หัวใจในม่านหมอก ตอนที่ 6

ตอนที่6
คีตภัทรตื่นแต่เช้า วันนี้หล่อนจะเริ่มทำงานวันแรกในหน้าที่ประชามสัมพันธ์ของโรงพยาบาลไทเวชรักษ์ คีตภัทรส่องกระจกหมุนตัวไปมาเพื่อดูว่าเรียบร้อยพอที่จะไปทำงานหรือยัง หล่อนสวมชุดสูทกางเกงสีฟ้าแบบเรียบๆแต่เก๋ตามสมัยนิยม เป็นแบบฟอร์มที่คีตภัทรค่อนข้างจะชอบมากทีเดียวทั้งสีและรูปแบบที่ดูไม่เชยล้าสมัยเกินไป
“นี่จะส่องกระจกอีกนานไหมครับคุณหลาน” วิศาลแง้มประตูชะโงกหน้ามาถามขึ้นเมื่อเห็นหลานสาวส่องกระจกหมุนไปหมุนมาจนตนเวียนศีรษะแทน
“โธ่อาวิน คีย์ก็อยากดูดีหน่อยสิค่ะ ทำงานวันแรกนะค่ะ”
“ครับ แต่นี่จะแปดโมงแล้วนะครับคุณหลาน ไปสายวันแรกระวังนะเพื่อนอามันจะเอาตาย” วิศาลแกล้งขู่ขึ้น
“เค้าเป็นหมอเกี่ยวอะไรกับงานของคีย์ด้วยล่ะค่ะ”
“แต่มันเป็นเจ้าของโรงพยาบาลนะ ลืมไปแล้วหรือไง”
“ ไม่ลืมค่ะ ใครจะไปกล้าลืม แต่โดยงานเราไม่ได้เกี่ยวข้องกันนี่ค่ะ อาว่าคีย์ดูดีหรือยังค่ะ” คีตภัทรยังไม่วายถามหาความมั่นใจจากอาหนุ่ม
“ก็พอได้ เหมือนเด็กม.ปลายแอบเอาชุดน้ามาสวม”
“โธ่ อาวินน่ะ หาว่าคีย์เป็นเด็กอีกคนแล้วน่ะ”คีตภัทรต่อว่าขึ้น
“ไปเถอะ อาก็แกล้งล้อเล่นล่ะนา หลานอาสวยออกวันนี้ แต่งหน้าแต่งตาแบบนี้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเลย”
“อาว่า ถ้าคนอื่นเห็นเค้าจะเห็นคีย์เป็นเด็กอีกไหมค่ะ” คีตภัทรลองเลียบๆเคียงๆความเห็นอาหนุ่มดู หล่อนไม่อยากเห็นสายตาที่มองมาของเอกปวีร์ที่เห็นตนเป็นเด็ก อยู่เสมอ
“ก็โอเคนะ ทำไมกลัวใครจะว่าหรือไง”
“จะใครค่ะ ถ้าไม่ใช่เพื่อนรักของอาน่ะ” คีตภัทรบอกด้วยเสียงแง่งอนขึ้นมา
“อาว่าถ้ามันเห็นเราวันนี้คงไม่กล้าว่าหรอก” ให้ความมั่นใจกลับหลานสาวไปแล้วได้แต่กังวลใจ เพราะยิ่งคีตภัทรแต่งหน้าแต่งตายิ่งทำให้ดูเหมือนเป็นคนเดียวกับคีตภา เค้ากลัวว่าเพื่อนเค้าจะยิ่งคิดถึงคีตภาเข้าให้มากกว่า

******

“เหมือนมากๆ”นิลุบลเปรยขึ้นเมื่อคีตภัทรเข้ามารายตัว นิลุบลเป็นหัวหน้างานประชาสัมพันธ์ รูปร่างออกท้วมนิดๆ แต่ท่าทางกระชับกระเฉงคล่องแคล่วอย่างไม่น่าเชื่อ คีตภัทรที่คิดว่าตนคล่องแคล่วมากพอแล้วมาเจอนิลุบลเข้าถือว่าชิดซ้ายไปเลยทีเดียว
“เหมือน อะไรหรือค่ะ พี่นิ” คีตภัทรถามขึ้นเมื่อเห็นอาการแปลกๆของหัวหน้างาน
“ก็เธอน่ะสิ วันก่อนที่มาพี่คิดว่าเหมือนกับภาแล้วนะ วันนี้ยิ่งเหมือนอย่างกับคนๆเดียวกันเชียวล่ะ”
“ภา ภรรยาคุณหมอเอกน่ะหรือค่ะพี่” ไหนก็อยากรู้เรื่องภรรยานายจอมดุนั่นอยู่แล้ว คีตภัทรเลยถือโอกาสถามหาความจริงเสียเลย
“ใช่ ภาเค้าเป็นเพื่อนกับฉัน น้องสาวแท้ๆของเค้ายังไม่เหมือนกับเค้าอย่างเธอเลยนะ แน่ใจนะว่าไม่ได้เป็นญาติกับภาน่ะ”
“ค่ะพี่ คีย์เพิ่งรู้ว่าตัวเองมีหน้าตาเหมือนคนอื่นมาก ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักเป็นญาติพี่น้องกัน แปลกดีนะค่ะ”
“ใช่แปลกมากๆเลย เอาล่ะออกไปเตรียมตัวทำงานเถอะ ทุกอย่างที่พี่อธิบายไปเข้าใจหมดแล้วใช่ไหมเมื่อวันก่อน”
“คะพี่ งั้นคีย์ขอตัวนะค่ะ” คีตภัทรออกจากห้องของนิลุบลแล้วเดินไปประจำยังโต๊ะทำ
งานของตนเอง ข้างๆโต๊ะทำงานของตน เป็นโต๊ะของเจนสุดา เพื่อนร่วมงานวัยเดียวกับหล่อน เจนสุดาหันมายิ้มให้อย่างเป็นมิตร ทำให้คีตภัทรค่อยใจชื้นหน่อย อย่างน้อยเพื่อนร่วมงานก็ดูท่าทางจะมีไมตรีจิตที่ดี
งานราบรื่นไปได้ด้วยดีตลอดช่วงเช้า วันนี้มีคนมาใช้บริการไม่มากเท่าไหร่ เป็นโอกาสดีที่ทำให้คีตภัทรได้ปรับตัว
“คีย์ไปทานข้าวก่อนเถอะ เจนไปทีหลังก็ได้” เจนสุดาบอกขึ้นเมื่อเห็นว่าได้เวลาพักกลางวันแล้ว แต่ตนกับคีตภัทรต้องเปลี่ยนกันออกไปทานเพื่อให้อีกคนคอยรับผู้ป่วยที่มาติดต่อ
“งั้นคีย์ไปก่อนนะ”
ภายในโรงอาหารของโรงพยาบาลสะอาดสะอ้าน ไม่มีกลิ่นอายของโรงโรงพยาบาลอยู่เลยทั้งๆที่อยู่ในบริเวณเดียวกันแท้ๆ คีตภัทรเดินสำรวจดูร้านขายข้าวแกง และอาหารตามสั่งที่มีอยู่สี่ห้าร้าน แต่ละร้านล้วนมีอาหารน่ากินทั้งนั้น ส่วนใหญ่เน้นไปทางอาหารพื้นบ้าน ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วเพราะคีตภัทรทานรสจัดได้เป็นอย่างดี เลือกอาหารได้แล้ว คีตภัทรก็มองหาที่นั่ง อาจจะเพราะเป็นช่วงเที่ยงพอดีเลยทำให้ไม่ค่อยมีที่นั่งว่าง มากนัก คีตภัทรมองไปเห็นโต๊ะมุมสุดว่างอยู่ก็รีบเดินไปทันที แต่พอวางจานข้าวก็ปรากฏว่าอีกฟากของโต๊ะก็มีคนกำลังวางจานข้าวเช่นกัน
“คุณ” ต่างคนต่างมองหน้ากัน คีตภัทรจะยกจานข้าวกลับทันทีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
“จะไปไหนอีกล่ะ ที่ว่างก็นั่งไปสิ”เอกปวีร์บอกขึ้น พลางจ้องมองสาวน้อยตรงหน้า วันนี้หล่อนดุแปลกตาไปเยอะทีเดียว
“มองอะไรน่ะคุณ” คีตภัทรถามขึ้นเมื่อวางถาดข้าวลงแล้วดึงเก้าอี้ออกนั่ง แต่เอกปวีร์กลับเอาแต่มองตนไม่ยอมละสายตา
“หึหึ ก็มองเด็กเอาชุดทำงานมาสวมเล่นน่ะสิ ถามได้”
“คุณหาเรื่องกันอีกแล้วนะ”คีตภัทรต่อว่าออกไปเสียงค่อนข้างดังเอกปวีร์ส่งสายตาปรามให้ทันที
“ทำไม ผมเห็นยังไงก็บอกอย่างนั้น แย่นะคุณมาทำงานแล้ว นาเดียขาดเพื่อนเล่นไปเลยยิ่งปิดเทอมอยู่ด้วยสิ”
“ไม่เห็นเป็นไรค่ะ เลิกงานเราก็ยังเจอกันได้ ว่าแต่คุณเถอะ น่าจะหาเวลาให้แกบ้างเอาแต่ทำงานไม่สนใจลูก” คีตภัทรได้ทีแขวะเข้าให้
“ผมให้ของผมอยู่แล้ว เป็นไงล่ะทำงานคิดว่าไหวหรือเปล่า” เอกปวีร์ถามขึ้นเป็นการเป็นงานขึ้นมา
“ก็ดีค่ะ มีเพื่อนและพี่ร่วมงานดีๆ ไม่คอยหาเรื่องกันอย่างใครบางคน”
“ก็ดี บอกไว้ก่อนนะ ผมไม่ชอบคนทำอะไรเล่นๆ หากคิดว่าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องฝืนทำ ถ้างานออกมาไม่ดี คนไข้ร้องเรียนล่ะก็ ผมไม่เอาคุณไว้แน่”
“แน่นอนค่ะ คีตภัทรซะอย่าง ถ้าทำก็หมายความว่าทำ ไม่มีเล่นแน่นอนไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม” แววตามุ่งมั่นที่เผยให้เห็น ทำให้เอกปวีร์นึกชื่นชม แต่เขาไม่มีวันเอ่ยบอกให้หล่อนดีใจเล่นหรอก
“ทานได้แล้ว กลับเข้าทำงานสายผมสั่งให้คุณนิตัดเงินดือนคุณแน่”
“อะไรน่ะ ก็คุณมาชวนฉันคุยเองนะ” คีตภัทรบ่นพึมพำ เอกปวีร์ส่งสายตาดุเข้าให้ คีตภัทรเลยนั่งทานไปเงียบๆ อาหารตรงหน้ารสชาติมันก็ดี ถ้าไม่มีนายนี่มานั่งคุมเหมือนเป็นนักโทษอย่างนี้มันคงอร่อยกว่าเยอะเลย รู้แบบนี้ให้เจนสุดาออกมาก่อนก็คงดี
“วินบอกว่ามาส่งคุณเมื่อเช้า แต่มันติดสอนภาคค่ำ ตอนเย็นก็รอที่หน้าตึกละกัน จะได้กลับด้วยกัน”
“ไม่เป็นไรฉันกลับเองได้ค่ะ”
“นี่เวลาสั่งอะไรก็ทำตาม โดยที่ไม่มีข้อแย้งได้ไหม รำคาญ” เอกปวีร์บอกก่อนที่จะลุกออกจากโต๊ะไป ฉันไม่ใช่ลูกสาวคุณนะตาบ้า สั่งได้สั่งดี
แต่ท้ายที่สุดตอนเย็นคีตภัทรก็จำต้องมายืนรอเอกปวีร์ที่หน้าตึก เพราะทั้งคุณปู่คุณย่า และวิศาลโทรมาสั่งกำชับให้ตนกลับบ้านพร้อมกับเอกปวีร์ หากตนกลับเสียเอง คงโดนทุกคนต่อว่าให้เป็นแน่
“อ้าว ก็เปิดประตูขึ้นมาสิคุณ ยืนรออะไรอีกล่ะ จะให้ผมลงไปเปิดให้หรือไง” เอกปวีร์ถามขึ้นเมื่อคีตภัทรยืนเฉยไม่ยอมเปิดประตูขึ้นรถมา
“ฉันไม่กล้าใช้เจ้าของโรงพยาบาลหรอกค่ะ”
“อืม ก็ดีที่รู้ตัว”
ระยะทางระหว่างโรงพยาบาลและบ้านห่างกันประมาณห้ากิโลเมตร ถนนเลียบชายฝั่งทะเล บรรยายกาศยามเย็นทำให้สดชื่นยิ่งนัก คีตภัทรเลยนั่งมองแต่ทะเลไม่สนใจคนขับ
“ไม่เคยเจอทะเลหรือคุณ” เอกปวีร์ถามขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างรถ
“อะไรน่ะ คนกำลังมีความสุขนะอย่ามาขัดกันได้ไหม”
“เฮ้อ...เด็กก็งี้ อยากลงเล่นไหมล่ะผมจะจอดรถให้”
“บ้าสิคุณ ใครจะเล่นน้ำทะเลในชุดทำงานล่ะ ไว้กลับไปเปลี่ยนชุดก่อนดีกว่า ค่อยออกมา อ๋อ ฉันขอพานาเดียมาด้วยนะ”
“หึหึ สงสัยเล่นคนเดียวไม่สนุกล่ะสิท่า เลยต้องพาเพื่อนรักมาด้วย”
“เพื่อนรัก?”
“อืม ใช่ นาเดียไง เพื่อนรักคุณไม่ใช่หรือไงล่ะ” แววตาที่มองมาของเอกปวีร์ ทำให้คีตภัทรหน้างอทันที ตาบ้านี่หาว่าฉันอายุ6ขวบมันน่านัก
“แล้วผมจะให้แกแต่งตัวรอนะ แต่คุณต้องดูแลแกให้ดี ห้ามพาแกไปเล่นไกลชายฝั่ง ห้ามทิ้งให้แกเล่นคนเดียวโดยไม่มีคุณอยู่ใกล้ๆ”
“นี่ ฉันว่านะ คุณไปด้วยไม่ดีกว่าหรือ จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
“ผมไม่ว่างพอหรอกนะคุณ คืนนี้มีงานเลี้ยงต้องไปอีก ถ้าว่างผมไม่ปล่อยให้แกไปตามลำพังกับคุณหรอก”
คีตภัทรอยากจะถามยิ่งนักว่าหากไปกับหล่อนตามลำพังมันจะเป็นอะไรนักหนา แต่ไม่อยากต่อปากต่อคำกับเอกปวีร์ให้มากความ คนไม่เชื่อถือกันมันคงยากที่จะเปลี่ยนความคิด







Create Date : 01 กันยายน 2550
Last Update : 1 กันยายน 2550 20:25:31 น. 5 comments
Counter : 370 Pageviews.

 

แปะโป้งไว้ก่อนนะคะ..
พรุ่งนี้จะมาอ่าน


โดย: ไลเดเลีย วันที่: 2 กันยายน 2550 เวลา:23:27:33 น.  

 
ได้เสมอค่ะ เมื่อไหร่ก็ได้ ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 2 กันยายน 2550 เวลา:23:51:20 น.  

 
แวะมาบอกว่าอ่านแล้วตั้งแต่เมื่อวาน
แต่เม้นไม่ได้อ่ะคะ..อยากไปทานข้าวกับน้องคีย์จัง
จะได้เจอกับคุณหมอ..อิอิ


โดย: ไลเดเลีย วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:12:59:14 น.  

 
อ่ะๆ พระเอกใครพระเอกมันสิค่ะ คุณไลเดเลีย หรือว่ามาแลกกัน ...อิอิ


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:14:36:53 น.  

 
..แวะมาอ่านครับ...


โดย: big-lor วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:16:51:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มัยดีนาห์
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]





เช็คหลังไมค์มัยดีนาห์
Color Codes ป้ามด
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
1 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add มัยดีนาห์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.