สิวอุดตัน และ สิวหัวดำ

ในที่สุดก็ถึงเวลาของสิวอุดตัน และสิวหัวดำ
แต่ก่อนเริ่มต้น มาทำความเข้าใจกันก่อน
เราจะพูดถึงการก่อตัวของสิว สาเหตุของสิว แล้วก็ตามด้วยวิธีป้องกันและแก้ไข

จริงๆ บทความเรื่องสิวมีเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ รึในอินเตอร์เน็ท หาได้ไม่ยากเลย
เราก็เอามาสรุปให้ฟังก็แล้วกัน

เตือนไว้ก่อน ... มันยาวนะ .
เราอยากให้เข้าใจกัน เลยยาวไปหน่อย ... อยากให้อ่านกันให้จบค่ะ

ก็เริ่มเลยละกัน

ประเภทของสิว



สิวมีหลายประเภทด้วยกัน แล้วก็เกิดจากสาเหตุต่างๆ กันไป

เราแบ่งประเภทสิวได้เป็น 4 ประเภทด้วยกัน (A คือ ผิวปกติ) ... สิวหัวดำ (B), สิวอุดตัน (C), สิวอักเสบ (D), สิวหัวช้าง (E มีหนอง รากลึก เจ็บ) ... สิวสามตัวแรก ส่วนมากแล้วเกิดจากนิสัยของเราเอง

พอจะเดากันได้มั๊ย? ... เดี๋ยวมาดูคำตอบกัน

ส่วนสิวประเภทสุดท้าย ... อาจจะเกิดได้จากสาเหตุอื่นๆ ด้วย ... อย่างเช่นพวก ฮอร์โมน (เราจะพูดถึงสิวที่เกิดจากฮอร์โมนอีกที ... ถ้าไม่ขี้เกียจซะก่อน) สิวประเภทนี้ส่วนมากจะเกิดขึ้นที่คาง และก็ลามไปที่แก้ม จะเป็นสิวที่มีรากลึก เจ็บมากด้วย ... แบบนั้น อาจจะต้องปรึกษาหมอ หายามาฉีด หรือ มากิน รักษาตามอาการไป

แต่พูดถึงสิว 3 ประเภทแรก ... จริงๆ ไม่จำเป็นต้องหาหมอเลย ... สาเหตุหลัก (และส่วนมาก) มาจากตัวเราเอง ... วิธีป้องกันทำได้ไม่ยากเลย ... แต่หากเกิดขึ้นแล้วจะรักษา จะต้องใช้เวลากันหน่อย ... แต่มันป้องกันได้

Skin

ก่อนเข้าเรื่อง ... มารู้จักผิวเรากันก่อน ... เราจะไม่เล่าละเอียดมากในส่วนนี้

เราแบ่งง่ายๆ เป็น 3 ชั้น ชั้นนอก ชั้นกลาง ชั้นใน ... เราจะพูดถึงแค่ ชั้นนอก กับ ชั้นกลาง



ผิวชั้นนอก แบ่งได้เป็นสองชั้น บนสุดของผิวชั้นนนี้ คือซากผิวที่ตายแล้ว ... ชั้นนี้จะมีไขมัน ซากผิว สิ่งสกปรก แบคทีเรีย สาระพัด ... มีไขมันทำตัวเป็นกาวที่รวมพวกซากผิวและสิ่งสกปรกไว้อย่างเหนียวแน่น แน่นขนาดที่ว่า ล้างหน้าธรรมดาก็เอาไม่ออก

ผิวชั้นกลาง มีอะไรต่างๆ มากมาย ... แต่เรามาดูเฉพาะส่วนที่เราสนใจกัน คือ มีรูขุมขน (คนเรามีขนนิ) ... แล้วในรูขุมขนก็มีต่อมไขมัน ... ขนมันก็จะค่อยๆ งอก ยาวขึ้นไปเรื่อยๆ จนพ้นผิว แล้วก็กลายเป็นขนปกติที่เราเห็นกัน

ผิวชั้นใน ไม่ขอพุดถึง ละกัน มันเป็นพวกไขมันต่างๆ มีเส้นเลือด มีอะไรมากมาย

ตอนนี้เราสนใจแค่ ขน รูขุมขน (hair follicle) ต่อมไขมัน และ ผิวชั้นนอก

How does acne begin?

สิ่งแรกที่เราคิดว่ามันสำคัญมาก คือ ต้องรู้ว่า สิวมันเกิดขึ้นได้ยังไง



เริ่มจากรูขุมขน ที่ขนกำลังจะเริ่มงอก ... ในรูนี้จะมีต่อมไขมันหลายต่อมด้วยกัน ... ต่อมไขมันมันก็จะสร้างน้ำมันออกมาเรือยๆ ขนมันก็จะค่อยๆ เจริญเติบโตยาวๆ ขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็โผล่พ้นผิวออกมา

ทีนี้ ... ลองนึกถึงซากผิวที่ตายแล้ว (ด้านบนสุดของผิวชั้นนอก) มีกาวเหนียว ทำหน้าที่เป็นตัวประสาน ซากผิวที่ตายแล้วก็เกาะกลุ่มกัน เป็นแผง เคลือบผิวเราไว้อย่างเหนียวแน่น .... ลองนึกขนอ่อนๆ ... มันค่อยๆ โต ทะลุผ่านผิวชั้นกลาง พอมาถึงผิวชั้นนอก ... ถ้าซากผิวที่ตายที่หนา ทับถมกัน อย่างเหนียวแน่น ... ขนมันก็โตขึ้นเรื่อยๆ แต่มันไม่มีที่ไป ... เดากันว่าอะไรจะเกิดขึ้น

พอขนมันไม่มีทีไป แต่มันโตขึ้นเรื่อยๆ พยายามจะดันผิวชั้นบนสุด มันก็สู้ไม่ไหว เพราะมันทั้งหนาทั้งเหนียว ... ทีนี้มันก็ถูกขังไว้ข้างใน

เราก็รู้กันแล้วว่า ... ซากผิวที่ตายแล้วมันหมายความว่ายังไง ... มันคือเซลล์ที่ตายแล้ว ... ของตายมันก็เน่าเสียหมักหมม ... แบคทีเรียมันก็ชอบของพวกนี้อยู่ด้วย ... ยิ่งมีซากผิวตายแล้วทับถมอยู่เยอะ แบคทีเรียก็มีเยอะ อะไรจะเกิดขึ้น

บางคนอาจสงสัยว่า ... แบคทีเรียก็ไม่เห็นทำร้ายเราเลย ... มันแค่ทำให้เกิดสิวบางจุด ... จริงๆ แล้ว ผิวเรามันมีกลไกปกป้องตัวเองอยู่แล้ว ... แบคทีเรียมันก็แค่แช่อยู่ชั้นบนเท่านั้น มันไม่สามาถเดินทางเข้ามาในผิวชั้นกลางได้ ... ถ้าผิวเราไม่รู้จักปกป้องตัวเอง ... มนุษย์เราคงถูกเชื้อโรคกำจัดไปตั้งแต่หลายล้านปีมาแล้ว ... คงไม่ครองโลกมาจนถึงทุกวันนี้ ... เอาเป็นว่า แบคทีเรียมันผ่านเข้าไปในผิวไม่ได้ละกัน (นอกจากเราจะเปิดประตูให้มันเข้าไป)

Oh no!

พอขนมันถูกขังไว้ข้างในจนได้ที่ ... ขนเรามันทะลุผิวขั้นนอกบางส่วนออกมาแล้ว แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านซากผิวที่ตายแล้วออกมาได้

ทีนี้ แบคทีเรียมันก็ได้โอกาสดิ ...มัน รุกคาดเลย ... เราตื่นขึ้นมา ... สิวตูมมาเลย ... ทำไงล่ะทีนี้ ต้องนั่งจ้องมันไปอีกกี่วันกว่ามันจะหาย

ทำได้แค่ Oh no!

สิวหัวดำ และ สิวอุดตัน

ทั้งสิวหัวดำ และ สิวอุดตัน เกิดจากสาเหตุเดียวกัน คือ รุขุมขนอุดตัน ขนมันถูกขัง ไม่มีที่ไป ... ตอนนี้คงไม่ต้องถามว่าทำไม ... ก็ไม่รู้จัก exfoliate ผิวกันเอง ... ใครจะช่วยได้ล่ะ ... เราได้ยิน และได้อ่าน จากคนไม่ใช่น้อย ... เราผิวบอบบางแพ้ง่ายมาก exfoliate ผิวไม่ได้หรอก ... เราไม่อยากจะเป็นคนที่ mean หรอกนะ ... แต่ถ้าไม่ทำ ปัญหานี้ก็จะเกิดจึ้นไปตลอด จนกว่าจะแก่หงำไปเลย ... เราพูดจริงๆ นะ ... ก็สาเหตุ ก็รู้ๆ กันอยู่ (ลองไปหาอ่านดู ... ตำราไหนๆ เค้าก็พูดแบบนี้) ... ก็รู้ๆ สาเหตุกันอยู่ ไม่แก้ที่สาเหตุ แล้วจะให้มันหายไปได้ยังไง ... very simple logic

สิวหัวดำ

สิวหัวดำ หรือ blackheads หรือ open comedones ... หลังจากที่ขนมันพยายามที่จะโผล่พ้นผิวออกมาสู่โลกภายนอก แต่มันทำไม่ได้ ... มันเกิดอาการอุดตันขึ้นในรูขุมขน ... ทีนี้พวกน้ำมันในรูขุมขนที่อุดตันมันเกิดกระบวนการ oxidation มันก็เลยกลายเป็นสีดำ ... ยิ่งมองยิ่งน่าเกลียดใช่มั๊ย ... หลายๆ คนพยายามนั่งบีบเอาไอ้สีดำๆ ออกไป ... มันเอาออกแค่ส่วนที่ oxidized เป็นสีดำแค่นั้นแหล่ะค่ะ ... สาเหตุจริงๆ ยังไม่ถูกแก้เลย

สิวอุดตัน

ส่วนสิวอุดตัน หรือ whiteheads หรือ closed comedones ... เหมือนกับสิวหัวดำ คือหลังจากที่ขนพยายามจะโผล่ออกมา แต่ทำไม่ได้ ... เกิดการอุดตัน ... แต่ว่าไม่มีการ oxidation เกิดขึ้น ... มันก็จะบวมเป็นตุ่มๆ อยู่ใต้ผิว ให้เรารำคาญใจ ... จะทำอะไรกับมันก็ไม่ได้ นอกจากจะเอาระเปิดบอมลงไปให้ผิวมันเปิด รึเอามีดผ่าออก ... แต่ทำแบบนั้นไม่ได้นิ ... จะบีบมัน ก็เป็นไปไม่ได้ ... ยิ่งบีบผิวก็แดง แล้วอาจจะยิ่งทำให้มันอักเสบลึกๆ ไปใหญ่ ... เพราะบีบเท่าไหร่มันก็ไม่โผลออกมาหรอก

Spas

สปาหลายแห่ง (ที่ไม่ใช่หมอ) แนะนำให้อบผิวด้วยไอน้ำ ให้รูขุมขนเปิด แล้วก็จะได้เอามันออกมาได้

นั่นไม่ใช่วิธีแก้ไขที่ถูกต้อง ... เพราะนอกจากความร้อนจะทำลายผิวแล้ว มันยังไม่เปิดรูขุมขนที่อุดตันหรอก

Exfoliate your skin

บางคนอาจจะเบื่อแล้วมั๊ง ... พูดทีไรก็บอกให้ exfoliate ผิว ... ก็ลองถามหมอที่ไหน ลองอ่านหนังสือตำราไหน เค้าก็บอกไว้แบบนี้ ... ไม่เชื่อเราก็ลองไปหาตำราอื่นๆ อ่านดู ... ถ้าไม่เชื่อตำรา ... ก็ไม่ต้องบ่นว่าเป็นสิวอุดตัน (สิวหัวดำ)

คนที่ไม่รู้ว่าสิวเกิดจากอะไรก็ว่าไปอย่าง ... สำหรับคนที่รู้แล้วว่า สิวเกิดขึ้นได้ยังไง ... ก็ลองคิดกันดูเอง ... ขนมันดันซากผิวที่ตายแล้วออกมาไม่ได้ ... ถ้าเรากำจัดมันออกไป ... problem solved! ... ใช่มั๊ย ... ไม่เห็นต้องมีใครมาบอกว่าต้องทำยังไง ... exfoliating your skin is the answer! ... ไอ้จะไปห้ามไม่ให้ขนมันงอก ก็ทำไม่ได้ ... จะห้ามไม่ให้ต่อมไขมันมันผลิตน้ำมันก็ทำไม่ได้ ... จะห้ามไม่ให้เซลล์ผิวตายก็ทำไม่ได้ ... ทุกอย่างล้วนเป็นกระบวนการทางธรรมชาติทั้งนั้น ... แต่เราก็ไม่ได้จะจนหนทางซะทีเดียว

Hydroxy acids

ต้องขอบคุณ hydroxy acids ... ที่ช่วยให้เรา exfoliate ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ... พวก hydroxy acids เนี่ย ... มันมีความสามารถในการ loosen หรือ ทำลายไขมันและซากผิวที่ตายแล้ว ให้มัน เหนียวน้อยลง (ยุ่ย) ... มันจะค่อยๆ เหนียวน้อยลง แล้วก็ค่อยๆ หลุดออกมาทีละนิดๆ ... แล้วก็ลอกออกจากผิวเป็นขุยๆ ค่อยๆ หลุดออกไป

พอซากผิวที่ตายแล้วมีน้อยมากๆ ... แบคทีเรียก็ไม่มีที่อาศัย ... ขนก็สามารถโผล่ออกมาได้ ... ปัญหาสิวอุดตัน สิวหัวดำก็ไม่เกิดขึ้น

I have very sensitive skin

หลายคนบอกเราว่า ผิวเรา sensitive มากนะ ... เราใช้กรดพวกนี้ไม่ได้หรอก ... บางคนบอกว่า ผิวเราบอบบางแพ้ง่ายมาก เราไม่กล้าหรอก

เราจะบอกให้ว่า ... การ exfoliate ผิว ... แน่นอนมันแสบ มันรู้สึกไม่สบายผิว ผิวสาก ผิวลอก ผิวแดง ... มันไม่ใช่ว่าคุณผิว so sensitive เสมอไปหรอก ... ใครๆ เค้าก็เป็นกัน ... ถ้าคุณมีผิวที่ sensitive มาก ... ก็ลดความเข้มข้นให้น้อยลง ... แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละนิด ... จนกระทั่งมัน effective

ถ้าไม่ exfoliate ผิว ... ก็เลิกคิดไปได้เลยว่าจะมีชีวิตที่ปราศจากสิว

บางคนอาจจะถามว่า ... เพื่อนเราเค้าไม่เคย exfoliate ผิวเลย ไม่เห็นเค้ามีปัญหาสิวเหมือนเราเลย

ก็เค้าโชคดีนี่ ... เค้าอาจจะเป็นคนผิวแห้ง ผิวผลิตน้ำมันน้อยกว่า ... ซากผิวที่ตายแล้ว มันไม่เกาะกันเหนียวเท่ากับผิวที่มีน้ำมันมากๆ (มันจะเกาะกันเหนียวแน่นมากกว่า)

นั่นเค้าโชคดี ... แต่คุณไม่โชคดีเหมือนเค้า ... ถ้าคุณไม่ exfolaite ผิว ... ก็ไม่มีใครช่วยคุณได้ค่ะ

อย่าลืมว่า ... ยิ่ง exfoliate ผิว ... ผิวยิ่งแข็งแรง

การรักษาและป้องกัน

จากที่เราพล่ามมาทั้งหมดนี้ ... คงช่วยให้หลายๆ คนเข้าใจว่าสิวเกิดขึ้นยังไง ... แล้วคงได้คำตอบว่า exfoliation คือวิธีป้องกัน ... เราจะพูดถึงวิธีป้องกันและรักษาไปพร้อมๆ กันเลย (เพราะมันเรื่องเดียวกัน)

กรดที่ใช้ exfoliate ผิว ... ที่เราสามารถทำเองได้ที่บ้าน ... ก็คือ ... AHAs และ Salicylic Acid ... สำหรับ AHAs มันมีหลายตัวด้วยกัน แต่ว่า glycolic acid มีอนุภาคเล็กที่สุด และมีประสิทธิภาพสูงสุด ... ทำให้ glycolic acid เป็นที่นิยมมากที่สุด

การแก้ปัญหาปลายเหตุ ... ก็เห็นจะเป็นการใช้ยากำจัดแบคทีเรีย ... พวก benzoyl peroxide ก็ได้ ... หาแบบ 5-10% มาใช้แต้มสิว ช่วยกำจัดแบคทีเรีย ทำให้สิวยุบลงได้ระดับนึง แต่ยานี้จะเหมาะกับพวกสิวอักเสบมากกว่า ... เพราะสิวอุดตันมันลึก วิธีที่ดีที่สุดก็หนีไม่พ้นการผลัดผิวอีกนั่นแหล่ะ

หมอบางคนอาจจะให้ยาพวก tretinoin เช่นพวก retin-A หรือ differin ... ซึ่งเป็นยาใช้ทา
สำหรับคนที่อาการหนักมากๆ หมออาจจะให้ยากิน accutane อันนี้ระวังให้ดี ยิ่งคนท้องไม่ควรกิน ... ยานี้มีผลข้างเคียงมาก คุยกับหมออย่างละเอียดก่อน

การเจาะดูดเอาสิวออกมา ... คงนึกออก ... โชคดีหน่อย ผิวไม่เป็นหลุม
ถ้าโชคไม่ดี หน้าเป็นหลุม ... ก็ไม่ต้องไปโทษใคร

% Glycolic acid

สำหรับความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพในการ exfoliate ผิว จะต้องมากกว่า 8% ถ้า product นั้นๆ ไม่บอกว่าเข้มข้นเท่าไหร่ วิธีง่ายๆ คือ ไม่ต้องไปซื้อมัน (เพราะมันต้องไม่เข้มข้นแน่นอน) ... มี products หลายๆ ตัวที่เค้าบอก %glycolic acid ค่ะ ... คนที่คิดว่าตัวเองผิวบอบบางมาก ... อาจจะลองเริ่มต้นที่ 8-10% ก่อน ... เราแนะนำให้ใช้หลังล้างหน้าสะอาดหมดจด ... แล้วก็ลง glycolic acid เลย ... แบบที่ดีที่สุดคือ แบบ น้ำๆ ใสๆ ... จะบองตัว pad ที่เราแนะนำ (จากตอนที่แล้ว) ... หรือจะลองแบบ toner พวก md forulation, md forte, neostrata ก็ได้ ... มีแบบน้ำใสๆ ให้เลือก ... ทาเสร็จแล้วมันจะรู้สึกยุบๆยิบๆ แสบ แดง ... เราก็เป็น ... รู้สึกวูบๆ นิดหน่อย ... แต่พอทนได้ ... ทาให้มันซึมหายไปจนหมด จากนั้น ก็หาพวก facial moisturizer มาทา ช่วย sooth อาการระคายเคือง (อย่างพวก clinique moisturizer จะช่วย sooth ผิวได้) ... ลองสังเกตุดู ... ซัก 10 นาที ... ถ้าอาการดีขึ้น หายแสบ (อาจจะมีอาการแดงๆ นิดหน่อย) ... นั่นแปลว่าคุณไม่แพ้หรอก (เพราะใครๆ เค้าก็เป็นกัน) ... แล้วอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ จนไม่รู้สึก ... นั่นแปลว่าผิวคุณทนได้

แต่ถ้าไม่เคยใช้มาก่อน ทาแล้วยังไม่รู้สึกอะไรเลย ... แสดงว่า product นั้นอาจจะไม่เข้มข้นพอสำหรับผิวคุณ หรือไม่ก็ค่า pH ของ product สูงเกินไปทำให้ AHA ไม่ effective ... ทาแล้วรู้สึกเหมือนเอาน้ำลูบ ... ก็น่าจะสรุปได้ว่า มันไม่ work ... ควรมองหาัตัวใหม่มาใช้ดู ตัวเก่าเอาไปคืนซะ

พอใช้ไปซักพักใหญ่ 2-3 สัปดาห์ อาการแสบ ยุบยิบจะลดลง ถึงขั้น ไม่รู้สึกเลย ... นั่นเป็นเรื่องปกติ ... ผิวเราปรับตัวได้แล้ว ... พอหมด อาจจะเพิ่ม % ขึ้นเป็น 15% หรือ 20% สูงสุด (ไม่ควรเกินนี้)

เวลาใช้ ควรใช้ เช้าเย็น ไม่ให้ขาด ... ใช้ติดต่อกันไป เรือยๆ ... เริ่มต้น ผิวสาก ลอกเป็นขุย (เหมือนผิวแห้ง บางคนคิดว่าแพ้) ... นั้นคือผิวที่ตายแล้วกำลังถูกละลาย หรือทำลาย ค่อยๆ หลุดออกมาทีละนิดๆ ... พอมันหลัดออกไปหมด ... ผิวก็จะเนียนเรียบเหมือนเดิม ... ต้องใจเย็นค่ะ

%Salicylic Acid

สำหรับคนที่เป็นเป็นสิวอักเสบอยู่ ... การใช้ glycolic acid จะไปเป็นการเร่งให้มันอักเสบมากขึ้น ... ถ้าทนให้มันผ่านพ้นไปได้ ก็ไม่ใช่ปัญหาค่ะ

บางคนผิวบอบบางจริงๆ (ไม่ใช่คิดไปเอง) ... salicylic acid เป็นทางเลือกที่ดี ... จริงๆ salicylic acid สามารถ handle สิวได้ดีกว่า glycolic acid อีก ... แล้วก็เหมาะกับคนผิวบอบบางด้วย ... ทำไมเหรอ ... คือ glycolic acid มันจะทำงานไปเรื่อยๆ จนกระทั่งผิวเราปรับค่า pH จนเป็นกลาง แล้ว glycolic acid จึงหยุดทำงาน

ต่างกับ salicylic acid มันจะทำงานแค่ไม่เกิน 3 นาที มันก็จะหยุดทำงานของมันเอง ... คือมันมี self timer ของมันเองอยู่แล้ว ... ทำให้เราไม่จำเป็นต้องกังวลว่า จะ mask หน้า หรือ โบ๊ะหน้าด้วย salicylic acid นานเกินไปรึเปล่า

นอกจากนี้ salicylic acid มันยัง oil-soluble ด้วย ... ทำให้มันสามารถซึมเข้าไปที่รูขุมขนทึ่อุดตันได้ด้วย ทำให้มันทำงานได้ดีกว่า

แล้วทีนี้ปัญหาคืออะไรล่ะ ... ทำไมหลายๆ คน ถึงแนะนำให้ใช้ glycolic acid แทนที่จะแนะนำให้ใช้ salicylic acid

ปัญหาคือว่า ... salicylic acid ที่หาซื้อได้ตามท้องตลาด ตามห้าง และร้านขายยา ... ทุกแห่งทุกหนในโลกนี้ ... มันมี salicylic acid ไม่เกิน 2% ... จะให้มัน effective มันต้องเข้มข้นเหมือนกับ glycolic acid คือ 8-20% .... ทำให้ใช้แล้วมันไม่มีประสิทธิภาพในการผลัดผิวเท่ากับ glycolic acid ที่หาซื้อได้ตามท้องตลาด

หากใครคิดว่าผิวตัวเอง sensitive ต่อ glycolic acid (ถ้ายังไม่เคยลอง ไม่ควรคิดไปเอง) ... ลองไปหาหมอ แล้วทำ salicylic acid peel ซัก 15% หรือสูงกว่าดู ... แบบนี้จะระคายเคืองน้อยกว่า glycolic acid มาก ... เพราะมันไม่ซึมเข้าสู่ผิวชั้นกลาง ... อาการแสบจะไม่ค่อยมี ... จะมีแค่อาการลอก (ผิวที่ตายแล้วลอกออกเป็นขุยๆ)

หรือถ้าไม่อยากเสียเงินไปหาหมอ ... ก็ลองเอายาแอสไพรินมา mask หน้าเองก็ได้ ... แต่ก็ต้องระวัง เพราะเราไม่รู้ว่า % ความเข้มข้นเท่าไหร่ถึงจะพอเหมาะ ... ต้องอาศัยลองผิดลองถูกหน่อย ... และแน่นอน ระหว่างที่ลองผิวดลองถูก ... ผิวอาจจะเกิดอาการสาก ลอกเป็นขุย

เปรียบเทียบกันเล่นๆ ดู

ลองนึกถึงกะทะหรือหม้ออะลูมิเนียมนะ ... แล้วเราหุงข้าว หรือ ผัดข้าวไฟแรงๆ หน่อย ... แล้วมันก็จะมีข้าวติดกะทะใช่ป่ะคะ ... แล้วแค่นั้นยังไม่พอ ... เราปล่อยตากแดดตากลม ให้มันแห้งติดหม้อติดกะทะไว้

ทีนี้ลองนึกถึงตอนล้าง

เอาฟองน้ำกับน้ำยาล้างล้าน ถูๆ ยังไงมันก็ไม่ออก

เอาสก๊อตไบร์ถูๆ มันก็ออกบ้างไม่ออกบ้าง

จะให้ดีมันต้องใช้พวกฝอยแสแตนเลส ใช่ป่ะ ... ทีนี้ ค่าความแข็งของ ฝอยสแตนเลสมันแข็งกว่าหม้ออะลูมิเนียม ... ฝอยมันก็จะไปขูดเอาหม้ออะลูมิเนียมเป็นรอย

ผิวเราก็เหมือนหม้ออะลูมิเนียม

ถ้าเราใช้ microdermabrasion (หรือพวก scrubs) ซากผิวที่ตายแล้วมันก็หลุดออกบ้าง แต่ถ้าทำไม่ดี มันก็ไปขูดเอาผิวจริงๆ เราได้

ส่วนมาก เราก็จะเอาหม้อไปแช่น้ำทิ้งไว้ (ให้พวกข้าวทีติดหม้อมันอ่อนลง) ... แล้วทีนี้ เราก็จะเอาสก๊อตไบร์ หรือ ฟองน้ำ ล้างออกมาได้โดยง่าย โดยไม่ทำลายอะลูมิเนียมให้เป็นรอยข่วน

ก็เหมือนกับการใช้ chemical peel คือทำให้ glue มัน loosen ออกมาก่อน ... แล้วเวลาเราล้างหน้าปกติ มันก็ออกมาได้โดยง่าย

สรุป

ขอสรุปเลยละกัน

สิวอุดตัน สิวหัวดำ ไม่ได้เกิดจากฮอร์โมน แต่มันเกิดจากการที่ตัวคุณเองไม่ดูแลผิวหน้า ... ปล่อยให้ซากผิวที่ตายแล้วทับถมกัน มาก แล้วกลายเป็นปัญหาทำให้ขนมันไม่มีที่ออก เลยเกิดการอุดตัน

ส่วนสิวอักเสบหรือสิวหัวช้าง ... นั่นเกิดได้หลายสาเหตุ ... เอาไว้ถ้าไม่ขึ้เกียจจะมาเล่าให้ฟัง

อย่าลืม ยำแล้วย้ำอีก ... ผิวลอกมันเป็นเรื่องปกติ อาการระคายเคืองเป็นเรื่องปกติ (ถ้ามันแสบยุบยิบชั่วคราว) ... มันไม่ได้หมายความว่าผิว sensitive เสมอไป ... และกระบวนการ turnover ของผิวอย่างต่ำ 30 วัน ... ดังนั้น ใจเย็นๆ อดทน ให้เวลากับมันค่ะ

ทีนี้ถ้าซากผิวที่ตายแล้วถูกผลัดออกไปอย่างสม่ำเสมอ ขนก็งอกออกมาตามปกติ ปัญหาสิวอุดตันก็ไม่เกิดขึ้นค่ะ

รู้จักเลือกใช้ product ถ้าเค้าไม่บอก % มา ... ก็ไม่ต้องไปซื้อให้เสียเงิน ... ของที่เค้าบอก % หาได้ค่ะ

การเข้าใจกลไกของผิว ทำให้เราเข้าใจปัญหา พอเราเข้าใจปัญหา เราก็รู้ว่าจะแก้ไขมันยังไง ... ใช่มั๊ย?