที่สนามบินตอน 2 ทุ่ม และต้องบินกลับสนามบินสุวรรณภูมิ ตอน 4 ทุ่ม สุดๆ จริงๆ ทริปนี้ 3 วัน 2 คืน ตะลอนทั่วทั้งเกาะ เรียกว่า เริ่มต้นมาถึงเช้า และกลับดึกๆ อยู่เที่ยวทุกมุมซะให้คุ้มกันไปเล้ย นี่เป็นสถานที่บนเกาะสมุยที่เราได้เดินทางไปเยือนในช่วง วันที่ 1 และวันที่ 3 นะคะ แต่ก็มีบางทีที่ไม่ได้ลงไว้ เพราะเบางที่ไม่ใช่แนวธรรมชาติแต่เป็นแนวสิ่งก่อสร้างมากกว่า ถ้าถามว่า ไปมาครบหมดทุกที่หรือยัง เราว่ายังนะ เหลืออีกเพียบ บางสถานที่เป็นที่โชว์ และด้านเชิงพาณิชย์ต้องเสียค่าเข้าชมด้วย แพงเอาเรื่องเหมือนกันนะคะ 555 ส่วนวันที่ 2 นี่เลย One Day Trip เราซื้อทัวร์ไปกับบริษัททัวร์ล่องเรืองท่องหมูเกาะอ่างทอง ชมความงดงามของท้องทะเล ธรรมชาติล้วนๆ ของถิ่นเกาะใกล้เคียง 1 วันเต็มๆ แล้วเราจะมารีวิวให้ชมกันอีกครั้งจ้าาา ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ RinSa YoyoLive