อ่างเก็บน้ำ อ. แม่สรวย
หลังจาก ที่เกริ่นๆ บล็อกดอย ดอย ค่อย ๆ ขึ้น บัดนี้บล็อกดอยช้างพร้อมออกสู่สายตาแฟน ๆ กันแล้วค่ะ วิ๊ดดดด วิ๊วววว ก่อนอื่น ขอพูดถึงที่ไปที่มากันก่อนว่า ทริปนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ใครคือต้นคิด ไม่ใช่ใครที่ไหน เรานี่เองแหละ 555 เมื่อมีโครงการกลับบ้านนอก ก็ถือโอกาสขึ้นมาพักผ่อน บุกป่าล่าดอยกันเสียหน่อย จากดอยที่คิด ๆ ไว้ก่อนก็คือ ดอยแม่สลอง เพราะเห็นดอกไม้สวยๆ เพียบ อยากไปสัมผัสบ้าง และมีเพื่อนสมัยเรียนเชียงรายมีบ้านอยู่ดอยแม่สลองและ ดอยช้าง เราก็ติดต่อไปทั้งสองที่ เพื่อนที่อยู่ดอยช้างส่งภาพมายวนยั่วตายั่วใจก่อนใคร จึงตัดสินใจได้ทันที่ที่ ดอยช้าง และพร้อมอาสาเป็นไกด์ให้เราด้วย ได้การล่ะ ชวนเพื่อนที่อยู่ดอยแม่สลองมาเที่ยวด้วยกันเลย ดอยช้าง อ้อมกอดแห่งขุนเขา พร้อมแล้วเดินทางไปกับเรากันเลยค่ะ ^^นัดเจอกันที่ "จริณรีสอร์ท " แวะทานเครื่องดื่มเย็น ๆ พร้อมด้วยเมนูที่เพื่อนแนะนำ "พายอะโวคาโ้ด้ " ที่อร่อยสมคำร่ำลือ ส่วนภาพปลากรอบนั้น ไม่ได้ถ่ายมาเพราะพากันชำแหละกันเกือบหมดแล้ว อิอิ ขับรถตามเพื่อนขึ้นดอยไปกัน ณ บ้านดอยช้าง ในขณะที่แวะไปซื้อปุ๋ยให้พ่อบนดอยเสียหน่อย กระบะที่เห็นนั้นบรรจุ กระสอบปุ๋ยเพียบเพราะบ้านเพื่อนคนนี้ ทำไร่กาแฟ อันเป็นอาชีพหลัก ๆ ของชุมชนดอยช้าง เรามาถูกทางแล้ว พาน้องขาวอวบ บุกขึ้นดอย ทางโหด ๆ กันครั้งแรก !! เก็บภาพ บรรยากาศ ริมทางขึ้นดอยช้างมาให้ชมกันก่อนนะคะ เพราะพวกเรามีแวะตามข้างทางเ็ก็บภาพมุมสวยๆ กันตลอด จากที่เพื่อน ๆถามมากันเยอะว่า ทำไมบนดอยเหล่านี้ ถึงไ้ด้โล่งเตียน เนื่องจากว่า พื้นที่ที่เห็นเป็นพื้นที่เกษตรที่สูง ทำการปลูกกาแฟและพืชไร่อื่นเสียส่วนมาก จึงมีการ ขุดล้างถางพง และเผาทำลายเพื่อเอาพื้นที่ จากข่าวใหญ่คึกโครม ม่านหมอกควันไฟ ช่วงต้นปีของเขตภาคเหนือ ภาพเหล่านี้ คงตอบโจทย์กันได้นะคะว่าถูกทำลายไปมากแค่ไหน~ ทางวิบากของน้องขาวอวบ ได้เริ่มขึ้นแล้ว จากมีใครเตือนเราหลายต่อหลายคนว่า อย่าได้ริ เอาเก๋งป้ายแดงคันนี้ขึ้นไปลองถิ่นเขา เราดื้อเอง ว่ามันต้องไปให้ได้สิ หารู้ไม่ ทางข้างหน้า เริ่มลำบากหนักกว่าที่เห็น กว่าจะถึงครึ่งทาง เราจะถอยเลยก็ไม่ได้ ต้องไปให้สุดถึงจุดข้างหน้า ทางขึ้นเนินสูงและ ลาดชัน สารพัดที่เราต้องเจอ ส่วนรถ ยอมรับว่า นึกสงสารแล้วจริง ๆ จากถนนลูกรังขับตะเบ็งขึ้นดอยไปข้ามมา หารู้ไม่ว่า กระสอบปุ๋ยได้กลิ้งตกรถไปด้วยนะ 555+ เรารีบจอดร้องเรียกเพื่อน ติดตามกระสอบปุ่ยที่ตกรถลงไปก่อน เพื่อนก็เอาแต่ขับรถ ยอมรับว่า ปุ๋ยตกตอนไหนไม่รู้เรื่องเลย อิอิกระสอบปุ๋ยสีชมพูบนฝั่งขวาได้หล่นหาย เมื่อจัดการเรื่องกระสอบปุ๋ยตกหล่นเรียบร้อย เราจึงมุ่งหน้าไปยังที่พักที่ได้จองไว้ ณ ดอยช้างฮิลล์ รีสอร์ท ที่ดีที่สุดบนดอยช้างเห็นเขาว่างั้นนะ เพราะรายรอบรีสอร์ท เป็นวิถีชุมชนหมู่บ้านชาวเขา ส่วนเพื่อน ขอจัดการเอาปุ๋ยไปเก็บไว้โกดังที่บ้านเค้าก่อน เดี๋ยวตามมาสมทบกันที่นี่ดอยช้างฮิลล์ รีสอร์ท เราเลือกพักที่ ห้องช้างป่า เป็นห้องพักที่สร้างใหม่อยู่สูงที่สุดของรีสอร์ทนี้ กะไว้ว่าจะได้สัมผัสอากาศกันเต็มที่ low season : 1,000 บาท พร้อมอาหารเช้า (ข้าวต้มทรงเครื่อง,กาแฟร้อน) บรรยากาศ ในรีสอร์ทแห่งนี้แวดล้อมด้วยต้นไม้เขียวชุ่มชื่นเย็นสบายตา แม้จะเป็นห้องพัดลมแต่ขอบอกว่า ไม่ได้เปิดเลย เพราะอากาศหนาวเย็นกว่าอยู่ในห้องแอร์เสียอีกนะ ห้องพักไม่เล็กจนเกินไป พอซุกตัวได้คืนหนึ่ง พร้อมจุดชมวิว ด้านหน้าบ้านพักไว้ทุกหลัง เอาละค่ะ บัดนี้ถึงนิมิตรหมายอันดีแล้วที่เราพร้อมจะออกสัมผัสและชมจุดชมวิว จุดสำคัญ ๆ ของดอยช้างแห่งนี้ ด้วยรถ Vigo 4x4 คันนี้ของเพื่อน หลังจากยอมศิโรราบกับถนนหนทางขามา รีสอร์ท เห็นที พา้น้องขาวอวบไปต่อไม่ได้ ให้เค้าได้พักผ่อนรอที่นี่นะคะ ใครหลายคนก็คงจะบอกเราว่า "ตรูเตือนแล้วไม่เชื่อ " 555+ ปะ ปะ ไปกัน ปีนดอย ปีนดอยช้าง !! ดูสีหน้ารอยยิ้มของน้องมังกรนี่เสียก่อน ว่าเพลินกันแค่ไหน ถ่ายรูปกันสักพักขอขึ้นหลังกระบะเพื่อชมทิวทัศน์เต็มที่ เราก็สบายใจ ไม่ต้องพะวงว่าจะซนตกดอย 555+รอยยิ้มของลูก คือความสุขของเรา ^^ Viewpoint 2
ฟ้าเริ่มมืด ฝนเริ่มมาเยือนพวกเรากันแล้ว ยัง ๆ เพิ่งลงมาชมจุดที่ 2 เองนะ สถานที่แห่งนี้ คือ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูง วาวี มีลานกว้างสุดลูกหูลูกตาและมีดอกไม้หลายพันธุ์ให้เราได้ถ่ายรูปเล่นด้วย แต่พอกลับมาดูกล้อง กลับถ่ายดอกไม้ไม่ได้เรื่อง เลยลงได้แค่ดอกเดียว เพราะ มีลมโกรกพัดมาเล่นด้วย สุดทางที่ดอกไม้จะนิ่งเป็นแบบให้เราได้นะแต่มีสิ่งหนึ่งมาปะทะสายตาเรา นี่ไง เราถ่ายรูปมาให้ดูด้วยนะ มันคือลูกอะไรหว่า หลายสิ่งหลายอย่างเราไม่เคยเห็น อย่างเช่นดอกไม้ ชื่อดอกอะไรบ้างก็ไม่รู้ นี่ก็อีก ลูกอะไรก็ไม่รู้ แปลกดี ถือว่า ถ่ายรูปมาฝาก ๆ กัน ไม่มีข้อมูล อิอิ สายฝนเริ่มลงเม็ด แต่เป้าหมายของพวกเรายังมีกันอีกหลายที่ เราจะหยุดเพียงแค่นี้ไม่ได้ แม้จะขับรถหกเหินวิบากมากแค่ไหน แม้รถจะไหลลงดอยปลุกความตื่นเต้นพวกเรากันกี่ครั้ง เราจะเผชิญทุกที่อย่างตั้งใจ เมื่อเราตั้งใจที่จะมา !!
Viewpoint 3
มองดู เบื้องหนัากันไปชัดๆ สองข้างทางขึ้นมาเป็นไร่กาแฟของชาวเขาที่ปลูกไว้ ตอนแรกเราก็ไม่รู้จัก เลยถามเพื่อนว่าคืออะไร ต้นไม้เตี้ย หน่อย ที่สูงระดับเอว เพราะเป็นช่วงตัดกิ่งของต้นกาแฟ จึงถึงบางอ้อ อ๋อ ๆๆ อิอิ สองข้างทางยังมีต้นนางพญาเสือโคร่ง ที่เพื่อนบอกว่า หากมาฤดูหนาว ดอยทั้งดอยจะสีชมพูบานสะพรั่ง รวมทั้งนักท่องเที่ยวเต็มยอดดอย Viewpoint 4 พุทธอุทยานดอยช้าง พุทธอุทยานเป็นสถานที่นักท่องเที่ยวตรงมา กันมากที่สุด เห็นทีจะเป็น "บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ "
เป็น 1 ใน 9 ของน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่นำไป กระทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาพุทธมังคลาภิเษก เนื่องในวโรกาศที่ในหลวง มีพระชนมายุครบรอบ 60 พรรษา โดยรวมที่เรามาหน้าฝนเช่นนี้มีแต่ทางลื่นๆ ต้นไม้ใบหญ้าต่างๆ มองดูแล้วเย็นตาเย็นใจ ความชุ่มชื้นบวกด้วยธรรมชาติของป่าดงไผ่เขียว เห็นว่าป่าไผ่แห่งนี้เป็นอาหารของเจ้าหลินปิงสวนสัตว์เชียงใหม่ด้วยนะ อิอิViewpoint 5 โย่วววว ฟ้าสวยน๊า ~ ปีนขึ้นมากัน ณ จุดชมวิวสุดท้ายของเราแล้ว ใช่แน่ๆ นี่แหละ ชัดเจนมว๊ากกกก ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ ใช่เลย หลังจากข้ามไปดอยนั่นดอยนี่ ฝนตกปรอย ๆ ตามทาง มาถึงจุดชมวิวสุดท้ายเราที่นี่ ฟ้าสวยมาก ถนนหนทางเมื่อเข้ามาถึงจุดชมวิวที่นี่ ทำดีหน่อยนะคะ แค่ทางขึ้นมาเท่านั้น แต่ทางแคบรถสวนกันไม่ได้นะเออ สองข้างทางเต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลาย ที่เราไม่ได้จอดรถลงไปดู ได้แต่มองซึมซับความรู้สึกแบบเพลินตาเพลินใจ โดยมีน้องมังกรในอ้อมแขนที่หลับไปด้วยความเพลีย อิอิ ปะ ปะ ถ่ายรูปกัน ฟ้าได้ใจอย่างมว๊าก
พระอาทิตย์ สาดส่องแสงลงเบื้องล่าง ซึ่งมองลงไปเป็นหมู่บ้านดอยช้างอยู่เบื้องหน้าเล็กกระตี๊ดเดียว จุดชมวิวแห่งนี้ เต็มไปด้วยการจัดสวนหย่อม
หญ้าเีขียวสวย ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มาชมกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นช่วงพระอาทิตย์ขึ้น หรือพระอาทิตย์ตกดิน แต่เรามาตอนเกือบ 5 โมงเย็นแล้วนะคะเลยได้เห็นแต่ฟ้าใสๆ เบื้องหน้า แค่นี้ก็ถือว่าเป็น "รางวัล " ชิ้นโตให้กับเราแล้วล่ะเนอะ ^^
สูด~ อากาศบริสุทธิ์ที่ผ่านเข้ามาเต็มปอด และหอบความสุขมาเต็มหัวใจในทุกพื้นที่ของดอยช้้าง กันเรียบร้อยแล้ว พวกเราพากันลงดอย เพราะอากาศเริ่มเย็น ถ้ามืดมากกว่านี้เห็นทีคลำทางกลับไม่ไหว และเพื่อนเหมยพาเราไปทานมื้อเย็นกันต่อที่นี่...เนอสรี่ดอยช้าง ที่เป็นทั้งร้านอาหาร กาแฟสดและเป็นโรงงานรับซื้อขายเมล็ดกาแฟ อาราบีก้าอีกแห่งหนึ่งของดอยช้าง ซึ่งบริเวณโรงงานแห่งนี้จะมีพื้นที่กว้างขวาง ใช้สำหรับตากเม็ดกาแฟให้แห้งก่อนนำเข้าเครื่องกระเทาะเปลือก ทำเลที่ตั้งยังมองเห็นจุดชมวิวสวย ๆ และดอยหลายลูกที่อยู่เบื้องหน้าอีกด้วย มื้อเย็นของพวกเราฝากท้องกันไ้ว้ที่นี่ ทั้งนี้ เรายังได้ชิมกาแฟสดเราเลือก "ลาเต้ " หอม กลมกล่อม ด้วยเครื่องบดกาแฟตามรูปที่เราถ่ายมา ราคาสามแสนกว่าบาท ฮี่ๆ กาแฟแก้วนี้ของเราได้ชิมฟรี ขอบคุณเจ้าของร้านด้วยนะคะ ^^ ต้นกาแฟ วันนี้เราได้มาเห็นของจริงกันแล้ว ว่าต้นกาแฟเป็นอย่างนี้นะเออ ซึ่งต้นกาแฟปลูกได้ในอากาศเย็นชุ่มชื้นเท่านั้น ถิ่นดอยช้างจึงถือว่าเหมาะสมในการปลูกกาแฟกันทั่วทุกพื้นที่ เราได้เห็นเม็ดกาแฟเป็นอย่างนี้นะ และผ่านการตากแห้ง แล้วมาสีเปลือกออกมาจนผ่านการคั่วบด และส่งออกทั่วโลก รวมทั้งแบรนด์ดังๆ ของไทย ก็ได้ใช้ เม็ดกาแฟจากดอยช้างนี่แหละคะ มาถึงตอนนี้ ทำให้เรารู้แล้วว่า ทำไมต้องชื่อ "ดอยช้าง"
ป๊าดดดดดดดดด
ถ่ายงวงช้างมาไม่ครบ ณ จุดชมวิวบนตึก โรงงานกาแฟ เนอสรีดอยช้าง ค่ำ ๆ ย่ำเย็นถึงช่วงเวลาที่เราต้องพักผ่อน กลับมาทันช่วงทไวไลท์ของวันพอดีตามที่ได้จดเวลาพระอาทิตย์ตกดินไว้ในไอโฟน แบบเป๊ะๆ ไหนๆ ก็ไหนๆ ช่วงนี้ใครก็ฮิตถ่ายทไวลงทไวไลท์กันเหลือเกิน จัดหน่อยสักภาพหนึ่ง ก่อนท้องฟ้าจะแปรพักตร์เป็นสีดำ ณ ดอยช้างฮิลล์ รีสอร์ท ค่ำคืนนี้กำลังจะ่ผ่านไปแล้ว อากาศเย็นๆ บนดอยช้างที่นี่ ไร้คลื่นโทรศัพท์ทีใช้ได้แค่ GSM ค่ำคืนที่เงียบสงบ และเป็นส่วนตัวมากๆ พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร พรุ่งนี้จะเหมือนวันนี้หรือเปล่า และพรุ่งนี้ก็เป็นเรื่องของอนาคตที่เรายังไม่รู้ เรารู้แค่ว่า "วันนี้เรามีความสุข" ก็พอแล้ว
หอมกลิ่นกาแฟ กาแฟดอยช้าง พบกันต่อ เร็ว ๆนี้ค่ะ ^^
___________________________ ขอขอบคุณเป็นพิเศษ เพื่อน เหมย เอ ที่ให้การต้อนรับและพาเที่ยวลุย ๆ กันตลอด Trip และร้านเนอสรี่ดอยช้างสำหรับกาแฟหอม กลมกล่อมอร่อยๆ แก้วนั้น และหวังว่าจะได้ไปเยือนกันอีกครั้งหนึ่ง ณ ที่นี่ ดอยช้าง เชียงราย ขอบคุณค่ะ ^^ _______________________________________ Rinsa Yoyolive