คีตภัทรกำลังส่งเมลล์งานชิ้นสุดท้ายไปยังสำนักพิมพ์ พลันก็มีเสียง MSN เข้ามาทักทายตน ทำให้รู้สึกแปลกใจยิ่งนัก เพราะเป็น MSN จากพี่ชายที่เข้ามาทักทาย ปกติแม้จะเป็นวันหยุดแต่พี่ชายไม่เคยมาออนไลน์ให้ได้เห็นหน้าเห็นตานี่นาสวัสดีค่ะพี่ชาย มาได้ไงค่ะ ตกใจหมดเลยค่ะ ทำไมวันนี้พี่ชายมาช่วงกลางวันได้ค่ะนี่ เอกปวีร์อ่านข้อความตอบจากคีตภัทรด้วยรอยยิ้ม ความจริงเขาเข้ามาออนไลน์ตั้งนานแล้ว เพียงแต่เปิดออฟไลน์ไว้ หลังจากที่ว่างจากเช็คดูความเรียบร้อย เวปเพจของโรงพยาบาลไทเวชรักษ์ ว่าคนไข้ที่มาใช้บริการมีความพอใจหรือเสนอแนะอะไรเข้ามาบ้างแล้ว เขาจึงเข้ามาทักทายคีตภัทรพี่เข้ามาดูงานน่ะ วันนี้ว่างไม่ได้ออกไปไหน ดีจังเลยค่ะ วันนี้จะได้คุยกันนานๆหน่อย คีตภัทรบอกออกไปด้วยความดีใจ หล่อนเองมีเรื่องมากมายอยากคุยอยากจะเล่าพี่ชาย ตามประสาคนช่างพูดช่างจาโห...สงสัยว่าพี่ต้องอ่านจนตาลายแน่ๆเลยใช่ไหมเอกปวีร์แกล้งสัพยอกไปไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะพี่ชาย ก็นานๆทีพี่ชายจะโผล่ออกมาให้เห็นช่วงกลางวันนี่นาอืม พี่ยอมให้น้องวันนึงก็ได้ เอกปวีร์บอกออกไปอย่างผู้ใหญ่ใจดี ทำให้คีตภัทรยิ้มออกมาด้วยความดีใจ แต่ทำไมต้องมาเจอพี่ชาย ช่วงเวลาใกล้เที่ยงแบบนี้ด้วยนะ หล่อนเริ่มจะหิวแล้วน่ะสิพี่ชาย ตอนบ่ายมาคุยกันอีกทีได้ไหมล่ะ ตอนนี้น้องเริ่มหิวแล้วล่ะ นั่งพิมพ์งานส่งสำนักพิมพ์มาตั้งแต่เช้า ทานไมโลไปแก้วเดียวเองซะงั้นนะเรา มีอะไรทานบ้างล่ะวันนี้แหม พี่ชาย ถามยังกับว่าตัวเองจะมาทานด้วยได้คีตภัทรตอบข้อความกลับไปแอบค้อนให้พี่ชายทั้งๆที่รู้ว่าเป็นเพียงการคุยกันผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็บอกมาเผื่อเป็นไอเดีย ให้พี่ออกไปหาอะไรทานข้างนอกบ้าง วันนี้ที่บ้านไม่มีใครอยู่เลยไม่อยากทานข้าวคนเดียว เอกปวีร์บอกออกไป แต่เขามีแผนการที่แนบเนียนกว่านั้น รออยู่แล้วอืมที่บ้านน้องก็ไม่มีใครเหมือนกัน วันนี้คุณปู่คุณย่าไปข้างนอกกับคุณพ่อคุณแม่ของตาหมอข้างบ้านล่ะพี่ชาย น้องว่าจะทำราดหน้าทะเลค่ะ วันนี้พี่แก้วไปตลาดนัดใกล้ๆบ้านมา ได้อาหารทะเลสดๆมาเยอะเลย ทั้งปู กุ้ง ปลาหมึก เห็นความสดของมันแล้วอดใจไม่ไหวค่ะฟังดูว่าน่ากินนะ ว่าแต่จะทานได้ไหมนี่เอกปวีร์แกล้งถามออกไป พลางคิดถึงใบหน้าคนที่กำลังอ่านป่านนี้คงทำตาคว่ำค้อนใส่ตนอยู่เป็นแน่เลยทานได้สิค่ะ ไม่เชื่อก็ลองมาทานสิ คีตภัทรตอบกลับไปทันที ถึงหล่อนจะทำอาหารไม่เก่ง แต่ก็ทำทานได้ล่ะนา ถ้าหากไม่โหยหาความอร่อยระดับภัตตาคารหล่อนคิดว่าหล่อนสู้ไหวแน่นอนอย่าท้านะ เดี๋ยวก็ไปจริงๆหรอก เอกปวีร์บอกออกไป ถึงท้าพี่ชายก็มาไม่ได้น้องไม่กลัวล่ะ คีตภัทรบอกออกไปโดยที่ไม่รู้ว่าเอกปวีร์กำลังกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ เดี๋ยวเถอะยัยน้องรัก อืม งั้นน้องพี่รีบไปทำราดหน้าเถอะ เดี๋ยวจะหิวไปมากกว่านี้ โรคกระเพาะจะถามหาเอาได้ แล้วเจอกัน เอกปวีร์บอกขึ้นแล้วหายเงียบไป คีตภัทรจึงจัดการปิดคอมพิวเตอร์แล้วลงไปในครัวหลังจากที่เตรียมเครื่องปรุงเรียบร้อยแล้วคีตภัทรก็กำลังง่วนอยู่กับการแกะเนื้อปูที่ทั้งสดทั้งใหม่ ที่พี่แก้วไปได้มาจากพ่อค้าที่นำมาขาย ฟังว่าเพิ่งขึ้นมาจากทะเลสดๆร้อนๆเลยมือเรียวเล็กของหล่อนใช้กรรรไกรคีบตัวปูออกเป็นสองส่วน แล้วตัดก้ามออกมา จากนั้นใช้กรรไกรตัดตามยาวของก้ามปูก็ได้เนื้อสวยๆออกมา เนื้อที่อยู่ในกระดอง คีตภัทรใช้มีดแกะสลักผลไม้แกะออกมาตั้งเป็นชิ้นเนื้อสวยงามทีเดียว เอกปวีร์มองหล่อนด้วยความชื่นชม ไม่คิดว่าคีตภัทรที่ดูแก่นๆวาจาเชือดเฉือนเขาเสมอ จะสามารถทำอะไรๆแบบนี้กับเขาได้พี่แก้ว เนื้อปูเสร็จแล้วล่ะ เดี๋ยวเราไม่ต้องเอาลงไปในน้ำราดหน้าหรอกนะ เราต้มมันสุกแล้ว ค่อยเอาวางบนราดหน้าของเราเลยละกัน มันจะได้ดูน่ากิน คีตภัทรคุยกับแก้วสาวใช้คุณย่า พลางเตรียมผัดเส้นใหญ่ที่ใช้ทำราดหน้า ในขณะที่แก้ว ไม่กล้าจะเอ่ยอะไรอกไปเมื่อเห็น เอกปวีร์มายืนมองอยู่หอมไหมพี่แก้ว คีย์ทำเผื่อพี่แก้วด้วยนะ พี่แก้วช่วยหยิบจานมาใส่เส้นให้คีย์หน่อยสิค่ะ คีตภัทรบอกขึ้นแล้วจัดการผัดเส้นไปให้ได้ที่ เมื่อเห็นว่าเส้นเหลืองสุกได้ที่แล้ว จึงหันมาจะรับจานจากแก้ว แต่แล้วก็ต้องทำหน้าประหลาดใจที่กลับกลายเป็นเอกปวีร์เป็นคนยื่นส่งจานให้ ส่วนแก้ว คนรับใช้ไม่ได้อยู่ในห้องครัวแล้วทำเผื่อแก้ว แล้วทำเผื่อผมบ้างหรือเปล่าน่ะ เอกปวีร์ถามขึ้นไม่ได้เผื่อ คีตภัทรบอกออกไปทันที แต่ที่จริงหล่อนก็ทำเผื่อน้องเดีย และเอกปวีร์เช่นกัน เพราะเห็นว่าที่บ้านโน้นก็ไม่มีใครอยู่กันแค่พ่อลูกและปลาคนรับใช้เท่านั้นใจร้ายชะมัด เอกปวีร์แกล้งโอดครวญขึ้น ทำตาปริบๆว่าอยากทานด้วยใจดีตะหาก เกิดคุณทานฝีมือฉันไปแล้วท้องเสียขึ้นมา จะทำไง คีตภัทรบอกขึ้นแล้วหันไปทำน้ำสำหรับไว้ราดเส้นต่อผมยอมเป็นหนูทดลองทานดูก็ได้ ผมเป็นหมอ คงเอาตัวรอดได้หรอกจริงหรือคีตภัทรหันกลับมาถามตาวาว ทำให้เอกปวีร์ชักเริ่มขยาดขึ้นมา ไม่แน่ใจว่า คีตภัทรจะคิดแกล้งอะไรหรือเปล่า คีตภัทรหัวเราะชอบใจแล้วบอกขึ้น หยิบเกลือส่งให้หน่อยสิ น้ำตาลทรายด้วยนะ อ๋อ ซอสปรุงรสด้วย นี่แน่ะ มาขอทานด้วยแค่นี้เล่นใช้งานกันเลยนะ เอกปวีร์แกล้งเขกศีรษะคีตภัทรเข้าให้ขณะส่งเครื่องปรุงรสที่คีตภัทรสั่งให้ช่วยหยิบให้เจ็บนะ เดี่ยวเส้นผมตกลงไปจะว่าไงคีตภัทรทำตาดุใส่ขณะบ่นว่าเอกปวีร์อืม หอมน่ากินดีจัง เอกปวีร์บอกขึ้น คีตภัทรยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยินคำชมว่าแต่คุณมาที่นี่ มีธุระอะไรหรือเปล่า คีตภัทรถามขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเอกปวีร์อาจมีธุระอะไรเปล่าได้ยินว่าคนแถวนี้จะทำราดหน้า เลยจะมาขอฝากท้องไว้ที่นี่ด้วย คีตภัทรได้ยินเช่นนั้นก็หันหน้าไปมองเอกปวีร์ทันที ทำไมหรือ เอกปวีร์ถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจของคีตภัทรที่มองมายังตน คุณไปได้ยินมาจากไหน ฉันไม่ได้บอกใครเลยนะ เว้นแต่พี่ชาย คีตภัทรเว้นคำสุดท้ายแต่ตามองเอกปวีร์ด้วยสายตาคาดคั้นจะเอาคำตอบได้ยินอะไร ผมบอกว่าได้กลิ่นราดหน้าเลยตามกลิ่นมา หูหาเรื่องนะนั่น เอกปวีร์รีบแก้ตัวออกไป แล้วทำหน้าเฉยไม่รู้ไม่ชี้ คีตภัทรมองอย่างไม่เชื่อนัก หูหล่อนไม่ได้ฝาดไปแน่ๆ เดี๋ยวก็ไหม้หมดหรอก มายืนจ้องตาอยู่ได้ เอกปวีร์บอกขึ้นพลางมองไปยังน้ำราดหน้าในกระทะที่กำลังเดือดได้ที่พร้อมให้ลิ้มรสความอร่อยคีตภัทรจึงหันไปสนใจน้ำราดหน้าในกระทะแทนเอกปวีร์ เอกปวีร์จึงลอบหายใจด้วยความโล่งใจ ที่เขาสามารถเบนเปลี่ยนความสนใจของคีตภัทรไปได้ ยิ่งใกล้ชิดเขาก็ยิ่งเผลอพูดอะไรๆออกไป ด้วยความลืมตัว ท่าทางคีตภัทรจะสงสัยเขาเข้าแน่แล้วเชียว ว่าทำไมถึงได้รู้เรื่องอะไรๆ เกี่ยวกับหล่อนที่เคยบอกพี่ชายไป ช่วยยกไปที่ศาลาด้วยละกันถ้าอยากทาน แล้วก็ไปตามน้องเดียมาด้วย คีตภัทรส่งถาดที่วางเส้นและน้ำราดหน้าไว้เรียบร้อยแล้วให้เอกปวีร์จะใช้ทั้งที พูดเพราะๆหน่อยได้ไหม เอกปวีร์ไม่วายจะเอ่ยดุคีตภัทรออกไป เขาเริ่มเห็นหล่อนน่ารักมากขึ้นมากหลายอย่าง แต่ไอ้เรื่องคำพูดคำจานี่สิ เมื่อไหร่หล่อนจะแก้ไขตัวเองบ้างนะ ขอโทษ คุณก็รู้นี่ว่าฉัน เป็นแบบนี้ อย่ามัวมาดุอยู่หน่อยเลยน่า เที่ยงกว่าแล้วป่านนี้น้องเดียคงหิวน่าดูแล้ว รีบๆยกไปเถอะ แล้วไปตามน้องเดียมาด้วยล่ะ เดี๋ยวฉันจะแบ่งที่เหลือนี่ไว้ให้แก้วกับลุงผลหน่อย แล้วจะตามออกไป เอกปวีร์ส่ายหน้าเบาๆแต่ก็ยอมยกถาดสำรับอาหารมื้อกลางวันที่คีตภภัทรตั้งใจทำออกไปที่ศาลา อร่อยไหมค่ะ น้องเดีย คีตภัทรถามนาเดียที่กำลังเคี้ยวปลาหมึกชิ้นโตตุ้ยๆ อร่อยค่ะพี่คีย์ นาเดียรีบกลืนแล้วตอบขึ้นน้องเดีย อย่ารีบกลืนสิลูกเดี๋ยวติดคอเอา เอกปวีร์ดุลูกสาวตัวน้อยขึ้นเมื่อเห็นกิริยาที่ทำน้องเดีย ขอโทษค่ะคุณพ่อนาเดียรีบยกมือไหว้ แล้วตักราดหน้าเข้าปากทานต่อ คีตภัทรมองเด็กน้อยด้วยรอยยิ้ม คุณก็เหมือนกัน เห็นว่าเด็กทานอยู่ยังจะมาชวนคุย คีตภัทรขึงตาใส่ให้ทันทีเมื่อได้ยินเอกปวีร์บ่นว่าตนทานๆไปเถอะน่า มัวแต่ดุอยู่ได้ คนเค้าจะทานอาหารให้อร่อยไม่ใช่จะมาฟังตัวเองสอนมารยาท คีตภัทรบ่นว่าขึ้นผมไว้ใจให้น้องเดียอยู่กับคุณแล้ว ก็อยากให้ลูกมีมายาทดีๆงามๆ แต่ท่าจะเหลว เด็กอะไรก็ไม่รู้พูดจาก็ห้วน เถียงก็เก่งนี่ ถ้าอยากฟังคนพูดจาหวานๆ พี่เอกค่ะ พี่เอกขา ก็ไปหาคุณดาริกาโน้น แถวนี้ไม่มีหรอกนะคีตภัทรต่อว่าขึ้นด้วยความน้อยใจทันที แล้วช่วยปรับให้มันดีขึ้นไม่ได้หรือไงกัน เอกปวีร์ถามออกไป เขาอยากให้หล่อนน่ารักกับทุกคนนี่นา ไม่ใช่ว่าจะคอยหาเรื่องดุท่าเดียวเสียเมื่อไหร่ได้ แต่จำเป็นด้วยหรือค่ะ คีตภัทรถามออกไปด้วยความฉุนเฉียว รู้ว่าต้องมาโดนเอกปวีร์นั่งดุนั่งบ่นแบบนี้ไม่ทำราดหน้าอร่อยๆ(ที่หล่อนคิดว่าอร่อย)เผื่อก็ดีผมดุ เพราะอยากเห็นคุณเป็นเด็กดี น่ารักหรอกนะ แต่คงจะบังคับให้คุณทำไม่ได้หรอกผมเข้าใจ แล้วก็ไม่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบกับใครเข้าใจไหม เอกปวีร์บอกขึ้นด้วยความใจเย็นฉันไม่ได้เปรียบ แค่บอกคุณว่าฉันเป็นคนแบบนี้ หากคุณอยากจะมีคนมาค่ะขา ตลอด ก็ไปหาคุณดาริกาโน้น มาหาที่ฉันนี่มันยากสักหน่อยเฮ้อ...เริ่มงอแงอีกแล้ว ตกลงผมมีลูกสาวกี่คนนะเนี่ยเอกปวีร์เปรยขึ้นมองคีตภัทรขำๆที่หล่อนเริ่มทำตัวงอแงอีกแล้ว เมื่อไม่ได้ดั่งใจคุณพ่อ ก็มีน้องเดียไงค่ะ นี่คุณพ่อจำลูกสาวน่ารักคนนี้ไม่ได้หรือค่ะ น้องเดียเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่สนใจกับราดหน้าในชามมานานไม่ใช่ครับน้องเดีย พ่อถามพี่คีย์เค้าน่ะลูก เอกปวีร์บอกขึ้นกับลูกสาวแล้วมองคีตภัทรด้วยรอยยิ้มขำๆบ้า ใครจะไปเป็นลูกคุณคีตภัทรต่อว่าเบาๆเพราะกลัวนาเดียจะได้ยินหึหึ เอกปวีร์หัวเราะชอบใจทันที แต่น้องเดียอยากมีน้องค่ะคุณพ่อ พี่คีย์มีน้องให้น้องเดียนะค่ะ จู่ๆนาเดียก็เอ่ยออกมาเสียงดังฟังชัดทำเอาเอกปวีร์และคีตภัทรทำหน้าเหรอหราทันที นะค่ะพี่คีย์ มีน้องให้น้องเดียนะ น้องเดียจะได้ไม่เหงา จะได้มีเพื่อนเล่น นาเดียบอกขึ้นสายตาอ้อนวอนเหมือนกับเวลาที่อยากได้ของเล่นไม่เอาน่าน้องเดีย รีบทานเถอะ จะได้กลับไประบายสีรูปการบ้านที่คุณครูให้ ให้เสร็จ เอกปวีร์ต้องเอ่ยดุนาเดียขึ้นเสียเอง เมื่อเห็นสีหน้ากระดากอายของคีตภัทร เจ้าลูกสาวตัวแสบของเขา นี่แค่หน้าตาบังเอิญคล้ายกัน ได้ใกล้ชิดกันบ่อยๆ นิสัยก็ใกล้เคียงคีตภัทรไปทุกวัน หากเกิดมีคีตภัทรเป็นแม่จริงๆเขาคงหัวปั่นแน่ๆ เอกปวีร์คิดแล้วส่ายหน้าเบาๆ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าคีตภัทรได้สอนอะไรๆลูกหลายอย่างเรื่องกิริยามารยาทแต่ก็มีหลายอย่างที่ดูเหมือนนาเดียจะซึมซับเอามาเอง แล้วเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากให้มีเท่าไหร่ด้วยสิพี่คีย์ไม่ทำงานแล้ว ไปสอนน้องเดียระบายสีรูปนะค่ะนาเดียเอ่ยชวนขึ้น แต่พี่คีย์มีนัดค่ะ คีตภัทรเอ่ยบอกขึ้น หล่อนไม่ได้โกหกนี่นา หล่อนมีนัดจริง กับพี่ชายพี่คีย์น่ะ นะค่ะ ไปสอนน้องเดียระบายสีก่อนงั้นน้องเดียกลับไปก่อนนะค่ะ เดี๋ยวพี่ตามไปคีตภัทรบอกขึ้น นาเดียจึงยอมในที่สุดผมพาน้องเดียกลับก่อนละกัน ขอบใจมากสำหรับอาหารมื้อเที่ยง เอกปวีร์บอกขึ้นเมื่อช่วยเก็บจานชามไปไว้ในครัวให้ไม่เป็นไรค่ะ คีตภัทรบอกออกไปตรงๆ ถึงแม้หล่อนจะไม่ค่อยชอบเวลาโดนเค้าดุ แต่หล่อนก็คิดว่าบางมุมของเขามันก็น่ารักเหมือนกัน โดยเฉพาะความรักลูกของเขา โดยที่หล่อนไม่อาจรู้ได้เลยว่าวันข้างหน้าความรักลูกของเขานี่เองที่ทำให้หล่อนต้องหนีหน้าเขาไปด้วยความเจ็บช้ำใจค่ะ คีตภัทรรับคำเพียงสั้นๆ ทำให้เอกปวีร์มองหน้าหล่อนทันทีด้วยความแปลกใจ คีตภัทรเห็นเอกปวีร์มองหน้าหล่อนตรงๆห่างกันเพียงแค่คืบก็ถอยหนีออกมาทันที หล่อนไม่อยากให้ความใกล้ชิดพาใจไปพบกับความเจ็บช้ำ อย่างอดีตที่เคยเป็นมา โดยเฉพาะหมู่นี้ที่หล่อนรู้สึกหวั่นไหวทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดเขาเอกปวีร์เห็นท่าทีระวังตัวของหล่อนก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะบอกขึ้นขอโทษนะที่น้องเดีย พูดอะไรออกไปแบบนั้น เดี๋ยวรีบตามไปนะ ผมได้หนังสือมาใหม่หลายเล่มน่าอ่านทั้งนั้นค่ะ คีตภัทรรับคำเบาๆ สีหน้ากระดากนิดๆเมื่อนึกถึงคำพูดของนาเดียอย่าคิดมากนา เราต่างรู้ดีนี่ว่าเป็นไปไม่ได้ เอกปวีร์เอ่ยบอกขึ้นพลางใช้มือหนาใหญ่ของเขาตบเบาๆบ่นไหล่ของคีตภัทรเป็นการปลอบใจ แล้วเดินออกไป ปล่อยให้คีตภัทรมองตามหลังไป ทำไมนะ หล่อนต้องหวั่นไหว หล่อนต้องรู้สึกดีทุกครั้งที่เขาทำกิริยาอ่อนโยนแบบนี้กับหล่อน********พี่ชายอยู่ไหม น้องอยากคุยกับพี่ชายต่อล่ะ แต่ว่า น้องเดียอยากให้คีย์ไปสอนการบ้านน้องเค้าล่ะ น้องไปก่อนนะ หวังว่าคืนนี้พี่ชายคงจะมาออนไลน์อีกนะค่ะ แล้วเจอกันนะค่ะพี่ชาย ขอโทษนะค่ะที่น้องนัดกับพี่แล้วผิดสัญญาแบบนี้ คีตภัทรพิมพ์ข้อความส่งข่าวไปบอกพี่ชายแล้วจัดแจงปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ไปในขณะที่เอกปวีร์มองหน้าจอคอมพ์พิวเตอร์ที่โชว์ข้อความอยู่ด้วยรอยยิ้ม แต่แล้วก็ต้องรีบปิด MSN ไปเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องทำงานของตน เข้ามาสิ เอกปวีร์เอ่ยอนุญาตออกไปแล้ว เดินไปหยิบหนังสือในตู้มาวางไว้บนโต๊ะ ซึ่งพอดีที่คีตภัทรเดินเข้ามาเคยอ่านไหม ถ้ายังก็เลือกอ่านได้สบายเลยนะ แต่มีข้อแม้สอนเจ้าตัวยุ่งทำการบ้านก่อน เอกปวีร์บอกขึ้น ได้ค่ะ ฉันขออ่านในห้องนี้เลยนะ แอร์เย็นสบายดี คีตภัทรเอ่ยขอขึ้น หล่อนเองไม่อยากทำความลำบากใจให้เขานักหรอก ถ้าไม่จำเป็นได้สิ งั้นคุณรับหน้าที่สอนการบ้านน้องเดียต่อไปละกัน ผมจะทำงานหน่อย เอกปวีร์บอกแล้วหันไปสนใจคอมพิวเตอร์ตรงหน้าแทน หลายครั้งหลายคราที่เงยหน้ามาเจอกับคีตภัทรที่หันมาสบตาเข้าพอดี แต่เมื่อเขาส่งสายตาดุเข้าให้หล่อนก็รีบก้มหน้างุดอ่านหนังสือในมือเอกปวีร์คิดว่านี่เป็นบรรยากาศที่ดี หากตอนนี้ผู้หญิงตรงหน้าคือคีตภา มันคงเป็นวันหยุดที่เขาอยากอยู่บ้านเป็นที่สุด ครอบครัวพร้อมหน้า พ่อแม่ลูก พ่อนั่งเคลียร์งานที่สะสมมาตลอดอาทิตย์ โดยมีลูกและภรรยานั่งอ่านหนังสือคุยกันอยู่ใกล้ๆ ไม่ห่างไกลจากเขา พี่คีย์ค่ะ หยิบหนังสือนิทานให้น้องเดียหน่อยนะคะ นาเดียเอ่ยขึ้นเมื่อเดินไปใกล้ตู้หนังสือข้างโต๊ะทำงานของเอกปวีร์ไหนค่ะ จะเอาเล่มไหนเอ่ย คีตภัทรเดินมาแล้วถามขึ้น นาเดียชี้มือไปยังหนังสือนิทานเล่มโต ที่วางอยู่ชั้นบนสุดของตู้ เอกปวีร์ละสายตาจากงานตรงหน้ามามองแวบหนึ่งแล้วหันไปสนใจงานต่อ ในขณะที่คีตภัทรกำลังเขย่งจะหยิบหนังสือให้นาเดีย เมื่อคว้าหนังสือได้ กลับเสียหลัก ซึ่งพอดีที่เอกปวีร์หันมามองอีกครั้ง เขารีบลุกไปคว้าคีตภัทรที่กำลังเซล้มไปยังขอบโต๊ะทำงานของเขา อ้อมอกอุ่นๆ ลมหายใจที่รวยระรินรดใบหน้าของหล่อน กลิ่นโคโลญจ์จางๆ ทำให้คีตภัทรซึ่งหลับตาปี๋ตอนที่จะล้มลืมตาขึ้นมามองเอกปวีร์ด้วยใบหน้าเก้อเขิน ให้รู้สึกว่าหน้าหล่อนร้อนๆชอบกล แต่เอกปวีร์ก็ยังไม่ปล่อยหล่อนให้ออกจากอ้อมแขนของเขาระวังหน่อยสิ เอกปวีร์บอกขึ้น พลางมองใบหน้าของหญิงสาวในอ้อมแขนเขา ที่ตอนนี้แดงยิ่งกว่าลูกตำลึงเสียอีกก็คุณทำไมไม่ช่วยหยิบให้น้องเดียล่ะ คีตภัทรต่อว่าเบาๆ พยายามดิ้นให้ตัวเองพ้นออกมาจากพันธนาการของเขายังจะเถียงอีก เอกปวีร์ดุขึ้น เลยทำให้ได้เห็นเจ้าของใบหน้าแดงทำหน้างอเข้าให้ เขาหัวเราะชอบใจทันที หัวเราะอะไร ปล่อยได้แล้วคีตภัทรต่อว่าขึ้นพลางดิ้นหนีให้หลุดจากอ้อมแขนของเขาที่ยังรัดตรึงร่างของหล่อนไว้อย่าดื้อได้ไหมเอกปวีร์ดุขึ้น แววตาเขาที่มองมาทำให้คีตภัทรไม่แค่รู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าอีกแล้ว แต่มันกำลังร้อนไปทั้งตัว ปล่อยยิ่งคีตภัทรดิ้นเท่าไหร่หล่อนกลับรู้สึกว่าอ้อมแขนของเขายิ่งกระชับมากขึ้น ใบหน้าคมเข้มพร้อมจมูกโด่งของเขา ค่อยๆก้มลงมาหาใบหน้านวลเนียนของหล่อน คีตภัทรหลับตาปี๋ทันที ที่ริมฝีปากบางเบาของเขาแตะที่หน้าผากของหล่อน เอกปวีร์เองนิ่งงันไปกับสัมผัสที่เขาเผลอไปเช่นกัน น้องรักของเขา ยัยหนึ่งตะวันแสนแสบ ยัยคีตภัทร เธอไม่ประสีประสาอะไรเลยจริงๆอย่างที่เขาคิดไว้ เอกปวีร์ค่อยๆเคลื่อนริมฝีปากออกจากใบหน้านวลของหล่อนอย่างเสียดายอยู่บ้าง พลางมองเจ้าของดวงตากลมโตที่ลืมตาขึ้นมามามองเขาอย่างเอาเรื่องทีเดียว ปล่อย คนฉวยโอกาส ฉันจะฟ้องอาวินนน คีตภัทรร้องขึ้นพลางพยายามดิ้นให้พ้นจากอ้อมแขนของเขา ก็ฟ้องสิ เธอก็เต็มใจนี่นา เอกปวีร์ล้อขึ้น คีตภัทรมองด้วยความไม่พอใจทันที หล่อนนี่นะ เต็มใจ ไม่มีทาง หล่อนแค่ดิ้นออกไปไม่พ้นอ้อมแขนเขาตะหาก คีตภัทรนึกถียงเอกปวีร์ในใจ อย่าดิ้นได้ไหม เขากระซิบมาที่หูของหล่อนอีกครั้ง แต่คราวนี้คีตภัทรรวบรวมพละกำลังสุดแรงที่มี แล้วผลักตัวเองออกมาจากอ้อมแขนเขาได้สำเร็จ เล่นอะไรกันค่ะ ไม่อายเด็กเลย เสียงที่ถามขึ้นทำให้เอกปวีร์และคีตภัทรได้สติ ว่ายังมีน้องเดียอยู่ในห้องอีกคน คีตภัทรอายยิ่งกว่าจะอาย ในขณะที่เอกปวีร์ หันไปบอกน้องเดียขึ้นพ่อแค่ ทำโทษเด็กดื้อน่ะน้องเดีย อีกแล้วหรือค่ะ พี่คีย์น่ะ บอกแล้วก็ไม่เชื่อว่าอย่าดื้อกับคุณพ่อ นาเดียบอกขึ้นพลางยักคิ้วให้ผู้เป็นพ่อ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของคีตภัทร น้องเดีย คีตภัทรส่งเสียงเรียกขึ้นเสียงดังทันที นี่หมายความว่าสองคนพ่อลูกรู้กันหรือนี่ ร้ายทั้งคู่ขาพี่คีย์ นาเดียขานรับน้ำเสียงอ่อนหวานเมื่อเห็นว่าคีตภัทร โกรธตนเข้าให้แล้วทำแบบนี้ไม่น่ารักนะค่ะ พี่จะกลับแล้ว คีตภัทรบอกแล้วจะเดินออกไปจากห้องทำงานทันทีพี่คีย์ อย่าเพิ่งไปนะ น้องเดียขอโทษไม่ต้องมาขอร้อง ทำผิดแบบนี้ใช่ไม่ได้ค่ะ คีตภัทรดุออกไปทันที แต่ตากลับมองคนเป็นพ่อด้วยความโกรธ ก็น้องเดีย อยากให้พี่คีย์มาอยู่กับน้องเดียนี่นาก็บอกแล้วไงค่ะ ว่าจะมาสอนการบ้าน มาเล่านิทานให้ฟัง แต่ถ้าหากน้องเดียรวมหัวกับพ่อวางแผนแกล้งพี่คีย์แบบนี้พี่ไม่เอาแล้วนะ คีตภัทรบออกไปตรงๆแม้จะนึกสงสารน้องเดียที่มองตนตาปริบๆอยู่ก็ตามทีผมขอโทษ ที่คิดแกล้งคุณแบบนี้ แต่เหตุการณ์มันพาไป คุณก็เห็น อย่าไปโทษน้องเดียเลย ผมผิดเอง เอกปวีร์เอ่ยขึ้นเสียงเองเมื่อเห็นลูกสาวจะร้องไห้เต็มทีอะไรน่ะ!!! เหตุการณ์มันพาไป คุณหมอบ้า คีตภัทรตรงเข้าชกหน้าเขาทันทีด้วยความโกรธสุดขีด หนอย มาจูบแล้วบอกเหตุการณ์มันพาไปนี่นะ มือของหล่อนทั้งทุบทั้งตีใส่เขาไม่ยั้ง จนเหนื่อยหอบ แต่เอกปวีร์ก็ยืนนิ่งให้หล่อนทุบตี ขอโทษ เอกปวีร์เอ่ยบอกขึ้นเมื่อเห็นคีตภัทรวางมือจากการทุบตีเขาแล้วมองหน้าเขานิ่งด้วยความไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาถึงยืนเฉยๆไม่คิดห้ามหล่อนสักนิดแต่ไม่ทันที่คีตภัทรจะเอ่ยว่าอะไรประตูห้องทำงานของเขาก็เปิดขึ้น พร้อมด้วยร่างบางของดาริกาก้าวเข้ามาในห้อง พลางมองคนโน้นทีคนนี้ที ทำอะไรกันอยู่ค่ะดาริกาส่งเสียงหวานถามขึ้นแล้วเดินไปกอดแขนเอกปวีร์ปวีร์ไว้อย่างที่เคยทำบ่อยๆ เอกปวีร์ชักเริ่มปวดหัวอีกแล้ว ยังแก้เรื่องคีตภัทรไม่ทันเสร็จดาริกาก็เข้ามาอีกคน สอนการบ้านน้องเดียค่ะ คุณล่ะมีธุระอะไรไม่ทราบ คีตภัทรถามออกไปด้วยความฉุนนี่ฉันถามพี่เอก ไม่ได้ถามเธอ ดาริกาแว๊ดกลับมาทันที แต่คีตภัทรไม่สนใจ ได้โอกาสหล่อนแก้แค้นแล้วนี่ ถามฉันก็เหมือนถามคุณเอกแหละค่ะ ก็เราทำด้วยกันนี่ค่ะ ใช่ไหมค่ะคุณเอกคีตภัทรหันไปถามเอกปวีร์เสียงหวาน ใบหน้าตึงที่มองเขาก่อนหน้านี้เปลี่ยนเป็นอ่อนหวานจนเอกปวีร์เริ่มขยาด งานนี้สงสัยเขาโดนยัยคีตภัทรเอาคืนแน่ๆเลย ไม่น่าหาเรื่องเลย ให้ตายสิอืมเอกปวีร์ได้แต่ตอบรับไปสั้นๆไม่ต้องสอนกันแล้วค่ะ เธอน่ะกลับไปได้แล้ว ฉันจะสอนน้องคีย์เองเรื่องอะไรล่ะ ไม่ใช่หน้าที่ของคุณ ใช่ไหมค่ะน้องเดีย น้องเดียอยากให้ใครสอนค่ะบอกน้าเค้าไปสิลูก คีตภัทรถามนาเดียขึ้น แล้วลงท้ายประโยคว่าลูก ยิ่งทำให้ดาริกาแค้นใจ พอได้แล้วทั้งสองคนน่ะแหละเอกปวีร์เอ่ยขึ้นเสียงดัง แล้วถามดาริกาขึ้นดามีอะไรหรือเปล่า มหาพี่ถึงบ้านน่ะ จะอะไรก็จะมาหาตัวเองน่ะแหละ มองก็รู้แล้ว คีตภัทรนึกค่อนขอดในใจ คิดถึงพี่เอกค่ะ เลยว่าจะมาชวนไปหาอะไรทานกันข้างนอก นะค่ะพี่เอก ดาริกาบอกขึ้นน้ำเสียงหวานหยดย้อยจนทำให้คีตภัทรต้องแอบเบ้ปาก พี่ไม่ว่างล่ะ วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านด้วย เอกปวีร์บอกออกไป หวังจะให้ดาริกาเปลี่ยนใจเสียพาน้องเดียไปด้วยก็ได้ค่ะ นะค่ะ ไปทานมื้อค่ำด้วยกัน นะค่ะพี่เอก ดาริกาอ้อนเต็มที่จะไปก็ไปเถอะ รำคาญคีตภัทรเอ่ยขึ้นเสียงดัง เอกปวีร์มองหน้าหล่อนทันที ยัยนี่แทนที่จะช่วยรั้ง วันนี้ทำไมมาไล่ให้ไปนี่ ดาว่า มีคนอาสาดูน้องเดียให้แล้วล่ะค่ะ ไปกันนะคะพี่เอก ดาริกายังเซ้าซี้ต่ออืม อยากไปไหนก็ไปเถอะคะ ฉันไม่ห้ามหรอกค่ะคุณเอก น้องเดีย ไปอยู่กับพี่ก่อนนะค่ะ ให้คุณพ่อไปข้างนอกกับน้าเค้าแป๊บหนึ่งนะค่ะ คีตภัทรเอ่ยบอกเขาแล้วหันไปบอกน้องเดีย น้องเดียพยักหน้างุดๆทันที แต่... แหม นานๆทีฉันจะอนุญาตนะค่ะ ไม่ต้องมีแต่หรอกค่ะ อย่ากลับดึกนักละกัน ฉันเป็นห่วง แล้วก็ห้ามดื่มด้วยล่ะ เข้าใจนะค่ะ คนดีคีตภัทรบอกออกไปเสียงหวานไม่แพ้ดาริกาเลยทีเดียว เอกปวีร์นึกอยากทำโทษใบหน้านวลที่มองมายังเขาอีกครั้ง กรรมใดที่เขาก่อ ทำไมมันถึงสนองกลับได้รวดเร็วเช่นนี้นะ ฝากเอาน้องเดียเข้านอนด้วยละกันถ้าหากผมกลับค่ำมาก เอกปวีร์บอกขึ้นแล้วขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทิ้งให้สองสาวประจันหน้ากันแต่เพียงลำพัง อะไรจะเกิดก็ช่างมันเถอะ เอกปวีร์คิดอย่างปลงๆ แต่เหตุการณ์กลับไม่ได้ร้ายแรงไปกว่าที่เขาคิด เพราะหลังจากที่เขาออกจากห้องทำงานไปไม่นานนัก คีตภัทรก็พานาเดียกลับไปยังบ้านของตนทันที หล่อนแค่ต้องการแกล้งเขากลับคืนที่มาฉวยโอกาสกับหล่อนไม่ได้ จะคิดมีเรื่องกับดาริกานี่ คนบ้า มาจูบเค้าแล้วบอกว่าเหตุการณ์พาไป คีตภัทรบ่นว่าพลางถูสบู่ตรงหน้าฝากด้วยความเจ็บใจ หวังจะให้รอยจูบนั้นลบเลือน แต่รอยที่ประทับในใจนี่สิ หล่อนจะทำอย่างไรดี ทำไมมันอ่อนหวานอบอุ่นยิ่งนัก คีตภัทรได้แต่ถามตัวเองในกระจกเงาของอ่างล้างหน้าตรงหน้า
ยังไม่จุใจเลยอ่ะ ตอนสวีทเยอะหน่อย สงสัยชอบตอนนี้มาก