หลังจากที่เอกปวีร์พาคีตภัทรแยกออกมา เขาก็ไม่เห็นรอยยิ้ม และวาจาที่เคยหยอกล้อตนเหมือนเช่นทุกๆครั้งอีกเลย เอกปวีร์ขับรถไปก็หันมามองคีตภัทรไปอย่างเป็นกังวลในที่สุดเข้าก็ทนไม่ไหวจอดรถเข้าข้างทางไปทันที คีตภัทรหันมามองเขาด้วยสายตาเป็นคำถามว่าเขาหยุดรถทำไม อยากไปไหนไหม ไปที่ที่ทำให้คุณสบายใจขึ้น ที่ไหนก็ได้ น้ำเสียงอ่อนโยนนุ่มหูไม่มีวี่แววว่าจะดุ ทำให้น้ำตาที่ปริ่มขอบตาไหลออกมาอย่างสุดที่จะห้ามได้ เอกปวีร์เห็นเช่นนั้นได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะหยิบผ้าเช็ดหน้าที่เขาพกติดตัวไว้เสมอในกระเป๋ากางเกงมาเช็ดน้ำตาที่เลอะเปื้อนแก้มทั้งสองข้างอย่างนุ่มนวล ให้ตายสิ เขาไม่เคยเอาใจหญิงอื่นเลยนอกจากคีตภาเอกปวีร์นึกอย่างว้าวุ่นใจเพราะหลังจากที่คีตภาเสียไป ก็มีคีตภัทรนี่แหละที่เขาใกล้ชิดมากที่สุด มือที่ค่อยๆเช็ดน้ำตาของหญิงสาวจึงหยุดไปโดยไม่รู้ตัว คีตภัทรมองเขาแล้วเอ่ยบอกขึ้นไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันแค่... ช่างมันเถอะช่างได้ไง กลับไปแบบนี้เดี๋ยวที่บ้านจะสงสัยเอาได้นะเอกปวีร์ดุขึ้นทันที คีตภัทรเลยยิ่งหน้าเสียเข้าไปใหญ่ คนอะไรนี่ปลอบกันดีๆมาดุอีกแล้วอย่าทำหน้าแบบนี้สิ ก็เลิกดื้อกับผมสักพักไม่ได้หรือไงกัน คนเค้าอยากเอาใจยังจะมางอแงอีก เอกปวีร์ต่อว่าขึ้นแล้วลดเสียงท้ายประโยคลงเพราะเขาเองแม้จะมีใจให้สาวน้อยตรงหน้าเขาอยู่ไม่น้อยแต่เพราะความเป็นคนนิ่งๆชอบแสดงออกทางด้านการกระทำมากกว่าก็ออกจะขัดเขินเมื่อต้องมาพูดอะไรแบบนี้อือ อยากไปเดินเล่นที่ไหนก็ได้ คุณจะพาไปจริงๆหรือพรุ่งนี้คุณต้องไปประชุมอีกนี่ค่ะ ฉันว่าคุณควรรีบกลับไปพักผ่อนดีกว่านะค่ะ แค่นี้เองเป็นไรไป ผมอดนอนบ่อยๆยามมีคนไข้ฉุกเฉินแค่นี้ไม่เป็นไรหรอกนา แล้วผมก็ไม่พาคุณกลับดึกเกินสามทุ่มแน่ๆ เอกปวีร์บอกขึ้นแล้วขับรถออกไปยังจุดหมายที่คีตภัทรอยากไป โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะมีสวนสาธารณะใกล้ๆอยู่ข้างหน้าหรือไม่ เขาเพียงต้องการให้สาวน้อยข้างๆเขารู้สึกสบายใจขึ้นมาก่อนที่จะกลับเข้าบ้านไปในที่สุดเอกปวีร์ก็พาคีตภัทรมาถึงสวนสาธารณะริมถนนใหญ่แห่งหนึ่ง บรรยากาศยามค่ำคืนมีผู้คนมาออกกำลังกายมากมาย บ้างก็พาครอบครัวออกมานั่งรับลมเล่น คุณลงไปด้วยกันสิคีตภัทรเอ่ยชวนเอกปวีร์ขึ้นเมื่อเห็นเขานั่งเฉยไม่มีวี่แววว่าจะลงจากรถไปกับหล่อนคุณไปก่อนเถอะเดี๋ยวผมตามไป อย่าเดินไปไกลนักละกันค่ะ คีตภัทรรับปากเขาด้วยน้ำเสียงเนือยๆ แล้วลงจากรถของเขาไปหลังจากที่นั่งปลดปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอยไปนานแสนนานกับสิ่งที่เจอมาตอนหัวค่ำ จู่ๆก็มีแก้วน้ำปั่นยื่นมาให้หล่อน คีตภัทรเงยหน้ามองเจ้าของมือหนาใหญ่ที่อบอุ่นเสมอยามกุมหล่อนไว้ด้วยรอยยิ้ม แม้จะรู้ว่ามันยังเป็นยิ้มที่ไม่สดใสนักแต่หล่อนก็เต็มใจที่จะยิ้มให้เขา คนที่หล่อนเคยมองว่านิสัยไม่น่าคบเอาเสียเลยอ้าว ยิ้มอยู่นั่นแหละน้ำนี่จะทานไหม เอกปวีร์ถามขึ้นเมื่อคีตภัทรเอาแต่ส่งยิ้มจืดชืดให้เขาไม่ยอมรับน้ำจากมือเขาไปเสียทีอีกแล้วนะคุณ ชอบทำให้บรรยากาศเสียอยู่เรื่อย คีตภัทรบ่นเบาๆขณะรับแก้วน้ำปั่นมาจากมือเขาก็เราเป็นเสียอย่างนี้ นายวินมันถึงได้ห่วงนักเป็นอย่างนี้ ยังไงหรือค่ะ เห็นอดีตคู่หมั้นแล้วมานั่งร้องไห้น่ะหรือ ฉันไม่เก่งพอที่จะทำใจได้รวดเร็วปานนั้นหรอกนะ ถึงจะเคยคิดว่าทำได้ก็เถอะมันแสลงใจนะคุณที่มาเห็นภาพแบบนั้นน่ะ คีตภัทรถียงกลับทันทีก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยเมื่อกี้ยังว่าอยู่เลยคีตภัทรค้อนขวับให้ก่อนที่จะพึมพำต่อว่าขึ้นเบาๆ เอกปวีร์เลยต้องถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ร้องไห้น้ำตาไหลอยู่แหม็บๆ ตอนนี้มานั่งเถียงเขาฉอดๆอีกแล้ว คุณเบื่อฉันแล้วใช่ไหม เอาแต่ถอนหายใจน่ะ ไหนบอกว่าจะทำให้ฉันสบายใจไง น้ำเสียงที่ถามขึ้น แววตาที่จ้องมองเขา มีหรือที่เอกปวีร์จะกล้าบอกว่าเขาเริ่มรำคาญหล่อนจริงอย่างที่หล่อนกล่าวหา คีตภัทรเลยได้รอยยิ้มจากเขาไปแทนคำตอบทั้งหมดยิ้มแบบนี้ยอมรับใช่ไหมล่ะ เฮ้ย ทำไมผู้หญิงชอบคิดอะไรไปเองแบบนี้นี่ เอกปวีร์คิดอย่างไม่เข้าใจนัก หรือเพราะเขาห่างหายจากผู้หญิงไปนานเกินไปนะถึงไม่คุ้นเสียทีนี่อย่าพูดเอง เออเองได้ไหม ผมบอกเสียเมื่อไหร่ล่ะก็ทำไมไม่ตอบล่ะคร๊าบ ผมไม่ได้เบื่อเลย แต่คุณกำลังจะเกเรอีกแล้วนะ สองทุ่มแล้วกลับกันเถอะ เดี๋ยวพ่อแม่คุณจะเป็นห่วงเอาเอกปวีร์บอกขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาไม่ควรจะไปส่งหล่อนดึกไปกว่านี้ เพราะเขาเองแม้จะสนิทกับวิศาลแต่ใช่ว่าจะสนิทกับครอบครัวของคีตภัทรมากมายนักอืม ก็ดีเหมือนกันค่ะ ฉันอยากกลับไปหาพี่ชายเต็มทีแล้ว ขอกลับไประบายกับพี่ชายดีกว่า คอยดูคืนนี้พี่ชายจะต้องมานั่งอ่านจนตาเจ็บไปเลยแน่ๆพี่ชาย ?ใช่ค่ะ พี่ชายที่น่ารักที่สุด ไม่เหมือนผู้ชายห่วยๆอย่างที่ฉันเจอมาเมื่อตะกี้นี่ คีตภัทรบอกขึ้น เอกปวีร์เลยยิ้มรับอย่างพอใจที่เห็นคีตภัทรเริ่มกลับมาเป็นคีตภัทรคนเดิมไม่อ่อนแออย่างที่เป็นก่อนหน้านี้ยิ้มอะไรค่ะ ฉันไม่ได้ชื่นชมคุณสักหน่อยอย่าหลงคิดว่าใช่คุณล่ะอ้าว แสดงว่าที่ผมทำนี่ไม่มีความดีติดตัวอยู่เลยหรือไงคุณ เอกปวีร์แกล้งโอดควรญถามขึ้นเจตนาตั้งใจจะให้หญิงสาวลืมเรื่องที่เพิ่งเจอมาเสีย เขายอมให้หล่อนมาทะเลาะกับเขายังดีกว่าเห็นหล่อนเสียน้ำตาก็ใครล่ะอาสาพาไปทานไอศกรีม ถ้าไม่ไปทานก็คงไม่เจอกับกิต จริงไหม คนบ้า คีตภัทรถามขึ้นพลางค้อนให้แล้วลุกเดินไปใกล้ๆสระน้ำ พลางก้มลงหยิบก้อนหินก้อนเล็กๆขนาดพอมือมากำไว้ แล้วปาไปไกลสุดแรง เอกปวีร์เดินมาหยุดใกล้ๆแล้วยื่นก้อนหินในมือตนให้คีตภัทร พลางถามขึ้นแสดงว่าผมผิดหรือนี่อื้ม สิ้นเสียงคำตอบจากหล่อนข้อมือกลมกลึงที่จะขว้างก้อนหินในมือลงสระน้ำก็โดนคว้าหมับโดยชายหนุ่มร่างใหญ่ที่ยืนข้างๆ อื้อ ปล่อยไม่ กลับบ้านได้แล้ว เดี๋ยวจะดึกกว่านี้ ต่อให้คุณปาไปจนเต็มสระมันก็ไม่ช่วยอะไรได้หรอก ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจนะคุณ ถ้าคุณหนักแน่นพอ เข้าใจไหม เอกปวีร์บอกขึ้นเสียงดุ คีตภัทรเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วหลบสายตาที่จ้องมองมายังหล่อน แต่ก็โดนเอกปวีร์เชยคางให้มองเขาอีกครั้งเข้าใจไหม ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ คุณต้องทำได้ที่จะไม่เสียดายผู้ชายคนนั้นฉัน...คีตภัทรต้องทำได้ เอกปวีร์บอกขึ้นอย่างเชื่อมั่นในหล่อน คีตภัทรมองเขาแล้วพยักหน้าค่ะ ฉันต้องทำได้เก่งมาก กลับกันนะ ไว้เราค่อยมากันใหม่วันหลังให้ผมขอที่บ้านคุณก่อนจะได้กลับดึกๆกว่านี้ได้ค่ะ คีตภัทรตอบรับคำไปแล้วให้นึกได้ ว่าเท่ากับหล่อนรับปากชายหนุ่มไปว่าหล่อนจะออกมากับเขาอีก เลยค้อนให้แล้วเดินไปที่รถทันที เอกปวีร์เลยได้แต่มองตามด้วยความงง เขาไปสะกิดอะไรเข้าอีกล่ะนั่น ผู้หญิงทำไมขี้งอนจริงๆเลย****************ขอบคุณนะที่คุณทำให้ฉันเลิกบ้าบอไปได้ ถ้าไม่มีคุณอยู่ด้วยฉันคงแย่แน่ๆ คีตภัทรบอกกับเขาเมื่อรถมาจอดหน้าบ้านของหล่อนไม่เป็นไร ผมมีหน้าที่ดูแลคุณนี่นา จริงไหมนายวินฝากเอาไว้นี่ คุณอย่าบอกอาวินได้ไหมค่ะ ฉันขอร้องล่ะ ฉันไม่อยากให้อาวินไม่สบายใจแต่นะค่ะ นะๆๆๆ คีตภัทรอ้อนวอนเขาพลางเขย่ามือแขนของเขาซึ่งจับพวงมาลัยอยู่ เอกปวีร์หันมามองหล่อนแล้วปล่อยมือจากพวงมาลัยรถมาลูบผมดำเงางามของหล่อนแทน คีตภัทรอยากจะขืนตัวออกห่างแต่ความอบอุ่นที่หล่อนได้รับทำให้หล่อนกลับเอนตัวไปซบไหล่เขาเสียเองเข้าบ้านนะ อย่าไปเสียใจกับคนใจโลเลอีก คุณมีค่าเกินกว่าจะกลับไปหาผู้ชายคนนั้นค่ะ ยังไงฉันก็ไม่กลับไปหาเขาแน่นอน คีตภัทรบอกขึ้นเสียงหนักแน่น ทำให้เอกปวีร์ยิ้มออกมาได้พรุ่งนี้ผมว่างทั้งวัน แล้วจะมารับไปข้างนอกนะอ้าว คุณไม่ประชุมหรือไง อืม ไม่มี อีกวันก็มะรืนนี้น่ะงั้นคุณก็โกหกฉันสิเมื่อกี้ ว่าพรุ่งนี้มีประชุมน่ะ คีตภัทรถามขึ้นทันทีผมบอกที่ไหนคุณพูดเองหมดเลยนะนั่นน่ะเจ้าเล่ห์ คีตภัทรต่อว่าขึ้นไม่จริงจังนัก นี่หล่อนเห็นตาหมอบ้านี่เป็นคนนิ่งๆไปได้ไงกันนะ ที่ผ่านมา ออกจะเจ้าเล่ห์จอมวางแผนชัดๆพรุ่งนี้ผมมารับสายๆนะอย่าเลยค่ะ คุณไปเที่ยวของคุณเถอะ พาฉันไปทำไมให้เกะกะอืม เนอะ ผมยังจำได้เลย วันที่คุณเดินตามผมต้อยๆเพราะกลัวตกรถ ตอนนั้นผมคิดว่าเด็กคนนี้น่ารำคาญชะมัดเลย เอกปวีร์บอกขึ้นน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ทำให้คีตภัทรผละออกห่างจากเขาทันที ตาหมอบ้า พอจะดีหน่อยมาหาเรื่องให้ฉุนทุกทีนี่อย่าขยันงอนได้ไหม เขายื่นมือมาจับแก้มของหล่อนทั้งสองข้าง เหมือนกับหล่อนเป็นเด็กสี่ห้าขวบก็ไม่ปาน แล้วบอกขึ้นพลางจ้องหน้าไม่ละสายตาเลยทีเดียวใครงอน เค้าจะเข้าบ้าน ไม่เชิญละนะดึกแล้วป่านนี้พ่อกับแม่คงไม่สะดวกรับแขกหรอก คีตภัทรบอกแล้วจับมือของเขาออกจากแก้มหล่อน ฝันดีนะ อย่าคิดมากอีกเข้าใจไหมค่ะ ขับรถกลับดีๆล่ะคุณน่ะ คีตภัทรบอกขึ้นแล้วลงจากรถไป เอกปวีร์รอจนหล่อนเข้าบ้านไปก็ออกรถกลับไปยังโรงแรม โดยที่ใจเขาตอนนี้โลดแล่นไปอยู่ที่เจ้าเครื่องคอมพ์ตัวเก่งที่เขาพกติดตัวมาด้วยนั่นเอง
อ่านทีหลัง...