ไม่มีการตอบสนองใดๆอีกจากคีตภัทรนับตั้งแต่วันที่หล่อนได้รู้ความจริงเรื่องพี่ชายจากสมุดไดอารี่ของตน เอกปวีร์นิ่งขรึมไปอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่คีตภัทรก็เอาแต่หลบหน้าเขา แม้ยามบังเอิญเจอกันในโรงพยาบาลหล่อนก็จะเลี่ยงเดินหนีไปอีกทาง ไม่พบปะพูดคุย เอกปวีร์ได้แต่มองด้วยความห่วงใย ทุกๆวันเขาจะส่งเมลล์ไปหาหล่อน แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่หล่อนจะตอบกลับมา ในขณะที่นาเดียเองก็ถามหาคีตภัทรกับเขาทุกวัน จนเขาไม่รู้จะบอกลูกสาวตัวน้อยไปอย่างไรให้เข้าใจ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อยู่ในสายตาของใครๆหลายคนๆโดยเฉพาะดาริกา ซึ่งพออกพอใจยิ่งนักที่ทั้งคู่เป็นแบบนี้ นั่นคือโอกาสดีที่หล่อนจะใกล้ชิดเอกปวีร์ให้มากกว่าเดิมพี่เอกค่ะ เย็นนี้เลิกงานไปทานข้าวกันนะค่ะ ดาริกาจงใจพูดขึ้นเสียงดังเมื่อเดินผ่านหน้าเคาร์เตอร์ที่คีตภัทรนั่งทำงานอยู่ พลางเหลือบไปมองหน้าของหญิงสาวอย่างถือดี พี่ไม่ว่าง เอกปวีร์ปฏิเสธออกไป เพราะอย่างน้อยเขาก็รักคีตภัทรแม้ว่าหล่อนจะไม่ยอมคุยด้วยก็ตามทีทำไมล่ะค่ะ พี่ไม่มีงานแล้วนี่นา นะค่ะ น้องดาไม่อยากไปคนเดียว วัยรุ่นแถวนั้นชอบมาเกาะแกะน้องดาน่ะค่ะวันหลังได้ไหม วันนี้พี่ไม่ว่างจริงๆ จริงๆนะค่ะ ถ้าวันหลังพี่เอกไปกับน้องดาจริงๆนะค่ะครับจริงๆ เอกปวีร์รับปากไป แม้จะรู้ว่าอาจทำให้คีตภัทรยิ่งไม่พอใจก็ตาม แต่เขาก็ไม่อยากให้ดริกามาออดอ้อนอะไรเขาต่อหน้าหล่อนอย่างนี้คีตภัทร เย็นนี้กลับด้วยกันนะ เอกปวีร์บอกขึ้นแม้จะได้เพียงสายตาเย็นชาที่มองตอบกลับมาก็ตาม แต่เอกปวีร์คิดว่ายังไงเย็นนี้เขาก็ต้องพาคีตภัทรกลับบ้านด้วยกันให้ได้........................เบื่อพี่เอกแล้วสินะถึงได้หมางเมินนัก ดาริกาถามขึ้นเมื่อเจอคีตภัทรในห้องน้ำยุ่งอะไรด้วยไม่ทราบเปล่า ถ้าเบื่อฉันจะได้ขอคืนสักที ของๆฉันฉันหวงเธอยืมไปใช้นานเกินไปแล้วหรือค่ะ ฉันว่าคุณน่าจะถามคุณหมอมากกว่าว่าทำไมเขามาสนใจฉัน ขนาดฉันไม่พูดด้วยยังมาง้อคุณก็เห็นอย่างเธอใครจะรัก ขนาดนายกิตยังทิ้งไม่เป็นท่าคุณรู้จักกิตติได้ไง คีตภัทรถามขึ้นทันที ทำไมจะไม่รู้ ก็นายกิตเป็นลูกของน้าฉันเอง โลกเรามันก็งี้แหละกลมชะมัดเธอว่าไหมแล้วไงค่ะถ้าจะคิดเอาพี่เอกเป็นเกราะกำบังจากกิตละก็ถอยไปดีกว่า ฉันไม่ยอมเธอแน่นอนแต่ฉันไม่กลัวคุณหรอกนะค่ะ ถ้าฉันจะเลิกคบกับคุณหมอก็เพราะฉันเลือกที่จะไปเอง ไม่ใช่เพราะคุณเสียใจด้วยนะค่ะเธอนั่นแหละจะเป็นฝ่ายเสียใจคอยดูพี่หมอจะเกลียดเธอ ไม่แลไม่มองเลยทีเดียว ดาริกาบอกขึ้นด้วยความอาฆาต ของที่หล่อนรักหล่อนหวงใครจะมาแย่งไปไม่ได้หรือค่ะ ปกติฉันก็ไม่ชอบแย่งอะไรกับใคร แต่ถ้าเป็นคุณหมอ คนที่หลงฉันนักตอนนี้ละก็ฉันคงต้องยอมลองเล่นกับคุณสักตั้งว่าไหม คีตภัทรถามขึ้นซึ่งกับพอดีที่เอกปวีร์เดินมาจะเข้าห้องน้ำผู้ชายซึ่งอยู่อีกฟากห้อง สายตาที่เขาจ้องมองดูคีตภัทรแปรเปลี่ยนไปทันที แววตาที่เคยมองหล่อนด้วยความชื่นชม ตอนนี้เปลี่ยนเป็นโกรธแค้นเฉยชา คีตภัทรมั่นใจว่าเขาคงเข้ามาพอดีได้ยินที่หล่อนเอ่ยบอกดาริกาไป คีตภัทรให้รู้สึกเจ็บแปลบกับสายตาคู่นั้น แต่เมื่อคิดถึงที่เอกปวีร์หลอกลวงหล่อนมาตลอด คีตภัทรก็ใจแข็งพอที่จะทำหน้าเชิดเดินออกจากห้องน้ำไป ยังไงเสียหล่อนก็เลือกที่จะเลิกรากับเขาแล้วนี่นา ...................ขึ้นรถ เสียงที่ดังขึ้นทำเอาคีตภัทรแทบสะดุ้งเมื่อกำลังยืนรอรถสองแถวอยู่ที่ป้ายรถเมลล์ไม่ค่ะ คีตภัทรปฏิเสธไปทันทีพลางเดินถอยหนี ได้ เอกปวีร์บอกแค่นั้นก็เปิดประตูลงมาจากรถ คว้าแขนคีตภัทรหมับเข้าทันที คีตภัทรพยายามสะบัด แต่มันก็ยิ่งทำให้เขาบีบแรงขึ้น จนคนที่ยืนรอรถอยู่หันมามองไม่อายคนเขาบ้างหรือไง คีตภัทรถามออกไปใบหน้ายังเหยเกด้วยความเจ็บถ้าคุณไม่อาย ผมจะอายทำไม เอกปวีร์ถามขึ้นแม้เขาจะแน่ใจว่าคนที่รอรถอยู่เหล่านั้นจะมองเขาเหมือนกับว่าจะจำได้ว่าเขาคือใครก็ตามฉันเกลียดคุณ คีตภัทรบอกออกไปแต่เอกปวีร์ไม่ใส่ใจพาหล่อนเดินไปขึ้นรถไปแล้วปิดประตูรถเสียดังจนคีตภัทรสะดุ้งถอยขยับไปนั่งชิดประตู เอกปวีร์หันไปมองแต่ไม่พูดอะไร คีตภัทรลูบแขนที่โดนเอกปวีร์บีบแน่นจนเป็นรอยเขียวจ้ำๆด้วยความเจ็บ เอกปวีร์หันมามองด้วยความห่วงใย เขาคงจะทำกับหล่อนเกินไปจริงๆ แต่พอคีตภัทรเงยหน้ามาสบตาแววตาที่ห่วงใยก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงไปทันที เขาตั้งใจจะง้อคีตภัทรในเย็นนี้ แต่เมื่อไปได้ยินที่คีตภัทรพูดกับดาริกาเข้า เขาไม่แน่ใจว่าที่ผ่านมาคีตภัทร ตกลงปลงใจจะคบหากับเขาเพราะอะไรกันแน่ๆ วันนั้นหากไม่มีเหตุการณ์ที่ไปเจอกับกิตติเสียก่อน หล่อนจะยินยอมคบหากับเขาโดยดีอย่างที่เขาได้รับจากหล่อนหรือไม่ มันทำให้เขาคิดไม่ตกเลยทีเดียวทำไมคีตภัทร เอกปวีร์ถามขึ้นเมื่อเงียบมาตลอดทางคีตภัทรเลยหันไปมองเขางงๆผมถามว่าทำไม ทำไมต้องมาคบกับผมเพราะต้องการคนคุ้มกันจากนายนั่นแล้วคุณล่ะ ทำไมต้องมาหลอกลวงฉันตลอดเวลาคีตภัทรถามกลับออกไปด้วยความเจ็บปวด เขาเองน่าจะรู้ดีที่สุดว่าทำไมเพราะอะไรที่หล่อนยอมรับเขา เขาหลอกลวงหล่อนมาตลอดเขายังกล้ามาตั้งคำถามกับหล่อนแบบนี้อีกหรือคุณไม่เคยรู้สึกดีกับผมจริงๆเลยหรือไงคีตภัทรอย่าถามฉันอีกเลย ฉันเกลียดคนโกหก ฉันจะไม่เชื่ออะไรคุณอีก ฉันเกลียดเข้าใจไหม คีตภัทรบอกออกไปความคับแค้นใจในตัวพี่ชายที่หล่อนเคารพรักมันเกินจะทานทนต่อไปแล้ว น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้เริ่มรินไหลออกมาเป็นทาง เอกปวีร์เองก็มองด้วยความเจ็บปวดใจเช่นกัน เขาค่อยๆเอื้อมมือจะไปแตะตัวของคีตภัทรแต่หล่อนก็ขยับหนีห่างไปอีก จนเอกปวีร์ต้องชิดรถเข้าข้างทาง เขาไม่มั่นใจว่าหากเขายังขับรถต่อไปมันจะเป็นผลดีหรือไม่ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอโดยเฉพาะยามที่จิตใจคนขับรถไม่มั่นคงเช่นนี้แต่ผมก็รักคุณจริงๆนะ มันจะแปลกอะไรหากผมจะไม่บอกคุณยังไงผมก็ไม่ทำแบบนายกิตแน่นอนแต่ฉันไม่ชอบ พี่ชายฉันเป็นคนดีน่ารัก ไม่ใช่คนโกหกเช่นคุณคีตภัทรคิดหรือไงว่าผมอยากปิดคุณไว้น่ะ ผมอยากจะบอกแต่ผมไม่รู้จะบอกคุณยังไงนี่หรือค่ะ คีตภัทรถามเพียงแค่นั้นแล้วเงียบไปไม่ยอมพูดอะไรอีกเลยเมื่อคุณไม่ให้อภัยผม ผมก็ควรออกไปจากชีวิตคุณ ใช่สินะ ผมตั้งเงื่อนไขกับคุณไว้เองนี่นาว่า จะยอมเป็นพี่ชายคุณไปจนกว่าคุณไม่ต้องการ วันนี้คุณไม่ต้องการแล้วนี่ผมจะทำไรได้ ผมขอโทษก็แล้วกันที่ปิดความจริงมาตลอดนับตั้งแต่วันที่รู้ว่าคุณคือยัยน้องของผมมันก็ถูกแล้วนี่ค่ะ คีตภัทรบอกออกไปแม้ใจจะเจ็บปวดแม้ใจจะร่ำร้องอยากอยู่ในอ้อมแขนของเขา แต่หล่อนไม่วางใจใครอีกแล้ว ผู้ชายชอบโกหกหลอกลวงหล่อนไม่เชื่ออีกแล้วแล้วเรื่องของเราล่ะไม่มีอีกแล้วค่ะ ก็อย่างที่คุณได้ยินไป ฉันก็แค่ต้องการใครสักคนเท่านั้นเพื่อให้พ้นจากกิตติคีตภัทรบออกไป เจ็บอีกสักครั้งมันคงไม่ทำให้หล่อนถึงกับหมดลมหายใจ ขอบคุณคีตภัทร เอกปวีร์บออกออกมาเพียงคำสั้นๆแล้วขับรถออกไปมุ่งตรงไปยังบ้าน ทันทีที่รถจอดสนิทคีตภัทรก็เปิดประตูรถลงจากรถไปโดยไร้คำร่ำลา เอกปวีร์มองตามไปด้วยความเจ็บปวดรักที่เขาคิดว่าจะอยู่กับเขาต่อไปอีกนานแสนนานจนกว่าลมหายใจสุดท้ายของเขา รักที่เขาคิดว่าจะไม่ด่วนจากไปอย่างคีตภาอดีตภรรยาของเขา จบลงเพียงในเวลาไม่นานเพียงเพราะตัวเขาเองที่ไม่กล้าหาญพอ ไม่นานมานี่เองเขายังยิ้มได้อย่างมีความสุขกับการได้หยอกล้อคีตภัทร ได้เห็นหล่อนทำหน้างอง้ำ งอนเขามันทำให้เขาสุขใจนัก ยิ่งเวลาที่หล่อนเข้าไปฟ้องพี่ชายเวลาที่คุยออนไลน์กันเขายิ่งรู้สึกเป็นสุขใจกับความน่ารักของคีตภัทร แต่ต่อไปนี้มันคงไม่มีอีกแล้ว เมื่อหล่อน บอกกับเขาหลายๆครั้งว่า หล่อนเกลียดเขาเช่นนี้ ..คุณย่า คีตภัทรหันไปยิ้มให้กับคุณย่าที่เดินเข้ามาในห้องของหล่อนพร้อมแก้วนมสดในมือ ยังไม่ง่วงอีกหรือหลานย่า ย่าถามขึ้นพลางวางแก้วนมลงบนโต๊ะ แล้วลูบผมของคีตภัทรด้วยความรักใคร่ยังไม่ง่วงค่ะคุณย่า คีย์เลยเขียนบทความเก็บไว้ ใกล้วันส่งจะได้ไม่ต้องรีบร้อนทำมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าฮึเรา ทะเลาะกับพี่เขาหรือลูก คุณย่าถามขึ้นคีตภัทรหลบสายตาของคุณย่าทันที ก่อนที่จะบอกปฏิเสธขึ้นอย่าโกหกย่า ตั้งแต่กลับมาจากกรุงเทพฯทั้งเราทั้งเอกเปลี่ยนไปเยอะเลยนะคีย์กับคุณหมอ เราไปกันไม่ได้หรอกค่ะคุณย่าทำไมเราถึงคิดแบบนั้นล่ะคีย์.......มีอะไรไม่เข้าใจกันเราก็ควรพูดคุยกันด้วยเหตุและผลนะหลานย่า อย่าเอาเพียงอารมณ์มาตัดสิน ลองคิดถึงสิ่งดีๆที่เอกเคยทำไว้สิ มันคุ้มกันไหมกับการที่หลานย่ากับเอกต้องมาเป็นแบบนี้ตอนนี้คุณย่าพูดเตือนสติขึ้น คีตภัทรพยักหน้าเบาๆ สิ่งดีๆที่เอกปวีร์ทำให้หล่อนนั้นมีมากมายไม่ว่าจะในฐานะพี่ชายที่แสนดีที่หล่อนได้รับเสมอมา หรือฐานะหมอเอกปวีร์ที่หล่อนได้มารู้จักตั้งแต่มาอยู่ที่บ้านของคุณย่า แต่หล่อนไม่พอใจที่เขาไม่ยอมบอกความจริงนี่นา คีย์ค่ะ คุณย่าหลานย่าเจอคนดีๆทั้งคนแล้วนะ อย่าเอาทิฐิมาทำให้ตัวไม่มีความสุขนะลูกค่ะคุณย่า พรุ่งนี้คีย์จะคุยกับคุณหมอ คีตภัทรบอกขึ้นกับคุณย่า นั้นสินะ หากคิดถึงสิ่งดีๆที่เอกปวีร์ทำให้หล่อนแล้วมันมีค่ามากมายกว่าการที่เขาปกปิดความจริงเพียงน้อยนิดเช่นนี้ หากตอนนั้นที่เอกปวีร์รู้ว่าหล่อนคือยัยน้องหนึ่งตะวัน แล้วเขาห่างหายไป ไม่สวมบทบาทพี่ชายที่แสนดีอีกต่อไปมันจะไม่เลวร้ายกว่าหรือหากตอนนั้นเอกปวีร์ไม่มาใส่ใจหล่อนทำมึนตึงกับหล่อนตลอดเหมือนวันแรกที่เจอกันบนรถทัวร์ปรับอากาศ มันจะแย่กว่าตอนนี้ไหมคุณย่าค่ะ คีย์รักคุณย่าค่ะ คีตภัทรบอกกับคุณย่าขึ้นแล้วโผเข้ากอดอย่างไม่อายพรุ่งนี้หล่อนจะไปขอโทษและพูดปรับความเข้าใจกับเขา พรุ่งนี้..........
ขอให้น้องนามีความสุขมากๆเช่นกันนะครับ