FAQ: ใช้อะไรดีคะ?
Q: ใช้อะไรดีคะ? ผิวเป็นแบบนี้ๆๆๆ ค่ะ รบกวนช่วยจัดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวให้หน่อยนะคะ อยากให้ผิวขาว ใส ไร้สิว ไร้ริ้วรอย ไร้กระ ไร้ฝ้า เนียนสนิทเลยค่ะ ไม่มัน A: เป็นคำถามที่เราตอบนับครั้งไม่ถ้วน ก็ขอเอามาแปะไว้ในนี้เลยละกัน ปัญหาที่ตอบยากมากๆ คือ หลายๆ คนถามว่าใช้อะไรดี ... สาเหตุที่ตอบยากมากก็คือ ... skincare มันมีมากมายหลายร้อยหลายพันยี่ห้อ ... เราเองก็ไม่ได้อยู่เมืองไทย ยี่ห้อที่เรารู้จัก เราเคยใช้ก็หาไม่ค่อยได้ที่โน่น ก็เลยทำให้แนะนำยากมาก ... แล้วตัวที่เราแนะนำก็กล้าแนะนำแค่ตัวที่เราเคยใช้เองจริงๆความจริงแล้ว ก็ไม่อยากให้จำกัดแค่ skincare ที่เราเคยใช้ ... skincare ดีๆ ที่เราไม่รู้จักก็มีอีกมากมาย เอาเป็นว่า ไม่อยากจะแนะนำยี่ห้อเท่าไหร่นะคะ ... ขอแนะนำเป็น concept ดีกว่านะคะ
พื้นฐานการดูแลผิวก็ไม่มีอะไรมาก แต่ควรจะมองหา และศึกษาคร่าวๆ รู้จักดูส่วนผสมของ products แต่ละตัวก่อนจะซื้อ ... ควรจะรู้ว่าเราซื้อมาทำไม ซื้อแล้วได้อะไร (อย่าอ่านแค่คำโฆษณาค่ะ) วิธีอ่านก็ง่ายๆ ... ส่วนผสมแบบเต็มๆ จะเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยค่ะ ... ตัวแรกก็มีปริมาณมากที่สุด (ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นด้วย water) ... ส่วนผสมท้ายๆ แสดงว่า มีน้อยมากๆ บางทีน้อยจนไม่มีผลอะไรกับหน้า ตัวอย่างเช่น หากเราต้องการซื้อ vitmain c (ascorbic acid) เราก็ต้องดูว่ามันอยู่ในลำดับที่ 2-5 รึเปล่า ... ถ้าน้อยไปกว่านั้น vitamin c ก็ช่วยอะไรไม่ได้ค่ะ เป็นต้นหากอยากซื้อ sodium hyaluronate เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ก็ต้องมองหาให้มันอยู่ในลำดับต้นๆ ค่ะเวลาอ่านส่วนผสม ต้องอ่านแบบเต็มๆ นะคะ ... แล้วคำถามคือ จะทราบได้ยังไงว่าส่วนผสมมันเป็นแบบเต็มๆ ... ง่ายๆ ... เกือบ 100 จะขึ้นต้นด้วย water (เพราะมีปริมาณมากที่สุด) นอกจากบางตัวที่ไม่เสถียรในน้ำ ก็จะอาจจะเป็นพวก silicone แทน แล้วตัวท้ายๆ ก็มักจะเป็นพวก parfum เพราะใสไปแค่หยดเดียวก็กลิ่นฟุ้งแล้วค่ะ ... ถ้าส่วนผสมดีๆ ต่อท้ายน้ำหอม ก็เลิกคิดไปได้เลยว่ามันจะมากพอที่จะเป็นประโยชน์กับผิว (ยกเว้นว่าทั้งกระปุกจะเต็มไปด้วยน้ำหมอ -_-")ตัวท้ายๆ อีก ก็เป็นพวก ที่ลงท้ายด้วยคำว่า ben ก็หมายถึงพวกวัตถุกันเสีย เวลาอ่านก็มองข้ามไปได้
หลักๆ ก็คือ ดูว่าผิวเราต้องการอะไร 1. hydrating ไม่ว่าผิวมัน ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ก็ต้องการการบำรุงในส่วนนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิว มัน ธรรมดา หรือแห้ง2. antioxidants แน่นอน ผิวเราต้องการการปกป้องจาก free-radicals ดังนั้น antioxidants เนี่ย ขาดไม่ได้ ... มองหาพวก vitamins, grapeseed, green tea เป็นต้น3. antiaging หากเริ่มมีอายุ ก็ต้องมองหา antiaging ingredients ด้วย ... เช่น vitamin c (ascorbic acid) เป็นต้น4. exfoliating พอเริ่มอายุมากกว่า 20 กระบวนการผลัดผิวจะค่อยๆ ช้าลง ผิวตายแล้วจะอยู่กับหน้าเรานานขึ้น ทำให้หน้าดูหมองไม่สดใส ... การ exfoliate ผิวจึงจำเป็น ... จะเป็น chemical peel เช่น glycolic acid หรือจะเป็น mechanical scrub ก็ได้ค่ะ5. sunscreen จำเป็นต่อผิวมาก ... มองหา sunscreen ที่ถูกใจ กันได้ทั้ง uva and uvb ... ผิวแพ้ง่ายมองหา physical sunscreen แต่ต้องขยันล้าง เพราะล้างยากกว่า ... chemical จะทำให้หน้ามัน แต่จะล้างออกได้ง่ายกว่า แต่ก็ไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ... ตอนนี้ก็มีทางเลือกอยู่แค่นี้6. whitening หากต้องการให้ขาว ก็ต้องมองหาครีม serum ที่มีส่วนผสมที่ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิว ... ที่จำง่ายๆ และมีประสิทธิภาพดีก็ kojic acid และพวก arbutin ค่ะ7. หากผิวมันเป็นสิวง่าย หาพวก salicylic acid มาติดบ้านไว้ ... ตัวนี้ช่วยผลัดผิวตายแล้ว ที่สะสมบนผิวหน้าออกมา (อาจจะเป็นขุยๆ) ... แล้วช่วยแก้อาการอักเสบของสิวได้ด้วยหลักๆ ก็มีแค่นี้เอง ... ไม่ว่าจะผิวเป็นสิว ผิวแห้งเป็นขุย ผิวเนียนใสไร้สิว ก็มีพื้นฐานอยู่แค่นี้
AMตอนเช้า สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็เห็นจะเป็น antioxidants และ sunscreen ... ขั้นตอนคร่าวๆ ก็คือ1. ล้างหน้าด้วย cleanser ธรรมดา โฟมล้างหน้า หรืออะไรก้ได้ ไม่ต้อง serious มาก2. เลือก toner ที่ดี ปราศจาก alcohol เพื่อเตรียมสภาพผิวให้ชุ่มพร้อมสำหรับการบำรุง (มองหา sodium hyaluronate, sodium pca)3. serum ... ก็ดูว่าผิวเราต้องการอะไร ถ้ายังเด็กก็มองหา antioxidant serum ก็พอ ... แต่ถ้าต้องการช่วยเรื่องริ้วรอย ก็ต้องมองหาพวก vimtain c (หาง่าย และมีประสิทธิภาพ) ตัวอื่นๆ ยังหายากอยู่ค่ะ ... บางคนอาจจะชอบพวก retinol ก็ต้องลองดูกันไปค่ะ4. moisturizer ... ที่นี้ก็มาดูว่าเราผิวมัน ผิวธรรมดา หรือผิวแห้ง ... มีปัญหาสิวอุดตันรึเปล่าหากผิวมัน ผิวธรรมดา ... ควรจะมองหนาน้ำมันเบาๆ (oil free skincare มักจะอุดตันรูขุมขนได้ง่ายกว่าน้ำมัน) ... เลือกน้ำมันดีๆ จะไม่อุดตันค่ะ (แต่น้ำมันแย่ๆ ก็มีนะคะ เช่นน้ำมันมะพร้าว ... อุดตันมาก) ... พวกน้ำมัน squalane, jojoba oil ก็ดีกับผิวค่ะ เหมาะกับผิวมัน ถึง ผิวธรรมดาถ้าผิวแห้งมากๆ ... ก็ลองมองหา moisturizer ที่มีพวก shea butter ค่ะ ... แต่ถ้าผิวไม่แพ้วาสลีน ก็มองหาวาสลีนหรือ mineral oil ใน moisturizerก็ได้ค่ะ5. sunscreen ก้กันแดด ที่กันได้ทั้ง uva and uvb ก็แค่นั้น
PMกลางคืนอาจจะไม่ต้องเน้นพวก antioxidants ... แต่จะให้ดีเน้นไปที่ anti-aging และ hydrating ค่ะ ... และต้องมั่นใจว่าล้างหน้าสะอาดหมดจดก่อนที่จะบำรุงผิว1. ล้างหน้าด้วย oil (หากใช้ครีมกันแดดแบบกันน้ำ)2. ล้างน้ำมันออกด้วยโฟมล้างหน้าที่ใช้ตอนเช้า3. toner4. serum5. moisturizer
แล้วถ้าถามว่าใช้ AHA ตัวไหนดี ... 8%-15% ค่ะ กำลังดี ... ยี่ห้อไหนดี ก็คงต้องลอง ... จะให้ดี มองตัวที่ส่วนผสมน้อยตัว ค่า pH ต่ำๆ (ซักไม่เกิน 3.5 กำลังดี) ... ถ้าไม่ทราบก็คงต้องลองผิดลองถูกเอง เราก็บอกอะไรไม่ได้
ลบ หรือ ลดริ้วรอย ... ตัวที่มีประสิทธิภาพดีและหาซื้อไม่ยากก็คงจะหนีไม่พ้น ascorbic acid ค่ะ ... เลือกใช้ซัก 10% ก่อน แล้วค่อยเพิ่มขึ้นตามความจำเป็น (แต่ไม่ควรเกิน 20%) ... บางคนอาจจะผิวถูกกับ retinol (แต่ความจริงมันไม่ค่อย work หรอกค่ะ) ก็ลองๆ ดูได้
ถามว่าตัวไหนดีกว่ากัน ... ก็บอกยาก ... ก็ต้องดูส่วนผสม แล้วถามตัวเองว่าเราต้องการ result แบบไหน (อย่าตอบว่า หน้าขาวใส ไร้สิว ไร้ริ้วรอย นะคะ) เพราะทุกคนก็ต้องการแบบนั้น แต่ skincare product ตัวเดียว พวกนี้มันทำไม่ได้อย่างนั้นหรอกค่ะอย่างเช่นToner ระหว่าง Lancome Tonique Confort Rehydrating Skincare Lotion กับ LRP Hydraphase Alcohol-free hydrating Toner ... ตัวไหนดี?ก็ต้องดูที่ส่วนผสมไงคะ ... tonique confort มี ตัวให้ความชุ่มชื้นและ antioxidants ส่วน hydraphase มีแต่ตัวให้ความชุ่มชื้น ... แล้วเราต้องการอะไรคะ ... ถ้ามี serum หรือ moisturizer ที่มี antioxidants ดีๆ อยู่แล้ว ... แค่ hydraphase ก็น่าจะพอ (เพราะมันราคาถูกกว่า)anti-aging ระหว่าง DDF C Plus Serum, TBS Vit C intensive night treatment, LRP active C day/night emulsion for dry skin ... ตัวไหนดี?- DDF ราคาสูง มี % vitamin c กี่% เราก็ไม่ทราบ - tbs ราคาถูก หาง่าย มี 10% vitmain c- lrp มี 5% vimtain c ราคาสูงกว่า tbs ... แล้วจะซื้ออะไร ก็แล้วแต่จะตัดสินใจ ก็ดูความเหมาะสมเอา ... ตัวที่มันมีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน ก็คงต้องลองเอาเอง แล้วแต่จะชอบ บางตัวอาจจะเหมาะกับผิวเรามากกว่า (เนื้องจากส่วนผสมอื่นๆ) มันก็แล้วแต่ค่ะสำหรับตัว moisture ควรจะใช้อะไรดีคะ ... คือมันมี moisturizer เป็นพันเป็นหมื่นตัว ... จะให้เราบอกว่าตัวไหนดี ก็คงบอกไม่ได้ ... เพราะเราก็ไม่เคยใช้ทุกตัว ... ส่วนผสมมันก็มีแตกต่างกันไป ... ถ้ามี serum ที่มี antioxidants ดีๆ อยู่แล้ว ก็อาจจะเลือก moisturizer ที่ช่วยให้แค่ความชุ่มชื้นเฉยๆ ราคาถูกๆ มันก็โอเคดี ... แต่ถ้าไม่มี serum ที่มี antioxidant, antiaging ดีๆ ก็อาจจะมองหา moisturizer ที่มีพวกนี้ผสมอยู่
กันแดด ... ก็มองตัวที่กันครบ ... ดูว่าเราตากแดดนานรึเปล่า (แรงไม่แรงไม่เกี่ยว) ถ้าตากไม่นาน spf30 ก็เกินพอ เพราะแค่นี้ก็กันได้ตั้งหลายชั่วโมงแล้ว ... แล้วก็เลือกให้กันให้ครบ ดูส่วนผสม active ingredients ดูว่ากันได้ทั้ง uva and uvb รึเปล่าส่วนล้างออกยากมั๊ย ทาแล้วมันมั๊ย อันนั้นก็ต้องลองเอง เราบอกไม่ได้ ... แต่ส่วนใหญ่ asian sunscreen จะกันน้ำ ไม่มัน และล้างออกยากมาก (ต้องใช้น้ำมัน) ... ส่วนทางอเมริกา และยูโรป จะออกมัน และล้างไม่ยากมาก ... ก็ต้องเลือกเอาเอง
*** เพิ่มเติมนิดหน่อยค่ะ ***เห็นมีคนถามในกระทู้ เลยเอามาเพิ่มเติมนิดหน่อย ค่ะ ... เพราะหลายๆ คนไม่รู้จะเลือกซื้อยังไงดีMake up remover - ใช้น้ำมันอะไรก็ได้ค่ะ ... ถ้าไม่แพ้ mineral oil ก็ใช้ baby oil, จะใช้พวกน้ำมันพืช (ไม่อุดตัน) เช่น jojoba oil, safflower, sunflower oil, squalane ได้หมดค่ะ ... น้ำมันที่ควรหลีกเลี่ยงคือ olive oil (อุดตันปานกลาง), coconut oil อุดตันสูง ... พวก cleansing milk ส่วนใหญ่ก็คือ mineral oil ผสมพวก thickener ค่ะCleanser - ก็เลือกแค่ facial wash ที่ผสมผงซักฟอก อะไรก็ได้ เอาให้มันล้างน้ำมันออกเป็นพอ ... เช่นพวก SLS ทั้งหลายToner - เอาไว้เตรียมผิว เวลาทาครีมจะได้ซึมได้ดี มีประสิทธิภาพ ... มองหา hyaluronic acid, sodium pca เป็นต้น ... จะรวมไปถึง antioxidants ด้วย ... เช่น grapeseed extracts, green tea สองตัวนี้เป็น antioxidants ที่ดีมากๆๆๆ ค่ะ ... รวมไปถึงพวก vitamins ด้วย เช่น a, c, e ค่ะSerum - ก็ขึ้นอยู่กับว่าต้องการอะไร ... ถ้าผิวยังเด็กก็มองหาพวก antioxidants (grapeseed extracts, green tea, vitamins, แล้วพวก plant extracts บางตัว ค่ะ) ... แต่ถ้าต้องการเน้น anti-aging มองหา vitamin c (10% หรือใกล้เคียง) ค่ะMoisturizer - ก็แล้วแต่สภาพผิว ผิวมันก็มองหาน้ำมันที่เบาๆ เช่น squalane, jojoba oil (ดีกับผิวมันมากๆ) ... ผิวธรรมดา ก็มองหา squalane ค่ะ ... ผิวแห้งมองหาพวก mineral oil, vaseline (ถ้าไม่แพ้) และ shea butter ค่ะ ... ใน moisturizer ก็อาจจะมองหาพวก antioxidants ผสมอยู่ด้วยค่ะ ... ถ้าใน moisturizer มี antioxidants ผสมอยู่มากๆ ก็อาจจะข้ามในส่วนของ serum ไปเลยก็ได้ค่ะSunscreen - ก็มองตัวที่กัน uva ได้ ... มองหา titanium dioxide, zinc dioxide, parsol 1789 (avobenzone), mexoryl ค่ะ ... ถ้าไม่มีตัวใดตัวนึง โยนกันแดดตัวนั้นทิ้งไปได้เลยค่ะ ... มองหา spf30 และ PPD10 (PA+++) จะดีมากค่ะWhitening - ก็มองหาส่วนผสมในตระกูล arbutin เช่นพวก kojic acid, bearberry extract, mulberry extract ค่ะEye - ควรเน้นไปที่ให้ความชุ่มชื้นเป็นหลัก shea butter ดีต่อรอบดวงตามาก ... มองหา shea butter ใน eye cream จะดีค่ะ ... อาจจะมองหาตัว antioxidant ด้วย ... ส่วนริ้วรอยก็อาจจะลองมองหา vitmain c, a ด้วยค่ะ ... ปัญหารอบดวงตา ลองอ่านตรงนี้ก่อนนะคะExfoliant - พยาม exfoliate ผิวอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผิวแข็งแรงมีสุขภาพดี ... มองหา 10% glycolic acid หรือใกล้เคียง ... หรืออาจจะเป็น AHA ตัวอื่นๆ ก็ได้ ... ถ้าขึ้เกียจทา อาจจะใช้พวก scurb แทนก็ได้ค่ะ แต่ควร scrub อย่างระมัดระวังค่ะ
ลองค่อยๆ ศึกษาดูนะคะ ... ทำความเข้าใจ concept ดูนะคะ ... ลองอ่านส่วนผสมดู ... ดูแค่ครึ่งแรกก็พอ ครึ่งหลังมันมีน้อยมากๆ ไม่ต้องสนใจก็ได้
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 173 คน [
มาเยี่ยมค่ะ มีความสุขมาก ๆ น่ะค่ะ