หัวใจในม่านหมอกตอนที่ 19
คีตภัทรนั่งมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ ในที่สุดหล่อนก็ต้องเดินทางกลับมายังบ้านคุณย่าพร้อมกับเขา เมื่อเขาได้รายงานทุกอย่างให้พ่อและแม่ของหล่อนรู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
เป็นอะไรไปน่ะคุณ
เอกปวีร์ถามขึ้นเมื่อละสายตาจากหนังสือนิตยสารในมือมองมายังคีตภัทร ที่เอาแต่ทำหน้าไม่พออกพอใจตนตั้งแต่ขึ้นเครื่องบินมา
เปล่า
เปล่าอะไรก็เห็นอยู่ว่าไม่พอใจผม อยากอยู่ให้นายนั่นกอดให้อีกหรือไง
เอกปวีร์ถามออกไปใบหน้าที่ก้มมาชิดใบหน้าหล่อนทำให้คีตภัทรขยับออกห่างทันที
คีตภัทรอยากบอกออกไปว่าหล่อนไม่ชอบใจนักที่เขาทำกับหล่อนแบบนี้ มันคือบังคับไม่ให้หล่อนได้มีโอกาสแก้ตัวใดๆ ไม่ให้โอกาสหล่อนเลือกว่าหล่อนอยากจะเอายังไง แต่พอดีที่เจ้าหน้าประกาศให้เตรียมตัวเพื่อเครื่องบินจะลงจอดสู่สนามบิน ทำให้คีตภัทรเลือกที่จะนิ่งเฉยไม่โต้ตอบใดๆ
พี่เอกค่ะ
เสียงเรียกที่ดังมาทำให้ทั้งคู่ซึ่งกำลังเดินออกมาจากอาคารผู้โดยสารหยุดชะงักไปทันที
น้องดา มาทำอะไรที่นี่ครับ
เอกปวีร์ถามออกไป ลอบมองไปยังคีตภัทรที่ยืนอยู่ข้างๆตน คีตภัทรยังคงมีสีหน้าเฉยเมย เช่นเดิม
น้องดาไปหาน้องเดียร์มาน่ะค่ะ คุณแม่บอกว่าพี่กลับมาเที่ยวบินนี้ดาก็เลยอาสามารับค่ะ
ดาริกาบอกแล้วปรี่เข้าไปช่วยถือกระเป๋าเอกสารจากเอกปวีร์
ไม่เป็นไรน้องดา พี่ถือเองดีกว่านะ คีย์ กลับกับน้องดากันนะ
เอกปวีร์หันไปบอกกับคีตภัทรที่ยืนนิ่งอยู่ข้างเขา
อ้าว เธอ มาแต่เมื่อไหร่น่ะ ขอโทษนะไม่ทันมอง ดาริกาถามขึ้นสีหน้าหมางเมิน
ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมากับคุณหมอน่ะแหละ สงสัยคุณสายตาจะไม่ดีมั้งค่ะ หรือว่าสายตามีไว้โฟกัสเฉพาะผู้ชาย
คีตภัทรตอบแล้วถามกลับไป ทำเอาเอกปวีร์เริ่มปวดหัวขึ้นมาทันที
นี่เธอ
ทำไม คีตภัทรถามกลับพร้อมเอาเรื่องทีเดียว
คีย์
เอกปวีร์เรียกขึ้นแล้วส่ายหน้าห้าม คีตภัทรเลยหยุดไว้เพียงแค่นั้น เพราะไม่อยากจะต่อความใดๆ หล่อนอยากกลับบ้านไปนอนเอาแรงมากกว่า
คุณกลับไปกับคุณดาก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันนั่งรถกลับไปเอง
ไม่ได้ กลับไปด้วยกันนี่แหละ
ไม่ค่ะ อย่ามาบังคับฉัน ฉันไม่ชอบนะคีตภัทรบอกเขาแล้วเดินไปทันที
ปล่อยเขาไปเถอะค่ะพี่เอก เราไปกันเถอะค่ะ
ดาริกาบอกขึ้นแล้วคว้าแขนเอกปวีร์มาคล้องเดินไปอีกฟากประตูทางออก ในขณะที่เอกปวีร์เหลียวมองคีตภัทรด้วยความห่วงใย
................
พี่คีย์
เสียงแจ๋วๆของนาเดียที่ส่งเสียงเรียกหล่อนแล้วรีบวิ่งปรี่เข้ามากอด ทำให้ใบหน้าที่ยังคงมึนตึงเอกปวีร์เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มให้เด็กน้อย แต่พอเห็นสายตาเอกปวีร์ที่มองเขาคีตภัทรก็หุบยิ้มไปทันที
สงสัยไปกินรังแตนมามั้งลูก เอกปวีร์แหย่ขึ้นเมื่อเห็นลูกสาวทำหน้างง
ใช่ค่ะ รู้แล้วก็อย่าพูดมาก ฉันมาหาน้องเดีย ใครรู้ตัวว่าไม่เกี่ยวก็เชิญค่ะ
นี่คุณ
ทำไม
โอยยยยยยยย อะไรกันค่ะเนี่ยะ ไหนคุณพ่อบอกว่าพี่คีย์จะมาเป็นคุณแม่ของน้องเดียไงค่ะ ทำไมยังทะเลาะกันอีกละค่ะ
นาเดียถามขึ้น คีตภัทรเลยมองเอกปวีร์ทันที
ผมบอกลูกไปแล้ว ทำไมล่ะไม่เห็นเป็นไรเลย เอกปวีร์บอกกับหล่อนแล้วถามขึ้น
พี่เอาของขวัญมาให้ตามสัญญาค่ะน้องเดีย คีตภัทรเลิกสนใจเอกปวีร์หันไปบอกกับนาเดียแทน
เย้ๆๆๆๆๆๆ พี่คีย์ใจดีที่สุดเลย
นาเดียบอกขึ้นแล้วรีบยื่นมือจะเอากล่องตุ๊กตาบาร์บี้ในมือของคีตภัทร
ทำยังไงก่อนค่ะคนดี
ขอบคุณค่ะพี่คีย์ นาเดียรีบยกมือไหว้คีตภัทรเมื่อนึกได้ว่าลืมไปเมื่อตะกี้ เก่งมากๆ ว่าแต่น้องเดียซนดื้อกับคุณย่าหรือเปล่าค่ะ
ไม่เลยค่ะ น้องเดียเป็นเด็กดีมากๆเลยค่ะ
นาเดียบอกขึ้นทำเอาเอกปวีร์หมั่นไส้ แกล้งหยิกแก้มของลูกสาวที่เดินมานั่งลงข้างตนทันที
คุณพ่ออ่ะ น้องเดียไม่ได้ดื้อจริงๆนะค่ะ นาเดียร้องประท้วงผู้เป็นพ่อทันที
ครับก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่นา ลูกสาวพ่อน่ารักพ่อรู้ เอกปวีร์บอกขึ้นแล้วมองไปยังคีตภัทร
มองอะไร คีตภัทรถามขึ้นทันที
มองเด็กดื้อ เอกปวีร์บอกขึ้นทำไม่รู้ไม่ชี้
บ้า
อ้าว พูดดีๆนะคุณ ดื้อแล้วยังจะงอนเก่งอีกน่าเบื่อจริงๆ
เอกปวีร์แกล้งต่อว่าเข้าให้ คีตภัทรมองด้วยสายตาขุ่นทันที
น้องเดียพี่กลับละนะ
อ้าวพี่คีย์ ทำไมล่ะค่ะเล่นกับน้องเดียก่อนนะค่ะ น้องเดียคิดถึงพี่คีย์มาหลายวันแล้วนะค่ะพี่คีย์นะๆๆๆ
แต่
นะค่ะ น้องเดียรับรองคุณพ่อจะไม่แกล้งพี่คีย์อีก ใช่ไหมค่ะคุณพ่อ
นาเดียบอกกับคีตภัทรแล้วหันไปขอคำมั่นจากผู้เป็นพ่อ
พ่อไม่เกี่ยวนะครับลูก
ไม่รู้ล่ะ ก็คุณพ่อทำให้พี่คีย์โกรธจนไม่อยากเล่นกับน้องเดียนี่นา รับปากกับน้องเดียก่อนว่าจะไม่แกล้งพี่คีย์ เร็วๆค่ะ
ครับคุณลูกรัก พ่อจะไม่แกล้งก็ได้
เอกปวีร์รับปากลูกสาวไปแต่กลับส่งสายตาแพรวพราวไปยังคีตภัทร บ้า คีตภัทรบ่นพึมพำเบาๆ เมื่อเห้นสายตาที่มองมายังตน ทำให้เอกปวีร์หัวเราะชอบใจทันที ชีวิตชีวาที่กำลังเริ่มสดใสขึ้นมาอีกคราเมื่อเขามีสาวน้อยแสนซนอย่างคีตภัทรเดินเข้ามาในชีวิต เขาอยากเก็บมันไปอย่างนี้อีกนานเท่านานเสียจริงๆ
ฝากดูนาเดียด้วยนะคุณ ผมจะไปเคลียร์งานหน่อย เอกสารต่างๆรออยู่เป็นตั้งเลยหายไปไม่กี่วัน
ค่ะ ให้ฉันช่วยไหม
ใครจะช่วยนะพูดใหม่ซิ
ก็ฉันนี่แหละ หูไม่ได้หนวกสักหน่อยไมใช่หรอคุณ
ไม่ได้หนวกแต่ต้องบอกว่า ให้คีย์ช่วยไหมสิ ไหนสัญญาว่าจะแทนตัวเองว่าคีย์กับผมไง
ก็ .....จะให้ช่วยไหมล่ะ
คีตภัทรถามขึ้น หล่อนมีน้ำใจถามมันก็น่าจะพอแล้วนี่ ยังจะเรื่องมากอีก หล่อนยังงอนอยู่นะตาหมอบ้า
ไม่ต้องหรอก อยู่เป็นเพื่อนน้องเดียไปเถอะ เที่ยงๆจะพาออกไปทานข้าวนอกบ้านนะ เอกปวีร์บอกขึ้นแล้วลุกเดินไปยังห้องทำงาน
......................
หิวกันหรือยังครับ
ค่ะคุณพ่อ ไปทานก๋วยเตี๋ยวกันนะค่ะ นาเดียรีบเสนอเมนูขึ้นทันที
ว่าไงคุณ อยากทานอะไรล่ะ
เอกปวีร์ถามคีตภัทรที่กำลังช่วยนาเดียเก็บของเล่นเข้ากล่อง
ก็แล้วแต่คนจ่ายเงินสิ
คีตภัทรบอกขึ้น ทำให้เอกปวีร์ยิ้มออกมาทันที ยัยงก งอนแล้วยังจะงกอีกนะ
งั้นเอาเมนูตามที่น้องเดียเสนอ อืม เอารถคุณไปนะ
ตามใจสิ
ชอบจัง อะไรๆก็ตามใจผมนี่ อ้าวแล้วจะไปไหนละคุณ
เอกปวีร์รีบร้องถามเมื่อจู่ๆคีตภัทรก็ลุกเดินออกจากห้องนั่งเล่นไป
ไปเอารถมาให้น่ะสิ หิวแล้วนะ บ่ายโมงแล้วเห็นไหม
ก็ไปกันเลยสิ ไปครับน้องเดีย เดี๋ยวพี่คีย์โมโหหิวเอา
กอดเอวผมแน่นๆนะคุณ
เอกปวีร์แหย่ให้เมื่อคีตภัทรนั่งซ้อนท้ายตนเรียบร้อยแล้ว คีตภัทรเลยทุบให้ด้วยกำปั้นด้วยความหมั่นไส้ แต่เอกปวีร์กลับหัวเราะชอบใจไม่คิดเอาความใดๆกลับหล่อน
หลังจากทานก๋วยเตี๋ยวไปตามคำร้องขอของลูกสาวตัวน้อย เอกปวีร์ก็พาทั้งคู่ขี่รถเล่นริมชายหาด อย่างที่เคยทำประจำในพักหลัง
คุณพ่อขา เล่นน้ำทะเลนะค่ะ
ว่าไงคุณ มีธุระที่ไหนหรือเปล่านาเดียอยากเล่นน้ำน่ะเขาถามหญิงสาวที่ซ้อนท้ายรถขึ้น
ไม่มีค่ะ ให้แกเล่นเถอะ
อืม เดี๋ยวผมหาที่จอดที่ร่มๆหน่อยละกัน
หลังจากได้ที่จอดรถแล้วนาเดียก็วิ่งไปลงเล่นน้ำทะเลทันที เอกปวีร์ยืนมองลูกสาวด้วยรอยยิ้ม โดยมีคีตภัทรยืนอยู่ข้างๆเขานั่นเอง
เวลาผมเห็นนาเดียมีความสุข ผมคิดว่าโลกนี้ผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
มันก็น่าหรอกค่ะ ใครบ้างเห็นลูกมีความสุขแล้วจะไม่สุขใจตาม
แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้วล่ะ
ค่ะ? คีตภัทรถามขึ้นมองหน้าเขาด้วยความสงสัยขึ้นมา คนเป็นพ่อเห็นลูกมีความสุขอย่างที่เขาบอกมันก็ถูกแล้วนี่นา แล้วทำไมเขาถึงบอกว่าตอนนี้เขาเปลี่ยนใจเสียล่ะ
ผมเปลี่ยนใจเมื่อเจอคุณ นาเดียมีความสุขมากขึ้นเมื่อมีคุณอยู่ใกล้ๆ แล้วผมเองก็มีความสุขยามที่มีคุณ ผมเคยคิดว่าไม่ต้องการอะไรแต่ตอนนี้คุณกลับเป็นสิ่งที่ผมต้องการมานานหลังจากที่แม่ของนาเดียเสียไป เข้าใจไหมคีตภัทร
คีย์ ก็สุขใจนะที่มีคุณ คีตภัทรเผลอบอกออกไป เอกปวีร์หันมามองจ้องหล่อนทันที
แล้วโกรธอะไรผมหรือครับคนดี ตั้งแต่นั่งเครื่องกลับมาแล้วนะ คุณเอาแต่ตั้งแง่กลับผมตลอดเลย
ก็ฉันไม่ชอบใจนี่นาที่คุณทำเหมือนมาบงการชีวิตฉันตลอดเวลา ฉันไม่อยากกลับมาพร้อมคุณ คุณก็ไม่ฟังกันบ้างเลย แถมกลับมายังมาเจอคุณดาริกาอีกเซ็งเป็นบ้าเลย
หืม หึงหรือไง
บ้าสิใครหึง
ก็คุณน่ะสิ ผมไม่ได้คิดอะไรกับน้องดาจริงๆนะ
คำก็น้องดาสองคำก็น้องดา ทีกับคีย์เรียกคุณตลอด คีตภัทรต่อว่าให้
โธ่คุณ ก็ผมรู้จักน้องดามาตั้งแต่น้องดายังเด็กๆ เรียกมาแบบนั้นตลอดนี่นา อย่างอนไปเลยนา นะครับ
คีตภัทรพยักหน้าให้ยอมรับ เอกปวีร์จึงบอกขึ้น
ผมเป็นห่วงคุณ ไม่อยากให้นายนั่นมาหาเรื่องคุณอีก ไม่ใช่ว่าผมอยากบงการอะไรคุณหรอกนะคนดี เข้าใจผมนะครับ
อื้ม
อื้ม อะไร
ก็เข้าใจไง จะให้พูดอะไรอีก เป็นผู้ใหญ่แล้วทำไมชอบเข้าใจอะไรยากจริงนะคุณ
คีตภัทรถามขึ้นแล้วหัวเราะออกมาด้วยความขำเมื่อเห็นสีหน้าเอกปวีร์ที่มองมา
ฉันอยากเจอพี่ชายจังเลยค่ะ ฉันอยากบอกเขาว่าไม่ต้องห่วงฉันแล้ว ตอนนี้ฉันมีคุณที่วางใจได้ว่าจะดูแลฉันได้อย่างที่เขาต้องการ
คุณอยากเจอจริงๆหรอ
จริงสิค่ะ ฉันอยากรู้ว่าพี่ชายที่แสนจะลึกลับแต่เป็นคนน่ารักมากๆในความรู้สึกฉันเป็นคนแบบไหน หน้าตาจะเป็นยังไง
ผมกลัวว่าคุณจะผิดหวังเอาน่ะสิ หากได้เจอเข้า
เอกปวีร์บอกขึ้นอย่างเป็นกังวลใจ เขาจะบอกอย่างไรดีนะว่าเขานี่แหละพี่ชายของหล่อน คนที่หล่อนรักและเทิดทูนนักหนา
ไม่หรอก คีย์ใจกว้างจะตาย ต่อให้พี่ชายหน้าตาไม่หล่อเหลา ตัวดำ อ้วนผอมยังไงคีย์ก็รับได้
บางที มันอาจจะมากกว่านั้นนะคุณ
ต่อให้พิการตาบอดหูหนวกฉันก็ไม่รังเกียจค่ะ ว่าแต่คุณหมอ รู้หรือไงว่าพี่ชายฉันคือใคร
คีตภัทรถามเอกปวีร์ขึ้นพลางมองหน้าอย่างค้นคว้าจะหาคำตอบ
เขาทำงานอะไรล่ะ
เป็นหมอค่ะ แต่ที่ไหนฉันไม่รู้หรอก เขาไม่ยอมบอกอะไรเลย
งั้นหรือ อืม ผมอาจจะรู้จักนะ คนในวงการเดียวกันนี่
จริงสิ คุณหมอสืบให้คีย์หน่อยนะค่ะ นะค่ะถ้ารักคีย์จริงตามใจคีย์หน่อยนะ
เจอลูกอ้อนของหญิงสาวเข้าเอกปวีร์ก็เลยได้แต่อ้ำอึ้ง
คุณหมอใจร้าย ไม่อยากให้คีย์มีความสุขใช่ไหม
เปล่านะ แต่ผมจะสืบได้ไงล่ะ ในเมื่อคุณไม่รู้อะไรสักอย่างแบบนี้
เอกปวีร์ถามขึ้นยิ่งพูดก็ยิ่งผูกปมที่เขาสร้างขึ้นมา เขาจะแก้มันไหวไม่นี่
งั้นช่างมันเถอะ
ไม่โกรธอีกนะ
ค่ะ
ดีมากค่อยน่ารักหน่อย เรียกน้องเดียกลับได้แล้วมั้งผมว่าเดี๋ยวค่ำๆผมต้องเข้าไปโรงพยาบาลหน่อย
มีนัดคนไข้หรือค่ะ
ครับ นัดไว้จะคุยเรื่องที่จะทำการผ่าตัดน่ะ คงกลับไม่ดึกมากหรอก แต่ยังไงผมฝากเอานาเดียเข้านอนด้วยนะคนดี
ค่ะ
คีตภัทรรับปากออกไป หล่อนเต็มใจที่จะทำอะไรเพื่อนาเดีย ไม่ใช่ว่าเพราะพ่อของนาดีย แต่เพราะหล่อนรู้สึกถูกชะตากับเด็กน้อยคนนี้อย่างบอกไม่ถูก
..........
ทำอะไรค่ะคนเก่ง
คีตภัทรเปิดประตูห้องนอนของเอกปวีร์ที่หล่อนสามารถเข้าออกได้เสมือนหนึ่งคนในครอบครัวของบ้านนี้ พลางถามนาเดียซึ่งนักเล่นอยู่บนเตียงนอน มีสมุดระบายสี และกล่องสีกล่องใหญ่วางอยู่ข้างๆ
น้องเดียหัดอ่านนิทานค่ะพี่คีย์
นาเดียบอกขึ้น คีตภัทรเดินไปนั่งลงที่ขอบเตียงใกล้ๆกับที่นาเดียนั่ง แล้วให้นึกแปลกใจเพราะสิ่งที่นาเดียถือมันเหมือนกับสมุดจดบันทึกอะไรมากกว่าหนังสือนิทานของเด็ก
ไหนพี่คีย์ขอดูหน่อยได้ไหมค่ะ
คีตภัทรบอกขึ้นนาเดียจึงยื่นให้ด้วยความไร้เดียงสาคีตภัทรรับมาแล้วก็เห็นชัดว่าเป็นสมุดไดอารี่ พึ่งจะรู้ว่าคุณหมอเอาการเอางานอย่างเอกปวีร์จะมีเวลาเขียนไดอารี่กับเขาด้วย ไหนๆก็อยู่ในมือแล้วหล่อนขอเปิดหน่อยละกัน คิดได้ดังนั้น คีตภัทรก็เปิดสมุดไดอารี่ของเอกปวีร์ออกอ่านอย่างถือวิสาสะ ซึ่งมันทำให้คีตภัทรต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
วันนี้คุยกับยัยน้องหนึ่งตะวัน ทำให้ยิ้มได้อีกแล้ว
เด็กอะไรกวนบาทาจริงๆเลย
ยัยหนึ่งตะวันสร้างเรื่องให้เราต้องไปช่วยคิดอีกแล้ว
กลับมาจากโรงพยาบาล ก็เจอข้อความยาวเหยียดที่ยัยหนึ่งตะวันฝากไว้ ทำให้หายเหนื่อยได้เลยวันนี่
คีตภัทรไล่อ่านไปทีละข้อความๆ ด้วยความรู้สึกที่ตบตีกันอยู่ภายในใจโกรธที่เขาหลอกลวงหล่อนมาเนิ่นนานโกรธที่เขาไม่ยอมบอกความจริง ดีใจที่หล่อนเจอคนที่หล่อนค้นหามาแสนนาน
พี่คีย์ เสียงนาเดียที่เรียกขึ้นทำให้คีตภัทรมองหน้านาเดียงงๆ
เล่านิทานให้น้องเดียฟังหน่อยนะค่ะ
พี่รู้สึกปวดหัวจังเลยค่ะน้องเดีย เดี๋ยวน้องเดียให้พี่ปลาเล่าให้ฟังนะค่ะ พี่ขอกลับไปทานยาก่อนนะค่ะ
พี่คีย์ไม่สบายหรือค่ะ ดูสิหน้าซีดเชียว
ค่ะ น้องเดียอย่าดื้อกับพี่ปลานะค่ะ พี่กลับก่อนนะค่ะ
ค่ะ แล้วเดียจะบอกคุณพ่อให้นะค่ะว่าพี่คีย์ไม่สบาย
ไม่ต้องหรอกค่ะ พี่กลับนะค่ะ
คีตภัทรบอกแล้วขอตัวออกจากห้องนอนของเอกปวีร์มาทันที
น้องเดียหลับแล้วหรือคุณ
เอกปวีร์กลับมาพอดีถามขึ้นเมื่อเจอคีตภัทรที่หน้าบ้าน แต่แทนที่จะได้รับคำตอบเขากลับได้รับความหมางเหมินจากใบหน้านวลที่เขาชอบมองบ่อยแทน เอกปวีร์นิ่วหน้าขึ้นอย่างไม่พอใจทันที คีตภัทรเป็นอะไรไปอีก
มีอะไรอีกหรือ น้องเดียดื้อกับคุณหรือไง
คนโกหก
คีตภัทรต่อว่าแล้วฟาดฝ่ามือลงที่ใบหน้าเขาทันทีด้วยความโกรธ เอกปวีร์ถึงกับรู้สึกชาไปทั่วใบหน้า รอยยิ้มที่เขามีกลายเปลี่ยนไปเป็นแววตาไม่พอใจ
เป็นบ้าอะไรไปคีตภัทร เขาถามขึ้นเสียงกร้าวทันที
คุณนั่นแหละเป็นบ้าอะไร สนุกมากหรือไงที่ทำกับฉันแบบนี้น่ะ ฉันเกลียดคุณ คนบ้าไปให้พ้นเลย
คีตภัทรบอกแล้ววิ่งกลับเข้าบ้านตัวเองไปทันที ในขณะที่เอกปวีร์มองตามด้วยความงง เขาไม่เคยเห็นคีตภัทรเป็นแบบนี้
เอก มีอะไรหรือทะเลาะอะไรกับยัยคีย์หรือลูก
พ่อกับแม่ได้ยินเสียงดังเข้าไปในบ้านเลยเดินออกมาดูแต่ก็ทันเพียงเห็นคีตภัทรวิ่งกลับเข้าบ้านไป
ผมไม่ทราบครับ
เอกปวีร์บอกขึ้นแล้วขอตัวเข้าบ้านไปทันที พ่อกับแม่เลยได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วง
เอกปวีร์เดินเข้ามานั่งข้างๆลูกสาวที่ปลาพี่เลี้ยงบอกว่าเพิ่งหลับไปไม่นาน เขากำลังมึนงง กับท่าทีของคีตภัทร มันเกิดอะไรขึ้นกับคีตภัทรกันแน่ คนหลอกลวง ที่หล่อนว่าเขาคืออะไร หรือว่า เอกปวีร์คิดได้เช่นนั้นก็ลุกไปดูสมุดเขียนไดอารี่ของตนทันที
ปลา มีใครมาเล่นอะไรที่โต๊ะทำงานผมหรือเปล่า
ค่ะ ปลาเห็นน้องเดียหยิบสมุดเล่มสีดำนั่นมานั่งดูอยู่ค่ะ ทำไมหรือค่ะคุณเอก
แล้วคีตภัทรล่ะ
ปลาไม่ทราบค่ะ ตอนคุณคีย์มา ปลาลงไปเอานมมาให้คุณนาเดียค่ะ เธอลงไปตามปลาบอกว่าปวดหัวให้ปลารีบขึ้นมา มีอะไรหรือค่ะคุณเอก ปลาถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของเอกปวีร์ที่เผือดไปอย่างเห็นได้ชัด
ลงไปได้แล้ว
เอกปวีร์สั่งขึ้นน้ำเสียงเฉียบขาดปลาเลยรีบเดินออกไป เอกปวีร์รีบเปิดเครื่องคอมพ์คู่ใจ ออนไลน์ทันที แต่เหมือนว่าเขาจะช้าไปเสียแล้ว คีตภัทรได้ทำการบล็อกรายชื่อเขาไป เขาไม่สามารถจะคุยกับหล่อนผ่าน MSN เอกปวีร์ตบโต๊ะเสียงดังด้วยความหงุดหงิด เพราะเขาไม่กล้า เพราะเขาหลอกลวงอย่างที่คีตภัทรประณาม คีตภัทรคงโกรธเขามาก
เอกปวีร์มองไปยังห้องนอนของหล่อนที่ไฟยังสว่างอยู่ แต่เมื่อเดินไปดูที่ระเบียง เขาก็เห็นคีตภัทรปิดผ้าม่านไปทันที
เอกปวีร์กลับมานั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์อย่างหมดแรง เขาไม่โกรธทีคีตภัทรตบหน้าเขา ตอนนี้เขาอยากคุยอธิบายทุกอย่างให้หล่อนเข้าใจโดยเร็วที่สุด แล้วจู่ๆก็มีเมลล์เข้ามา เอกปวีร์รีบเปิดเข้าไปอ่านทันทีเมื่อเห็นว่ามาจากคีตภัทร
ฉันไม่มีพี่ชายที่แสนดีอีกแล้ว ต่อไปนี้ยัยน้องจะไม่มีอีกต่อไป น้องไม่ต้องการพี่ชายอีกแล้ว ขอบคุณที่หลอกลวงกันมาตลอด
เอกปวีร์รู้สึกปวดร้าวในใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเห็นข้อความดังกล่าวในเมลล์คีตภัทรส่งมาหา
พี่ขอโทษ ขอโทษที่ไม่ยอมพูดความจริงตั้งแต่แรกที่รู้ว่าน้องสาวพี่คือใคร แต่พี่ยังเป็นพี่ชายของน้องนะหนึ่งตะวันของพี่ อย่าโกรธเกลียดพี่ได้ไหม พี่ขอร้อง
เอกปวีร์พิมพ์ตอบกลับไป หวังอยากให้คนอ่านใจอ่อนแก่เขา ทั้งๆที่รู้ว่ามันยากที่จะหวัง ดวงใจที่เขาเฝ้าดูแลมาเนิ่นนานกว่าห้าปี กำลังจะหลุดลอยจากเขาไปในค่ำคืนนี่ ซึ่งทั้งหมดเพราะเขาคนเดียว
Create Date : 08 ธันวาคม 2550 |
|
12 comments |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 20:19:46 น. |
Counter : 499 Pageviews. |
|
|
|